ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 670 โอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธา
หลิ่วหมิงเข้าไปในห้องลับภายเรือนเดี่ยวหลังนี้ และวางชั้นจำกัดไว้รอบด้านอย่างคุ้นเคย พอยกแขนเสื้อขึ้น เตาหลอมเล็กสีเขียวหยกก็กะพริบออกมา หลังจากหมุนติ้วๆ ขยายใหญ่ตามแรงลมแล้ว ก็หล่นบนพื้นเสียงดัง “โครม!”
มันคือเตาหลอมลิ่วเสินนั่นเอง
เมื่อครู่เขามาอย่างรีบร้อน จึงยังไม่ได้นำโอสถจิตวิญญาณในนั้นออกมา
พอชี้นิ้วข้างหนึ่งผ่านอากาศ เตาหลอมก็ลอยขึ้นมา
หลิ่วหมิงกวักมือเบาๆ โอสถสีขาวกลมๆ ห้าเม็ดพุ่งออกมา และถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือ
ในโอสถทั้งห้าเม็ดมีลายโอสถอยู่สามเม็ด หนึ่งในนั้นเป็นโอสถระดับพสุธาที่มีลายโอสถสี่เส้น
“ปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาออกมาหนึ่งเม็ดจริงๆ ด้วย มิน่าล่ะถึงได้เกิดปรากฏการณ์ระดับนี้” หลิ่วหมิงชื่นชมโอสถระดับพสุธาในมือด้วยสีหน้าเบิกบานใจอย่างสุดขีด
เพียงแค่ปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาเม็ดนี้ออกมาได้ ก็นับว่าคุ้มค่ากับการซื้อของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดขวดนั้นแล้ว
ของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดที่ใช้ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะปรุงโอสถสำเร็จ ทั้งยังปรุงโอสถระดับพสุธาออกมาได้สมดังตั้งใจ ด้านหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับความมหัศจรรย์ของของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอด อีกด้านหนึ่งก็เป็นเพราะว่าประสบการณ์ที่สะสมมาจากการปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณในก่อนหน้า และพลังของเตาหลอมลิ่วเสินแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถโดยทั่วไป ต่อให้จะมีของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอด แต่หากจะปรุงโอสถระดับพสุธาของระดับผลึก ก็เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง
เพราะพอถึงโอสถระดับผลึก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนหรือว่ามูลค่าของโอสถระดับพสุธา เมื่อเทียบกับระดับของเหลวแล้ว ล้วนแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาสำเร็จ ถูกเล่าลือไปทั่วตลาดเหมียวจงในเช้าวันที่สอง แน่นอนว่าย่อมก่อให้เกิดความฮือฮาขึ้นมา
ตามหัวถนนตรอกซอกซอยในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือผู้ฝึกฝน ต่างก็พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างออกรส
แต่เมื่อเวลาค่อยๆ ล่วงเลยผ่านไป เรื่องนี้ก็ค่อยๆ หายไปจากความสนใจของผู้คน
หลิ่วหมิงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับทานโอสถแฝงจิตวิญญาณอยู่ในที่พักแห่งใหม่วันละหนึ่งเม็ด ด้านหนึ่งทำการฝึกฝนอย่างเงียบๆ อีกด้านก็ปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณออกมาจำนวนมาก
และหลังจากปรุงโอสถอยู่บ่อยครั้ง หลิ่วหมิงก็ยิ่งมีเชี่ยวชาญในการปรุงโอสถชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงที่ได้มาจากงานประมูลก็ดีงามมาก ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็ปรุงโอสถระดับสูงออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
เวลาหนึ่งปีกว่าผ่านไปในพริบตา ของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงยี่สิบขวดถูกหลิ่วหมิงใช้ไปจนหมด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เวลาที่เหลือจากการฝึกฝน หลิ่วหมิงก็ไปซื้อวัตถุดิบตามตลาดขนาดกลางและตลาดเล็กต่างๆ ที่อยู่บริเวณตลาดเหมียวจง และถือโอกาสขายโอสถแฝงจิตวิญญาณส่วนหนึ่งให้กับร้านค้าเล็กๆ จำนวนหนึ่งเพื่อแลกหินจิตวิญญาณกลับมา จะได้นำไปซื้อของเหลวห้าแสงกับวัตถุดิบอื่นๆ
…….
