ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 11 บทที่ 321 นับแต่นี้ต่อไป ท่านข้าไม่ติดค้างกัน
- Home
- ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง
- เล่มที่ 11 บทที่ 321 นับแต่นี้ต่อไป ท่านข้าไม่ติดค้างกัน
นางห้อยนิ้วปล่อยให้โลหิตไหลหยด มุมปากของนางยกขึ้น ยิ้มเยาะหยันตนเอง “หัวใจของคนเราทำด้วยเนื้อ ท่านคิดว่า าหัวใจของข้าตีมาจากเหล็กกล้าหรือไร? ท่านคิดว่าข้าไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆ ใช่หรือไม่ ข้าไม่ได้ทำมาจากน้ำ ดังนั นจึงไม่รู้สึกเจ็บปวด?” นางหลุบเปลือกตาลงต่ำ มุมปากยกขึ้นในองศาที่พอเหมาะพอดี “เซ่อเจิ้งอ๋องของข้า ท่านประเ เมินข้าสูงเกินไปแล้ว”
บาดแผลลึกๆ ของหัวใจกำลังมีเลือดไหลโซม เมื่อใดจะกลับมามีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม? หลินชิงเวยรู้ดีว่าช้าเร็วมันจะกลับ บมาเหมือนเดิม เพียงแต่คงต้องใช้เวลานานสักหน่อย ระหว่างนั้นคงต้องเจ็บปวดอยู่บ้าง
นางอายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกยาวนาน รอให้บาดแผลในใจสมานตัวดังเดิม นางไม่กลัวเลือดไหลและไม่กลัวเจ็บ ยังมีอะ ะไรให้ต้องคำนึงถึงอีกเล่า?
หลินชิงเวยส่ายหน้าหัวเราะเสียงต่ำ “ไม่สิ ไม่ใช่ท่านไม่รู้ว่าข้ารู้จักเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดของคนอื่นจะเกี่ยวข้อง งอันใดกับท่าน และข้าเคราะห์ร้ายที่กลายเป็นคนอื่นคนนั้น ข้าคิดว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง ข้ายังคิดว่าขอเพียงท ท่านอยู่ที่เดิมไม่ขยับเคลื่อนไหวและข้าเป็นฝ่ายใกล้ชิดท่านก็พอ เพียงแต่สุดท้ายข้าไม่ทันระวังจึงตกอยู่ในกำมื อท่าน…ใช่หรือไม่?”
เซียวเยี่ยนตอบไม่ได้
หลินชิงเวย “ท่านคิดเช่นนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยวิชาแพทย์ของข้ารักษาฮ่องเต้ให้หายดีได้ ย่อมต้องรักษาคนรักของ งท่านให้หายดีได้เช่นกัน ดังนั้นท่านจึงไม่ผลักข้าออกห่างเกินไป ทว่ากลับคล้ายปฏิเสธและยอมรับในที ให้ข้าเข้าใจ จผิดคิดว่าข้ามีโอกาส ท่านถึงกับเสแสร้งแกล้งทำราวกับปลาบปลื้มยินดีเป็นบางครั้ง เพียงเพื่อร้อยข้าเอาไว้ใช้ท่ามก กลางความสัมพันธ์ไม่ห่างเหินไม่ใกล้ชิดก็เพื่อวันนี้และเวลานี้ เพื่อรักษาอาการป่วยของสุ่ยฉ่ายชิง?”
นางควรจะคิดได้ตั้งแต่แรก ที่จริงเซียวเยี่ยนแสดงพิรุธให้นางเห็นมากมาย เพียงแต่นางยินดีที่จะหลอกตัวเอง ใจของนา างไม่ปรารถนาที่จะระแวงสงสัย
นับแต่นางเห็นสุ่ยฉ่ายชิงกลับมา เห็นเซียวเยี่ยนมาหานางเพื่อให้รักษาอาการป่วยของสุ่ยฉ่ายชิง หลินชิงเวยย่อมคาด ดเดาได้ถึงผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?
เซียวเยี่ยนใกล้ชิดนางมิใช่ด้วยความรัก แต่เพราะนางยังมีประโยชน์และยังมีค่า! นางเป็นหมากตัวหนึ่ง เป็นเครื่องม มือชิ้นหนึ่ง!
หลินชิงเวยถือกรรไกรในมือค่อยลุกขึ้นยืน เลือดบนปลายนิ้วย้อมกระโปรงของนาง นางมองเซียวเยี่ยนด้วยแววตากระจ่าง งใส “ล้วนถูกข้าคาดเดาถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ ไฉนท่านจึงไม่พูดจาเล่า?”
นางหัวเราะ “กล้าทำไม่กล้ารับ เซ่อเจิ้งอ๋องคงไม่ได้ขี้ขลาดกว่าที่ข้าคิดเอาไว้กระมัง?”
