ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - บทที่ 177 เรื่องราวถูกเปิดโปง
ต่อมาเมื่อเขาออกมาถึงด้านนอก บริเวณโดยรอบของเรือนหลังนี้ถูกส่องสว่างด้วยคบไฟ ล้อมรอบด้วยมือปราบทั้งหมดของศาลาว่าการ ปิดล้อมทางหนีของเขาเอาไว้ทุกทาง
และผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางก็คือใต้เท้าสวีแห่งจวนว่าการ หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้าง รอให้เรื่องราวถึงที่สุดจึงเข้ามาจัดการ
ใต้เท้าสวีตวาดลั่น “บังอาจ เจ้าฆาตกรสังหารคน ยังไม่รีบมอบตัวอีก!”
เงาร่างสีดำนั้นสวมชุดดำทั้งชุด ปิดบังใบหน้า ปรากฏให้เห็นเพียงดวงตาเปี่ยมประสบการณ์นิ่งลึกคู่หนึ่ง เขากุมดาบในมือไว้มั่นไม่ยอมถอย และไม่ได้ก้าวขึ้นข้างหน้า ต่างฝ่ายต่างรอจังหวะ
หลินชิงเวยเอ่ยปากขึ้นเนิบๆ ว่า “เหตุใดครั้งนี้จึงต้องปิดหน้าด้วย เป็นเพราะกลัวว่ายายหวังเห็นเจ้าแล้วอาจจะร้องเสียงดังจนทำให้ผู้คนแห่กันมาล้อมไว้กระมัง หรือกลัวว่าในเรือนยายหวังยังมีหลานสาวและหลานชายคู่หนึ่ง” เมื่อนางพูดเช่นนี้ หลานชายและหลานสาวต่างตื่นขึ้นแล้ว หวงยากำลังออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เงาร่างสีดำนั้นไม่เคลื่อนไหว หลินชิงเวยหัวเราะเบาๆ “การออกมาสังหารเอาชีวิตผู้อื่นโดยที่ตนเองต้องปิดหน้าปิดตาที่แท้จริงในครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนที่ออกมาอย่างเปิดเผย เข้าไปสังหารเจียงหมิงจูทางประตูหลักแล้วออกมาอย่างสบายใจ เจ้าว่าใช่หรือไม่ ใต้เท้าหลิว?”
ทันทีที่คำพูดนี้กล่าวออกไป คนทั้งหมดถึงกับงงงัน
มือปราบทั้งหมดต่างมองหน้ากัน พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนชุดดำเบื้องหน้าก็คือมือปราบหลิว ท่านเจ้าเมืองเองก็ได้รับความตระหนกตกใจไม่น้อย “หลิน…คุณชายหลิน ท่านคงเข้าใจผิดกระมัง เขาไหนเลยจะเป็น…”
หลินชิงเวยพยักพเยิดปลายคางไปทางคนชุดดำ “ใช่หรือไม่ ดึงผ้าปิดหน้าของเขาออกก็ชัดเจนแล้ว ดาบในมือของเขามิใช่ดาบประจำตัวของศาลาว่าการของพวกท่านหรอกหรือ?”
ทุกคนจับจ้องสายตามองดูอีกครั้ง เป็นอาวุธประจำกายของศาลาว่าการจริงๆ!
ไม่รู้ว่าท่านเจ้าเมืองรู้สึกเดือดดาลหรือผิดหวังมากกว่ากัน เขาเชื่อคำพูดของหลินชิงเวยมากกว่าครึ่ง ในน้ำเสียงนั้นจึงสั่นสะท้านด้วยความกระวนกระวายในจิตใจ “เจ้าเป็นใครกันแน่ ยังไม่รีบเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาอีก!”
คนชุดทำราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา เขาเพียงแต่จ้องมองหลินชิงเวยนิ่งๆ ในดวงตานิ่งลึกคู่นั้นปรากฏให้เห็นความอาฆาต ทำให้คนคิดว่านาทีถัดไปเขาจะฟาดฟันดาบไปทางหลินชิงเวย
หลินชิงเวยสะบัดชายอาภรณ์เบาๆ พูดยิ้มๆ อย่างสบายใจว่า “ไม่ใช่บอกกับเจ้าแต่แรกแล้วหรือไร ว่าอย่าได้ดูถูกดูแคลนสตรี”
คำพูดนี้ทำให้คนทั้งหมดในที่นั้นตะลึงงัน ครั้งแรกที่พวกเขาพบหน้ากัน หากพวกเขาฟังความหมายในบทสนทนาระหว่างหลินชิงเวยและมือปราบหลิวไม่ออก ยามนี้ก็ควรจะกระจ่างแจ้งแล้ว
ท่านเจ้าเมืองพลันแจ่มแจ้งทันที มิน่าเล่าไฉนจึงมีคุณชายน้อยหน้าตาราวกับหยกแกะสลักได้ ที่แท้นางถึงกับ ถึงกับ…เป็นสตรีนางหนึ่ง!
