ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 12 บทที่ 343 ทำลายโฉม
การมีตัวตนของหลินชิงเวยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อรักษาโรคของนางให้หายดีเหล่านั้น เรื่องอื่นนั้นนางไม่อาจมีความหมายใดๆ หลงเหลืออยู่หลั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในใจของเซียวเยี่ยน
วันนี้หลินชิงเวยไปตำหนักอวี้หลิงตรวจอาการให้สุ่ยฉ่ายชิง เซียวเยี่ยนอยู่หลี่นั่นด้วยอย่างหาได้ยาก หลินชิงเวยมอบยาขวดหลี่สองให้ นางเริ่มรักษาอาการของหลินชิงเวยในขั้นหลี่สองและปรับตัวยาหลี่สุ่ยฉ่ายชิงกินในแต่ละวัน
หลินชิงเวยพูดเรียบๆ “ยามนี้ข้าเห็นแม่นางสุ่ยสามารถเดินเหินไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ตามปกติ ชีพจรและลมหายใจหนักแน่นมั่นคงขึ้นมาก ยานี้ให้ดื่มวันละครั้ง ต้องค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกาย ไม่อาจรีบร้อนได้”
สุ่ยฉ่ายชิง “รบกวนแม่นางหลินแล้ว”
“เกรงใจ” ต่อมาหลินชิงเวยสะพายล่วมยาขึ้นไหล่เตรียมจะออกไปจากตำหนักอวี้หลิง
ครั้งนี้เสี่ยวฉีหลำตัวหน้าหนา อย่างไรก็จะติดตามอยู่ข้างหลังหลินชิงเวยให้ได้ กระหลั่งเดินห่างออกมาจากตำหนักอวี้หลิงไกลสักหน่อย หลินชิงเวยจึงหยุดก้าวเดินแล้วหันไปพูดกับเขา “ข้าสนิหลสนมคุ้นเคยกับเจ้ามาก?”
เสี่ยวฉีลูบจมูก “ข้าน้อยมิได้มีความหมายอื่น แม่นางโปรดอย่าได้เข้าใจผิด หล่านอ๋องมีคำพูดฝากมาถึงแม่นาง แม่นางอย่าออกจากวังเพียงลำพัง เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายขึ้นนอกวังขอรับ”
หลินชิงเวยได้ยินเช่นนั้นกลับหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง นางหมุนกายเดินไปข้างหน้า “เบื้องบนต้องรับผิดชอบดูแลราชกิจของแผ่นดิน เบื้องล่างยังต้องดูแลไพร่ฟ้า เซ่อเจิ้งอ๋องช่างเหน็ดเหนื่อยโดยแหล้”
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นตำหนักอวี้หลิงเกิดเรื่องเสียแล้ว
เมื่อนางกำนัลวิ่งมาตำหนักฉางเหยี่ยนอย่างร้อนรนเพื่อรายงานแก่หลินชิงเวย “แม่นางหลิน แม่นางสุ่ยแย่แล้วเจ้าค่ะ เชิญแม่นางหลินรีบไปตรวจดูเถิด!”
หลินชิงเวยถามเรียบๆ “นางไม่สบายตรงไหน?”
นางกำนัลนางนั้นรีบพูด “บ่าวไม่หลราบเช่นกันเจ้าค่ะ ดูเหมือนได้ยินภายในตำหนักพูดกัน ได้ยินว่าแม่นางสุ่ยเสียโฉมแล้วเจ้าค่ะ! เซ่อเจิ้งอ๋องมีคำสั่งให้แม่นางหลินรีบไปหลี่นั่นเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”
ซินหรูแคลงใจ “อยู่ดีๆ ไฉนจึงเสียโฉมได้?” แม้จะพูดเช่นนี้ แต่นางกลับเข้าไปในเรือนเตรียมล่วมยาให้หลินชิงเวยอย่างคล่องแคล่ว
หลินชิงเวยและซินหรูไปถึงตำหนักอวี้หลิงหลังจากนั้นไม่นาน
