ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 878 ชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่อธรรม
เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!
แสงสีดำบนร่างหลิ่วหมิงฉับพลันเข้มขึ้น จากนั้นเขาก็เหวี่ยงหมัดโจมตีน้ำแข็งแกร่งตรงหน้าแตกกระจุย แล้วกระตุ้นลำแสงพุ่งผ่านกลางเศษน้ำแข็งเต็มฟ้าไล่ตามรุ้งสีเงินที่อยู่ไกลๆ ไป
ทั้งสองคน คนหนึ่งไล่ตาม คนหนึ่งหนี ชั่วพริบตาเหาะออกไปหลายสิบลี้
เพียงแต่เห็นชัดว่าลำแสงของหลิ่วหมิงเร็วกว่าอยู่บ้าง ระยะห่างของทั้งสองคนจึงยิ่งใกล้เข้าไปทุกที ผ่านไปไม่นานระยะห่างก็เหลือไม่ถึงห้าสิบจั้ง
นักพรตจันทราอธรรมย่อมรับรู้สถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่พูดพร่ำอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งออกมาแล้วตั้งท่าเคล็ดวิชาอย่างเร็วไวในเวลาเดียวกัน
เสียง “ฟู่” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!
ลำแสงของเขาฉับพลันฉายแสงสีเลือดแล้วพร่าเลือนวูบหนึ่ง จากนั้นแยกเป็นลำแสงห้าเส้นที่เหมือนกันทุกประการ พุ่งเร็วรี่ไปด้านหน้าห้าทิศทาง
ลำแสงแต่ละเส้นล้วนเหมือนจริงอย่างยิ่ง นอกจากนี้คลื่นพลังเวทที่แผ่ออกมาก็แทบจะเหมือนกัน
หลิ่วหมิงที่อยู่ด้านหลังเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ยิ้มนิดๆ วงกระเพื่อมสีดำปรากฏขึ้นในดวงตา ใช้วิชาอนธการค้นวิญญาณ
หลังเข้าสู่ระดับแก่นเสมือน เขาก็ใช้วิชาอนธการค้นวิญญาณออกมาได้ดั่งใจมากขึ้น จึงแยกแยะร่างจริงของนักพรตจันทราอธรรมออกแทบจะในทันที
เขาไม่หยุดเร่งพลังเวทในร่างแม้แต่น้อย ความเร็วเพิ่มขึ้นในฉับพลัน ไล่ตามเร็วรี่ไปหาลำแสงด้านซ้ายสุด พร้อมกันนั้นก็โบกมือ ปราณดำรอบร่างพลุ่งพล่าน มังกรหมอกสีดำยาวหลายจั้งตัวหนึ่งพุ่งออกมาในพริบตาแล้วบินเร็วรี่เข้าไปหานักพรตจันทราอธรรม
แสงแวววาวสีเงินยวงเส้นหนึ่งลอยออกมาจากร่างนักพรตจันทราอธรรม หลังจากบินวนไปมาด้านหลังร่างรอบหนึ่ง มันก็ฟันมังกรหมอกสีดำกลายเป็นท่อนๆ ภายในสองสามครั้ง
ทว่าครั้งนี้ชั่วขณะที่ชะงักไป หลิ่วหมิงก็ตามมาทันแล้ว
“เจ้าหนูจะไล่ต้อนกันเกินไปแล้ว!”
