ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 11 บทที่ 319 ท่านเชื่อหรือไม่?
สถานการณ์ของสุ่ยฉ่ายชิงย่ำแย่มาก นางไอออกมาเป็นเลือด หมอหลวงร้อนใจจนวิ่งวุ่นไปหมดทว่ากลับไม่อาจหาวิธีรั กษาได้ มีเพียงใช้ยาให้สุ่ยฉ่ายชิงนอนหลับจึงทำให้นางสงบลงได้
สีหน้าของเซียวเยี่ยนไม่น่าดูอย่างยิ่ง เขาเอามือไพล่หลัง คนทั้งคนแทบจะกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เหลือบมองหมอหลวงที ตกอยู่ในความหวาดกลัว “นางพักฟื้นร่างกายเงียบๆ เป็นเวลาสองปี น้อยยิ่งนักที่โรคจะมีอาการกำเริบ มีเพียงต้องลม มเย็น ได้รับความหนาวเย็นจึงจะทำให้มีอาการหอบไม่หยุด วันนี้พลันกำเริบขึ้น เกิดจากสาเหตุใดกันแน่?”
หมอหลวงพูดเสียงสั่น “ทูลเซ่อเจิ้งอ๋อง โรคหืดหอบนั้นไม่แน่นอน หากในยามปกติดูแลร่างกายเป็นอย่างดีย่อมไม่มีอ อะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่…ที่นี่ไม่มีลมเย็นและไม่มีสาเหตุอื่นให้โรคกำเริบ อาจเป็นเพราะได้รับการกระตุ้นจากยา าตัวอื่นก็ทำให้โรคกำเริบได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยดูแล้วอาการกำเริบของแม่นางสุ่ยน่าจะเกิดจากได้รับการกระตุ้นจาก กภายนอก ได้รับผลกระทบจากตัวยาที่นางมีอาการแพ้เป็นต้น…”
ในใจเซียวเยี่ยนแจ่มแจ้งดี อาหารการกินและยาของสุ่ยฉ่ายชิงล้วนผ่านมือเขาทั้งสิ้น ย่อมไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น น เขาหันไปมองนางกำนัลสองนางที่ทำหน้าที่ติดตามรับใช้และถามขึ้นว่า “วันนี้แม่นางไปที่ใด?”
นางกำนัลทั้งสองอึกๆ อักๆ เซียวเยี่ยนมองออกว่ามีเรื่องปิดบัง จึงพูดอีกว่า “ยังไม่พูดความจริงอีก!”
นางกำนัลตกใจจนคุกเข่าลงพูดเสียงสั่น “แม่นาง วันนี้แม่นาง…ไปตำหนักฉางเหยี่ยนเพคะ ไปพบหลินเจาอี๋ เพียงแต่…แ แม่นางไม่ให้บ่าวพูดถึง เซ่อเจิ้งอ๋องโปรดละเว้นด้วยเพคะ!”
แววตาเซียวเยี่ยนไหววูบ ดวงตาเรียวรูปหงส์นั้นหม่นลง
เมื่อหลินชิงเวยได้ยินว่ามีคนจากตำหนักอวี้หลิงมาบอกความ นางไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้า
เซียวเยี่ยนให้นางไปตำหนักอวี้หลิง ทำการรักษาสุ่ยฉ่ายชิงด้วยตนเอง
เรื่องเดียวกันได้เกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งกับซีเฟย ยามนี้เกิดขึ้นอีกครั้งกับสุ่ยฉ่ายชิง หลินชิงเวยสงบนิ่งอย่างย ยิ่งยวด นางเพียงแต่มองไปรอบๆ ตำหนักฉางเหยี่ยนของตนแล้วพูดกับซินหรูว่า “หรือเป็นเพราะฮวงจุ้ยของตำหนักฉางเหย ยี่ยนไม่ดี? มาคนหนึ่งป่วยคนหนึ่ง มาสองคนป่วยทั้งคู่?”
