ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 10 บทที่ 282 ตกอยู่ในกำมือของเขา
หากต้องปะทะกันขึ้นมาจริงๆ หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนย่อมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ดังนั้นจะปะทะกันซึ่งหน้าไม่ได้
หลินชิงเวยโผล่หน้าออกมาจากแผ่นหลังของเซียวเยี่ยน นางมองเซียวอี้ “ท่านลืมไปแล้วหรือ ท่านและเซียวเยี่ยนล้วนเพาะหนอนกู่เอาไว้?”
เซียวอี้ “ข้าไม่ได้โง่เขลากว่าเจ้า เมื่อสักครู่เข้าไปในภูเขา ข้าได้ถอนพิษหนอนกู่ออกไปแล้ว หนอนกู่ของข้าตัวนั้นตายแล้ว แต่เขากลับมีชีวิตอยู่ดี ทำให้ข้าประหลาดใจอยู่บ้าง”
หลินชิงเวยยกยิ้มริมฝีปาก ในเมื่อหลอกเขาไม่ได้จึงหัวเราะขึ้นมา “ท่านไม่ได้โง่เขลา และข้าไม่ได้โง่เขลากว่าท่านเช่นกัน ก่อนหน้าที่ท่านจะไปหาชาวอวิ๋นหนานให้ถอนพิษ ข้าได้นำหนอนกู่ในร่างของเซ่อเจิ้งอ๋องออกมาก่อนแล้ว ดังนั้นท่านจึงไม่ได้ตายทันทีด้วยพิษหนอนกู่ นับว่าท่านโชคดี ด้วยก่อนหน้านี้ข้าให้ท่านดื่มยาถอนพิษทุกๆ เจ็ดวัน จึงควบคุมพิษในร่างกายได้ หนอนกู่ที่หมอผีนำออกมาจากร่างของท่านคาดว่าเป็นหนอนกู่ที่ตายนานแล้วกระมัง” นางไม่ได้คาดหวังว่าอาศัยหนอนกู่เพียงตัวเดียวก็จะปกป้องชีวิตของเซียวเยี่ยนได้ เล่ห์กลเช่นนั้นใช้ครั้งเดียวพอแล้ว
เซียวอี้ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที “เจ้าเป็นสตรีเจ้าเล่ห์อะไรเช่นนี้!” เขายกมือขึ้นส่งสัญญาณ องครักษ์ลับข้างกายจึงล้อมทั้งสองคนเอาไว้ เซียวอี้พูดอีกว่า “เช่นนั้นตอนนี้เล่า ตกมาอยู่ในมือข้าอีกครั้ง ยังคิดว่าคืนนี้เจ้าจะหนีรอดไปได้อีกหรือ?” เขาหันไปมองเซียวเยี่ยน “คืนนี้หากไม่ปลิดชีวิตเจ้าก็ยากจะพิสูจน์ความจริงใจของข้าต่ออวิ๋นหนานอ๋อง”
เซียวเยี่ยนพูดเรียบๆ “เซี่ยนอ๋อง เจ้าหลงมัวเมาไม่ลืมหูลืมตาแล้ว”
เซียวอี้ “บัดนี้ข้าได้ปรากฏตัวแล้ว เสด็จพี่เซ่อเจิ้งอ๋องล่วงรู้ว่าข้าสมคบคิดกับอวิ๋นหนานข้ายังมีทางให้ถอยได้หรือไร?”
เซียวเยี่ยน “หากเจ้าไม่ติดต่อกับทางอวิ๋นหนานแล้วกลับเมืองหลวงตอนนี้ เปิ่นหวางจะทำเหมือนเจ้าไม่เคยมาที่นี่”
เซียวอี้หัวเราะเสียงหยัน เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับลูบแส้ม้าในมือและกล่าวเสียงคมปลาบว่า “ในเมื่อข้ามาแล้ว ย่อมไม่กลับไปมือเปล่า ขอเพียงกำจัดเจ้า เรื่องภายในราชสำนักย่อมเปลี่ยนเป็นง่ายดายขึ้นมาก”
ทั้งสองฝ่ายกำลังจะลงมือเปิดศึกกันอยู่แล้ว หลินชิงเวยเอ่ยขึ้นมาได้จังหวะยิ่ง “เรื่องนั้นข้าขอถามเซี่ยนอ๋อง ในเมื่อหมอผีของอวิ๋นหนานได้ช่วยรักษาพิษหนอนกู่ของท่าน เขาได้ถอนพิษที่เหลืออยู่ในร่างกายของท่านหรือไม่?”
