ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 264 ลี่ซา
พายุบ้าระห่ำบังเกิดขึ้นบริเวณรอบๆ ปากขนาดใหญ่ ฉลามวาววับขนาดหลายจั้งปรากฏตัวออกมา
อสูรสมุทรไม่เพียงแค่มีรูปร่างโปร่งแสงใสแจ๋ว แม้แต่โครงกระดูกในร่างก็โปร่งใสด้วยช่นกัน ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกถึงความลึกลับแปลกประหลาดของมัน
ด้านบนของฉลามยักษ์โปร่งแสง ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรสวมชุดคลุมสีขาว มือทั้งสองถือค้อน ปรากฏตัวออกมา
ค้อนยักษ์ทั้งสองมีขนาดใหญ่มาก พื้นผิวของมันเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรมีใบหน้าหล่อเหลา มีผมยาวสีเขียว หน้าผากมีอักขระแปลกประหลาดที่มีแสงสีเงินเปล่งประกายอยู่ มันพองยุบราวกับว่ามีชีวิต ร่างของเขาแผ่กลิ่นไอที่ทำให้คนรู้สึกเย็นสะท้านออกมา
“ระดับของเหลวขั้นกลาง!
พอพลังจิตหลิ่วหมิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของฝ่ายตรงข้าม ก็รับรู้ได้ในทันที
“ข้าคือลี่ซาจากเผ่าเกล็ดเงิน ในเมื่อสหายเป็นผู้ฝึกฝนกระบี่ ก็มีสิทธิ์ที่จะบอกชื่อแซ่ต่อหน้าข้าได้แล้ว” ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรกล่าวอย่างราบเรียบ และนำค้อนทั้งสองมาปะทะกันตรงหน้า
“เต๊ง!” คลื่นอากาศม้วนตัวไปทั่วทิศ
ราวกับว่าลี่ซาผู้นี้จะมีพลังไม่จำกัด
สีหน้าหลิ่วหมิงดูหนักอึ้งขึ้นมา และค่อยๆ กล่าวออกมา
“ข้าน้อยหลิ่วหมิงจากนิกายปีศาจ! มาดการพูดจาของท่านดูไม่เบา หวังว่าความสามารถของท่านคงจะไม่เบาเหมือนกับคำพูด!”
พอกล่าวจบ กระบี่สั้นในมือก็พร่ามัวทันที อึดใจเดียวก็ฟันปราณกระบี่ออกไปสิบกว่าสาย และรวมเป็นหนึ่งเดียวจนกลายเป็นแสงกระบี่ขนาดใหญ่ก่อนที่จะม้วนตัวออกไป
ลี่ซาเห็นเช่นนี้ก็แสดงแววตาดุร้ายออกมา เขาทุบค้อนทั้งคู่ออกไปทันที
“ตู๊ม!”
แม้แสงกระบี่สีเขียวจะแหลมคมเป็นอย่างมาก แต่ภายใต้การโจมตีอันรุนแรงของค้อนยักษ์สีเงิน มันก็สลายตัวและดับไป
ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรก็หมุนตัวในทันที เขาสะบัดค้อนข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็เขวี้ยงออกไปพร้อมกับพายุบ้าระห่ำ “ฟู่!”
