ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 690 สังหารปีศาจแรด
หมาป่ายักษ์ส่งเสียงคำรามออกมา ทันใดนั้นมันก็เคลื่อนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว และพ่นเปลวไฟสีเขียวออกไปต้านทานเป็นระยะๆ
แต่เห็นได้ชัดว่าหมาป่าตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ พลังเวทยืนหยัดต่อไปไม่ไหว ขณะที่หลบหลีกคลื่นลูกไฟปีศาจติดต่อกันหลายลูก ในที่สุดก็ถูกหนึ่งในนั้นโจมตีลงบนหลัง
“ตู๊ม!” เปลวไฟคุโชนบนหลังของมันทันที
พอหมาป่ายักษ์หันหน้ากลับมา มันก็อ้าปากดูดไฟปีศาจบนหลังจนหมดสิ้น
แต่ภายใต้สถานการณ์ที่มันได้รับบาดเจ็บสาหัส กลิ่นไอของมันก็อ่อนแอลงอีกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับชายเผ่าปีศาจผู้นั้นแล้ว
และในขณะนั้นเอง ภายใต้การกระตุ้นของชายที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ไฟปีศาจจำนวนมากก็พวยพุ่งเข้ามา
หมาป่ายักษ์เผยแววตาหวาดกลัวออกมา ทันใดนั้นมันก็หันกลับไปทันที และพุ่งไปทางที่หลิ่วหมิงทั้งสองซ่อนตัวอยู่ ทั้งยังตะโกนออกมาเป็นภาษามนุษย์อย่างรวดเร็ว
“ท่านทั้งสองยังไม่รีบลงมืออีก เจ้าเด็กนี่คือศิษย์ที่มาทดสอบปีศาจสวรรค์ในแดนลึกลับในครั้งนี้ มีเพียงแค่สังหารเขาและได้สิ่งของยืนยันมา พวกเราถึงจะมีโอกาสหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ และก็มีแต่ข้าที่รู้ความลับทั้งหมดในแดนลึกลับแห่งนี้”
เดิมทีหลิ่วหมิงก็ยืนดูฉากการต่อสู้กลางอากาศอย่างเงียบๆ พอได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกอึ้งอย่างช่วยไม่ได้
“พี่หลิ่ว คนผู้นี้ปลิ้นปล้อนยิ่งนัก ก่อนหน้านั้นยังตามล่าข้า ตอนนี้ยังมาบอกว่ามีแต่เขาที่สามารถพาพวกเราออกจากแดนลึกลับได้ เกรงว่าคำพูดนี้คงเป็นการหลอกลวง!” หวงอิ๋งที่อยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนี้ ก็รีบส่งเสียงให้หลิ่วหมิงด้วยความประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์
“ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ ไปช่วยเขาก่อนแล้วค่อยว่ากัน หากคำพูดของเขาเป็นเท็จ ข้าจะต้องทำให้เขารู้สึกเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน” หลิ่วหมิงครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตอบกลับไปอย่างราบเรียบ
พอทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่ง ไอหมอกดำก็พวยพุ่งออกจากตัว เกิดเสียงดังเปรี๊ยะๆ ภายในร่าง พริบตาเดียวแรงกดดันที่ไม่ด้อยไปกว่าระดับแก่นแท้ก็พุ่งออกมา จากนั้นเขาก็กระทืบเท้าพุ่งขึ้นฟ้าราวกับลูกธนูในทันที
พอมีเงาร่างเคลื่อนไหว เขาก็มายืนอยู่กลางอากาศระหว่างหมาป่ายักษ์กับชายชุดคลุมสีขาวแล้ว พอแขนทั้งสองสั่นสะท้าน มังกรหมอกดำสี่ตัวก็ถูกปล่อยออกไป และสะบัดหัวสะบัดหางไปปะทะกับไฟปีศาจทั้งหมด
เกิดเสียงระเบิดดังก้องขอบฟ้าอยู่พักหนึ่ง!
นอกจากจะมีสีแดงกับสีดำบนอากาศแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่มีสีอื่นๆ อีกเลย
ชายชุดคลุมสีขาวเห็นเช่นนี้ก็ค่อยๆ หดรูม่านตาลง เขายังไม่ทันได้มีท่าทีตอบสนองใดๆ ก็มีเงาร่างเคลื่อนไหวท่ามกลางหมอกควันสีแดงดำ จากนั้นหลิ่วหมิงก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวกับปีศาจ และชกกำปั้นออกไปกลางอากาศหนึ่งที
ชายชุดคลุมสีขาวทำเสียงฮึดฮัดทีหนึ่ง จากนั้นก็ขยับแขนชกออกไปกลางอากาศโดยตรง
เกิดเสียงดัง “ตู๊ม!” เงาร่างสีดำกับสีขาวพุ่งถอยออกไปพร้อมกัน
“เจ้าเป็นใครกัน บังอาจมาลอบโจมตีข้า!”