เซียวเยี่ยนมองนางนิ่งลึก จากนั้นพูดเสียงต่ำ “เพราะเปิ่นหวาง ฉ่ายชิงจึงมีโรคเรื้อรังนี้ เปิ่นหวางรับปากอาจารย์ ผู้มีพระคุณไว้ว่าจะช่วยรักษานางให้หายดี”
“แล้วนั่นเกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า?” หลินชิงเวยหัวเราะ “หรือเพียงเพราะข้าชมชอบท่านจึงต้องช่วยชดใช้สิ่งที่ ท่านติดค้างผู้อื่นทั้งหมดใช่หรือไม่? ต่อให้ต้องสละตัวเองเพื่อส่งเสริมพวกท่านก็ต้องทำใช่หรือไม่?”
“เจ้าต้องการสิ่งใด ขอเพียงเปิ่นหวางทำได้ล้วนรับปากเจ้า”
หลินชิงเวยเดินเข้าไปเบื้องหน้าเขาทีละก้าว นางเงยหน้ามองเขาเนิ่นนาน แววตาของนางท่ามกลางแสงตะวันกระจ่างใสบริสุ ทธิ์ สายตาของนางทำให้เซียวเยี่ยนรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
หลินชิงเวย “ข้าไม่ใช่คนมีตาหามีแววไม่ที่จะตามติดผู้อื่นไม่เลิกรา ตอนนี้ท่านชดใช้สิ่งที่ท่านติดค้างในอดีตให้ กับข้าก่อนก็แล้วกัน”
พูดแล้วหลินชิงเวยก็ยกฝ่ามือขึ้น ใช้เรี่ยวแรงของร่างกายทั้งหมดที่มีตบฉาดลงบนซีกหน้าของเซียวเยี่ยนเต็มแรง
เสียงเพียะดังขึ้น เสียงนั้นก้องกังวาน เซียวเยี่ยนหน้าหัน ทว่าไม่ได้ตอบโต้
หลินชิงเวยเก็บมือกลับมา ฝ่ามือของนางแสบร้อนราวกับมีเปลวไฟแผดเผาเฉกเช่นเดียวกับหัวใจของนาง นางกำมือที่สั่นเ เล็กน้อยไว้ในแขนเสื้อของตน กลืนน้ำลายลงคอพยายามควบคุมความขมฝาดที่ประเดประดังเข้ามาในลำคอกลับลงไป นางหลุบต ตาลงต่ำแล้วพูดว่า “คนในยุคสมัยโบราณเช่นพวกท่านมิใช่นิยมใช้การตัดผมเพื่อตัดสัมพันธ์หรือ วันนี้ข้าหลินชิงเวยไ ไม่อาจไม่ทำอย่างนั้นเช่นกัน” สีหน้าเซียวเยี่ยนเต็มไปด้วยความเสียดายและเจ็บปวด เห็นเพียงหลินชิงเวยใช้มือที่เต็มไป ปด้วยเลือดจับเส้นผมของนางปอยหนึ่ง ใช้กรรไกรตัดฉับลงไปอย่างรวดเร็ว
เส้นผมสลวยดำขลับนั้นไหลรอดหว่างนิ้วหลินชิงเวยลงสู่พื้น มันลอยพลิ้วลงบนพื้นเบาๆ พร้อมกับเสียงพูดของหลินชิ งเวย “ความรู้สึกและเรื่องราวในอดีต ท่านกับข้าล้วนไม่ติดค้างกัน”
เซียวเยี่ยนกำลังมองเส้นผมของนางที่พลิ้วตกลงมา
กระบอกตาหลินชิงเวยแดงก่ำ นางแค่นหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง “ข้าตีก็ตีแล้ว ผมก็ตัดแล้ว หากยังไม่ปล่อยวางย่อมเป ป็นตัวข้าที่จิตใจคับแคบ ผู้ใดบ้างไม่เคยพบบุรุษกักขฬะในยามเยาว์วัย เพียงแต่ข้าโชคร้ายที่ต้องมาพานพบกับบุรุษ กักขฬะที่สุดเท่านั้นเอง ขอเพียงผ่านประสบการณ์ชีวิตฉากนี้ นับแต่นี้ต่อไปย่อมใช้ชีวิตตามอำเภอใจได้มิใช่หรือ? นั บแต่นี้ต่อไป บุรุษไร้ใจสตรีไร้รัก กระแสน้ำไหลบุปผาร่วงโรย ต่างคนต่างไป”
นางพูดแล้วก้าวถอยหลังไปหลายก้าว แขนเสื้อสีเขียวอ่อนถูกโลหิตสดๆ จากมือของนางย้อมจนกลายเป็นสีแดง นางกลับจ จับชายกระโปรงอย่างไม่รู้สึกรู้สาและมองเซียวเยี่ยนใหม่อีกครั้ง
แววตาของนางเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจอย่างที่สุด แววตาของนางเยือกเย็นขึ้นเมื่อมองร่างของเซียวเยี่ยนโน้มกาย ลงไปเก็บเส้นผมของนางอย่างอ่อนโยน ที่เข้ามาแทนที่คือแววตาความไม่แยแสและสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
