ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง - เล่มที่ 13 บทที่ 387 นักแสดงผู้มากความสามารถอย่างแท้จริง
- Home
- ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง
- เล่มที่ 13 บทที่ 387 นักแสดงผู้มากความสามารถอย่างแท้จริง
หลินชิงเวยยิ้มตายิบหยี “เจ้ามิใช่บอกว่า บุรุษไม่มักมากเพราะสตรีงดงามไม่พอ เวลานี้เจ้างดงามมากพอย่อมต้องไม่มีปัญหาแน่นอน” ระหว่างที่พูด หางตาของนางพลันชำเลืองเงาร่างสายหนึ งเดินมาจากถนนอีกด้านหนึ่ง นางจึงพูดเสียงต่ำ “มาแล้ว”
บุรุษที่เดินออกมาจากทิศทางของวังหลวงสวมชุดลำลองสีดำทั้งชุด ความเคร่งขรึมเข้มงวดแผ่กระจายออกจากร่างของเขา ในมือของเขาถือกระบี่เล่มหนึ่ง ทันทีที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป ป็นผู้มีวรยุทธ์ หิมะเล็กๆ ที่ปลิวลงมาบนร่างของเขา ยิ่งทำให้ร่างของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
ทันใดนั้นก็มีเสียงด่าทอสาปแช่งและเสียงสตรีร่ำไห้กระซิกๆ ขอความเมตตาดังมาจากด้านหน้า
เสียงสตรีร่ำไห้พร้อมกับอ้อนวอน “ขอร้องพวกท่าน! ละเว้นข้าเถิด! ละเว้นข้าเถิด!”
“ฮึ ละเว้นเจ้า? บิดาของเจ้าได้ขายเจ้าให้กับพวกเราแล้ว วันนี้เจ้ายินดีก็ต้องยอม ไม่ยินดีก็ต้องยอม!”
ย่างก้าวของบุรุษชุดดำหยุดชะงัก เขาช้อนตาขึ้นมองสตรีในอาภรณ์สีแดงทั้งชุดที่กำลังร่ำไห้และวิ่งหกล้มหกลุกออกมาจากในตรอก ด้านหลังมีชายอันธพาลสามถึงห้าคนวิ่งตามมา หนึ่งใน ชายอันธพาลคว้าชายกระโปรงของสตรีชุดแดงเอาไว้ได้แล้วฉุดกระชากลากถูนางลงกับพื้น ต่อมาก็ล้อมกันเข้ามารังแกนางกลางถนน
สตรีนางนั้นดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง นางหันหน้ามาอย่างมิได้ตั้งใจ มองบุรุษชุดดำทั้งน้ำตานองหน้าพร้อมกับร้องขอความเมตตา “ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย…”
เสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นในยามราตรี ทำให้หลินชิงเวยที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดเห็นแล้วยังอดที่จะใจอ่อนไม่ได้ นางลอบยกนิ้วโป้งให้หลีเช่อ นี่หากในยุคสมัยโบราณมีดาราแล้วละก็ เจ้าคนผู้นี้จะต้องได้รับรางวัลนักแสดงผู้มากความสามารถเป็นแน่ เขาจะต้องเป็นดาราเจ้าบทบาทคนหนึ่งทีเดียวเชียว!
เวลานั้นแสงสะท้อนวาววับจากกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้น บุรุษชุดดำผู้นั้นมิอาจทนดูหลีเช่อถูกรังแกกลางถนนได้ ชายอันธพาลหลายคนที่ร่วมกันล่วงเกินหลีเช่อประมือกับเขาเพียงไม่ กี่กระบวนท่าก็พากันล่าถอย
หลีเช่อฟุบร่างร้องไห้อยู่กับพื้น
บุรุษชุดดำย่อกายลงนั่งยองๆ ถามว่า “เรียบร้อยแล้ว ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว แม่นางรีบลุกขึ้นเถิด”
หลีเช่อมองเขาทั้งน้ำตา “ขอบคุณท่านจอมยุทธ์ที่ช่วยเหลือ แต่…ข้อเท้าของข้าอาจจะพลิก ข้าเดินไม่ไหว ทั้งยังยืนไม่ได้…ท่านจอมยุทธ์มีบุญคุณช่วยชีวิต ผู้น้อยขอตอบแทนบุญคุณ ท่าน ผู้น้อยขอร้องท่านจอมยุทธ์ไปส่งผู้น้อยกลับเรือนได้หรือไม่…”
ในเมื่อคนก็ช่วยแล้ว หากต้องทิ้งไว้บนถนนสายเปลี่ยวเช่นนี้ย่อมดูเหมือนทำไม่ได้ ดังนั้นบุรุษชุดดำจึงได้แต่อุ้มหลีเช่อขึ้นเพื่อส่งหลีเช่อกลับเรือน
เรือนของหลีเช่อได้ถูกกำหนดให้เป็นเรือนหลังเล็กในตรอกลึกแห่งหนึ่ง ระหว่างทางหลีเช่อได้ปั้นเรื่องราวน่าเชื่อถือไร้พิรุธ เรื่องราวประมาณว่าเขามีบิดาขี้เหล้าผู้หนึ่งได้ติดค ค้างเงินของผู้อื่นมากมาย เพื่อชำระหนี้บิดาของนาง จึงขายนางให้กับชายอันธพาลเหล่านั้น
บัดนี้นางไม่มีที่ไปจึงจำต้องกลับมาเรือนหลังนี้
เมื่อหลีเช่อเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้หลินชิงเวยฟัง หลินชิงเวยส่ายหน้า “ไม่ได้ ข้าคิดว่ามันโหดร้ายเกินไป”
หลีเช่อขึงตาใส่ “หรือเจ้าไม่คิดว่าการที่บุรุษห้าวหาญคนหนึ่งช่วยหญิงงามเป็นเรื่องโหดร้ายเรื่องหนึ่งอยู่แล้ว? คงมิเกินกำลังของคนในยุคสมัยโบราณหรอกกระมัง ในเมื่อพวกเขาชมชอบเรื องราวเช่นนี้”
ต้องเป็นเพราะฝีมือการแสดงอันล้ำเลิศของหลีเช่อเป็นแน่ ต่อให้เป็นเรื่องราวที่โหดร้ายยิ่งกว่านี้เขาก็สามารถแสดงได้น่าสะเทือนใจจนน่าตกตะลึง
ยามนี้ภายในเรือนหลังเล็กมีเพียงความมืด หลังจากบุรุษชุดดำผู้นั้นอุ้มหลีเช่อกลับเข้าไปในห้อง เขามองเท้าของหลีเช่อครู่หนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรหลีเช่อก็ไม่ยินยอมให้เขาจากไป ย ยืนกรานจะให้เขารั้งอยู่ที่นี่ ทั้งยังรินน้ำชาให้เขาดื่ม
ระหว่างที่หลีเช่อพูดอ้อนวอนก็น้ำตาไหลนองหน้า ทั้งยังลอบทิ้งสายตาให้บุรุษชุดดำผู้นั้น หญิงงามปานล่มเมืองอยู่ใกล้ถึงเพียงนี้ บุรุษผู้นั้นจึงทำทีเป็นดื่มน้ำชา อยู่ต่อด้ว วยท่าทีไม่หวั่นไหวอย่างไรอย่างนั้น
ต่อมาได้ยินเสียงดังขึ้นจากลานเรือนด้านนอก หลีเช่อตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี “แย่แล้ว จะต้องเป็นบิดาข้ากลับมาแล้วเป็นแน่ หากเขาเห็นว่าข้ากลับมาบ้านเองจะต้องตีข้าจนตายแน่นอน! !”
บุรุษชุดดำลุกขึ้นยืน “ทว่าเมื่อข้ารู้สถานการณ์ที่แท้จริงแล้ว เชื่อว่าบิดาของเจ้าคงทำดีต่อเจ้าบ้าง”
“ไม่ได้!” หลีเช่อโผเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “หลังจากท่านไปแล้ว เขาจะต้องตีข้าจนตายแน่” พูดแล้วก็ยื่นมือไปดับตะเกียง “รบกวนท่านจอมยุทธ์อยู่ในห้องของข้าสักครู่ รอบิดาข้านอ อนหลับแล้วท่านค่อยจากไปได้หรือไม่?”
“อืม”
หลีเช่อพูดอีกว่า “ผู้น้อยยืนแล้วปวดเท้าเหลือเกิน ท่านจอมยุทธ์…อุ้มข้าไปที่เตียงได้หรือไม่?”