นักพรตจันทราอธรรมคำรามโกรธเกรี้ยว สิบนิ้วบนสองมือแปรเปลี่ยนประหนึ่งวงล้ออยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นแสงแวววาวสีเงินยวงที่เขาเรียกออกมาก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าแล้วฟันเข้าใส่หลิ่วหมิงอย่างรุนแรง
ดวงตาของหลิ่วหมิงทอประกายเย็นเยียบ ต่อยหนึ่งหมัดอันหนักหน่วงออกมา
เงาหมัดสีดำใหญ่เท่าโม่หมัดหนึ่งพุ่งรวดเร็วออกมาปะทะกับแสงแวววาวสีเงินยวง
เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้น แสงแวววาวสีเงินยวงเผยร่างเดิมซึ่งก็คือดาบวงเดือนสีเงินเล่มหนึ่ง ถูกดีดหมุนคว้างพุ่งถอยกลับมา
ส่วนเงาหมัดสีดำยังคงพุ่งหวีดหวิวเข้าใส่นักพรตจันทราอธรรมโดยที่พลังไม่ลดลง
นักพรตจันทราอธรรมเห็นเช่นนี้ ม่านตาพลันหดเล็กลง ในดวงตาฉายแววเหลือเชื่อจางๆ
แม้เขาพลังระดับแก่นเสมือนเช่นกัน ทั้งยังมีวิชามากมายและเชี่ยวชาญวิชาลับแยกร่างวิชาหนึ่ง แต่วันนี้เผชิญหน้ากับหลิ่วหมิงกลับพบอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่าจนอดไม่ได้ร้องตะโกนดังลั่นในใจว่าโชคร้าย
ขณะที่นักพรตจันทราอธรรมเตรียมจะใช้วิชาอื่นออกมา หลิ่วหมิงพลันสะบัดสองแขน แสงสีดำสาดออกมาจากบนร่าง ทันใดนั้นเงาหมัดสีดำที่จวนเจียนจะมาถึงนักพรตจันทราอธรรมก็ระเบิด
แสงสีดำผืนใหญ่แผ่ออกมาล้อมนักพรตจันทราอธรรมไว้ด้านในภายในพริบตา
พลังคุกมืดที่ก่อกวนจิตสัมผัสได้เป็นดาวข่มสำหรับผู้ฝึกฝนอย่างนักพรตจันทราอธรรม และเป็นสิ่งที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าวันตายของเขามาถึงแล้ว
หลังชั่วเวลาหนึ่งมื้อกินข้าวมิติคุกมืดก็สลายไป หลิ่วหมิงยังคงยืนโต้ลมอยู่กลางท้องฟ้า ใบหน้าซีดขาวเล็กน้อย แต่ในมือหิ้วศีรษะของนักพรตจันทราอธรรมไว้
การโต้กลับก่อนตายของนักพรตจันทราอธรรมเมื่อครู่ทำให้เขาเสียลมปราณไปเล็กน้อย
แต่ทุกสิ่งล้วนคุ้มค่า ในรายชื่อความเป็นความตายศีรษะของเขามีมูลค่าถึงหนึ่งแสนหลายหมื่นแต้มคุณูปการ
หลิ่วหมิงเก็บศีรษะรวมถึงร่างของนักพรตจันทราอธรรมเข้าไปในอาวุธเวทเก็บของบนร่างตน แล้วพลิกมือกินโอสถจินหยวนเม็ดหนึ่ง จากนั้นกลายเป็นลำแสงเส้นหนึ่งออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเขาไม่ได้กลับนิกายยอดบริสุทธิ์ แต่เลี้ยวเปลี่ยนทิศ มุ่งหน้าไปหาเป้าหมายต่อไปตามข่าวสารที่ได้มาจากนิกาย
…..
ครึ่งเดือนให้หลัง บนท้องฟ้าเหนือบึงที่เต็มไปด้วยไอพิษแห่งหนึ่งบนแผ่นดินจงเทียน เงาดำสองร่างไล่ตามกันเร็วรี่ผ่านไป ทิ้งรอยจางๆ สองสายไว้กลางท้องฟ้า
ผู้ที่เหาะอยู่ด้านหน้าคือชายหนุ่มเยาว์วัยขนคิ้วสีขาว ทั่วร่างแสงสีดำกะพริบวูบวาบ ดูจากรูปหน้าและหูปุกปุยเหมือนจะไม่ใช่เผ่ามนุษย์
คนที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังเสื้อสีน้ำเงินสะบัดพลิ้วตามสายลม แน่นอนเขาคือหลิ่วหมิงนั่นเอง
“ผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์น่าตาย ข้าเป็นถึงศิษย์สายตรงของจินเจินเหรินแห่งบึงหมื่นปี เจ้ากล้าไล่ล่าสังหารข้า เจ้าตายแน่ ตายแน่!” เสียงของชายหนุ่มคิ้วขาวที่เหมือนผู้หญิงอยู่บ้างคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ชายหนุ่มคิ้วขาวผู้นี้ก็เป็นคนที่มีรางวัลค่าหัวในรายชื่อความเป็นความตายสายในเช่นเดียวกัน เขาคือผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจระดับผลึกขั้นปลายนามว่าไป๋เซิ่ง ค่าหัวหนึ่งแสนสองหมื่นแต้มคุณูปการ
หลิ่วหมิงหัวเราะหยันแล้วโบกมือ ทันใดนั้นแสงสีเงินก็กะพริบวิบวับบนแผ่นหลัง บนร่างปรากฏเสื้อเกราะอ่อนสีเงินตัวหนึ่ง พร้อมกันนั้นปีกเนื้อสีเงินคู่หนึ่งก็ปรากฏตามออกมาแล้วกระพืออย่างรุนแรง
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น พายุหมุนล่องหนสองลูกยกร่างของหลิ่วหมิงทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเท่าตัวในฉับพลัน เวลาไม่กี่ลมหายใจก็ไล่ตามชายหนุ่มคิ้วขาวทัน
แม้วาจาของชายหนุ่มคิ้วขาวจะดุดัน แต่เขาสัมผัสความแข็งแกร่งของหลิ่วหมิงมาก่อนแล้ว บนหน้าจึงฉายแววพรั่นพรึง ทันใดนั้นก็ส่งเสียงหวีดแหลมแสบแก้วหูออกมาจากปาก
แสงสีดำไหลเคลื่อนรวดเร็วบนร่างเขา จากนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้นในพริบตา พร้อมกันนั้นบนแผ่นหลังของเขาก็ปรากฏปีกขนนกสีดำสนิทคู่หนึ่ง และสองมือก็กลายเป็นกรงเล็บเหล็กดำขลับแวววาวคู่หนึ่งด้วย
ชายหนุ่มคิ้วขาวผู้นี้เผชิญหน้าอันตรายจึงกลายร่างเป็นสภาพกึ่งปีศาจ เขาเป็นผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจชนิดหนึ่งจำพวกนกอินทรี
ร่างกายของเขาหักเลี้ยวกะทันหันกลางอากาศครั้งหนึ่ง กรงเล็บเหล็กสีดำสนิทสองข้างก็พร่าเลือนหายไป ทันใดนั้นแสงสีดำยาวหลายฉื่อแลดูคมกริบอย่างยิ่งก็พุ่งออกมาจากปลายกรงเล็บ ตะปบเร็วรี่เข้าใส่หลิ่วหมิง
ในใจหลิ่วหมิงลอบถอนหายใจ หากกระบี่ว่างเปล่าไม่ได้ถูกผนึกอยู่ เวลานี้แค่เรียกกระบี่บินออกมา เขามั่นใจเต็มร้อยว่าฟันครั้งเดียวก็คงสะบั้นกรงเล็บคมของชายหนุ่มคิ้วขาวคนนี้เป็นท่อนๆ ได้ ทว่าตอนนี้ได้แต่ใช้ลูกเล่นเล็กน้อย
ในใจเขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวที่มือไม่เชื่องช้าสักนิด หลังจากมือข้างหนึ่งตั้งท่าเคล็ดวิชา ปราณสีดำบนร่างก็พลุ่งพล่านกลายเป็นมังกรหมอกสีดำขนาดมหึมาสิบจั้งกว่าตัวหนึ่งกลางอากาศ โถมรวดเร็วเข้าใส่ชายหนุ่มคิ้วขาว
ชายหนุ่มคิ้วขาวดวงตาฉายแววยินดี ไม่มีใครรู้พลังของกรงเล็บเหล็กคู่นี้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว
ได้ยินเสียงดัง “ฉึก” ครั้งหนึ่ง จุดที่แสงสีดำลึกล้ำแล่นผ่านสะบั้นมังกรหมอกสีดำเป็นหลายท่อนอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มคิ้วขาวในใจยินดียิ่งนัก ปีกทั้งคู่บนแผ่นหลังขยับกระพือหมายจะฉวยโอกาสหนีไป
เวลานี้เองมังกรหมอกสีดำที่ถูกหั่นเป็นหลายท่อนพลันระเบิดกลายเป็นเมฆสีดำเข้มผืนหนึ่ง เพียงชั่วครู่ก็ล้อมพื้นที่หลายสิบจั้งรอบตัวชายหนุ่มคิ้วขาวเข้าไปด้านใน
ชายหนุ่มคิ้วขาวรู้สึกว่าเบื้องหน้าดำมืด สี่ด้านแปดทิศล้วนเป็นปราณดำที่ดำสนิทประหนึ่งหมึกเต็มไปหมด สายตาถูกกั้นขวางทันที ในเวลาเดียวกันปีกบนแผ่นหลังก็ถูกปราณดำสายแล้วสายเล่าที่ไม่ทราบโผล่ออกมาจากที่ใดรัดพันไว้จนรู้สึกว่ากางไม่ออก
“ตาย!”