สองปีต่อมา ภายในห้องโถงประมูลของตลาดเหมียวจงยังคงมีผู้คนแน่นขนัด ผู้ฝึกฝนจำนวนมากอยู่เต็มห้องโถง
“สี่ล้านแปดแสน!”
“ห้าล้านสองแสน!”
“สิบหกล้าน!”
ขณะที่มีน้ำเสียงราบเรียบดังขึ้นมา ทั่วทั้งห้องประมูลก็เงียบลงทันที สายตาผู้คนกวาดมองไปยังผู้อาวุโสร่างผอมที่สวมชุดราคาแพงผู้หนึ่ง
“ในเมื่อไม่มีคนเสนอราคาเพิ่ม ของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดขวดนี้ก็เป็นของผู้อาวุโสท่านนี้แล้ว” ชายหน้าเหลี่ยมที่เป็นผู้ดำเนินการประมูลรออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ประกาศออกมาทันที
หญิงสาวชุดเขียวที่อยู่ด้านข้างผู้อาวุโสผอมแห้งได้ยินเช่นนี้ ก็เผยสีหน้าดีใจออกมา
หลังจากผู้อาวุโสพยักหน้าแล้ว ก็ลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก และแสดงท่าทางให้หญิงสาวนำทางไป จากนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องข้างห้องโถงท่ามกลางสายตาของฝูงชน
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากหลิ่วหมิงปรุงโอสถพสุธาสำเร็จในครั้งแรก เวลาก็ผ่านมาสิบปีแล้ว
ในช่วงเวลาสิบปีมานี้ ตลาดเหมียวจงก็จัดงานประมูลเช่นเดิมอยู่หลายครั้ง และของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดที่ออกมาในแต่ละครั้ง ต่างก็ถูกหลิ่วหมิงแปลงโฉมมาประมูลไปด้วยราคาอันสูงลิ่ว
ตอนนี้บนตัวเขามีของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดสามขวดแล้ว
ท่ามกลางห้องลับภายในโรงเตี๊ยมในขณะนี้ เปลวไฟสีแดงกำลังห่อหุ้มเตาหลอมลิ่วเสินอยู่ และลุกไหม้อย่างรุนแรง
หลิ่วหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหน้าเตาหลอม และควบคุมอุณหภูมิของเปลวไฟด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นเขาก็ยกแขนปล่อยพลังใส่เตาหลอม
พอมีเสียงดัง “ฟู่!” แสงสีเขียวลำหนึ่งก็พุ่งออกจากเตาหลอม ฝาเตาหลอมลอยขึ้นมา เปลวไฟสีแดงรอบด้านสลายไปอย่างรวดเร็ว
พอหลิ่วหมิงโบกแขนเสื้อขับไล่ควันสีขาวที่ออกมาจากเตาหลอม และเขม้นตามองออกไป จะเห็นว่ามีโอสถแวววาวราวกับหยกอยู่ในเตาหลอมสี่เม็ด
แต่ทุกเม็ดจะมีลายโอสถปรากฏอยู่ เม็ดหนึ่งมีหนึ่งเส้น อีกสองเม็ดมีสองเส้น และอีกเม็ดก็มีสามเส้น ซึ่งเป็นโอสถธรรมดาระดับธรรมดาทั้งหมด
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจเบาๆ ด้วยสีหน้าผิดหวัง
รวมครั้งนี้ด้วยแล้ว นี่เป็นครั้งที่หกที่เขาใช้ของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดในการปรุงโอสถ และวัตถุดิบเสริมอื่นๆ ก็เป็นวัตถุดิบชั้นยอดทั้งหมด
อาจเป็นเพราะของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอด จึงสามารถปรุงโอสถระดับธรรมดาออกมาได้ทุกครั้ง แต่ที่น่าเสียดายก็คือ นอกจากสิบปีก่อนแล้ว จนถึงวันนี้ยังไม่มีโอสถระดับพสุธาปรากฏออกมาเลย
ดูท่าโอสถแฝงจิตวิญญาณที่ปรุงออกมาได้ในครั้งนั้น คงเป็นเพราะบังเอิญโชคดีจริงๆ
“วิชาปรุงโอสถนี้ไม่อาจยกระดับได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่มีเรื่องเล่าลือว่าของเหลวห้าแสงคุณภาพสุดยอดในงานประมูลผ่านการผสมมา ซึ่งความบริสุทธิ์ของมันไม่อาจเทียบกับน้ำผึ้งห้าแสงระดับสุดยอดที่แท้จริงได้ หากเป็นเช่นนี้จริงล่ะก็ โอกาสในการปรุงโอสถระดับพสุธาออกมาได้ คิดว่าคงมีไม่มาก”