คล้ายความเจ็บปวดราวกับถูกเชือดเฉือนหัวใจเมื่อสักครู่ไม่ได้เกิดขึ้น ต่อให้มันเกิดขึ้นแล้ว นางเอกในนิทานเรื่องน นั้นก็ไม่ใช่นาง
ถูกต้อง ในนิทานของเซียวเยี่ยน นางเอกไม่ใช่นางตลอดกาล
นาทีนั้นหลินชิงเวยย้อนคิดถึงเรื่องราวต่างๆ มากมาย เมื่อนางตกอยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย ถูกทิ้งลงไปในสระน้ำ อันเย็นเยียบ นางเห็นเซียวเยี่ยนว่ายน้ำเต็มกำลังมาหานาง ยามนั้นนางคิดว่าตนเองไม่มีทางล้มลงอย่างง่ายดาย ด้วย ยพระเอกและนางเอกได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในตอนสุดท้าย
แต่นางผิดแล้ว
ผิดอย่างมหันต์
นางเป็นคนควบคุมและปิดบังอารมณ์ของตนได้ดียิ่ง เช่นเดียวกับเซียวเยี่ยน รวมไปถึงควบคุมและปิดบังความเจ็บปวดของต ตนเอง ต่อให้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจแทบแหลกสลาย สีหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์
เซียวเยี่ยนมองเส้นผมกลางฝ่ามือเนิ่นนาน “หลินชิงเวย เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”
“ไม่ต้องทำเช่นใด?” ต้องพูดประโยคไร้สาระอีกครั้ง ทว่าหลินชิงเวยหายใจเข้าลึกๆ ครั้งหนึ่ง แล้วพรูลมหายใจโล่งอกออ อกมา ทำเช่นนี้ไม่ใช่ดียิ่งหรือ พูดจาเปิดอกต่อกัน ไม่จำเป็นต้องพัวพันติดค้างต่อไป นางรอมานานเช่นนี้ เซียวเยี่ยน นกลับไม่เคยให้คำอธิบายแก่นางแม้แต่ครั้งเดียว
ที่นางรั้งอยู่ในตำหนักฉางเหยี่ยนหลายวันเช่นนี้ มิใช่กำลังรอฟังคำอธิบายจากเขาหรือไร? เวลานี้ไม่ต้องรอแล้ว ค คำอธิบายอันใดล้วนเป็นเรื่องเกินความจำเป็นทั้งสิ้น
หากเขาอธิบายแล้วนางจะอภัยให้เขาหรือไม่? เคราะห์ดีที่เขาไม่ได้อธิบาย และนางไม่ได้ใจอ่อน
หลินชิงเวยยกยิ้มมุมปากเป็นรอยยิ้มร้ายกาจ “พวกเรามาจัดการทีละเรื่อง เรื่องในอดีตถือว่าเลิกแล้วต่อกัน แต่สุขภาพค คนรักของเซ่อเจิ้งอ๋องป่วยหนัก ดีชั่วอย่างไรท่านข้าก็นับว่ารู้จักกันมา หากข้าเห็นคนใกล้ตายแต่กลับไม่ยอมช่วย ยเหลือย่อมเป็นข้าที่แล้งน้ำใจ ข้ารักษาโรคหอบของสุ่ยฉ่ายชิงได้ เงื่อนไขสองข้อ”
เซียวเยี่ยนช้อนตาขึ้นมองนางอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นปกติ “เงื่อนไขอันใด เจ้าว่ามา”
หลินชิงเวย “ข้อที่หนึ่ง ทูลขอพระราชโองการถอดถอนตำแหน่งเจาอี๋ของข้าจากฝ่าบาท ลดให้ข้าเป็นชาวบ้านสามัญ ข้ารั งอยู่ในวังหลวงชั่วคราวในฐานะหมอคนหนึ่ง สามารถเข้าออกวังหลวงได้อย่างอิสระ ข้อที่สอง ค่ารักษาห้าสิบหมื่นตำล ลึง แลกเป็นตั๋วเงินนำมามอบถึงมือข้า” นางมองเซียวเยี่ยนยิ้มๆ “รอให้ข้าได้รับพระราชโองการมือหนึ่ง และได้รับต ตั๋วเงินมือหนึ่งวันใด ก็จะไปรักษาสุ่ยฉ่ายชิงด้วยตนเอง เชื่อว่าเพื่อสุขภาพของคนรักเซ่อเจิ้งอ๋อง อย่างไรก็คงไม ม่ตระหนี่เงินห้าสิบหมื่นตำลึงนี้หรอกกระมัง” หลินชิงเวยทิ้งกรรไกรในมือลงในกระถางดอกไม้ส่งๆ หันหน้าเดินจากไป “ “เมื่อใดที่เซ่อเจิ้งอ๋องเตรียมสิ่งของทั้งสองอย่างนี้พร้อมแล้ว ค่อยมาเยือนตำหนักฉางเหยี่ยนของข้าอีกครั้ง ข้าย่อ อมให้การต้อนรับอย่างดี”