ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 12 บทที่ 352 มาประกาศศักดา
นางก้าวเข้าไปในเรือนเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดอันเจิดจ้าภายนอก ใบหน้างามพิลาสนั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ผิวขาวชุ่มชื้นราวหยกเนื้อดี ริมฝีปากแดงระเรื่อ แต่ละย่างก้าวที่เยื้องกรายนั้ นเต็มไปด้วยความแช่มช้อย
ต่อมาสุ่ยฉ่ายชิงจับจ้อง ใช้สายตาเพ่งมอง กระทั่งเซียวเยี่ยนเองเมื่อเห็นใบหน้าของไทเฮาชัดเจนก็ได้แต่ลอบตะลึงเล็กๆ
นี่เป็นใบหน้างดงามก่อนหน้าที่ไทเฮาจะมีสภาพเป็นหญิงชรา ผมหงอกขาวทั้งศีรษะ
ไทเฮาเบื้องหน้าผู้นี้กลับกลายเป็นหญิงสาวในวัยอ่อนเยาว์ รอยเหี่ยวย่นบนผิวพรรณของนางเลือนหายไป ริ้วรอยกระฝ้าจางลง ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมั่นใจปรากฏอยู่บ บนริมฝีปากของนาง คล้ายว่านางในยามนี้มีรูปโฉมงดงามกว่าในอดีต ช่างจับตาจับใจผู้คนยิ่งนัก
สุ่ยฉ่ายชิงเคยมีรูปโฉมงดงามปานล่มเมืองในอดีต มาบัดนี้เมื่อต้องเปรียบเทียบกับไทเฮาผู้อยู่เบื้องหน้า ถึงกลับหม่นแสงลงด้วยความอับอายในรูปโฉมของตนเอง สายตาของไทเฮาราวกับกำลั งโอ้อวดความงดงามของนางต่อตนเอง สุ่ยฉ่ายชิงเบี่ยงหน้าไปด้านข้าง ประกายตาวับวาวของนางหม่นวูบ ริ้วรอยบนใบหน้าของนางเด่นชัดปานนั้น เวลานี้เมื่อต้องพบเจอผู้คน สุ่ยฉ่ายชิง งเคียดแค้นตนเองเหลือเกินที่มิอาจแทรกแผ่นดินเพื่อหนีความอับอาย นางหันหน้าไปพร้อมกับยื่นมือขึ้นมาปิดใบหน้าของตน
ไทเฮาถามขึ้น “ไม่ว่าอย่างไร เปิ่นกงและแม่นางสุ่ยนับว่ามีวาสนาได้พบหน้ากันหลายครั้ง นับแต่แม่นางสุ่ยเข้าวังมา เปิ่นกงสวดมนต์อยู่ในห้องพระทุกวันไม่มีเวลามาเยี่ยมเยียน วันนี้ จึงมาเยือนที่นี่ ไม่รู้ว่าสุขภาพของแม่นางสุ่ยเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” ยามนี้นางหายดีแล้ว ไฉนจะละทิ้งโอกาสที่จะมาโอ้อวดต่อหน้าสุ่ยฉ่ายชิงไปเล่า?
สุ่ยฉ่ายชิง “ขอบพระทัยไทเฮาเพคะ มีเยี่ยนคอยดูแล สุขภาพของฉ่ายชิงฟื้นฟูได้ดียิ่งเพคะ”
ไทเฮาพยักหน้ามองเซียวเยี่ยนด้วยสีหน้าและแววตาไม่ประสงค์ดีนัก ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ามิได้ลดลงแม้แต่น้อย “ก็จริง ผนวกกับแม่นางหลินที่มีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ เชื่อว่าแม่นางสุ่ยจะดีขึ นในเร็ววัน”
แววตาของสุ่ยฉ่ายชิงหม่นลง “ขอบพระทัยไทเฮาเพคะ”
ดวงตาคู่งามของไทเฮากลอกไปมาแล้วเจตนาเดินเข้าไปใกล้อีกสองก้าว นางแสร้งชำเลืองหางตาแล้วกล่าวว่า “เพียงแต่เปิ่นกงได้ยินมาว่าระยะนี้อาการของแม่นางสุ่ยลุกลามไปถึงใบหน้า? ใบหน้ างดงามปานล่มเมืองเช่นนี้ หากต้องมีริ้วรอยอันใดเหลือทิ้งไว้บนใบหน้าย่อมไม่ใช่เรื่องดี”
ครานี้ไม่ว่าสุ่ยฉ่ายชิงจะเอียงหน้าหลบเลี่ยงอย่างไรก็ยังถูกไทเฮาเห็นใบหน้าอย่างชัดเจนอยู่ดี ดวงตาไทเฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าปนเปไปด้วยความเยาะเย้ยถากถาง ทำให้สุ่ยฉ่ายชิงอับอ อายอย่างที่สุด
สุ่ยฉ่ายชิงกัดริมฝีปากแน่น หยาดน้ำตาเอ่อล้น ไหลลงมาอาบหน้า
ไทเฮาพูดอีกว่า “แม่นางหลินผู้นั้นมีนิสัยอย่างไร เปิ่นกงกลับกระจ่างแจ้งดี แม่นางสุ่ยใส่ความนางเช่นนี้ ไยจึงไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาในภายหลังเลยหรือ? ตรองดูแล้วที่ใบหน น้าแม่นางสุ่ยเป็นเช่นนี้ มีเพียงแม่นางหลินเท่านั้นที่จะรักษาให้หายได้ เปิ่นกงโชคดีที่ได้นางมารักษาจึงกลับมามีใบหน้าอ่อนเยาว์เช่นนี้ได้”
หยดน้ำตากระจ่างใสเอ่อคลอดวงตาของสุ่ยฉ่ายชิง ปลายนิ้วเรียวยาวขาวสะอาดนั้นกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยพยายามควบคุมอารมณ์ของตน เซียวเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ในเมื่อไทเฮามาเยี่ยมฉ่ายชิง ง ยามนี้เห็นก็เห็นแล้ว เช่นนั้นเชิญกลับเถิด”
สีหน้าของไทเฮาจืดเจื่อนลงในเวลานี้เอง นางหันไปมองเซียวเยี่ยน “ทั้งๆ ที่เซ่อเจิ้งอ๋องกระจ่างแจ้งดีว่าไม่ใช่ความผิดของแม่นางหลิน ทว่ากลับปกป้องแม่นางสุ่ยถึงเพียงนี้ ไม่เห็นแก่ ไมตรีในอดีตเช่นนี้ มิน่าเล่าแม่นางหลินจึงไม่รักษาโรคของแม่นางสุ่ยอีก ช่างเถิด ในเมื่อไม่ใช่เรื่องที่เปิ่นกงจะก้าวก่ายได้ ในเมื่อเซ่อเจิ้งอ๋องต้องการส่งแขก เปิ่นกงขอตัวก่อน น หวังว่าแม่นางสุ่ยจะมีสุขภาพแข็งแรง”
พูดแล้วใบหน้างดงามของไทเฮาหันกลับไปด้วยท่วงท่าสง่างาม พาหมัวมัวของตนออกจากตำหนักบรรทมของสุ่ยฉ่ายชิง นางเพิ่งจะเดินออกไปถึงลานเรือนก็ได้ยินเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยความ เจ็บช้ำน้ำใจของสุ่ยฉ่ายชิงดังออกมาดังที่ปรารถนา และตามมาด้วยสิ่งของบางอย่างตกลงบนพื้น
ไทเฮาหัวเราะเบาๆ พร้อมกับพาตัวเองออกจากตำหนักอวี้หลิง
ไทเฮาเพิ่งจะออกไป เซียวเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าสุ่ยฉ่ายชิงจะโถมกายลงจากเตียงอาศัยเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิด เพื่อที่จะเอาศีรษะกระแทกตั่งในเรือนตกลงไปบนพื้น
“ฉ่ายชิง!” เซียวเยี่ยนมือไวตาไว คว้าร่างของนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วลูบเส้นผมดำขลับของนาง “นี่เจ้าจะทำอะไร?”
สุ่ยฉ่ายชิงร่ำไห้ปานจะขาดใจ ร่างของนางอยู่ในอ้อมกอดของเซียวเยี่ยน นางพูดสะอึกสะอื้น “หากต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นนี้…ไม่สู้ให้ข้าตายไปจะดีกว่า…ข้ามีสภาพเช่นนี้ ยังมีหน้ าไปพบผู้อื่นได้อย่างไร เยี่ยน ท่านปล่อยให้ข้าตายเสียเถิด…”
เซียวเยี่ยนกุมมือแน่นขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือ สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจ “เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องชั่วคราว ไฉนจึงคิดไม่ตกเช่นนี้ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น น”
“เวลาผ่านมาเนิ่นนานเช่นนี้ ยังจะดีขึ้นได้อย่างไร?” สุ่ยฉ่ายชิงมองเซียวเยี่ยนผ่านม่านน้ำตา “ใบหน้าของข้าเป็นเช่นนี้ด้วยมีสาเหตุมาจากนาง มีเพียงนางเท่านั้นที่จะรักษาข้าให้ห หายดีได้ แต่ท่านเป็นถึงเซ่อเจิ้งอ๋อง จะไปก้มหัวให้นางได้อย่างไร ก่อนหน้านี้เป็นข้าเองที่คิดการไม่รอบคอบ ข้าจะให้ท่านไปก้มหัวให้นางได้อย่างไร…เยี่ยน ท่านพูดมาเถิดว่าข้า าควรทำอย่างไร?”