หลังจากหลิ่วหมิงเก็บโอสถเข้าไปแล้ว ก็พูดพึมพำออกมา
จากนั้นก็โบกมือข้างหนึ่งเก็บเตาหลอมลิ่วเสินเข้าไป และนั่งขัดสมาธิบนพื้นอย่างเงียบๆ
หลังผ่านการทานโอสถแฝงจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาสิบกว่าปี ระดับการฝึกฝนของเขาย่อมพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งปีก่อน เขาก็เผชิญกับปัญหาการทะลวงคอขวดระดับผลึกขั้นกลางแล้ว
เขาทำความเข้าใจเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬในทะเลจิตรับรู้อย่างละเอียดอยู่หลายรอบ และก็เคยลองไปแล้วหลายวิธี แต่กลับไม่อาจทะลวงได้
จะว่าไปแล้ว พอพูดถึงความมหัศจรรย์ของเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬ ก็นับว่ามีชื่อเสียงในนิกายไม่เบา โดยเฉพาะผลลัพธ์ในการฝึกร่าง ก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของมัน
แต่เป็นเพราะทุกครั้งที่เผชิญกับปัญหาคอขวด ล้วนทะลวงได้อย่างยากลำบาก นานวันเข้าก็มีคนเลือกฝึกฝนวิชานี้น้อยลง
“ดูท่าตอนนี้คงได้แต่พึ่งพลังจากภายนอกแล้ว” หลิ่วหมิงครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ถอนหายใจแล้วพูดพึมพำออกมา พอพลิกมือข้างหนึ่ง กล่องหยกใบหนึ่งก็ปรากฏบนฝ่ามือ พอเลื่อนฝาตลับออก โอสถแฝงจิตวิญญาณเม็ดหนึ่งก็ถูกวางอยู่ในนั้น ทันใดนั้น กลิ่นหอมกรุ่นก็ตลบอบอวลไปทั่วห้องลับ
แต่จะเห็นว่ามีลายโอสถสี่เส้นปรากฏอยู่บนนั้นอย่างชัดเจน ที่แท้ก็คือโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาที่ปรุงออกมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน
หลิ่วหมิงมองดูโอสถเม็ดนี้ด้วยความเจ็บปวดใจ
หากนำโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาไปประมูลล่ะก็ เกรงว่าคงประมูลได้ราคามหาศาลอย่างคาดไม่ถึง
เพราะโอสถที่ช่วยทะลวงคอขวดระดับผลึกนั้น เป็นสิ่งของที่พบเจอได้ยากจริงๆ หากไม่ใช่ว่าเขาลองใช้โอสถแฝงจิตวิญญาณระดับธรรมดาแล้วไม่ได้ผลล่ะก็ คงไม่ยอมใช้โอสถนี้อย่างเด็ดขาด
แต่เมื่อเทียบกับการฝึกฝนของตัวเองแล้ว โอสถนี้ย่อมไม่อาจเทียบได้ ในเมื่อเขาสามารถปรุงโอสถระดับพสุธาออกมาได้หนึ่งเม็ด เชื่อว่าภายหน้าจะต้องปรุงเม็ดที่สองออกมาได้อย่างแน่นอน
หลังจากหลิ่วหมิงสงบจิตสงบใจแล้ว ก็กลับมามีสีหน้าสงบเช่นเดิม และแหงนหน้ากลืนโอสถลงไป
พอโอสถตกถึงท้องไม่นาน ความรู้สึกเย็นก็แผ่ขยายไปทั่วร่าง ทำให้เขาตัวสั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้
หลิ่วหมิงทานโอสถแฝงจิตวิญญาณมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ จึงไม่รู้สึกแปลกกับความรู้สึกนี้ แต่ก็ไม่กล้าประมาทกับโอสถระดับพสุธาเม็ดนี้ ไม่นานก็สงบจิตได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มกระตุ้นพลังเวทขึ้นมา
เขาหยุดทำท่ามือทันที และค่อยๆ นำพลังเวทบริสุทธิ์ออกจากทะเลจิตวิญญาณมาล้อมรอบโอสถแฝงจิตวิญญาณไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ ละลายพลังของโอสถออกมา
