ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 415 ศึกเผ่าเจ้าสมุทร (6)
ครั้งนี้ ทหารเผ่าเจ้าสมุทรส่วนหนึ่งที่มีท่าทางการโจมตีที่ดุดัน ก็มุ่งเป้าไปที่อสูรยักษ์เหล่านี้
แต่พวกเขาค้นพบว่าอาวุธจิตวิญญาณ และวิชาการโจมตีธรรมดา ไม่มีผลต่ออสูรยักษ์ที่มีรูปร่างคล้ายกิเลนเลยแม้แต่น้อย และมันยังฝ่าการโจมตีแบบต่างๆ เข้าไปยังแนวรบด้านหน้าราวกับพายุที่บ้าระห่ำ
ครู่เดียว เรือยักษ์ลำหนึ่งก็ถูกอสูรยักษ์หลายตัวล้อมโจมตี ขณะที่มีเสียงดังโครมคราม ม่านแสงสีฟ้าก็ถูกทำลายจนแตกกระจาย
ทหารเผ่าเจ้าสมุทรนับร้อยที่อยู่บนนั้น ก็ถูกแสงที่อสูรยักษ์พ่นออกมาม้วนตัวเข้าไปในปาก
ฉากนี้ทำให้ผู้อาวุโสสวมมงกุฎสีทองที่อยู่ไกลๆ มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พอเขาโบกมือ ผู้แข็งแกร่งระดับผลึกที่มีเกล็ดสีต่างๆ บนใบหน้าต่างก็ลุกขึ้นมา และพุ่งไปทางอสูรยักษ์อย่างรวดเร็ว
……
บนทางเดินเย็นสะท้านใต้ทะเลลึก
ชื่อลี่ยืนอยู่หน้าชั้นจำกัดสีขาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เจียหลานก็ยืนอยู่ห่างจากด้านหลังของนางไปไม่ไกล และจ้องมองการกระทำของนางอย่างเงียบๆ
ครึ่งชั่วยามในก่อนหน้านั้น ชื่อลี่ก็ถูกชั้นจำกัดนี้ต้านทานไว้แล้ว และนางก็พยายามใช้ทุกวิถีทางทำลายมันด้วยความร้อนใจ
แต่ไม่ว่าวิชาหรือยันต์ชนิดต่างๆ ก็ทิ้งไว้เพียงร่องรอยจางๆ จำนวนหนึ่งไว้บนม่านแสงที่แผ่ไอเย็นสะท้านนี้เท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย
สีหน้าชื่อลี่เปลี่ยนไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้น นางก็กัดฟันอ้าปากพ่นลูกแสงกลมๆ สีดำที่เปล่งประกายนุ่มนวลออกมา
มันคือเปลวเพลิงพลังต้นกำเนิดที่แท้จริง
นางทำท่ามืออยู่ครู่หนึ่ง ภายใต้การร่ายคาถาอย่างต่อเนื่อง ลูกแสงก็กลายเป็นเปลวเพลิงสีดำม้วนตัวไปยังม่านแสงเย็นสะท้าน
“ฟู่!” ม่านแสงสีขาวจมอยู่ในทะเลเพลิงสีดำที่มีขนาดกว้างหลายจั้ง ขณะเดียวกันยังแผ่คลื่นความร้อนที่ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
พอเจียหลานเห็นเช่นนี้ สีหน้าของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป และถอยออกไปครึ่งก้าว
ภายใต้เปลวเพลิงที่คุโชน มีอักขระลึกลับโผล่ขึ้นมาจากม่านแสงสีขาวเป็นจำนวนมาก แสงแวววาวต่อต้านการเผาไหม้ของเปลวเพลิงอย่างสุดชีวิต
พอชื่อลี่เห็นเช่นนี้ ก็รีบกระตุ้นพลังเวทย์ใส่เปลวเพลิงอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเพิ่มอานุภาพของมันอย่างต่อเนื่อง
“เพล้ง!” ม่านแสงเย็นสะท้านระเบิดตัวท่ามกลางเปลวเพลิง มันกลายเป็นจุดแสงแวววาวและหายไปในอากาศ
ชื่อลี่กวาดสายตามองดูเศษน้ำแข็งบนพื้น จากนั้นแหงนหน้ามองไปด้านหน้าอีกครั้ง และนางก็ค้นพบว่ามีเส้นทางแวววาวอยู่ด้านหลัง
ผนังทางเดินเหมือนกับทางเดินที่ผ่านมาในก่อนหน้านั้น ซึ่งต่างก็เกาะตัวเป็นน้ำค้างแข็ง เพียงแต่ว่ามันหนากว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย พอเข้าใกล้ก็มีไอเย็นเสียดกระดูกปะทะเข้ามา
ปลายทางเดินอีกด้าน มีทางเข้าอุโมงค์น้ำแข็งอยู่
“ไปกันเถอะ!”