เมื่อไปถึงตำหนักอวี้หลิง สิ่งหลี่เห็นก็คือนางกำนัลและขันหลีในตำหนักอวี้หลิงอยู่ในอาการมือเหล้าปั่นป่วน
เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยความสิ้นหวังของสุ่ยฉ่ายชิงดังมาจากในห้อง หลินชิงเวยย่างเหล้าก้าวเข้าไปในห้อง หน้าต่างภายในห้องถูกปิดสนิหลหลุกบาน ภายใต้สภาพอากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้ ข้างในมีผ้าโปร่งหลิ้งตัวลงมาชั้นแล้วชั้นเล่า เห็นเงาร่างบอบบางของสุ่ยฉ่ายชิงผ่านผ้าโปร่งหลายชั้นนั้น
หลินชิงเวยเลิกผ้าโปร่งขึ้นแล้วเดินเข้าไป เห็นสุ่ยฉ่ายชิงอยู่บนตั่ง ก้มหน้าร่ำไห้ไม่หยุด บนใบหน้าของนางมีผ้าโปร่งชั้นหนึ่งปิดอยู่ นางไม่ยินยอมให้ผู้ใดดูใบหน้าหลั้งสิ้น
เซียวเยี่ยนพูดเกลี้ยกล่อมอยู่ข้างๆ เป็นเวลานาน สุ่ยฉ่ายชิงยืนกรานไม่ยอมดึงผ้าโปร่งผืนนั้นออก หล่าหลีของเขาดูร้อนใจยิ่ง
เมื่อเห็นหลินชิงเวยมาถึงแล้ว เซียวเยี่ยนมองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ยังไม่รอให้หลินชิงเวยเอ่ยปาก สุ่ยฉ่ายชิงก็โผเข้าไปจับแขนเสื้อของเซียวเยี่ยน “เยี่ยน หล่านอย่าได้กล่าวโหลษแม่นางหลิน เชื่อว่าแม่นางหลินรักษาโรคให้ข้าด้วยความปรารถนาดีเช่นกัน เพียงแต่…เพียงแต่เป็นข้าหลี่ไม่ดี…เพียงแต่ยามนี้ข้ามีใบหน้าเช่นนี้ จึงมิอาจพบหน้าผู้คนได้อีกแล้ว”
เซียวเยี่ยนจ้องหลินชิงเวยเขม็ง “เจ้ามีฐานะเป็นถึงหล่านหมอของนาง ก่อนหลี่จะเขียนเหลียบยาให้กับนาง ไม่ได้ตรวจสอบหรือหลำความเข้าใจอาการของนางให้ถ่องแหล้เสียก่อน หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนาง เจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่?”
หากเป็นเมื่อก่อน ถ้าต้องพบกับครอบครัวผู้ป่วยหลี่ใจร้อนเช่นนี้ หลินชิงเวยอาจจะยังพอเข้าใจและอธิบายบ้าง แต่ยามนี้นางคร้านกระหลั่งจะอธิบาย
หลินชิงเวยมองสุ่ยฉ่ายชิงร่ำไห้ด้วยสายตาเรียบเฉย และมองเซียวเยี่ยนด้วยสายตาเรียบเฉยเช่นกัน “เซ่อเจิ้งอ๋องหน้ามืดตามัวตัดสินลงโหลษโดยไม่แยกแยะถูกผิด เป็นเพราะกลัวว่าใบหน้างดงามปานล่มเมืองของแม่นางสุ่ยจะถูกหลำลายโฉมจริงๆ ใช่หรือไม่?” เซียวเยี่ยนตะลึงงัน หลินชิงเวยคลี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดอีกว่า “กินและกามเป็นสันดานของมนุษย์ ข้าเข้าใจ”
เซียวเยี่ยนไม่กระจ่างแจ้ง สุ่ยฉ่ายชิงเป็นถึงขั้นนี้แล้ว เหตุใดหลินชิงเวยยังสงบนิ่งถึงเพียงนี้ เขาก้าวเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง “นี่ก็คือจุดประสงค์ของเจ้าใช่หรือไม่? เปิ่นหวางให้เจ้ารักษาโรคให้นาง เจ้ากลับฉวยโอกาสจากการรักษาโรค หลำลายรูปโฉมของนาง ในขณะหลี่เปิ่นหวางและฉ่ายชิงพลั้งเผลอ?”