ซินหรูกลอกตาขาวพูดว่า “นี่ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีพิรุธอะไรเจ้าค่ะ”
หลินชิงเวยหมุนกายหันไปกล่าวกับนางกำนัลของตำหนักอวี้หลิง “กลับไปบอกเซ่อเจิ้งอ๋องของพวกเจ้า ประการที่หนึ่ง เ เปิ่นกงไม่ได้มีอาชีพเป็นหมอ ประการที่สอง เปิ่นกงไม่ใช่บ่าวไพร่ที่จะเรียกใช้สอยเมื่อใดก็เรียกได้ แม่นางสุ่ยล ล้มป่วยย่อมมีหมอหลวงมากมายแวดล้อมอยู่รอบกาย และเปิ่นกงเป็นเจาอี๋ของฝ่าบาทจึงมีหน้าที่ปรนนิบัติฝ่าบาทเท่านั้น น หากเขาต้องการให้เปิ่นกงไปรักษาแม่นางสุ่ย ให้เชิญพระราชโองการมา”
พูดแล้วไม่ให้โอกาสนางกำนัลตอบโต้ก็หันหน้าเดินจากไป นางกำนัลขยับปากทว่ากลับได้แต่มองหลินชิงเวยเดินไกลออกไ ไป
หลินชิงเวยกลับห้องไปงีบหลับยามบ่าย ช่วงเย็นแสงแดดของฤดูใบไม้ผลิสว่างไสว ต้นท้อในตำหนักฉางเหยี่ยนเริ่มติดผล ลเป็นลูกเล็กๆ สีเขียว
สายลมอันอบอุ่นพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา สายลมนั้นพัดเข้ามาในห้องของหลินชิงเวยส่งผลให้มุ้งขยับไหวเล็กน้อย
ซินหรูบอกว่า เซ่อเจิ้งอ๋องมาแล้ว
หลินชิงเวยนอนสะลึมสะลือ ทันทีที่ตื่นมาได้ยินชื่อนี้ นางถึงกับขมวดคิ้วแน่น
เซียวเยี่ยนกำลังยืนรอนางอยู่ในลานเรือน
หลินชิงเวยสวมอาภรณ์เนื้อบางของฤดูใบไม้ผลิ นางไม่ได้สวมเสื้อคลุมและเดินเท้าเปล่าไปเปิดประตูห้องแล้วเดินออกม มา ชายกระโปรงพลิ้วไหวลูบไล้เท้าเปลือยเปล่าของนาง ยิ่งขับให้เท้าเล็กๆ ของนางดูไร้กระดูกน่าทะนุถนอม
เซียวเยี่ยนช้อนตาขึ้นมองนางด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ค่อนไปทางเย็นชา
หลินชิงเวยคิดว่าผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปก็คือใบหน้าที่ คุ้นเคยเท่านั้น
ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตมากมายผ่านเข้ามาในสมองของนางเหมือนฉากในละครฉากแล้วฉากเล่า ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม ม่อาจจินตนาการได้ว่าหลังจากผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายเพียงนั้น ต้องเป็นบุรุษประเภทใดกันจึงมองนางด้วยสายตา ของคนแปลกหน้าเพียงนี้
หลินชิงเวยหัวเราะเสียงดัง
นางพูดขึ้นเรียบๆ ว่า “ข้ายังคิดว่าท่านจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าข้าชั่วชีวิตแล้วเสียอีก ที่จริงจะดีมากหากเป็นเช ช่นนั้น”
เนิ่นนานเซียวเยี่ยนจึงเอ่ยปาก “ฉ่ายชิงมาหาเจ้าที่นี่ กลับไปแล้วอาการป่วยกำเริบ เปิ่นหวางส่งคนมาเชิญเจ้าไม่ไป จึง งได้แต่มาด้วยตัวเอง”
หลินชิงเวยเอียงคอ ใช้หางตามองเขาพลางถามว่า “เช่นนั้น ราชโองการเล่า?” ให้เซียวเยี่ยนไปขอราชโองการฉบับหนึ่งจ จากฮ่องเต้เพื่อสั่งให้หลินชิงเวยไปรักษาสุ่ยฉ่ายชิง หลินชิงเวยรู้ดีว่าเขาทำไม่ได้ ต่อให้เขาไม่ใช่เซียวเยี่ยนค คนนั้นที่นางเคยรู้จักในอดีตเนิ่นนานแล้วก็ตาม หากเขาทำจริงๆ เซียวจิ่นจะมอบราชโองการให้เขาหรือ?
เซียวจิ่นย่อมต้องรู้สึกผิดต่อหลินชิงเวย เขาไม่ปรารถนาที่จะทำเรื่องใดให้หลินชิงเวยต้องผิดหวังและเจ็บช้ำอี กแล้ว
เซียวเยี่ยนเม้มปาก “ฉ่ายชิงได้รับผลกระทบจากสมุนไพรของเจ้าจึงได้มีอาการกำเริบ ตอนนี้เปิ่นหวางให้เจ้าไปช่วยรักษ ษานาง เจ้ากลับต้องการราชโองการ?”