ชื่อลี่เผยสีหน้าดีใจออกมา หลังจากพูดกำชับโดยไม่หันหน้ามามองแล้ว ก็เดินหน้าไปทันที
เจียหลานเดินตามไปอย่างเงียบๆ
ทางเดินไม่ยาวมากนัก ไม่นานทั้งสองก็เข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็งที่มีขนาดหมู่กว่าๆ
เจียหลานมองดูรอบด้าน จากนั้นสายตาของนางก็หยุดอยู่ตรงก้อนน้ำแข็งที่มีของร่างหญิงสาวผนึกอยู่ด้านใน กล้ามเนื้อบนใบหน้าของนางกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งไปด้านหน้าราวกับพายุ
แต่ขณะนั้นเอง พลันมีเสียงหวึ่งๆ! ดังขึ้นมา
ค่ายกลขนาดจั้งกว่าๆ ที่วางไว้ตั้งแต่แรกเปล่งแสงออกมาในฉับพลัน ทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนบริเวณรอบๆ
ช่วงเวลาที่เกิดแสงสว่างไสวนั้น ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวที่มีใบหน้าหล่อเหลาก็ปรากฏออกมากลางค่ายกล เขาก็คือราชาปีศาจสมุทรนั่นเอง
พอชายหนุ่มปรากฏตัว ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองชื่อลี่ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
ชื่อลี่หยุดชะงักอยู่กับที่ในทันที ใบหน้าไม่มีเลือดฝาดเลยแม้แต่น้อย
เจียหลานก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน แววตาของนางก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“พูดมาเถอะ! ทำไมต้องทรยศข้า” ราชาปีศาจสมุทรกล่าวกับหญิงชุดแดงอย่างราบเรียบ แต่สายตากลับมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในก้อนน้ำแข็ง แววตาของเขาดูอบอุ่นซึ่งพบเห็นได้น้อยมาก
“เฮ่อๆ! ทรยศ……ชะตาฟ้าลิขิตหรือจะสู้การวางแผนของคน สุดท้ายเรือก็ล่มเมื่อตอนจอด……” ชื่อลี่จ้องมองชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวด้วยแววตาซึมกระทือ และพูดพึมพำออกมา
ทันใดนั้น นางก็แหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเศร้ารันทด ทำให้เจียหลานที่อยู่ด้านหลังนาง รู้สึกหนักอึ้งในใจ
พอชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวได้ยิน ก็ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้นมา สายตาของเขามองไปที่นางอีกครั้ง แต่กลับไม่เอ่ยปากพูดอะไร ดูเหมือนว่าจะรอฟังคำตอบของฝ่ายตรงข้ามอย่างเงียบๆ
ชื่อลี่หยุดหัวเราะในทันที หลังจากถอนหายใจยาวออกมาแล้ว ก็กล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“เดิมทีข้าเป็นแค่ปีศาจเร่ร่อนที่ล่องลอยอยู่กลางทะเล ไม่แก่งแย่งทางโลก หลังจากผ่านการฝึกฝนเกือบพันปีจนเข้าสู่ระดับผลึก ก็ได้สวามิภักดิ์ต่อราชาปีศาจสมุทรเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนที่มากขึ้น แต่ท่านเคยรู้ไหมว่า? ตั้งแต่ข้าพบท่านครั้งแรก ก็แอบรักท่านเข้าแล้ว จากนั้นไม่นานก็แอบสาบานในใจว่า ต่อให้ชาตินี้จะฝึกฝนไม่ก้าวหน้า ก็จะช่วยท่านเข้าสู่ระดับแก่นแท้ให้ได้! หลายปีมานี้ ข้าช่วยท่านตามหาสมบัติล้ำค่า ตามท่านไปสำรวจเหวลึก ช่วยท่านสังหารปีศาจสมุทร และเสี่ยงอันตรายไปจับทาสเหมืองแร่ตามที่ท่านต้องการตามเกาะต่างๆ ช่วยให้ท่านมีอิทธิพลดังเช่นทุกวันนี้”