เงาคนพร่าเลือนวูบหนึ่ง หลิ่วหมิงก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังชายหนุ่มคิ้วขาวประหนึ่งภูตพราย มือข้างหนึ่งสะบัดทันที แสงสีดำดุดันสายหนึ่งฟันเข้าใส่ลำคอของชายหนุ่มคิ้วขาว
“อย่าฝัน!”
ชายหนุ่มคิ้วขาวหัวใจจมดิ่งถึงที่สุดแล้ว เขารู้ว่าหมดหนทางจะโชคดีหนีรอด ทันใดนั้นจิตบ้าคลั่งสายหนึ่งจึงทะลักออกมา แสงสีดำบนร่างเจิดจ้าขึ้นในฉับพลัน
ฟึบ ฟึบ ฟึบ!
เสียงแหวกอากาศแหลมสูงดังขึ้น ขนนกสีดำสนิทนับไม่ถ้วนพุ่งพรวดไปรอบด้านอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกันร่างกายของชายหนุ่มคิ้วขาวก็พลันหดเล็กลงชั่วครู่ก่อนจะระเบิดตัวเอง
เวลานี้เองฝ่ามือที่มีเกล็ดสีม่วงเข้มอยู่ทั่วข้างหนึ่งก็พุ่งทะลุขนนกสีดำออกมาอย่างเงียบเชียบ เสียบจมลงไปในท้องน้อยของชายหนุ่มคิ้วขาว
ร่างกายของชายหนุ่มคิ้วขาวฉับพลันแข็งทื่อ แววตาค่อยๆ เลื่อนลอย การเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง พลังเวทที่ก่อตัวขึ้นส่งเสียงระเบิดกึกก้องสลายไปในทันใด
เงาคนสั่นไหววูบหนึ่ง หลิ่วหมิงพลันปรากฏตัวเบื้องหลังชายหนุ่มคิ้วขาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย จากนั้นเขาก็สะบัดมือข้างหนึ่ง ประกายแสงเย็นเยียบฉายสว่าง ศีรษะของชายหนุ่มคิ้วขาวถูกฟันครั้งเดียวก็ร่วงลงมา
…..
สามเดือนให้หลัง ณ ใจกลางทะเลทรายที่มองไปไร้ขอบเขตอันรกร้างไร้ผู้คนทางตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นดินจงเทียน มีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมาเป็นระยะ ทำให้เนินทรายใกล้ๆ ราวกับถูกไถ มีร่องยาวเพิ่มขึ้นมาหลายสาย แล้วยังมีหลุมลึกมหึมาอีกหลายหลุม
ปรากฏการณ์ประหลาดนี้คงอยู่ครึ่งค่อนวันเต็มๆ ถึงหยุด
บริเวณที่ถูกเนินทรายสามลูกล้อมไว้แห่งหนึ่ง ศพไร้ศีรษะที่สวมชุดยาวสีขาวร่างหนึ่งกำลังทอดกายอยู่ในหลุมทรายใหญ่ยักษ์
ไม่ไกลจากด้านข้างหลุมทราย หลิ่วหมิงผู้สวมชุดสีน้ำเงินกำลังหอบหายใจหนัก มุมปากมีเลือดสายหนึ่งไหลออกมาอยู่รางๆ
มือขวาเขาหิ้วศีรษะที่ยังมีเลือดไหลโชกอยู่ศีรษะหนึ่งไว้ ผิวบนศีรษะมีปราณดำวนเวียนอยู่เลือนราง ดูจากบาดแผลตรงคอคล้ายกับว่าถูกพลังมหาศาลบางอย่างฉีกกระชากออกมาทั้งเป็น
บนศีรษะผูกเปียมากมายไว้จนเต็ม ใบหน้าดุร้ายน่าหวาดกลัว สองตาที่ไร้แววกำลังเบิกค้างมองไปเบื้องหน้า