หากคนชุดดำเบื้องหน้าคิดจะต่อสู้และหลบหนี หรือใช้วิธีการโจมตีหลินชิงเวยล้วนไม่ได้อะไรขึ้นมา ต่อให้เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศกว่านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมือปราบมากมาย เขาแทบจะไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย อีกทั้งข้างกายหลินชิงเวยยังมียอดฝีมืออีกคนหนึ่ง นั่นคือเซียวเยี่ยน
ในที่สุด เขาก็ยกมือขึ้นดึงผ้าปิดหน้าของตนลงมา
หลังจากทุกคนเห็นหน้าค่าตาของเขาแล้ว ไม่มีใครไม่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เป็นมือปราบหลิวจริงๆ!
นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด เขาในฐานะมือปราบของศาลาว่าการ ทันทีที่มีคดีเกิดขึ้นเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจสืบคดี ดูแลความปลอดภัยและลาดตระเวนพื้นที่และชาวบ้านในเขตของตน ไม่เคยอิดออดละเลย ไยจึงกลายเป็นฆาตกรสังหารคนได้เล่า!
มือปราบหลิวไม่ลนลานแม้แต่น้อย เขาเก็บดาบเข้าไปในฝัก พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าข้าเป็นฆาตกร เจ้าเห็นข้าสังหารคนแล้วหรือ?”
เขาพูดท้าทายหลินชิงเวย
ถูกต้อง คืนนี้คนทั้งหมดเพียงจับตัวเขาได้ที่นี่ แม้ในมือเขาจะถือดาบ ทว่ากลับสังหารคนไม่สำเร็จแม้แต่คนเดียว และไม่มีใครเห็นกับตาว่าเขาสังหารเจียงหมิงจู ควรจะพิสูจน์อย่างไรเล่า
หากพิสูจน์ไม่ได้เขาย่อมไม่ใช่ฆาตกร พื้นที่ในเขตนี้เป็นความดูแลของเขา เขาอาจจะหาเหตุผลที่เหมาะสมสักข้อหนึ่งมาแก้ต่างที่เขาลอบเข้าไป
หลินชิงเวยยิ้มตายิบหยี “เจ้าวางใจเถิด พวกเราจะต้องไต่สวนคดีนี้จนกระจ่างแจ้ง หากเจ้าถูกใส่ร้าย จะต้องคืนความบริสุทธิ์ให้เจ้า ต้องให้เจ้าไปศาลาว่าการสักเที่ยว กลับไปไต่สวนและบันทึกคำให้การอย่างละเอียด”
คำพูดเหล่านี้ ดูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน
นี่เป็นคำพูดที่มือปราบหลิวพูดกับสามีเจียงหมิงจู สวี่ฮ่าวเฉียงเมื่อครั้งให้ร้ายเขาว่าเป็นผู้สังหารเจียงหมิงจู และหลินชิงเวยนำคำพูดเหล่านั้นมาใช้กับเขาเอง ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าสวี่ฮ่าวเฉียงนั้นถูกให้ร้าย แต่ยังคงจับกุมสวี่ฮ่าวเฉียงมาใช้ทัณฑ์ทรมานบีบให้เขายอมรับสารภาพ เพื่อเหตุใดเล่า? เพื่อหาแพะรับบาปคนหนึ่งมาแทนตนเองน่ะสิ
ทว่าที่คิดไม่ถึงก็คือหลินชิงเวยยังจำคำพูดทุกคำของมือปราบหลิวในวันนั้นได้
เขาดูแคลนสตรีจริงๆ เขาไม่ควรดูแคลนสตรีตั้งแต่แรก
มือปราบหลิวไม่ขัดขืน ภายใต้คำสั่งของใต้เท้าสวี มือปราบคนหนึ่งก้าวเข้ามาปลดดาบประจำตัวของเขาออกและควบคุมตัวเขาออกไปจากเรือน
ทันทีที่ออกไปจากเรือน หลินชิงเวยหันไปก็เห็นเขาลงมืออย่างรวดเร็วสลัดมือปราบทั้งสองคนออกเพื่อจะหลบหนี เสียงใสกังวานของหลินชิงเวยดังขึ้น “เจ้าหนีไปเถิด หากเจ้าคิดจะทำร้ายพี่สาวที่ตาบอดของเจ้าให้ไร้ที่พึ่งไปตลอดชีวิต เจ้าก็หนีไปเลย” มือปราบหลิวชะงักฝีเท้า หลินชิงเวยพูดต่อ “ถึงเวลานั้นแผ่นดินต้าเซี่ยติดประกาศจับตัวเจ้าทั่วแคว้น แผ่นดินกว้างใหญ่ทั้งใต้หล้าไม่มีที่จะให้เจ้าซุกหัวนอน ส่วนพี่สาวของเจ้าก็จะถูกน้ำลายของผู้อื่นที่ถ่มลงพื้นท่วมจนตาย!”