ดังนั้นบุรุษชุดดำจึงอุ้มหลีเช่อไปที่เตียง หลีเช่อแสร้งทำเป็นไม่ทันระวัง ลากบุรุษชุดดำลงมาบนเตียงด้วย เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามือของบุรุษผู้นั้นที่อยู่บนช่วงเอวของ งตนกระชับแน่นขึ้น
เอาเถอะ…แม้ทำเช่นนี้จะรู้สึกน่ารังเกียจอยู่บ้าง แต่เขาคงได้แต่กัดฟันทน
ผ่านไปครู่หนึ่งได้ยินเสียงอีกฝ่ายหายใจหอบหนักขึ้น หลีเช่อจึงถามขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจ “วันนี้ท่านจอมยุทธ์มีบุญคุณช่วยชีวิตผู้น้อย ผู้น้อยยากจะลืมและไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร หาก ท่านจอมยุทธ์มิรังเกียจ ผู้น้อยยินดีมอบกายเพื่อตอบแทนบุญคุณ…ได้แต่หวังว่าท่านจอมยุทธ์จะเวทนา”
บุรุษชุดดำทนต่อการถูกยั่วยวนไม่ได้เป็นที่สุด จึงค่อยๆ แนบกายเข้าใกล้หลีเช่อ ขณะที่อยู่ห่างกันไม่ถึงฉื่อ หลีเช่อเอียงหน้าออกทันใด นางเสแสร้งใช้จริตมารยาผลักบุรุษชุดดำไป ปด้านข้างของเตียง บุรุษชุดดำกดร่างของหลีเช่อไว้ด้วยสิ้นความอดทนอดกลั้น กระบี่ของเขาวางอยู่ข้างเตียง มือทั้งคู่เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข
หลีเช่อทางหนึ่งส่งเสียงร้อง อีกทางหนึ่งยื่นมือลูบไปบนหัวเตียง เขารู้สึกว่าหน้าอกที่เขาทำมาอย่างมิง่ายดายกำลังจะถูกบุรุษผู้นี้ขยำขยี้เสียจนแหลกละเอียดแล้ว
ในที่สุด หมั่นโถวกลมๆ ลูกหนึ่งก็ตกลงมาจากหน้าอกของเขา มันถูกบุรุษผู้นั้นกุมไว้ในมือ บุรุษชุดดำเงียบงันไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นว่า “นี่คืออะไร?”
หลีเช่อกระชับอาภรณ์บนร่างของตนและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นประดุจสายน้ำ “ท่านจอมยุทธ์ลองทายดู”
นาทีถัดมาบุรุษชุดดำผู้นั้นรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลจึงยื่นมือออกไปหมายจะหยิบกระบี่ของตนขึ้นมา ทว่ากลับถูกหลีเช่อชิงหยิบกระบี่ไปก่อนก้าวหนึ่ง เสียงโซ่ตรวนในมือของหลีเ เช่อดังเคร้งคร้างเมื่อรัดรอบข้อมือข้างหนึ่งของบุรุษชุดดำ เขาฉวยโอกาสที่บุรุษชุดดำกำลังตื่นตะลึง หลีเช่อจึงพลิกกายลุกขึ้นพร้อมกับนำโซ่ไปคล้องเข้ากับข้อมืออีกข้างหนึ่งข ของบุรุษชุดดำผู้นั้น บุรุษชุดดำเตะเขาในขณะที่เขาเริ่มใช้ค่ายกล ลูกศรพุ่งออกมาจากด้านข้างของเตียงนอนพร้อมกับเชือก บุรุษผู้นั้นถูกมัดตัวอย่างแน่นหนาในชั่วพริบตา
ตะเกียงในห้องถูกจุดให้สว่างขึ้นมาอีกครา
หลินชิงเวยเดินเข้ามาเป็นคนแรก หลีเช่อลงมาจากเตียงในสภาพอาภรณ์หลุดลุ่ยพร้อมกับขึ้นเสียง “ไฉนจึงเพิ่งมา! หากมิใช่เป็นเพราะข้าได้เตรียมการไว้แต่แรกย่อมถูกพรากความบริสุทธิ์ไป ปแล้ว!” เขาหันไปมองบุรุษที่ถูกมัดอยู่บนเตียงปราดหนึ่งพร้อมกับพูดว่า “หากต้องอยู่กับเขาต่ออีกแค่วินาทีเดียว ข้าคงอาเจียนออกมาจริงๆ”
หลินชิงเวยยื่นอาภรณ์ผ้าสำลีให้เขาชุดหนึ่ง นางมองกลไกโซ่ตรวนบนเตียงแล้วคิดว่าหลีเช่อเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งอย่างแท้จริง ต่อให้คนที่มีวรยุทธ์ร้ายกาจยิ่งกว่านี้หากถูกล่ามมือ อเอาไว้ก็ยากที่จะหนีรอดไปได้
องครักษ์ลับข้างกายเซียวอี้นำสิ่งของที่หลินชิงเวยตระเตรียมเอาไว้เข้ามา นางเปิดภาชนะหยิบแบบหน้ากากที่แช่อยู่ในน้ำยาขึ้นมาเดินเข้าไปหาบุรุษชุดดำทีละก้าวๆ
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? คิดจะทำอะไร!”
หลินชิงเวยไม่พูดไม่จา นางนำแบบหน้ากากวางลงบนใบหน้าของเขา เพียงแต่ครั้งนี้นางไม่ได้เจาะรูสองรูใต้จมูกเอาไว้ให้ บุรุษชุดดำนั้นรู้สึกหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ หน้าอกของเขายุ บขึ้นลงอย่างรุนแรงด้วยต้องการอากาศหายใจ ทว่ากลับถูกน้ำยาเหนียวหนึบกรอกเข้าเต็มปาก ไม่อาจหายใจได้