ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 10 บทที่ 274 คิดว่าน่าจะมีไมตรีอยู่บ้าง
เห็นเพียงเซียวอี้ยกมือขึ้นช้าๆ ขอเพียงเขาตวัดมือลง มือสังหารข้างกายเขาย่อมต้องโจมตีเข้ามาเป็นแน่ มือสังหารเหล่านั้นต่างเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ ครั้งที่แล้วเกือบจะคร่าเอาชีวิตของเซียวเยี่ยนสำเร็จ ครั้งนี้เขาจะยั้งมือหรือ? แน่นอนว่าไม่
เพียงแต่เซียวอี้นับว่ายังมีไมตรีต่อหลินชิงเวยอยู่หลายส่วน เขายิ้มและหรี่ตาลงมองหลินชิงเวย ก่อนหน้าที่จะออกคำสั่งเขาเอ่ยขึ้นว่า “เวยเวย เปิ่นหวางให้โอกาสเจ้าเลือกครั้งหนึ่ง เจ้าจะอยู่ข้างกายเขาหรือกลับมาอยู่ข้างกายเปิ่นหวาง? หากเจ้าอยู่ข้างกายเขา เช่นนั้นจะอยู่หรือตายก็ต้องดูลิขิตสวรรค์แล้ว”
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเข้าใกล้เซียวอี้ แต่วินาทีนั้น หลินชิงเวยเห็นความแน่ใจและความจนใจบนสีหน้าของเขา
เขาแน่ใจว่าหลินชิงเวยไม่มีทางเลือกอยู่ข้างเขา เพราะหลินชิงเวยเดินทางออกจากเมืองหลวงมุ่งหน้าสู่เจียงหนานเป็นระยะทางนับพันลี้เพื่อตามหาเซียวเยี่ยน บัดนี้เซียวเยี่ยนมีอันตราย นางย่อมไม่มีทางทอดทิ้งไม่ไยดี
และที่เขาจนปัญญาก็คือนิสัยมีทิฐิและดื้อรั้นของหลินชิงเวย เป็นเพราะเขาเชื่อว่าหลินชิงเวยไม่มีทางฟังเขา เขาจึงรู้สึกจนใจ
แต่หากหลินชิงเวยมาอยู่ข้างกายเขาจริงๆ ในเวลานี้ก็รังแต่จะทำให้เซียวอี้เกิดความระแวงมากกว่า ในเมื่อตลอดทางที่ผ่านมาหลินชิงเวยคิดบัญชีเขาไม่ใช่เพียงหนสองหน เมื่อเป็นเช่นนี้เซียวอี้จึงต้องป้องกัน ฉะนั้นโอกาสที่หลินชิงเวยจะเข้าใกล้เขาและลงมือจึงมีน้อยยิ่ง
ประสานสายตากันชั่วครู่ หลินชิงเวยกระจ่างแจ้งถึงความคิดในใจของเซียวอี้ นางจึงยิ้มให้เขาอย่างหยิ่งผยอง “วันนี้ต่อให้ข้าต้องตายก็จะตายพร้อมเซียวเยี่ยน ท่านจะทำอย่างไรได้?”
ความจนใจในแววตาของเซียวอี้ยิ่งชัดเจนขึ้น เขายังพบด้วยว่าความรู้สึกที่เรียกว่าริษยากำลังกัดกินจิตใจของเขาอย่างรวดเร็ว เขาหัวเราะและกล่าวเสียงเย็น “ในเมื่อเจ้าไม่ลืมหูลืมตาเช่นนี้ เช่นนั้นผู้ใดก็ช่วยเจ้าไม่ได้” พูดแล้วก็ตวัดฝ่ามือลงเป็นสัญญาณ—ฆ่า!
นาทีนี้คนของเซียวอี้และมือสังหารชาวอวิ๋นหนานต่างเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีเซียวเยี่ยนและหลินชิงเวย
หลินชิงเวยไม่มีวรยุทธ์ วิธีการที่นางเรียนรู้มานั้นใช้ไม่ได้ผลกับดาบและกระบี่ แต่การที่หลินชิงเวยรั้งอยู่ข้างกายเซียวเยี่ยนไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก นางทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นภาระให้เขา
หลินชิงเวยจึงพูดเสียงเย็น “เซียวเยี่ยน ท่านส่งข้าขึ้นไปไว้บนต้นไม้เถิด เหมือนครั้งก่อนที่อยู่ในสวนไป่โซ่ว”
เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค เซียวเยี่ยนพลันโอบเอวของนางแล้วหินกายขึ้นก่อนหน้าที่ฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีเข้ามา เขาหากิ่งไม้ที่ยื่นออกมาแล้ววางร่างของหลินชิงเวยไว้บนคบไม้
ต่อมาร่างของเขาเหินกายลงไปอีกครั้ง เห็นเพียงเงาคมดาบฟาดฟันโลหิตเลือดเนื้อสาดกระจาย
หลินชิงเวยร้อนใจอย่างยิ่ง แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้เลย
หัวหน้ากลุ่มชาวอวิ๋นหนานเห็นหลินชิงเวยถูกวางร่างไว้บนต้นไม้ ไหนเลยจะละเว้นนาง ในเมื่อก่อนหน้าที่เซียวอี้จะมาถึง สตรีนางนี้เรียกฝูงงูมากินหมอผีของอวิ๋นหนาน!