หลินชิงเวยหรี่ตาลง มือเรียวขาวนั้นค้ำลงบนราวระเบียงทางเดินและค่อยๆ นั่งลงไป ขาทั้งคู่ห้อยต่องแต่งอยู่นอก กระเบียงทางเดิน นางก้มหน้าพูดเสียงเบา “หากข้าบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเข้า ท่านจะเชื่อหรือไม่?”
หัวใจของเซียวเยี่ยนราวกับถูกเข็มตำครั้งหนึ่ง
หลินชิงเวยรอเขาอยู่ครู่หนึ่งทว่าไม่ได้คำตอบจากเขา นางจึงพูดกลั้วหัวเราะ “เหตุใดข้าต้องไป? เพราะนางเป็นสตรี ที่ท่านรัก ดังนั้นข้าจึงต้องไป? แม้ท่านจะเป็นเซ่อเจิ้งอ๋อง แต่เซ่อเจิ้งอ๋องจะนับเป็นอะไรได้?”
รอยยิ้มบนใบหน้านางเจิดจ้าเสียจนทิ่มแทงสายตา
เซียวเยี่ยนขยับปาก “หากเจ้ายอมไป เปิ่นหวางจะไม่ติดใจเอาความเรื่องโรคของนางกำเริบด้วยเหตุใด”
“ดูท่าแล้วท่านปักใจเชื่อแล้วว่าข้าทำร้ายนางจนล้มป่วย” หลินชิงเวยยักไหล่ พูดด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ “เป็นฝีมือ อข้าแล้วอย่างไร ท่านลองเอาดาบมาพาดคอข้าดูสิ ลองดูว่าข้าจะไปหรือไม่”
บรรยากาศภายในลานเรือนเต็มไปด้วยความกดดัน ช่างสวนทางกับสภาพอากาศอันสดใสในเวลานี้ยิ่งนัก เซียวเยี่ยนได้แต่จับจ้ องหลินชิงเวยนิ่งๆ ไม่ไหวติง ในแววตานั้นค่อยๆ หม่นวูบลงและแปรเปลี่ยนเป็นคมปลาบขึ้นหลายส่วน
เขาพูดว่า “ลูกไม้เช่นนี้ เมื่อก่อนเจ้ามิใช่เคยใช้อยู่บ่อยๆ หรือ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของเจ้า ถึงกับวางยาผู้อื นไม่เลือกหน้า เปิ่นหวางมิใช่เคยหลงกลเจ้าหรือไร พูดมาเถิด เจ้าต้องการสิ่งใด?”
หลินชิงเวยหัวเราะพร้อมกับดึงขาทั้งคู่ของตนกลับมา มือทั้งคู่กอดหัวเข่าของตนคล้ายๆ กำลังซุกตัว นางกล่าวว่า “ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว ข้าเป็นสตรีจิตใจมากด้วยแผนการ ข้าถูกส่งตัวเข้าตำหนักเย็นเพราะท่าน หากไม่ใช่ข้าใช้ล ลูกไม้กับท่าน ไม่แน่ว่าตอนนี้ข้าอาจจะยังอยู่ในตำหนักเย็น ยิ่งไปกว่านั้นไม่แน่ว่าข้าอาจจะถูกหญิงเสียสติในตำ ำหนักเย็นตีตายแล้วก็ได้ เพื่อบรรลุจุดประสงค์ของตนเองแล้วข้าไม่เลือกวิธีการ เวลานี้ท่านเพิ่งรู้หรือไร?”
นางเอียงคอ เกยคางบนหัวเข่ามองเซียวเยี่ยนอย่างสงบนิ่ง “เมื่อข้าทำการรักษาเซียวจิ่น เมื่อข้าช่วยชีวิตเขาจา ากคมดาบของผู้อื่น เมื่อข้าช่วยท่านกำจัดอันตรายจากหนอนกู่ในวัง เมื่อข้าและท่านออกจากวังไปคลี่คลายคดีด้วย ยกัน ข้าช่วยท่านออกมาจากตำหนักของไทเฮา ข้าเดินทางไปช่วยท่านที่หนานเจียงโดยไม่คำนึงถึงภยันตรายใดๆ…ไฉนท่าน นจึงไม่พูดว่าเพื่อบรรลุจุดประสงค์แล้วข้าไม่เลือกวิธีการเล่า? ทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนเป็นข้าที่ผิดใช่หรือไม่?”
เซียวเยี่ยนไม่ตอบ