คนผู้นี้ก็คือหมอผีสวรรค์ผู้ฝึกฝนชั่วร้ายระดับแก่นแท้ในรายชื่อความเป็นความตายสายในของนิกายยอดบริสุทธิ์ผู้มีค่าหัวห้าแสนแต้มคุณูปการ
พลังของคนผู้นี้คลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่นิกายให้มาอยู่บ้าง เขาเข้าสู่ระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้ว วิชาอันแข็งแกร่งหลายอย่างของหลิ่วหมิงล้วนถูกเขาข่มไปทีละอย่างๆ เพื่อสังหารคนผู้นี้ เขาก็บาดเจ็บเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
……
ครึ่งปีให้หลัง โม่ถัวอดีตศิษย์แกนนำแห่งหอหอเจ็ดชำนาญนิกายเทียนกงซึ่งถูกขับออกจากนิกายไปก็ถูกบุคคลลึกลับผู้หนึ่งสังหารใกล้ๆ กับทะเลบุปผาพิษอันลือชื่อของแผ่นดินจงเทียน หุ่นที่พลังไม่เป็นรองระดับแก่นเสมือนสามตัวของเขาถูกทำลายจนหมดในที่เกิดเหตุ
แปดเดือนให้หลัง นิกายโลหิตหยกซึ่งเป็นนิกายอธรรมแห่งหนึ่งก็ถูกคนบุกเข้าไปฆ่าล้างนิกายจนเกลี้ยงในคืนเดียว ผู้เฒ่าโลหิตหยกประมุขนิกายระดับแก่นแท้ขั้นต้นก็ถูกคนตัดศีรษะไปด้วย
ในระยะเวลาสั้นๆ หนึ่งปี ผู้ฝึกฝนสายปีศาจและเผ่าปีศาจห้าหกคนถูกคนลึกลับสังหาร แล้วยังถูกคนตัดศีรษะไป ทิ้งไว้เพียงร่างไร้ศีรษะอยู่ในที่เกิดเหตุ
จุดร่วมของผู้ฝึกฝนชั่วร้ายเหล่านี้ก็คือพวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกฝนชั่วร้ายที่อยู่ในประกาศล่าค่าหัวบนรายชื่อความเป็นความตายของนิกายยอดบริสุทธิ์
ในเวลาสั้นๆ ข่าวที่ว่านิกายยอดบริสุทธิ์มียอดฝีมือที่ร้ายกาจคนหนึ่งกำลังไล่ล่าสังหารผู้มีรางวัลค่าหัวในรายชื่อก็กระจายไปในหมู่ผู้ฝึกฝนชั่วร้ายอย่างรวดเร็ว
เล่าลือกันว่าดาวหายนะผู้นี้สังหารผู้ฝึกฝนชั่วร้ายจนเสพติด ขอเพียงเห็นผู้ฝึกฝนสายปีศาจหรือเผ่าปีศาจก็จะลงมืออย่างไม่ลังเลสักนิด
ผู้ฝึกฝนชั่วร้ายมากมายที่เคยขัดแย้งกับนิกายยอดบริสุทธิ์ฉับพลันเงียบหายประหนึ่งจักจั่นยามเหมันต์ พวกเขาต่างพากันเร้นกายไม่ปรากฏตัว กลัวว่าคนผู้นั้นจะมาหาถึงหน้าประตู
ชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปอีกครึ่งค่อนปี
วันนี้ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ถูกเขาล้อมอยู่สามด้านบนเทือกเขาหมื่นวิญญาณ หน้าวิหารหลังใหญ่ของหอความเป็นความตายสายใน ลำแสงสีดำสายหนึ่งร่อนลงมาอย่างเงียบเชียบ
หลังแสงสีดำกะพริบวูบวาบสอบสามหนแล้วสลายไปก็เผยให้เห็นร่างของคนด้านใน เขาก็คือหลิ่วหมิงนั่นเอง
เขาจัดเสื้อผ้าบนร่างแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปในประตูวิหาร