ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 11 บทที่ 320 ท่านก็แค่อาศัยที่ข้ารักท่านเท่านั้นเอง
- Home
- ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง
- เล่มที่ 11 บทที่ 320 ท่านก็แค่อาศัยที่ข้ารักท่านเท่านั้นเอง
หลินชิงเวยพูดเองหัวเราะเอง “ก็ใช่ ทั้งหมดนั้นล้วนมิใช่ท่านเรียกร้องให้ข้าทำสักหน่อย แต่เป็นข้าเองที่เต็มใ ใจเป็นฝ่ายทำให้ ท่านก็แค่อาศัยที่ข้ารักท่านเท่านั้นเอง เวลานี้ท่านพาสตรีที่ท่านรักกลับมาแล้ว ข้าจึงเพิ่ง ตื่นจากความฝัน แท้จริงแล้วนางจึงจะเป็นคนผู้นั้นในใจของท่าน ไม่สงสัยสักนิดเลยว่าท่านถึงกับไม่อธิบายกับข้า ความอบอุ่นอ่อนโยนของท่าน การจากไปโดยไม่ร่ำลาของท่าน ที่แท้สิ่งที่ได้กลับมาคือผลลัพธ์เช่นนี้” นางหรี่ตาลงกร ระทั่งมองเงาร่างของเซียวเยี่ยนไม่ชัดเจน นางเห็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่ของเขาอย่างพร่ามัว นางคร้านจะไปแยกแยะว่าส สีหน้าบนใบหน้าของเขาคือสีหน้าเป็นธรรมชาติ หรือมีความละอายแก่ใจอยู่สักกระผีก
หลินชิงเวย “เมื่อก่อนข้าไม่รู้มาก่อนว่าท่านเคยมีแม่นางที่เป็นหญิงคนรักในใจ ข้าจึงคิดว่าบุรุษไม่แต่งงาน สตร รีไม่ออกเรือน พวกเราทั้งสองเป็นคู่บุพเพสันนิวาส เวลานี้กลับพบว่าข้ายังคงเป็นบุคคลที่สาม เซียวเยี่ยน ท่านยังค คาดหวังว่าข้าจะใจกว้างไม่คิดเล็กคิดน้อย กระทั่งยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างหรือ ถึงกับไปช่วยชีวิตสุ่ยฉ่ายชิงราวกับแม่พระ ะองค์หนึ่ง? นางเป็นใครกัน? ข้าสนิทสนมคุ้นเคยด้วยหรือ นางเป็นสตรีของท่านมิใช่สตรีของข้า ท่านไม่มีปัญญาปกป้อง งคุ้มครองนางให้ดีแล้วจะโทษใครได้?”
สีหน้าของเซียวเยี่ยนเคร่งขรึม แต่เขารู้ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินชิงเวย เขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไร
หลินชิงเวยพูดอีกว่า “การรักษาคน ช่วยชีวิตคนต้องดูอารมณ์ ไม่ช่วยก็คือไม่ช่วย ต่อให้มีพระราชโองการลงมา ข้าก ก็ไม่มีความคิดยื่นมือช่วยเหลือ คำตอบเช่นนี้ท่านพอใจหรือไม่?”
เซียวเยี่ยนมองนางแล้วพูดว่า “หลินชิงเวย เจ้าโกรธแค้นเปิ่นหวางได้ สิ่งที่เปิ่นหวางติดค้างเจ้า เปิ่นหวางย่อมช ชดเชยให้เจ้า แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉ่ายชิง นางเป็นผู้บริสุทธิ์”
หลินชิงเวยบีบนวดเท้าที่เย็นเยียบ ลุกขึ้นสะบัดชายกระโปรงแล้วเดินกลับห้อง
ซินหรูโมโหเดือดดาล นางเกาะขอบหน้าต่างพูดว่า “แม้ท่านจะเป็นเซ่อเจิ้งอ๋อง แต่อย่าคิดว่าท่านเป็นเซ่อเจิ้งอ๋อง งแล้วจะใส่ร้ายป้ายสีพี่สาวข้าได้! เป็นสุ่ยฉ่ายชิงผู้นั้นมาเยือนตำหนักฉางเหยี่ยนด้วยตนเอง นางไม่ได้เข้ามาในแ แปลงสมุนไพรด้วยซ้ำ พี่สาวต้อนรับนางในห้องโถงด้านหน้าแล้วจะใช้สมุนไพรกระตุ้นอาการนางให้กำเริบได้อย่างไร! เมื่อ นางกลับไปยังแข็งแรงดี หรืออาการกำเริบของโรคหอบจะรอให้เดินกลับไปถึงแล้วค่อยกำเริบได้หรือ?” พูดแล้วก็หยิบ หินโมราที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าสีขาวนั้นโยนออกไปเบื้องหน้าเซียวเยี่ยน “นี่เป็นสิ่งของที่สุ่ยฉ่ายชิงผู้นั้นเส สแสร้งแกล้งทำว่าจะมอบให้พี่สาว ก็แค่หยกดาษดื่นชิ้นหนึ่งใครอยากได้เล่า ในกล่องเครื่องประทินโฉมของพี่สาวมีเป็ นกอง!”
จากนั้นไม่ให้โอกาสเซียวเยี่ยนโต้ตอบ พูดแล้วก็ปิดประตูหน้าต่างดังปัง
เซียวเยี่ยนมองหินโมราบนพื้นชิ้นนั้น สุดท้ายยังคงเก็บขึ้นมาแล้วออกจากตำหนักฉางเหยี่ยน
เมื่อบรรดาหมอหลวงในสำนักหมอหลวงมาร่วมกันวินิจฉัยอาการแล้วยังพอมีวิธีการรักษา อาการกำเริบของสุ่ยฉ่ายชิงควบ บคุมได้หลังจากนั้นสองวัน แม้ร่างกายยังคงอ่อนแอทว่าไม่มีอะไรน่าหนักใจ
นางนั่งเอนกายอยู่บนเตียง เซียวเยี่ยนถือถ้วยยาป้อนให้นางดื่มทีละคำ เขาถามเสียงเบา “รู้สึกขมหรือไม่?”
สุ่ยฉ่ายชิงรู้สึกขมจนคิ้วย่น ทว่ากลับยิ้มและมองเขา “ข้าไม่ใช่แม่นางน้อยในอดีตอีกแล้ว หลายปีมานี้ต้องดื่ม มยาไม่เคยขาด ขมกว่านี้ข้าก็ดื่มมาแล้ว นี่ไหนเลยจะนับว่าขมได้”
ความปวดใจพาดผ่านดวงตาของเซียวเยี่ยน “ดื่มยานี้ลงไปแล้วรู้สึกดีขึ้นหรือไม่?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของสุ่ยฉ่ายชิงค่อยๆ เลือนหายไป “เยี่ยน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้า ไม่เป็นไร แม้ครั้งนี้ท่านจะรับข้ ากลับมาเพื่อรักษาอาการป่วย แต่อาจเป็นเพราะยังมีบางอย่างที่ข้าทำได้ไม่ดีพอกระมัง หลินเจาอี๋จึงดูเหมือนไม่ค่ อยชอบข้านัก อย่างไรก็ป่วยมานานเช่นนี้ ข้าไม่รีบร้อน” นางค่อยๆ เอนกายลงในอ้อมกอดของเซียวเยี่ยน พูดเสียงต่ำ ว่า “เพียงแต่ร่างกายที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บของข้ากลับทำให้ท่านต้องเหน็ดเหนื่อย ชีวิตนี้สามารถได้อยู่กับท ท่านข้าก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย ข้าเพียงแต่หวังว่าจะได้อยู่กับท่านมากขึ้นหลายปีก็พอใจแล้ว หากพวกเราสามารถมี บ้านที่แท้จริงสักหลัง ต่อให้เป็นภรรยาของท่านเพียงแค่วันเดียว ข้าก็นอนตายตาหลับ” นางพูดแล้วหัวเราะ น้ำตาไ ไหลพราก “แค่นี้ก็ไม่ได้หรือ รอให้ข้าตายไป แม้กระทั่งวิญญาณสงบสุขก็เป็นไปไม่ได้”
เซียวเยี่ยนเช็ดน้ำตาให้นาง แววตาเต็มไปด้วยความสับสน เนิ่นนานจึงกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะต้องให้นางรักษาเ เจ้าให้หายได้แน่”
หลินชิงเวยไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย เมื่อเซียวเยี่ยนปรากฏกายขึ้นในตำหนักฉางเหยี่ยนอีกครั้ง ราวกับนางสามารถคาดเดา าเรื่องราวมากมายได้ล่วงหน้า เพียงแต่จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วเท่านั้น
เป็นเวลาที่บรรดานางกำนัลในตำหนักฉางเหยี่ยนนำกระถางดอกไม้ทั้งหมดบนระเบียงทางเดินออกมาตากแดด หลินชิงเวยเหมือนจ จะมีเวลาว่างจึงนั่งยองๆ มือถือกรรไกรตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้อยู่ในลานเรือน
นางมิใช่ช่างดอกไม้ประจำสวน ไม่แตกฉานศาสตร์เกี่ยวกับการตกแต่งสวนให้งดงาม นางรู้เพียงว่าที่อยากเก็บไว้ก็เก็บ บไว้ ที่ไม่อยากเก็บไว้ก็ตัดทิ้งฉับๆๆ
บนพื้นมีดอกโบตั๋นกำลังบานสะพรั่งเต็มที่ตกอยู่ หากเป็นคนรู้จักชื่นชมความงามของดอกไม้ เกรงว่าคงได้แต่รู้สึก กปวดใจ
หลินชิงเวยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เงาร่างของเซียวเยี่ยนภายใต้แสงแดดดูสูงยาว ในขณะที่เกือบจะสัมผัสถูกข้างเท้า าของนาง นางจึงกล่าวขึ้นเรียบๆ ว่า “อาการป่วยของสุ่ยฉ่ายชิงมิใช่ควบคุมได้แล้วหรือไร เซ่อเจิ้งอ๋องดูท่าจะมีเ เวลาว่างมาก”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นใด?”
เซียวเยี่ยน “เจ้ารู้ว่าเหตุใดเปิ่นหวางจึงมาหาเจ้า โรคหอบของฉ่ายชิงเรื้อรังมาเป็นเวลานานหลายปี ยากที่จะรักษา หาได้ ที่เปิ่นหวางรับนางกลับมาก็เพื่อให้เจ้ารักษานางให้หายดี”
กรรไกรแต่งกิ่งในมือของหลินชิงเวยชะงักค้างกลางอากาศ นางถือกรรไกรแต่งกิ่งไว้ในมือ หลังมือผ่ายผอมนั้นแทบจะ ะมองเห็นเส้นเลือดสีเขียว เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงตะวันจึงทำให้ดูเหมือนโปร่งแสงสองส่วน
ฉับ
ดอกไห่ถังดอกหนึ่งร่วงลงมา
หลินชิงเวยกะพริบตาปริบๆ พูดเสียงต่ำ “เซียวเยี่ยน ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ตั้งแต่เริ่มต้นจนเดี๋ยวนี้ ท่านวางข้า อยู่ในตำแหน่งอันใด?”
“บุตรีแห่งจวนมหาเสนาบดี? หลินเจาอี๋? หรือท่านหมอผู้แตกฉานในวิชาแพทย์อย่างล้ำเลิศ?” นางถาม
เซียวเยี่ยน “มีอะไรแตกต่างกันเล่า ทั้งหมดนี้มิใช่เจ้าหรอกหรือ”
“ก็ใช่ ไม่ว่าข้าจะอยู่ในฐานะใด ไม่ว่าข้าจะให้สิ่งใดกับท่าน ท่านเคยได้รับสิ่งใด ท่านล้วนไม่เคยมองว่าข้าเป ป็นสตรีของท่านใช่หรือไม่” หลินชิงเวยพูด “ล้วนเป็นข้าที่สำคัญตัวผิดว่าท่านเป็นบุรุษของข้า ดูเหมือนเป็นเวลา านานเหลือเกินที่ข้าไม่เคยใคร่ครวญให้ดีว่าสิ่งที่ข้าได้รับกลับคืนมาคุ้มค่ากับสิ่งที่ข้าทุ่มเทเสียสละไปหรือไม ม่ ในเมื่อข้าเป็นสตรีมากแผนการคนหนึ่ง” นางขยับนิ้วมือตัดแต่งดอกไม้ต่อไป ทางหนึ่งเงยหน้าขึ้นคลี่ยิ้มบางๆ ถามเซียวเยี่ยนว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำไปทั้งหมด…เคยทำให้ท่านรู้สึกซาบซึ้งใจสักกระผีกหรือไม่?”
แววตาของเซียวเยี่ยนไหววูบมันปนเปไปด้วยความเจ็บปวดที่กระทั่งเขาเองก็ไม่รู้ตัว ต่อมาเขาขยับลูกกระเดือกครั้งห หนึ่ง ราวกับคิดจะพูดสิ่งใดทว่าสุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไรออกมา สายตานั้นมองหลินชิงเวยแน่วนิ่ง นางไม่ได้มองมื อของตนเองและขยับกรรไกรในมือดังฉับ ตัดนิ้วมือของตนเองจนได้เลือด
บาดแผลลึกพอสมควร
โลหิตสดๆ ไหลพลั่งออกมาเสมือนด้ายแดงเส้นหนึ่งทันที นำให้นิ้วมือของนางแดงฉานไปหมด เซียวเยี่ยนคิดจะก้าวเข้า าไปใกล้ๆ เพื่อดูบาดแผลของนาง แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าและท่าทางเย็นชาของหลินชิงเวยจึงได้สติกลับคืนมา เขาจึงอดก กลั้น
ระหว่างพวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผลเหนืออารมณ์มิใช่หรือ
หลินชิงเวยมองเลือดของตนไหลออกมาทีละหยดๆ ลงบนกระถางดอกไม้ดินเผาสีน้ำตาลอย่างเมินเฉย เชื่อว่าหากดอกไห่ถังต ต้นนี้ หากบานอีกครั้งในปีถัดไปจะต้องมีสีแดงสดกว่าปีนี้แน่นอน