หลิ่วหมิงรู้สึกแค่ว่าแสงสีเงินเปล่งประกายตรงหน้า ค้อนอีกอันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาถึงหน้าเขา ระดับความรุนแรงเช่นนี้แม้แต่เขาก็ต้องหน้าถอดสีขึ้นมา
พริบตาที่พายุบ้าระห่ำโจมตีมาถึงตรงหน้า เขาก็ทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาล่องลอยขึ้นมา และหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเห็นเช่นนี้ก็คิ้วขมวดทันที แต่ก็คว้ามือไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
ค้อนยักษ์ที่หลิ่วหมิงหลบไปได้ ทะยานขึ้นฟ้าพร้อมเสียงดังหวึ่งๆ และพุ่งมาทางหลิ่วหมิง
ทันใดนั้น บังเกิดพายุบ้าระห่ำขึ้นมา ทั่วทุกที่เต็มไปด้วยเงาร่างของค้อน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลิ่วหมิงก็ล่องลอยไปตามลมราวกับใบไม้ ไม่ว่าเงาค้อนจะหนักแค่ไหนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้
ลี่ซาเห็นเช่นนี้ก็ทำเสียงฮึดฮัดออกมา และทำท่ามือด้วยมือข้างเดียวในทันที พอฉลามโปร่งแสงสะบัดหาง มันก็หายตัวไปท่ามกลางแสงสว่างที่เปล่งประกาย
ขณะเดียวกัน แขนอีกข้างของชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทร ก็เขวี้ยงค้อนอีกอันออกไปจนกลายเป็นเงา
พริบตาเดียว ข้างๆ หลิ่วหมิงก็เต็มไปด้วยเงาค้อนหนักๆ เป็นจำนวนมาก
แม้ร่างกายเขาจะลี้ลับมหัศจรรย์ แต่ก็ดูล่อแหลมขึ้นมา หลายครั้งที่หลบค้อนอีกอันได้ แต่กลับเกือบถูกค้อนอีกอันทุบเข้าให้
แต่ที่ทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกเย็นสะท้านกลับเป็นฉลามโปร่งแสงแปลกประหลาดที่หายไปนั้น
วิชาซ่อนตัวของฉลามตนนี้มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นเขาเกือบเสียชีวิตในปากของมัน
หลิ่วหมิงฉุกคิดอย่างรวดเร็ว และแตะมือข้างหนึ่งไปยังหน้าผาก พลังจิตอันแข็งแกร่งม้วนตัวออกไปในทันที ขณะเดียวกันกระบี่สั้นสีเขียวในมือก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย และถูกแทนที่ด้วยธงเล็กสีฟ้าอ่อนๆ มันสะบัดตามลมและขยายใหญ่จั้งกว่าๆ
ขณะนี้ ค้อนอีกอันก็แผดเสียงยาวและทุบลงบนศีรษะ
หลิ่วหมิงค่อยๆ ยิ้มออกมา เขาไม่คิดจะหลบหลีกเลยแม้แต่น้อย แต่กลับโบกธงสีฟ้าไปยังด้านหน้า ทันใดนั้นอักขระสีฟ้าจำนวนมากก็ลอยออกมา ม่านวารีสีฟ้าปรากฏออกมาเป็นชั้นๆ พริบตาเดียวก็ปกคลุมร่างหลิ่วหมิงไว้
“ตู๊ม!”
ภายใต้การทุบลงมาของค้อน ทำให้ม่านวารีสองชั้นถูกทุบจนแตกกระจาย และถูกม่านวารีชั้นที่สามต้านทานไว้ได้
ลี่ซาที่อยู่ไกลๆ เห็นเช่นนี้ ก็แผดเสียงยาวออกมา มือทั้งสองทำท่ามือกระตุ้นอย่างรวดเร็ว
ค้อนอีกอันก็พร่ามัวมาปรากฏตัวเหนือม่านวารีสีฟ้า และทุบลงมาอย่างรุนแรง มันปะทะกับค้อนยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าพอดี
อานุภาพของค้อนทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง และระเบิดตัวออกมาในทันที จนทำให้ม่านวารีสีฟ้าถูกโจมตีจนสลายไป
แต่ครู่ต่อมา ลี่ซาที่กระตุ้นค้อนเงินทั้งสองก็หดรูม่านตาลง
มีแต่ความว่างเปล่าในม่านวารีชั้นที่สาม ไหนเลยจะมีเงาร่างของฝ่ายตรงข้าม
ขณะนั้นเอง บนอากาศที่อยู่ห่างจากชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรไปไม่ไกล พลันมีจุดแสงสีฟ้าลอยออกมา หลังจากรวมตัวกันแล้ว เงาร่างสีฟ้าจางๆ ก็ลอยขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
ลี่ซาหันมาจ้องมองเงาร่างสีน้ำเงิน และเหยียดยิ้มเยือกเย็นออกมา
“ฟู่!”
ปากขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบริเวณเงาร่างสีน้ำเงิน มันงับเอวของเขาจนเป็นสองส่วน
มันคือฉลามโปร่งแสงที่ซ่อนตัวตนนั้น
แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรจะแสดงสีหน้าใดๆ ออกมา ชิ้นส่วนเงาร่างสีน้ำเงินก็กลายเป็นแสงสีน้ำเงิน และหายไปในอากาศ
ขณะนี้ ร่างของฉลามโปร่งแสงถึงปรากฏออกมาในบริเวณนั้นโดยฉับพลัน
“วิชาเงาวารี ธงวารีบริสุทธิ์ของเผ่าเกล็ดเขียว ทำไมถึงตกอยู่มือของมนุษย์ได้” ลี่ซาเห็นเช่นนี้ก็หลุดปากออกมา
ขณะนั้นเอง ไอดำก็ปรากฏตัวเหนือฉลามโปร่งแสง หลังจากมันหมุนตัวติ้วๆ แล้ว ก็กลายเป็นระลอกคลื่นสีดำที่มีขนาดใหญ่จั้งกว่าๆ ขณะเดียวกันก็มีเสียงดังจากในนั้น แสงสีทองเปล่งประกาย กำปั้นสีทองพุ่งออกมาจากในนั้น และทุบใส่หัวอสูรสมุทรเข้าอย่างจัง
“ตู๊ม!” เสียงดังสนั่นไปทั่วฟ้าและปฐพี!
แสงสีทองระเบิดออกมาในพริบตา
ปีศาจอสูรร้องอย่างเวทนา หัวของมันยุบและกระจุยออกมา เศษเลือดและกระดูกจำนวนมากกระจายไปทั่วทิศ และร่วงหล่นลงพื้น
ประจักษ์ชัดว่าอสูรตนนี้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
จากนั้นก็มีเงาร่างพร่ามัวในไอสีดำ หลิ่วหมิงออกมาจากในนั้นด้วยที่สีหน้าสงบ
“เจ้าทำลายอสูรที่ข้ารักไป ข้าจะเอาชีวิตเจ้าชดเชย!” ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเห็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ทัน ทันใดนั้นเขาก็โมโหขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ฉลามโปร่งแสงที่ทำได้แต่หลบซ่อนนี้ เขาต้องใช้พลังจำนวนมากในการบ่มเพาะมัน ซึ่งถ้าบ่มเพาะถึงระดับที่มั่นคง มันจะมีพลังแฝงของปีศาจอสูรระดับผลึก ตอนนี้มันถูกสังหารตายต่อหน้า จะให้เขาไม่โมโหได้อย่างไร
ชายหนุ่มทำท่ามือด้วยมือทั้งสองอย่างรวดเร็ว ค้อนยักษ์ทั้งสองที่อยู่ไกลๆ พุ่งกลับมาในทันที และพร่ามัวมาตกอยู่ในมือของเขา
ลี่ซาประกบค้อนทั้งคู่ไว้ตรงหน้า และร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นมา! สายฟ้าจากฟ้าพุ่งลงมารัดพันค้อนทั้งสองไว้
ขณะเดียวกันร่างของชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรก็ขยายใหญ่ขึ้น ครู่เดียวก็สูงขึ้นมาหลายเท่า ค้อนยักษ์ทั้งสองพร่ามัวกลายเป็นเงาค้อนสีเงิน
ลี่ซาเคลื่อนไหวแขนอยู่ไม่หยุด แต่พอก้าวเท้ายาวๆ ออกไป ก็พุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงพร้อมกับพายุบ้าระห่ำ
สายฟ้าจำนวนมากทะลักออกจากเงาค้อนและเปล่งประกายไปทั่วทิศ อานุภาพน่าตกใจเป็นอย่างมาก!
“วิชาประเภทสายฟ้า!”