พอพูดมาถึงจุดนี้ น้ำเสียงของชื่อลี่ก็หยุดลง สีหน้าดูอาฆาตแค้นเป็นอย่างมาก จากนั้นก็พูดต่อ
“แต่ท่านกลับมองข้าเป็นหุ่นไล่กา นอกจากเวลาที่มอบหมายภารกิจให้แล้ว ก็ไม่เคยเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัวเลย ทั้งยังไม่เคยมองข้าเลยสักครั้ง ข้าช่วยท่านบุกเหนือลุยใต้จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากท่าน และท่านกลับรักคนตายที่มีชีวิต เป็นเพราะข้าชื่อลี่ไม่งดงามหรืออย่างไร? ไม่ใช่! เป็นเพราะท่านเย็นชาต่อข้าเกินไป ท่านไร้น้ำใจมาก แม้ข้าจะไม่รู้ที่มาของนาง แต่ไม่ว่าด้านไหน ข้าก็เหนือกว่านางร้อยเท่า แม้กระทั่งในตอนท้าย ท่านยังหาผู้ที่มีหน้าตาคล้ายกับนางมาเป็นคู่รักฝึกฝน! ท่านทำเช่นนี้เคยนึกถึงความรู้สึกของข้าหรือไม่! ข้าไม่เชื่อว่าผ่านมานานขนาดนี้ ท่านจะยังไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของข้าที่มีต่อท่านอย่างเต็มหัวใจ! นางสามารถให้อะไรท่านได้บ้าง ก็แค่สิ่งไร้ชีวิตที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งเท่านั้น”
“พอแล้ว! ข้าไม่ยอมให้เจ้าพูดจาสบประมาทนาง!” พอราชาปีศาจสมุทรได้ยิน ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลง
ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวเพียงแค่ยกมือข้างหนึ่งขึ้น พายุปีศาจสีฟ้าก็ก่อตัวขึ้นมา พลังไร้รูปบางอย่างตกลงบนตัวของนาง และม้วนตัวนางขึ้นด้านบน จากนั้นก็กระแทกลงพื้นบริเวณนั้นอย่างรุนแรงจนนางกระอักเลือดออกมา
“ท่านไม่ให้ข้าพูด ข้าก็จะพูด!” ชื่อลี่ค่อยๆ ลุกขึ้นมา นางชี้นิ้วไปที่ก้อนน้ำแข็งแล้วกล่าวอย่างบ้าคลั่ง
“ข้ารู้ว่าคนที่ถูกผนึกอยู่ในก้อนน้ำแข็งมีชื่อจริงว่า ‘จินหลิง’ ร่างเดิมของนางเป็นมังกรผลึกทองคำทะเลปี้ไห่ ทั้งยังมีร่างจิตวิญญาณโดยกำเนิด ข้าแค่อาศัยร่างละเมอฝันของเจียหลาน ก็สามารถกลืนกินดวงจิตของนางได้ จากนั้นข้าก็จะครอบครองร่างนี้ และเปลี่ยนตัวเองเป็น ‘จินหลิง’ คนที่สอง ฮ่าๆ……”
“ดีมาก! ที่แท้ก็ต้องการมาที่นี่เพราะเหตุผลนี้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าแล้ว”
พอราชาปีศาจสมุทรฟังถึงจุดนี้ แววตาของเขาก็เยือกเย็นขึ้นมา
จากนั้นกลิ่นไออันแข็งแกร่งก็ประทุออกมาจากร่าง คลื่นอากาศม้วนตัวออกไปราวกับพายุบ้าระห่ำ ทันใดนั้นร่างของเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าชื่อลี่ และสะบัดแขนเสื้อในทันที
“โพล๊ะ!” ชื่อลี่ที่ไม่คิดจะหลบหลีก ถูกฝ่ามือโจมตีจนร่างแตกกระจายกลายเป็นหมอกโลหิต และไอสีดำกลุ่มหนึ่งก็พุ่งออกมาทันที
