ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 12 บทที่ 347 ดูเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
- Home
- ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง
- เล่มที่ 12 บทที่ 347 ดูเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
รอยยิ้มของหลินชิงเวยกดลึกขึ้นอีก “เจ้าเข้าไปส่องกระจกในห้องได้ แล้วจะรู้เอง”
ดังนั้นหลีเช่อจึงมองนางด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งบนเก้าอี้ตัวยาว เขาวิ่งเข้าไปในห้องด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ
เสียงร้องด้วยความตกตะลึงดังขึ้นในห้อง “โอ้โห! มารดามันเถอะ ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!”
ริมฝีปากของหลินชิงเวยโค้งขึ้นเล็กน้อย ศีรษะของนางพิงกับเสาของศาลา ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มบางๆ
หลีเช่อคาดไม่ถึงว่าหน้ากากหนังมนุษย์นี้จะเยี่ยมยอดเช่นนี้ ทันทีที่เขาส่องกระจก คนที่ปรากฏขึ้นในกระจกราวกับเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งจริงๆ เขาลูบซ้ายลูบขวาก็ไม่พบร่องรอยระห หว่างหน้ากากหนังมนุษย์และใบหน้าของตนแม้แต่น้อย ช่างเป็นหน้ากากหนังมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงๆ
หลีเช่อดีใจเสียจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างในชั่วขณะ เขาส่องกระจกในทุกมุม กระทั่งในมุมสามร้อยหกสิบองศา ชิงชังเหลือเกินที่ไม่อาจหมุนคอรอบหนึ่งได้
เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้ง เวลาได้ผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลีเช่อจึงวางกระจกลงด้วยความพึงพอใจและเดินออกไปจากห้อง
เขากำลังจะออกไปสนทนากับหลินชิงเวย ทันทีที่ช้อนตาขึ้นมองกลับเห็นหลินชิงเวยนั่งเอียงศีรษะพิงกับศาลาหลับไปเสียแล้ว
ชายอาภรณ์ของนางปลิวสะบัดไปนอกศาลา ท่ามกลางแสงตะวันอันอบอุ่น ราวกับมันพลิ้วลงบนผิวน้ำในสระ ร่างของนางเอนไปด้านนอกศาลาเช่นกัน
หลีเช่อเห็นแล้วเป็นกังวลอยู่บ้างว่านางหลับไปแล้วจะตกลงไปในสระน้ำ
ดูท่าแล้วหลินชิงเวยไม่รู้สึกตัวจริงๆ หลีเช่อคิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เวลานี้ร่างของนางและศีรษะของนางเองไปด้านนอกศาลาแล้วสองส่วน กำลังจะร่วงหล่นลงไปในสระน้ำอยู่รอมร่อ หลี เช่อไม่มีเวลาคิดอันใดมาก เขาก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปโอบนางเข้ามาในอ้อมกอดของตนก่อนที่ร่างของนางจะตกลงไปในสระน้ำจริงๆ
หลินชิงเวยยังคงไม่รู้สึกตัวดังเดิม
หลีเช่อคิดในใจว่าสตรีนางนี้คงไม่ได้แกล้งหลับกระมัง เป็นเพราะนางเห็นว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาเป็นแน่ จึงจงใจให้เขาอุ้มนาง
แต่ร่างของนางนุ่มนิ่มเหลือเกิน…
หืม เพ้ยๆๆ จะให้เจ้าตัวน้อยเบื้องหน้านี้ทำให้ลุ่มหลงเคลิบเคลิ้มไม่ได้นะ! เขาเป็นคนตรงไปตรงมา หากอยู่ในยุคสมัยนี้จะต้องเป็นสุภาพบุรุษผู้มีคุณธรรมคนหนึ่ง!
ทว่าเมื่อหลีเช่อมองหน้าหลินชิงเวยอย่างพินิจพิจารณาแล้วกลับพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง การเคลื่อนไหวเช่นนี้ นางกลับไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เมื่อสักครู่ที่นางมาถึง เขาไม่ทันได้สั งเกต ยามนี้เมื่อมองดูแล้วจึงพบว่าสีหน้าของนางซีดขาวอยู่บ้าง
“นี่” หลีเช่อเขย่าตัวหลินชิงเวย นางไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ นอนหลับสนิทอย่างสงบ “นี่ เจ้าไม่เป็นอะไรกระมัง? เจ้าอย่าได้เป็นอะไรขึ้นมาเล่า ข้าไม่รับผิดชอบหรอกนะ…” เขายื่นนิ้ วออกไปทดสอบลมหายใจของหลินชิงเวย พบว่ายังหายใจอยู่ จึงอดที่จะพรูลมหายใจโล่งอกออกมาไม่ได้
หลีเช่อยกมือขึ้นลูบด้านบนของเสาแล้วกดลงบนกลไก ปุ่มกลไกนั้นมีลักษณะเหมือนสีแดงที่อยู่บนเสาของศาลา หากมิได้สังเกตโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้วยากจะมองเห็นได้ เมื่อกลไกนั้นถูกกดล ลงไป ภายในเสาต้นนั้นปรากฏให้เห็นช่องลับช่องหนึ่ง ในช่องลับมีเชือกเส้นหนึ่ง หลีเช่อดึงเชือกเส้นนั้นลงมา เสียงกระดิ่งดังขึ้นนอกลานเรือนในชั่วพริบตา
เรือนหลังนี้กว้างใหญ่มาก ข้างในไม่มีข้ารับใช้คอยปรนนิบัติ หากร้องตะโกนเรียกเสียงดัง ยังไม่แน่ว่าคนข้างนอกจะได้ยิน
ทันทีที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น มีคนรีบเร่งเดินเข้ามาในชั่วพริบตา หลีเช่อโอบร่างของหลินชิงเวยพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “เร็วเข้า ไปเชิญท่านหมอมา”
พูดแล้วหลีเช่อก็อุ้มร่างของหลินชิงเวยขึ้นมา เดินออกไปจากศาลาเข้าไปในห้อง ศีรษะของหลินชิงเวยพิงอยู่บนไหล่ของหลีเช่อ ไม่รู้ด้วยเหตุใดราวกับมีคลื่นความรู้สึกชนิดหนึ่งกร ระแทกเข้ามาในหัวใจของหลีเช่อ
ท่านหมอมาถึงในเวลาไม่นานนัก ขณะที่ท่านหมอตรวจชีพจรให้หลินชิงเวย นางจึงค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้น ข้อมือนั้นถูกดึงกลับไปพร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้น
นางพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียง เอียงหน้าหันไปเห็นหลีเช่อในใบหน้าของขันทีในตำหนักฉางเหยี่ยนยืนอยู่ข้างหัวเตียงและยังมีท่านหมออาวุโสอีกท่านหนึ่ง
หลินชิงเวยหัวเราะแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่ง นางบีบสันจมูกของตนเอง “นี่มันอะไรกัน? ดูเหมือนข้าจะหลับไป”
หลีเช่อมองนาง “ดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงแค่นอนหลับง่ายดายเช่นนั้นกระมัง”
ท่านหมออาวุโสลูบเคราของตน “คุณชายสุขภาพอ่อนแอเนื่องจากธาตุไฟกำเริบ ร่างกายรับไม่ไหวจึงทำให้อ่อนแอ แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยามปกติบำรุงร่างกายมากเกินไป พักผ่อนให้มากก็ดีขึ้น น หรือไม่ข้าจะฝังเข็มให้คุณชาย คุณชายจะรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก”
หลินชิงเวยคลี่ยิ้มบางๆ“ขอบคุณท่านหมอ ไม่ต้องฝังเข็ม เป็นเช่นท่านหมอกล่าวมา พักผ่อนหลายวันก็ดีขึ้นแล้ว”
หลีเช่อจับจ้องรอยยิ้มของหลินชิงเวย เขาคิดว่าด้วยหลินชิงเวยเป็นสตรีจึงไม่สะดวกที่จะให้ท่านหมอฝังเข็มให้ แต่เมื่อพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วเขารู้สึกว่านางยังมีเห หตุผลอย่างอื่น อารมณ์ของนางไม่ได้ดีเช่นสีหน้าบนใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลังจากท่านหมอกลับออกไป หลินชิงเวยก็ลงจากเตียงเช่นกัน หลีเช่อเดินมาส่งท่านหมอถึงหน้าประตู เมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้ง หลินชิงเวยลงจากเตียงเดินเหินไปมาแล้ว เขาถามว่า “เจ้าไม ม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่หรือไม่?”
หลินชิงเวย “อาจเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยเกินไป ให้ข้านอนสักครู่ก็ดีขึ้น”
“ก็ได้ เห็นแก่หน้ากากหนังมนุษย์ที่เจ้าทำมาได้ไม่เลว ข้าจะไม่เก็บค่ารักษาจากเจ้า” ต่อมาหลีเช่อไม่ให้หลินชิงเวยนั่งตากลมอยู่ในศาลา แต่กลับให้นางนั่งอยู่ในห้อง ตนเองนำหน้าก กากหนังมนุษย์อีกหกชิ้นไปลองใส่ดูทีละชิ้น แล้วเล่นเกมเปลี่ยนหน้าต่อหน้าหลินชิงเวย
เมื่อเขาเปลี่ยนหน้าครบทุกหน้าแล้ว หลีเช่อกลับมาอยู่ในใบหน้าเดิมของตน ดูเหมือนน้ำยาเพิ่มความชุ่มชื้นของหน้ากากนั้น ส่งผลให้ไฟน้ำตาบริเวณหางตาของเขายิ่งเอิบอิ่ม ใบหน้าทั งใบให้ความรู้สึกสะอาดสดใส ดูหล่อเหลาคมสันทุกมุมมอง
ใบหน้าคมสันของเขาแตกต่างจากผู้อื่น เป็นส่วนผสมงามประณีตอันลงตัวขององคาพยพทั้งห้าบนใบหน้า เขาถือหน้ากากไว้ในมือพร้อมกับฟื้นฝอยหาตะเข็บ “ข้าให้เจ้าทำหน้ากากออกมาโดยไม่ต้อง หน้าตาดีมากนัก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องขี้ริ้วถึงเพียงนี้นี่นา นี่ข้าใส่หน้ากากแล้วขี้เหร่เสียจนข้าอยากร้องไห้”
หลินชิงเวยกำลังดื่มน้ำอุ่น นางเลิกคิ้วกล่าวว่า “การทำหน้ากากหนังมนุษย์ต้องการแบบในการทำ จนปัญญาจริงๆ ผู้คนข้างกายข้าล้วนมีหน้าตาเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าอย่าได้จู้จี้นักเลย หาก กมีครั้งหน้า ข้าจะทำให้เจ้าหน้าตาดีกว่านี้”
“อย่างนั้นก็ได้ ครั้งหน้าเจ้าต้องรักษาคำพูดนะ” หลีเช่อพูด “บ้านของเจ้าอยู่ที่ใด หากสะดวกครั้งหน้าข้าไปหาเจ้า”
หลินชิงเวยครุ่นคิด “เวลานี้ยังไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว เมื่อมีเวลาข้าจะมาหาเจ้าที่นี่”
หลีเช่อฟังคำพูดของนางแล้วความรู้สึกประหลาดในใจยิ่งมีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มคิดระแวดระวัง เขามองหลินชิงเวย “นี่ ข้าจำได้ว่านี่เป็นการพบหน้ากันครั้งที่สองของเจ้าและข้า สนทนากันราวกับว่าพวกเราสนิทสนมคุ้นเคยกันเหลือเกิน เจ้าสนิทสนมกับผู้อื่นง่ายๆ เช่นนี้ทุกคนหรือ?”