เวลาสิบวันค่อยๆ ผ่านไป โอสถระดับพสุธาเม็ดนี้ก็ถูกละลายออกมาจนหมด
พลังโอสถเป็นสายๆ ไหลไปทั่วส่วนต่างๆ ของร่าง พลังเวทในทะเลจิตวิญญาณก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ผ่านไปไม่นาน ไอดำก็พวยพุ่งออกจากร่างหลิ่วหมิง และหมุนวนรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก่อตัวเป็นลูกควันสีดำกลมๆ ขนาดใหญ่ ผ่านไปไม่กี่อึดใจก็ปกคลุมไปทั่วห้องลับ
ขณะนี้หลิ่วหมิงรู้สึกว่า พลังเวทพุ่งพล่านไปมาในเส้นลมปราณต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง
เกิดความรู้สึกเจ็บปวดในเส้นลมปราณเป็นระยะๆ แม้เขาจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง ก็รู้สึกรับไม่ไหวเล็กน้อย
หลิ่วหมิงได้แต่กัดฟันพยายามปลอบประโลมพลังจิตวิญญาณที่ไม่สงบนี้ และกระตุ้นเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬอย่างเงียบๆ เพื่อรวบรวมพลังเวทที่วุ่นวายเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันก็พยายามดูดซับพลังของโอสถแฝงจิตวิญญาณ
เขาอยู่ในห้องลับนานหนึ่งเดือนกว่า
ในระหว่างเวลานี้ ลูกควันสีดำกลมๆ ที่อยู่นอกร่างกาย ก็ค่อยๆ ลดขนาดลง ตอนนี้ลดลงจนมีขนาดบางแค่ไม่กี่ชุ่น แต่ว่าสีของมันดำมืดมิดกว่าเดิมมาก ราวกับว่าจะกลายเป็นแก่นแท้ขึ้นมาจริงๆ
วันนี้พลันมีเสียงมังกรร้องดังมาจากก้อนลูกควันสีดำ จากนั้นลูกควันกลมๆ ก็หมุนติ้วๆ กลายเป็นเสาควันสีดำขนาดใหญ่ก่อนพุ่งขึ้นฟ้า
หลังจากมีบทเรียนจากปรากฏการปรุงโอสถในครั้งก่อน หลิ่วหมิงได้วางชั้นจำกัดไว้ห้าชั้นทั้งด้านในและด้านนอกแล้ว เสาควันสีดำเพิ่งจะพุ่งขึ้นฟ้า ก็ถูกต้านทานเอาไว้ได้ และไม่มีคลื่นพลังเวทสะเทือนออกไปเลยแม้แต่น้อย
ขณะนั้นเอง หลิ่วหมิงกางแขนทั้งสองออกมา เกิดเสียงดังเปรี๊ยะๆ! ภายในร่าง ไอดำบนพื้นผิวแยกตัวกลายเป็นเงามังกรพยัคฆ์จำนวนมาก หลังจากหมุนวนกลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง ก็กะพริบหายเข้าไปในร่างของหลิ่วหมิงอีกครั้ง ทำให้กลิ่นไอของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
……
ครึ่งวันต่อมา ประตูใหญ่ของห้องลับภายในโรงเตี๊ยมก็ถูกผลักออก หลิ่วหมิงที่สวมชุดคลุมสีเขียวก้าวยาวๆ ออกมา ใบหน้าของเขาดูไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย แต่ในดวงตากลับแฝงไปด้วยความเบิกบานใจ
ต่อให้ไม่ต้องโคจรพลัง เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังเวทบริสุทธิ์ที่ไหลวนอยู่ในร่างได้อย่างชัดเจน
ผลึกหนึ่งร้อยห้าสิบสามเม็ดในทะเลจิตวิญญาณขยายใหญ่เท่าตัว การฝึกฝนของเขาเข้าสู่ระดับผลึกขึ้นกลางแล้ว
ส่วนเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬนั้น เขาก็ฝ่าอุปสรรคมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งอาศัยพลังของโอสถระดับพสุธาฝึกฝนจนถึงขั้นที่สี่แล้ว
คิดไม่ถึงว่าโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับพสุธาจะมีผลลัพธ์ในการทะลวงระดับได้อย่างอัศจรรย์เช่นนี้ สิ่งนี้ย่อมทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกเฝ้าปรารถนาโอสถระดับนี้ไม่น้อย
………………………………