เซียวอี้ตะลึงงัน เขาได้ยินหลินชิงเวยพูดเพียงว่า “พิษนั้นถูกข้าปรับฤทธิ์ยาแล้ว หากข้าจำไม่ผิดแล้วละก็ ท่านยังมียาถอนพิษเหลืออยู่ที่ข้าอีกครั้งหนึ่ง”
เซียวอี้เห็นหลินชิงเวยค่อยๆ แบมือออกมา กลางฝ่ามือของนางมียาเม็ดหนึ่งนอนอยู่ ยาเป็นเม็ดสีขาวสะท้อนแสง แตกต่างจากยาถอนพิษที่เขาเคยกินก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้เขาดื่มยาชนิดผง แต่ครั้งนี้หลินชิงเวยกลับนำยาเม็ดลูกกลอนออกมา
ในใจเซียวอี้บังเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีชนิดหนึ่ง ทว่ากลับมีสีหน้าไม่ใส่ใจและหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง “เจ้าไม่พูด ข้าก็เกือบลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านั้น ข้ายังต้องพิษของเจ้า เพียงแต่กินยาถอนพิษของเจ้าไปหลายครั้ง ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าไม่เป็นไรแล้ว อีกทั้งพิษเล็กน้อยแค่นั้น ข้าขับพิษที่เหลือออกหมดได้ เวยเวย เจ้าไม่ต้องข่มขู่ข้า หากภายในร่างกายของข้ายังมีพิษอยู่ เหตุใดหมอผีจึงตรวจไม่พบ? ยาลูกกลอนของเจ้าเม็ดนี้เกรงว่าจะเป็นยาเม็ดลูกกลอนที่เจ้าปั้นส่งเดชกระมัง”
หลินชิงเวยหัวเราะจนดวงตายิบหยี “กระทั่งหมอผีก็ยังตรวจไม่พบหรือ หากไม่ใช่หมอผีของอวิ๋นหนานมีความรู้ทางการแพทย์ตื้นเขิน ก็เป็นเพราะข้าเก่งกาจเกินไป ยาถอนพิษที่ให้ท่านกินก่อนหน้านี้เป็นเพียงการควบคุมพิษเท่านั้น ยาในมือข้านี้จึงจะเป็นยาถอนพิษที่แท้จริง เชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ท่านอย่าได้กล่าวโทษข้าว่าไม่เตือนท่าน ทันทีที่พิษกำเริบจะร้ายแรงกว่าครั้งก่อนมากมายนัก”
ดวงตาของเซียวเยี่ยนเล็กแคบลง เขาจับจ้องหลินชิงเวยนิ่งๆ “เจ้าเป็นสตรีมากเล่ห์เพทุบาย ยามนี้ก็แค่จนตรอก ดังนั้นจึงคิดจะหลอกลวงข้าใช่หรือไม่?”
หลินชิงเวยคำนวณเวลา “หากข้าไม่ได้จำผิดละก็…วันนี้ห่างจากวันที่ท่านดื่มยาถอนพิษครั้งก่อนใกล้จะครบเจ็ดวันกระมัง หากท่านไม่เชื่อให้รอจนครบเจ็ดวันดูได้ว่าจะเป็นอย่างไร ถึงเวลานั้นข้าให้ยาถอนพิษท่านได้ ท่านปล่อยข้าและเซียวเยี่ยนไป นับแต่นี้ต่อไปเดินทางใครทางมัน ไม่ว่าท่านจะทำอะไรพวกเราล้วนอาศัยความสามารถ แน่นอนว่าท่านสามารถเลือกที่จะสังหารเซียวเยี่ยนได้ อย่างมากพวกเราสามคนก็แค่ตายพร้อมกัน”
นางพูดด้วยความมั่นใจและตรงไปตรงมา
เซียวอี้เกือบจะอาละวาดฟาดงวงฟาดงาด้วยความคลุ้มคลั่ง อยากจะจับสตรีนางนี้สังหารเสียแล้วแย่งยามา
ดูเหมือนหลินชิงเวยจะอ่านใจเขาทะลุปรุโปร่ง จึงพูดขึ้นเนิบๆ ว่า “แน่นอนว่าท่านเข้ามาแย่งยาได้เช่นกัน ปลายนิ้วของข้าแค่บีบมันก็จะกลายเป็นผง ข้ารับรองกับท่านได้ว่าบนโลกนี้ไม่มียาชนิดนี้เป็นเม็ดที่สอง”
การต่อรองครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะไร้ทางสู้
เซียวอี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเคียดแค้น เขาไม่เพียงแต่เคียดแค้นหลินชิงเวยที่มากไปด้วยอุบาย แต่ยังเกลียดชังตนเองที่ไม่อาจไม่เชื่อนางอีกครั้งด้วย ดังนั้นในที่สุดหลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนถูกเขาจับกุมตัวพากลับไป
เขาอยากจะรอดูหากพิษกำเริบขึ้นมาจริงๆ รอให้เขาได้ยาถอนพิษแล้วจะให้หลินชิงเวยร้องไห้ขอความเมตตาจากเขาให้ได้!
หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนถูกมัดขึ้นม้า เซียวอี้กำลังเดือดดาลถึงขีดสุดจึงไม่ต้องคาดหวังว่าเขาจะปฏิบัติต่อคนทั้งสองดีอันใด ดังนั้นคนทั้งสองจึงถูกพาตัวกลับไปในสภาพเวียนหัวตาลาย ทว่าดีชั่วอย่างไรก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองผิงหลั่งในยามฟ้าสางอย่างราบรื่น
หาไม่แล้วหากอาศัยเพียงขาทั้งคู่ของพวกเขา ยังไม่รู้ว่าต้องเดินถึงเมื่อใด
เซียวเยี่ยนและหลินชิงเวยถูกพาตัวมาถึงเมืองผิงหลั่ง พวกเขาไม่รู้ว่าไปถึงสถานที่ใดด้วยถูกปิดดวงตาทั้งคู่ แต่เซียวอี้อนุญาตตามที่หลินชิงเวยขอคือขังนางและเซียวเยี่ยนไว้ด้วยกัน
อย่างไรเซียวเยี่ยนก็เป็นพี่น้องของเขา ทุกคนต่างนับว่าเป็นหนึ่งในราชนิกุลของราชวงศ์ ระหว่างที่ขังพวกเขาเอาไว้เซียวอี้ไม่ได้สร้างความลำบากใจอันใดแก่พวกเขา
หลินชิงเวยจำเป็นต้องทำความสะอาดบาดแผลจากค้างคาวเลือดของตนและเซียวเยี่ยน
ภายในลานเรือนหลังเล็กเงียบสงบ รอบด้านล้วนเป็นบ้านเรือนที่เหลือพื้นที่ทรงสี่เหลี่ยมให้มองเห็นท้องฟ้า พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าที่นี่คือที่ไหน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะเดินออกไป อย่าได้เห็นว่าลานเรือนหลังเล็กนี้ไม่มีผู้คนยืนยาม ขอเพียงหลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวจะต้องมีองครักษ์หลายคนปรากฏตัวเป็นแน่
ดังนั้นคนทั้งสองล้วนเป็นคนฉลาด ในเมื่อถูกกักบริเวณอยู่ที่นี่จึงไม่ได้กระทำการดิ้นรนขัดขืนอันใด
เวลาเพิ่งจะผ่านไปหนึ่งวันอีกฝ่ายก็ทนไม่ได้เสียแล้ว ร่างของบุรุษในอาภรณ์สีดำพอดีตัวปรากฏตัวขึ้นในลานเรือนหลังเล็ก สายตาของเขาที่มองมายังหลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนเปี่ยมไปด้วยความเป็นอริ
เขาถามอย่างไม่อ้อมค้อม “ยาถอนพิษอยู่ที่ไหน?”
ตรองดูแล้วพิษของเซียวอี้กำเริบแล้วจริงๆ
หลินชิงเวยไม่เล่นลิ้นกับเขาเช่นกัน ยาเม็ดลูกกลอนอยู่ในมือ “ม้าเร็วสองตัว รอให้พวกเราขึ้นม้าแล้วข้าจะให้ยาถอนพิษท่านทันที หากท่านกล้าส่งคนสะกดรอยตาม ระวังชีวิตของเจ้านายพวกเจ้าให้ดี”
ชีวิตคนอยู่ในอันตราย คนชุดดำไม่อาจไม่พอใจ ที่จริงแล้วด้านนอกได้เตรียมม้าเอาไว้แล้ว เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาของทุกคน
หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด คนชุดดำผู้นี้ทำงานไม่รอบคอบพอ ไม่ได้ปิดดวงตาของพวกเขาเมื่อปล่อยพวกเขาออกไป
หลินชิงเวยและเซียวเยี่ยนขึ้นม้า นางหันกลับไปมองคฤหาสน์ข้างหลังแวบหนึ่ง ด้านนอกดูแล้วแสนจะธรรมดา ทว่าข้างในกลับแตกต่างราวฟ้ากับดิน หลินชิงเวยพูดกับเซียวเยี่ยน “ท่านไปก่อน”