พอชายชุดคลุมสีขาวทรงตัวได้ ก็ก้มหน้ามองดูกำปั้นที่รู้สึกชาเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนถามหลิ่วหมิงด้วยแววตาดุร้าย
หลิ่วหมิงไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับกวาดสายตาดูกำปั้นของตนเองทีหนึ่ง บนง่ามระหว่างหัวแม่มือกับนิ้วชี้มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยจนเขาต้องหรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้
ด้วยกายเนื้อที่แข็งแกร่งของเขา เพียงแค่โจมตีผ่านอากาศก็ถูกสะเทือนจนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ดูท่ากายเนื้ออันแข็งแกร่งของผู้ฝึกฝนปีศาจผู้นี้ คงไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนปีศาจที่เขาพบเจอในก่อนหน้านั้นจะสามารถเปรียบเทียบได้
ขณะนี้หวงอิ๋งก็มาปรากฏตัวอยู่ห่างจากด้านหลังของชายชุดคลุมสีขาวไปไม่ไกล เปลวไฟสีทองกลุ่มหนึ่งก่อตัวขึ้นบนมือ และลอยออกไปเบาๆ หลังจากมีเสียงดัง “ตู๊ม!” มันก็กลายเป็นลูกไฟขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ และพุ่งเข้าหาชายชุดคลุมสีขาวจากทั่วทิศ
“ฮึ! ลูกไม้กระจอกๆ!”
ชายชุดคลุมสีขาวไม่หันหน้ากลับมาแต่อย่างใด เพียงแค่มีสีหน้าเคร่งขรึมลง ไอปีศาจก็พุ่งขึ้นฟ้า พริบตาเดียวร่างของเขาก็ขยายใหญ่หลายเท่าจนมีขนาดสูงใหญ่เจ็ดแปดจั้ง เสื้อผ้าบนตัวฉีกขาดออกมา เผยให้เห็นผิวหนังสีเทาที่อยู่ในนั้น และตรงหน้าผากของเขาก็มีนอสีดำงอกออกมาหนึ่งอัน ดวงตาทั้งคู่ก็ขยายใหญ่หนึ่งเท่ากว่าๆ จนมีขนาดราวๆ กระดิ่งทองแดง ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว มันคือปีศาจแรดตัวหนึ่ง
ปีศาจแรดนับว่าเป็นปีศาจที่มีกายเนื้อแข็งแกร่งในเผ่าปีศาจ พลังป้องกันทั่วตัวของมันเมื่อเทียบกับเผ่าปีศาจอื่นๆ แล้ว มันแข็งแกร่งกว่ามาก
ครู่ต่อมา ลูกแสงสีทองก็ปะทะลงบนตัวปีศาจแรด และระเบิดออกมาเป็นกลุ่มแสงสีทอง
แต่หลังจากแสงสีทองสลายไป ปีศาจแรดยังคงยืนอยู่ไกลๆ โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย พอดวงตาของมันเผยแววดุร้ายออกมา เปลวไฟสีแดงก็ลอยออกจากนอตรงหัว และท่ามกลางเปลวไฟก็มีอักขระสีแดงจางๆ พวยพุ่งอยู่ไม่หยุด
หวงอิ๋งเห็นฉากเช่นนี้ก็เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ขณะนั้นเองหลิ่วหมิงกลับลงมืออีกครั้งแล้ว หลังจากร่างของเขาเคลื่อนไหวเบาๆ ก็พร่ามัวหายไปจากที่เดิม
ครู่ต่อมา เขาก็มาปรากฏตัวเหนือร่างปีศาจตัวนี้ พอมือทั้งสองทำท่ามือ สายฟ้าสีเงินเล็กๆ ก็ฟาดฟันลงไป
ปีกศาจแรดเหลือบตาขึ้นมองด้านบน และเปลวไฟสีแดงบนนอก็พุ่งยิงไปทางหลิ่วหมิงโดยตรง
เกิดเสียงดังขึ้น!
ไม่รู้ว่ามีอานุภาพใดๆ ซ่อนอยู่ในนั้น สายฟ้าสีเงินถึงถูกโจมตีจนสลายไป
แต่หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกลนลานเลยแม้แต่น้อย พอโบกแขนเสื้อ มุกพลังวารีเม็ดหนึ่งก็ร่วงลงในมือ หลังจากปล่อยพลังเวทเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง มันก็กลายเป็นม่านวารีสีดำหนาๆ ปกคลุมร่างของตนเองไว้
“ตู๊ม!”