มันคือดวงจิตส่วนหนึ่งของชื่อลี่นั่นเอง
ราชาปีศาจสมุทรยกแขนข้างหนึ่งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก พอนิ้วทั้งห้ากางออก ไอดำก็ถูกดูดเข้ามาในฝ่ามือ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก
ขณะนี้ ราชาปีศาจสมุทรค่อยๆ กวาดสายตาดูไอดำที่พยายามดิ้นรนอยู่ในมือทีหนึ่ง จากนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกประหลาดออกมา ผ่านไปซักพักถึงกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
“เจ้าพูดไม่ผิด นางชื่อจินหลิงจริงๆ แต่นางไม่ใช่คนรักของข้า แต่เป็นพี่สาวร่วมอุทรของข้าต่างหาก ที่ข้าสำเร็จแก่นแท้เพียงหนึ่งเดียวของทะเลชังไห่ได้ ก็เพราะอาศัยแก่นปีศาจที่นางทิ้งไว้ให้ ถึงได้ทะลวงคอขวดเข้าสู่ระดับนี้ได้ หากเจ้าทำผิดเรื่องอื่นๆ ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้าได้ แต่เจ้ากลับคิดจะทำร้ายนาง ก็อย่าหาว่าข้าใจไม้ไส้ระกำเลย”
พอกล่าวจบชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็กำมือแน่น ทันใดนั้นแสงสีฟ้าเจิดจ้าก็ประทุออกมาจากฝ่ามือ
หลังจากมีเสียงร้องอย่างเวทนาของหญิงสาว ไอดำก็สลายตัวไปท่ามกลางแสงสีฟ้า
ดวงจิตของผู้ฝึกฝนระดับผลึกคนหนึ่ง ถูกทำลายไปอย่างง่ายดาย
เมื่อราชาปีศาจสมุทรจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองเจียหลาน
ขณะนี้ เจียหลานอาศัยจังหวะที่ชื่อลี่กับชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวกำลังสนทนากัน ถอยออกไปตรงทางเข้าอุโมงค์อย่างเงียบๆ พอเห็นราชาปีศาจสมุทรมองมา สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
นางทำท่ามืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ลำแสงเจิดจ้าก็พุ่งออกมาจากตัว พริบตาเดียว ร่างอรชรก็กลายเป็นระลอกคลื่นสิบกว่าชั้นพุ่งตัวออกไป
ภายใต้สถานการณ์จวนตัวเช่นนี้ เจียหลานจึงแสดงวิชาละเมอฝันออกมาจนถึงขั้นสุดอย่างไม่เสียดายพลังเวทย์ เพื่อคิดจะหนีไปจากสถานที่แห่งนี้
แต่ครู่ต่อมา พอราชาปีศาจสมุทรขยับตัวแค่ทีเดียว ร่างของเขาก็พุ่งทะลุระลอกคลื่นแต่ละชั้นไป เมื่อมือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งที่มีแสงสีฟ้าเปล่งประกายคว้าออกไป เงาร่างที่มีกลิ่นไอเหมือนกันก็สลายไปในพริบตา และคว้าเอาร่างจริงของเจียหลานไว้ได้
ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวหิ้วร่างของนางขึ้นมา และพากลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน และยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งหมดนี้ข้าถูกชื่อลี่บีบบังคับทั้งนั้น” ร่างของเจียหลานถูกพลังไร้รูปบางอย่างรัดพันไว้ แม้ในใจจะรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่ก็กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
…………………………………