เห็นนางร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ แม้กระทั่งเซียวเยี่ยนซึ่งเป็นบุรุษเย็นชาก็ไม่อาจเป็นข้อยกเว้น เขาปวดใจยังแทบไม่ทัน จะไปกล่าวโทษสุ่ยฉ่า ายชิงได้อย่างไร
เซียวเยี่ยนโอบร่างของสุ่ยฉ่ายชิงเข้ามาในอ้อมกอดพูดปลอบโยนนาง “ฉ่ายชิง เจ้าวางใจ ข้าจะให้นางรักษาเจ้าให้หายดี”
สุ่ยฉ่ายชิงส่ายหน้า “ข้าไม่ต้องการให้ท่านลดตัวลงต่ำต้อยกว่านาง หากต้องมีคนก้มหัว ข้ายินดีที่จะให้คนผู้นั้นเป็นข้า เยี่ยน ให้ข้าไปพร้อมกับท่านเถิด นางโกรธข้า ข้าจะทำให้ นางคลายโทสะเอง…”
เนิ่นนานเซียวเยี่ยนจึงพูดเสียงต่ำ “ได้”
หลังจากไทเฮาออกมาจากตำหนักซวี่หยาง นางเบิกบานใจยิ่งนัก เป็นเวลานานเหลือเกินที่นางมิได้ก้าวออกมาจากตำหนักคุนเหอมาชมทัศนียภาพงดงามภายนอก
แม้ดวงตะวันบนศีรษะจะยิ่งลอยตัวสูงขึ้น อากาศร้อนอบอ้าวมากขึ้น ไทเฮายังคงเดินเล่นใต้เงาร่มไม้ในอุทยานหลวง ชมบุปผานานาชนิดที่ประชันขันแข่งกันบานสะพรั่ง ชมทัศนียภาพรอบสระน้ำและ ะผิวน้ำอันเงียบสงบ
นางยืนสูดลมหายใจเข้าลึกริมสระน้ำ “เปิ่นกงไม่ได้ออกมาข้างนอกเป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ”
หมัวมัว “ไทเฮาทรงอารมณ์ดี ต่อไปต้องออกมาข้างนอกบ่อยๆ นะเพคะ เช่นนี้แล้วจึงจะส่งผลดีต่อพระพลานามัยของไทเฮา”
ไทเฮาหันหน้ามามองหมัวมัว “เจ้าคิดว่าเปิ่นกงในตอนนี้เมื่อเทียบกับในอดีตแล้วเป็นอย่างไร?”
หมัวมัว “ไทเฮางดงามกว่าเมื่อครั้งในอดีตเพคะ”
“เปิ่นกงรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน” ไทเฮาพูดกลั้วหัวเราะ “ไม่เพียงแต่สุขภาพที่เยาว์วัยขึ้น กระทั่งหัวใจก็ยังอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย หลินชิงเวยผู้นั้นเป็นผู้มีฝีมือจริงๆ”
หมัวมัวชะงักงันแล้วถามขึ้นว่า “ที่ไทเฮาต้องกลายสภาพเป็นหญิงชราก็เป็นเพราะฝีมือของหลินชิงเวยผู้นั้น แม้บัดนี้นางจะช่วยให้ไทเฮากลับมาเหมือนเดิม แต่ยังคงมีความแค้นระหว่าง กันอยู่ เมื่อสักครู่ในตำหนักอวี้หลิง เหตุใดไทเฮายังต้องช่วยพูดแทนหลินชิงเวยผู้นั้นด้วยเพคะ?”
ไทเฮาหรี่ตาลง “ไม่ว่าจะเป็นเวลานี้หรือต่อไปในวันหน้า เปิ่นกงเกลียดชังนางเพียงคนเดียวจะมีประโยชน์อันใด ต้องให้สุ่ยฉ่ายชิงผู้นั้นเกลียดชังนางด้วยจึงจะสนุกสนาน ยิ่งเปิ่นกงพูด ดว่านางดีเท่าใด สุ่ยฉ่ายชิงก็จะยิ่งเคียดแค้นชิงชังนางมากเท่านั้น รูปโฉมสำหรับสตรีแล้วหมายถึงอะไรเล่า เปิ่นกงกระจ่างแจ้งลึกซึ้งกว่าผู้ใด”