เปลวไฟปะทะลงบนม่านวารี พริบตาเดียวก็ประสานเข้ากับไอน้ำ ภายใต้ความร้อนที่แผดเผา ไอน้ำก็ค่อยๆ กลายเป็นไอหมอกสีขาว
พอหลิ่วหมิงสะบัดไหล่ มังกรหมอกดำสี่ตัวก็พุ่งออกจากหลัง มันแค่หมุนวนหนึ่งรอบ ก็ก่อเกิดเป็นพายุสีดำม้วนเอาเปลวไฟสีแดงไปทั้งหมด
หลิ่วหมิงส่งเสียงคำรามออกมา มือข้างหนึ่งกำมุกพลังวารีไว้ และชกลงด้านล่างอย่างรุนแรง
หลังจากไอดำพวยพุ่งรวมตัวกัน มังกรหมอกดำทั้งสี่กับพยัคฆ์หมอกอีกสี่ก็ปรากฏออกมา และแยกเขี้ยวยิงฟันพุ่งลงไป
“เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง”
ปีศาจแรดเห็นเช่นนี้ก็พูดประชดอย่างเยือกเย็น นอบนหัวส่งเสียงดัง “ฟู่!” จากนั้นเปลวไฟสีแดงก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง แต่หลังจากหมุนติ้วๆ แล้ว มันก็กลายเป็นทะเลเพลิงสีแดงไปทั้งแถบในพริบตา และปกคลุมอากาศกว่าครึ่งหนึ่งไว้
มังกรหมอกสี่ตัวกับพยัคฆ์หมอกสี่ตัวพุ่งเข้าไปในทะเลเพลิง ทันใดนั้นหมอกดำก็ประสานไปมากับเปลวไฟสีแดง และส่งเสียงดังโครมครามแปลกประหลาด
หวงอิ๋งที่อยู่ด้านหลังเห็นเช่นนี้ ก็รีบนำผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองออกมาผืนหนึ่ง หลังจากโยนมันไปกลางอากาศ ก็ชี้ออกไปติดต่อกัน
ผ้าเช็ดหน้าหมุนตัวติ้วๆ กลางอากาศ จากนั้นก็กลายเป็นวิหคยักษ์ขนาดหนึ่งจั้งกว่าๆ ที่มีลวดลายสีทองแปลกประหลาดปกคลุมเต็มตัว หลังจากส่งเสียงร้องดังกังวานออกมา ก็พุ่งเข้าใส่ปีศาจแรดอย่างรวดเร็ว
ปีศาจแรดกลับรับรู้ตั้งแต่แรกแล้ว พอหันหน้ากลับมา มันก็พ่นไอหมอกสีเทาออกไปรับมือกับวิหคยักษ์
พอวิหคยักษ์กระพือปีกทั้งสอง ก็มีแสงสีทองจำนวนมากพุ่งออกมาทันที แต่พอสัมผัสกับไอหมอกสีดำ ต่างก็จมหายไปในนั้นอย่างไร้ร่องรอย
และไอหมอกสีเทาก็พวยพุ่งขึ้นมาปกคลุมวิหคยักษ์สีทองไว้
แม้ว่าวิหคตัวนี้จะกระพือปีกแหลมคมทั้งคู่ และทำการดิ้นรนอยู่ไม่หยุด แต่กลับไม่อาจพุ่งออกจากไอหมอกสีเทาได้
ขณะนั้นเอง พลันเกิดเสียงฟ้าร้องเหนือเมฆอัคคี จากนั้นสายฟ้าขนาดใหญ่เจ็ดแปดเส้นก็กะพริบลงมา คิดไม่ถึงว่ามันจะแทงทะลุเมฆอัคคีไป และฟาดเข้าใส่หัวของปีศาจอย่างรุนแรง
ปีศาจแรดส่งเสียงคำรามยาวด้วยความตกใจ เกราะสีเทาบนตัวแต่ละแผ่นตั้งขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง แสงสีเทาบนตัวก็เปล่งประกายอยู่ไม่หยุด
“ตู๊มๆ!”