ดังนั้นขณะที่เซียวเยี่ยนตกอยู่ในวงล้อมของมือสังหาร เขาจึงสั่งการคนของตน “ไป ไปสังหารสตรีนางนั้นซะ!”
เมื่อมีคำสั่งลงมา มือสังหารชาวอวิ๋นหนานสามถึงห้าคนก็เหินกายขึ้นทันที มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่หลินชิงเวยอยู่บนต้นไม้
เห็นกับตาว่ามีมือสังหารคนหนึ่งมาหยุดยืนอยู่บนกิ่งไม้ เงื้อดาบขึ้นจะฟันหลินชิงเวย ไม่รอให้หลินชิงเวยหลบเลี่ยง หางตานางเห็นอาวุธสีเงินบางอย่างลอยขึ้นมา
นางรับรู้ได้ชัดเจนว่าอาวุธนั่นมาจากทางด้านเซียวอี้!
เขาทนมองหลินชิงเวยถูกผู้อื่นสังหารไม่ได้? ในเมื่อเขาตัดใจไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็ต้องเสียเปรียบแน่แล้ว
เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อหลินชิงเวยหันหน้าไปมองก็เห็นเซียวอี้สะบัดแส้ และแส้ม้านั้นมีกระบี่เล่มหนึ่งเพิ่งจะสะบัดกลับจากทิศทางของตน กระบี่เล่มนั้นราวกับสามารถแหวกอากาศมาด้วยพละกำลัง แทงเข้าบริเวณหน้าอกของมือสังหารก่อนหน้าที่มือสังหารจะทันได้แตะต้องหลินชิงเวย
โลหิตสดๆ สาดกระจายเข้าเต็มใบหน้าของหลินชิงเวย และหลินชิงเวยได้แต่มองมือสังหารชาวอวิ๋นหนานผู้นั้นร่วงตกลงไป มือสังหารชาวอวิ๋นหนานคนอื่นๆ เห็นเช่นนั้นจึงพุ่งเข้าโจมตีหลินชิงเวยพร้อมๆ กัน
แส้ของเซียวอี้ตวัดดาบอีกหลายเล่ม ได้ยินเพียงเสียงฉึกๆ พวกเขาแต่ละคนค่อยๆ ร่วงลงไป
หัวหน้ากลุ่มชาวอวิ๋นหนานเห็นเช่นนั้นจึงร้องขึ้นว่า “เซี่ยนอ๋อง! นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร! สตรีนางนี้เพิ่งจะสังหารหมอผีของอวิ๋นหนาน! หรือไม่ควรสังหารนางเพื่อแก้แค้นให้กับหมอผีของพวกเรา?!”
เซียวอี้นั่งอยู่บนหลังม้า เขากล่าวด้วยท่าทีสงบ “ชีวิตของนางยังไม่ต้องให้พวกเจ้ามาตัดสิน”
ทันทีที่สิ้นเสียง แขนของหลินชิงเวยกดลงไปบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่งจนหัก ต่อมาร่างของคนทั้งคนก็ร่วงลงจากที่สูง เท้าทั้งสองของเซียวอี้แตะหลังม้าแล้วเหินกายขึ้นมา ส่วนเซียวเยี่ยนเงยหน้าขึ้นในขณะเดียวกันจึงเห็นหลินชิงเวยตกลงมา เดิมทีเขาคิดจะเหินกายขึ้นไปรับ ทว่ากลับเห็นเซียวอี้เคลื่อนไหวก่อนหน้าเขาหนึ่งก้าว เขาจึงสงบใจลงทว่ากลับถูกดาบของศัตรูแทงเข้าในร่างกาย โลหิตสดๆ ไหลย้อมอาภรณ์ชุ่มโชก
หลินชิงเวยเห็นเซียวเยี่ยนดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ หัวใจของนางวูบโหวง ก่อนที่ร่างของนางจะตกลงสู่พื้นมีสายลมเย็นวูบหนึ่งพุ่งเข้ามา ก่อนหน้าที่เซียวอี้ยังรับตัวหลินชิงเวยไม่ได้ เขาใช้แส้ในมือตวัดร่างของหลินชิงเวยแล้วลากเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
ภาพตรงหน้าของหลินชิงเวยตีลังกาหมุนกลับ ต่อมานางตกอยู่ในอ้อมกอดของคนผู้หนึ่ง เมื่อนางช้อนตาขึ้นก็ประสานเข้ากับดวงตาเปื้อนยิ้มของเซียวอี้
มือทั้งสองข้างของหลินชิงเวยโอบรอบลำคอของเซียวอี้ ขณะที่นางยิ้มตอบรอยยิ้มนั้นเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน ดวงตาเป็นประกาย ฟันขาวสะอาดเป็นระเบียบ จับตาจับใจผู้คนยิ่งนัก เซียวอี้เห็นแล้วในใจร้องว่าระวัง
เวลานี้เองปลายเล็บของหลินชิงเวยข่วนลงบนท้ายทอยของเซียวอี้ นางข่วนจนเกิดบาดแผลเป็นทาง แล้วนำหนอนกู่วางบนปากแผลของเขา หนอนกู่ได้กลิ่นคาวเลือดจึงชอนไชเข้าในผิวเนื้อของเขาอย่างรวดเร็ว
เซียวอี้รับรู้ได้ในทันทีว่าท้ายทอยของเขาเย็นวาบและคันยุบยิบ เมื่อวางร่างของหลินชิงเวยลงแล้วจึงยกมือขึ้นลูบท้ายทอย นอกจากมีคราบเลือดเล็กน้อยแล้วไม่มีอย่างอื่น
แต่เซียวอี้รู้สึกไม่ดีนัก น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจึงเปลี่ยนไป เขาถามเสียงเย็น “เจ้าทำอะไรกับข้า?”
หลินชิงเวยมองเซียวเยี่ยนที่ตกอยู่ในวงล้อม ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องถูกเซียวอี้และอวิ๋นหนานสูบกำลังไปหมดแน่ หลินชิงเวยปริปาก “ไม่มีอะไร แค่ฝังหนอนกู่ให้ท่านและเซียวเยี่ยน ยามนี้ชีวิตของท่านทั้งสองเชื่อมต่อกัน วันนี้หากเขาตาย ท่านก็อย่าหมายว่าจะมีชีวิตรอดเพียงลำพัง”
เซียวอี้ยอมรับว่าตนเองไม่ใช่บุรุษในใจของอีกฝ่าย แต่ตลอดทางมานี้ อย่างไรเขากับหลินชิงเวยก็ควรจะมีไมตรีต่อกันบ้าง เขาจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือเมื่อหลินชิงเวยตกอยู่ในอันตราย แต่คิดไม่ถึงว่าในใจนางจะคิดเพียงช่วยเหลือเซียวเยี่ยน ไม่เคยคำนึงถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้ นี่มันต่างจากจิ้งจอกตาขาวที่ไหนกัน?
เซียวอี้บังเกิดโทสะขึ้นเป็นริ้วๆ ครั้งนี้เขามีโทสะแล้วจริงๆ เขายกมือขึ้นบีบคอหลินชิงเวย ยกร่างของนางขึ้นกลางอากาศแนบไปกับลำต้นของต้นไม้ เขามองหลินชิงเวยอย่างโกรธแค้น “เจ้าคิดว่าเปิ่นหวางเป็นอะไร?”
หลินชิงเวยเลิกคิ้วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะรู้สึกว่าหายใจลำบากก็ตาม เปลือกไม้บนลำต้นของต้นไม้อายุเก่าแก่เสียดสีกับแผ่นหลังนางจนเจ็บไปหมด นางยังคงมองเข้าในดวงตาของเซียวอี้ พูดคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “ข้ามิใช่เห็นท่านเป็นเพื่อนร่วมทางและใช้ประโยชน์จากท่านมาโดยตลอดหรือ ตัวข้าสำหรับท่านแล้วมิใช่เช่นนี้หรือ? ทางหนึ่งท่านช่วยข้าลงใต้ อีกทางหนึ่งคิดจะหลอกใช้ข้าตามหาเซียวเยี่ยนแล้วสังหารเขาซะ อย่างไรเล่า บัดนี้เพิ่งจะพบว่าตนเองทำไม่ได้หรือ?”