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาเล็กน้อย
ถ้าพูดถึงหลายหมื่นวิชาบนโลกใบนี้ มีวิชาแบบไหนที่พอจะเทียบได้กับวิชากระบี่ล่ะก็ เกรงว่าคงเป็นพลังสายฟ้าแล้วล่ะ
แน่นอน หลิ่วหมิงเองก็นึกไม่ถึงว่า คู่ต่อสู้ตรงหน้าจะฝึกฝนความสามารถได้ถึงระดับนี้ และภายใต้การรวมพลังกับค้อนอันน่าหวาดกลัวทั้งสอง อานุภาพมันยิ่งน่าหวาดกลัวจนถึงขีดสุด มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรับได้
ดูท่าถ้าไม่ใช้ท่าไม้ตายล่ะก็ คงได้แต่ถอยหลบไปเท่านั้น
หลิ่วหมิงคิดได้เช่นนี้ ก็ไม่ลังเลใจอะไรอีก พอสะบัดแขนเสื้อ มุกกลมสีดำก็พุ่งออกมา และหล่นลงมาในฝ่ามือสีทอง
มืออีกข้างก็ทำท่ามืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นผลึกแสงเป็นจุดๆ ก็พุ่งออกมา มันกลายเป็นม่านแสงสีฟ้าห่อหุ้มร่างของเขาไว้ ขณะเดียวกันแท่งวารีแวววาวแท่งหนึ่งก็ก่อตัวอย่างรวดเร็ว และแผ่ไอเย็นอันน่าตกใจ
แต่ลี่ซาทำราวกับมองไม่เห็นทั้งหมดนี้ เขายังคงก้าวผ่านอากาศพุ่งมาหาหลิ่วหมิงเช่นเดิม ทุกย่างก้าวล้วนหนักแน่นเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวก็อยู่ห่างจากหลิ่วหมิงไม่กี่จั้ง
เขาคิดจะกวัดแกว่งสายฟ้าจากเงาค้อนเพื่อโอบล้อมหลิ่วหมิงไว้
แต่ขณะนั้นเอง ดวงตาหลิ่วหมิงกลับเป็นประกายขึ้นมา เขากระแทกแท่งวารียักษ์ยาวครึ่งจั้งตรงหน้าออกไป
บังเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น
แท่งวารียักษ์กลายเป็นลำแสงแวววาวพุ่งออกไปตรงหน้าชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทร
ลี่ซาคำรามเสียงต่ำออกมา ค้อนยักษ์ทั้งสองทุบแท่งวารีจนแตกกระจายและกระเด็นไปทั่วทิศ
แต่ในท่ามกลางไอเย็นสีขาวโพลน กลับมีเสียงดัง “ฟิ้ว!” เข็มเล็กละเอียดแวววาวพุ่งยิงออกมา
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกเย็นสะท้าน เขาตีลังกาเพื่อจะถอยหลบทันที แต่ขณะนั้นเอง เขาพลันรู้สึกว่าร่างกายเย็นสะท้าน การเคลื่อนไหวช้าลง
ขณะเดียวกันก็เกิดเสียงดัง “เปรี๊ยะๆ!” ขึ้นในบริเวณนั้น ชั้นน้ำแข็งบางๆ ก่อตัวขึ้น พริบตาเดียวก็เกือบจะแข่งแข็งชายหนุ่มไว้ที่เดิม
วิชาแท่งวารีที่ถูกหลิ่วหมิงฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ บวกกับพลังจากปราณแกร่งพลังน้ำเงินอันดับเจ็ด พอมันระเบิดออกมาก็แผ่ไอเย็นสะท้านอย่างรุนแรง ซึ่งเหนือความคาดหมายของคนทั่วไปมาก
ครั้งลี่ซารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอันตรายถึงชีวิต แต่หลังจากแปลงร่างแล้ว พลังของเขาย่อมแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
เขาคำรามออกมา สายฟ้าจากค้อนทั้งสองเปล่งประกายอย่างบ้าคลั่ง จนขับไอเย็นบริเวณนั้นออกไป แต่พริบตาที่ทุกอย่างนี้เกิดขึ้น กลับไม่สามารถหลบหลีกเข็มเงาหยกที่พุ่งยิงเข้ามาได้
ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรหายใจเข้าลึกๆ และพ่นไอสีขาวบริสุทธิ์ออกมา และรับเข็มเงาหยกตรงหน้าไว้ได้พอดี
แม้เข็มเงาหยกจะแหลมคมเป็นอย่างมาก แต่พอถูกไอสีขาวนี้ต้านทานไว้ จนต้องชะงักไปชั่วขณะ
ลี่ซาเห็นเช่นนี้ ก็เบี่ยงศีรษะในฉับพลัน
“ฟิ้ว!”
เข็มเงาหยกเฉียดผ่านหูข้างหนึ่งของเขาไป โดยที่ไม่มีโลหิตไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้ชายหนุ่มเผ่าเจ้าสมุทรเหงื่อตกออกมา แต่พอแหงนหน้าขึ้นไปมองก็อดหรี่ตาไม่ได้
……………………………………….