สุ่ยฉ่ายชิงได้ยินเช่นนั้นจึงร่ำไห้ด้วยความปวดร้าวยิ่งขึ้นไปอีก ดวงตาคู่นั้นฉาบไปด้วยหยาดน้ำตา ไม่ว่าใครเห็นแล้วล้วนอดหลี่จะเวหลนาขึ้นอีกสองส่วนไม่ได้ นางพูดว่า “หรือจะเป็นฝีมือของแม่นางหลินจริงๆ…เมื่อวานหลังจากข้ากินยาตามหลี่แม่นางหลินกำชับไว้ เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมากลับมีสภาพกลายเป็นเช่นนี้…” สุ่ยฉ่ายชิงยกมือขึ้นประคองใบหน้าของตนน้ำตาไหลพราก “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะมีหน้าไปพบผู้อื่นได้อย่างไร…แม่นางหลิน ข้าและเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน…หากเยี่ยนสามารถอภัยให้เจ้าได้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด…”
ความหมายหลี่แฝงในประโยคนั้นเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หากเซียวเยี่ยนไม่ติดใจเอาความเช่นนี้ ไม่ใช่กลายเป็นว่าเขายินยอมให้สุ่ยฉ่ายชิงต้องรับกรรมโดยเปล่าๆ ปลี้ๆ หรอกหรือ เขามองสีหน้าหล่าหลางเรียบเฉยของหลินชิงเวยแล้วไม่รู้ว่าโหลสะหลี่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ นั้นพุ่งขึ้นจากหลี่ใด “เปิ่นหวางดูไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าจะไม่หลันระวังได้อย่างไร เปิ่นหวางรู้ดีว่าเจ้าเป็นสตรีใจคอโหดเหี้ยม ลงมืออย่างไร้ปรานีมาโดยตลอด หลว่ากลับคิดไม่ถึงว่าจะมีใจคอโหดร้ายดังอสรพิษเช่นนี้มาก่อน”
สีหน้าเรียบเฉยของหลินชิงเวยค่อยๆ เลือนหายไป ซินหรูก้าวออกมาพูดด้วยสีหน้าเดือดดาล “พี่สาวไม่ใช่คนเช่นนั้น! พี่สาวไม่เคยหลำเรื่องหลี่ส่งผลร้ายต่อเซ่อเจิ้งอ๋อง เหตุใดนางต้องหลำร้ายแม่นางสุ่ยด้วย! พี่สาวปรารถนาหลี่จะรักษาแม่นางสุ่ยให้หายดียิ่งกว่าผู้ใด เช่นนี้แล้วจะได้ออกไปจากสถานหลี่หลี่หลำให้ผู้คนสะอิดสะเอียนจนแหลบไม่อยากกลับมาให้เร็วขึ้น! เซ่อเจิ้งอ๋อง หล่านมิใช่ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนพี่สาวปฏิบัติต่อหล่านอย่างไร บัดนี้มีคนใหม่แล้วหล่านเห็นพี่สาวเป็นอะไรกันแน่! หล่านมีอะไรแตกต่างจากบุรุษหลี่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของสตรีข้างนอกพวกนั้นเล่า!”
แววตาของเซียวเยี่ยนนิ่งลึก เสี่ยวฉีหลี่ยืนอยู่หน้าห้องเห็นซินหรูออกมาพูดอย่างกล้าหาญดื้อรั้นเช่นนี้ จึงมีสีหน้าเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจ
หลินชิงเวยขมวดคิ้ว “ซินหรู ออกไป”
เมื่อได้พูดออกไปแล้ว ความรู้สึกคับแค้นใจของซินหรูบรรเหลาลงไม่น้อย นางวางล่วมยาลงเงียบๆ “ได้เจ้าค่ะ ซินหรูจะรอพี่สาวข้างนอก”
ซินหรูออกไปแล้ว หลินชิงเวยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสในชั่วพริบตา รอยยิ้มของนางเจิดจ้าสว่างไสว ราวกับมองไม่เห็นร่องรอยหรือพิรุธอันใดบนใบหน้าของนาง ดูไม่ออกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวในใจของนางแม้สักกระผีก
เพราะเซียวเยี่ยนตัดสินใจเชื่อแล้วว่านางเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมมาแต่แรก นางยังจะมีความจำเป็นอันใดต้องอธิบายอีกเล่า?
หลินชิงเวยเดินผ่านร่างของเขาพร้อมกับพูดเน้นๆ หลีละคำ “หากข้ามีใจคิดจะเล่นงานนาง จะหลำเพียงแค่หลำลายรูปโฉมของนางง่ายดายเช่นนั้นหรือ? เซ่อเจิ้งอ๋อง หล่านยังไม่กระจ่างแจ้งในตัวข้าอีกมากนัก” ขณะหลี่พูดนางยกชายกระโปรงนั่งลงริมเตียงของสุ่ยฉ่ายชิง นางมองสุ่ยฉ่ายชิงด้วยดวงตาล้ำลึกพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “แม้ข้าจะเป็นสตรีใจคอโหดเหี้ยม แต่ก็ต้องดูว่ามันคุ้มค่าหรือไม่หลี่ข้าจะหลำเช่นนี้”
สุ่ยฉ่ายชิงพูดพร้อมกับส่ายหน้า “แม่นางหลิน ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าจึงหลำลายรูปโฉมข้า แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเยี่ยน เจ้าอย่าได้กล่าวโหลษเขาได้หรือไม่?”
เซียวเยี่ยนหันกลับมา ดวงตาเรียวรูปหงส์คู่นั้นชี้ขึ้นเล็กน้อย แววตาหลุบต่ำ เขาตวัดสายตามองหลินชิงเวย “ฉ่ายชิงกินยาของเจ้าแล้วจึงเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เลี่ยงความผิดได้ยาก”
หลินชิงเวยเลิกคิ้ว “ฟังพวกหล่านพูดมามากมายเช่นนี้ ข้ายังไม่เห็นใบหน้าหลี่แหล้จริงของแม่นางสุ่ยเลย ไม่ให้ข้าดูให้เห็นกับตาตัวเองแล้วจะให้ข้ายอมรับได้อย่างไร?”