วิชาสายสวรรค์ที่หลิ่วหมิงปล่อยออกมาฟาดลงไปบนหลังปีศาจแรดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นไหมสายฟ้าสีเงินจำนวนมาก และโบกสะบัดไปมาบนตัวปีศาจแรด ทั้งยังส่องเสียงระเบิดออกมาตลอดเวลา
ร่างของปีศาจตัวนี้ชาไปครู่หนึ่ง พลังเวทในร่างก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกัน
พริบตานั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลิงอัคคีเหนือศีรษะ หรือไอหมอกสีดำที่กักขังวิหคยักษ์สีทองไว้ ต่างก็มีอานุภาพลดลงอย่างรวดเร็ว
หวงอิ๋งเห็นเช่นนี้ ก็ปล่อยพลังเวทใส่วิหคยักษ์สีทองที่อยู่ไม่ไกลด้วยความดีใจ
พอวิหคตัวนี้ส่งเสียงดังกังวานออกมา แสงสีทองก็เปล่งประกายบนตัว ร่างของมันขยายใหญ่ในพริบตาจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา
มันแค่กระพือปีกเบาๆ พายุบ้าระห่ำสีทองก็ก็ม้วนตัวออกมาจนทำให้ไอหมอกสีเทาที่อยู่บริเวณนั้นแตกกระจาย
“ฟู่!” วิหคยักษ์กลายเป็นแสงสีทองพุ่งยิงออกไป มันกะพริบแค่ทีเดียว กรงเล็บคู่หนึ่งก็คว้าไปยังไหล่หนาๆ ทั้งสองด้านของปีศาจแรดอย่างโหดเหี้ยม
เกิดเสียงดังราวกับโลหะเสียดสีกัน กรงเล็บยักษ์ที่ดูแหลมคมอย่างหาที่เปรียบมิได้ กรีดไหล่ของปีศาจแรดสีเทาจนเกิดเป็นประกายไฟอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่อาจทำลายผิวของมันได้เลยแม้แต่น้อย
หวงอิ๋งรู้สึกตกตะลึงในทันที
ปีศาจแรกกลับเผยสีหน้าดุร้ายออกมา พอแขนทั้งสองเคลื่อนไหว มันก็คว้าปีกทั้งสองของวิหคสีทองไว้ หลังจากส่งเสียงคำรามออกมา วิหคยักษ์ก็ถูกฉีกทึ้งจนกลายเป็นสองส่วน
วิหคยักษ์ส่งเสียงร้องอย่างเวทนา ศพทั้งสองส่วนแตกสลายกลายเป็นจุดสีทอง และกลับมาเป็นผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองสองชิ้น
พริบตาที่ของล้ำค่าถูกทำลายไปนั้น หวงอิ๋งที่อยู่ไม่ไกลก็มีสีหน้าซีดขาว และกระอักเลือดออกมาในทันที
ปีศาจแรดเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และขยับเท้าจะพุ่งเข้าไป
แต่ขณะนั้นเองพลันมีเสียงฟ้าร้องกลางอากาศ จากนั้นสายฟ้าสีเงินขนาดใหญ่ก็พุ่งลงมาจากเมฆอัคคี ทำให้มันรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่ก็ขยับตัวหลบหลีกการโจมตีนี้ไปได้
ขณะนั้นเอง มีเสียงดังขึ้นที่ด้านหลัง ลูกเปลวไฟสีเขียวกลุ่มหนึ่งพุ่งยิงเข้ามา หมาป่ายักษ์สีเขียวตัวนั้นฝืนอาการบาดเจ็บปล่อยอานุภาพเข้ามากดดันด้วยเช่นกัน
หวงอิ๋งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็พลิกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นมา จากนั้นดาบสั้นสีทองอร่ามก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง
ปีศาจแรดเห็นเช่นนี้ สีหน้าของมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปในที่สุด หลังจากกรอกลูกตาไปมาแล้ว แสงสีเทาก็เปล่งประกายบนตัว และกลายเป็นแสงหลบหลีกพุ่งขึ้นฟ้า
ปีศาจตนนี้ฉลาดมาก พอเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีก็คิดจะหลบหนีในทันที
แต่ขณะนั้นเอง พลันมีเงาร่างเคลื่อนไหวตรงหน้า และหลิ่วหมิงก็ปรากฏตัวออกมาอย่างไร้สุ้มเสียง เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อ แสงสีดำก็ม้วนตัวออกไปปกคลุมปีศาจตัวนี้ไว้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นหลิ่วหมิงก็หายวับเข้าไปในนั้นอย่างไร้ร่องรอย
ครู่ต่อมา เกิดเสียงดังโครมครามอยู่ด้านในไม่หยุด และมีปราณกระบี่อันน่าตกใจพุ่งออกมาเป็นสายๆ ทำให้อากาศบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีทองจางๆ
หวงอิ๋งกับหมาป่ายักษ์สีเขียวเหาะเข้ามา แต่พอเห็นฉากเช่นนี้ต่างก็มองหน้ากันอย่างอดไม่ได้
“ตู๊ม!” พอเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น และปราณกระบี่สีทองอันเจิดจ้าพุ่งขึ้นฟ้า เสียงทั้งหมดก็เงียบหายไปในฉับพลัน
จากนั้นแสงสีดำก็ค่อยๆ ม้วนตัวสลายไป หลิ่วหมิงหิ้วหัวขนาดใหญ่เดินออกมา นอกจากเขาจะมีสีหน้าซีดขาวเล็กน้อยแล้ว บนตัวก็ไม่มีบาดแผลใดๆ เลย
………………………………