มือปราบหลิวหันกลับมา ถลึงดวงตาแดงก่ำใส่หลินชิงเวย
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มือปราบไม่อาจไม่นำโซ่ตรวนมาล่ามมือปราบหลิวเอาไว้ แล้วจึงพาตัวกลับไปยังศาลาว่าการ
ใต้เท้าสวีพาคนจากไป หลินชิงเวยหันกลับมามองหวงยาที่ยังยืนอยู่หน้าประตู ยายหวังถูกทำให้ตกใจจนสิ้นสติ หลานชายยังเล็กเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หวงยาไม่ใช่เด็กแล้ว นางกลับเข้าใจทุกอย่างดี
ที่แท้มือปราบคนหนึ่งของศาลาว่าการเป็นฆาตกร หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าความน่าเชื่อถือของศาลาว่าการในใจของชาวบ้านคงต้องถูกลดทอนลงอย่างมาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดี
ใต้เท้าสวียังไม่ได้ตระหนักถึงจุดนี้ หลินชิงเวยเอ่ยขึ้นเนิบๆ “ใต้เท้าสวีคิดว่าไม่ควรจะแก้ไขปัญหาในภายภาคหน้าหรือไร”
ใต้เท้าสวีตื่นตะลึง เขาหันไปมองหวงยาที่ยืนอยู่หน้าประตูแวบหนึ่งจึงแจ่มแจ้งทันที “ขอบคุณหลิน…คุณชายหลินที่ย้ำเตือน”
มือปราบหลิวก่อคดีสังหารคนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนไปถึงศาลาว่าการทำการไต่สวนตลอดทั้งคืน เคราะห์ดีที่ยามบ่ายนางและเซียวเยี่ยนต่างได้เตรียมตัวล่วงหน้าโดยการงีบหลับตลอดช่วงบ่าย จึงไม่ถึงกับเหนื่อยล้าจนเสียสุขภาพ
เมื่อนางเดินเข้าไปในศาลาว่าการ ใต้เท้าสวีได้กำชับให้มือปราบทั้งหมดมอบอำนาจในการไต่สวนคดีทั้งหมดให้พวกเขาทั้งสอง ทันทีที่เข้ามาหลินชิงเวยถามขึ้นว่า “ดาบประจำตัวของใต้เท้าหลิวอยู่ที่ใด?”
มือปราบสองคนก้าวขึ้นมาพร้อมกับดาบประจำตัวที่มือปราบหลิวมักจะติดตัวเสมอ หลินชิงเวยมองแวบหนึ่ง “ส่งไปที่หน่วยชันสูตร ให้หน่วยชันสูตรพิสูจน์ว่าดาบเล่มนี้ถูกต้องตรงกันกับรอยดาบบนร่างกายของเจียงหมิงจูหรือไม่ พิสูจน์แล้วให้นำผลมารายงานข้าด้วย”
“ขอรับ”
หลินชิงเวยหันไปสั่งการมือปราบอีกสองคน “พวกเจ้าไปเรือนที่พำนักของมือปราบหลิว ค้นหาอย่างละเอียด อย่าปล่อยให้ร่องรอยเบาะแสที่น่าสงสัยเพียงเล็กน้อยหลุดรอดสายตาไปได้” มือปราบทั้งหมดของศาลาว่าการล้วนถูกจัดให้พักที่เดียวกัน หากมีหลักฐานจริงๆ กอปรกับช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาอันตราย มือปราบหลิวต้องการปิดบังสายตาผู้อื่น ย่อมยังไม่กล้าทำลายหลักฐาน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเก็บไว้ในห้องของเขา