ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 113 พวกนั้นซึ่งมาจากความลึก
113 พวกนั้นซึ่งมาจากความลึก
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
ในพื้นที่ใต้ดิน ดวอร์ฟที่เรียกว่าบัลบาโน่ ยืนอยู่ตรงกลางและเผชิญหน้ากับผม
「นายตัวใหญ่นะ」
「อย่างนั้นเหรอ?」
บัลบาโน่ พร้อมด้วยแขนและขาที่เหมือนซุง มองขึ้นมาหาผมระหว่างที่พูดอย่างนั้น ความสูงนั้นสมบูรณ์แบบที่ผมจะพักแขนบนหัว แต่มันอาจจะทำให้ยั่วยุเขาที่จะสู้กับผม ถ้าผมทำอย่างนั้น……ซึ่งมันทำให้เขาสูงเท่าซีเลีย เมื่อเทียบกับควมสูงของเขา กล้ามเนื้อที่เหลือเชื่อของเขาทำให้เขาดูไม่สมดุลจริงๆ แม้อย่างนั้น เขายังดูสูงกว่าดวอร์ฟที่ล้อมรอบอยู่
「ชั้นได้ยินมาว่านายทำลายทางเข้า」
「ไม่มีใครตอบเมื่อเคาะน่ะ แต่มันพัง ขอโทษ」
บัลบาโน่ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ จากนั้นเขายื่นแก้วเหล็กให้ผม และเติมมันด้วยแอลกอฮอล์ ผมรับมันสบายๆด้วยมือของผม แต่แก้วนั้นสร้างด้วยการออกแบบที่ตกแต่งอย่างชัดเจน และมันส่องแสงเหมือนทอง ผมดีใจที่นนน่าไม่อยู่ที่นี่
「ดื่ม」
ผมจิบหลังจากที่ถูกบอก
「กุห์……」
ความรู้สึกที่เข้มข้น ทำให้ผมเชื่อว่ามันมีพิษ แค่ทันทีนั้น แต่มันแค่แอลกอฮอล์ที่แรงอย่างไม่น่าเชื่อ เหนือทุกอย่างที่ผมเคยกินมาก่อน อย่างไรก็ตาม หน้าของชายผ่อนคลายเล็กน้อย หลังจากผมดื่มในแก้วไปอย่างรวดเร็ว
「ต้องการอะไรจากเรา?」
「ชั้นอยากจะขุดเหล็กในภูเขานี้ แล้วมันดูเหมือนว่ามีคนอยู่มาก่อนหน้าแล้ว ชั้นแค่อยากจะมาคุยก่อน」
「นายไปได้ยินเรื่องดวอร์ฟมาจากไหน?」
「จากคนที่ตีเหล็ก และแทบไม่ได้อยู่ในเงาของหิน พวกเค้าพูดถึงแค่กึ่งมุษย์ แต่ชั้นเดาว่าพวกเค้าพูดถึงดวอร์ฟ」
「นายมีเจตนาที่จะทำให้ภูเขาเราเต็มไปด้วยรูเหรอ?」
「ชั้นไม่ได้พูดว่าชั้นอยากจะมาอยู่ในภูเขา และชั้นไม่ได้พูดว่า พวกนายต้องย้ายที่นอน แต่นายจะไม่อารมณ์เสียที่เหล็กถูกเอาไปมั้ย?」
「อย่าไร้สาระน่า มีเหล็กอยู่ทุกที่ในภูเขา ดังนั้น ชั้นไม่สนในในอะไรบางอย่างแบบนั้น」
แต่นั่นไม่ได้เหมือนกับอะไรที่พูดมาก่อนหน้าเรา คนที่ทำเหล็กพูดว่าพวกเขาเจอปัญหา เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาขุดเข้ามาในภูเขา
「งั้นทำไมนายโกรธเมื่อชาติแห่งไฟขุดเข้ามาในภูเขาล่ะ?」
「นั่นมันชัดเจน ถ้าชั้นคิดเกี่ยวกับพวกน่ากลัวพวกนั้นมาในภูเขา ชั้นกลัว เมื่อเราเจอพวกเค้าครั้งแรก ชั้นพยายามจะถาม ‘พวกนายทำอะไร?’ แต่……อ้อแอ้ไปเรื่องเกี่ยวกับการไม่ชอบความขัดแย้ง และถูกกีดกัน ชั้นดื่มเหล้าซักแก้วยังไม่ลงเลย」
ผมเข้าใจว่าเขารู้สึกยังไง ชาติแห่งไฟ ใช้ชีวิตอยู่อย่างแย่ๆและขาดอาหารและน้ำ ดังนั้น มีบรรยากาศน่ากลัวเกี่ยวกับพวกเขา มันช่วยไม่ได้เพราะวิถีชีวิตที่ยากลำบากของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่คุณอยากจะคุยด้วยนานๆ หรือใช่ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ผมดันแก้วเปล่า ไปข้างหน้าผม บัลบาโน่ดูตกใจเล็กน้อย แต่รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนหน้าของเขา ขณะที่เขาเติมแก้วด้วยเหล้า
「งั้นนายไม่ถือถ้าเราขุด?」
「อืม นายดูเหมือนจะเป็นชายที่น่าสนใจนิดหน่อย……」
บัลบาโน่ยืนขึ้นและจับขวานที่พิงกำแพงด้วยสองมือ
「ชั้นได้ยินมาว่ามนุษย์ผู้ชายมันแค่ยาวๆผอมๆและอ่อนแอ มันน่าเบื่อที่จะเผชิญหน้าคนพวกนั้น」
เขาถือขวานตรงหน้าของผม ผมจับมันด้วยมือเดียวแต่ขวานมันหนักเกินไปและมันหล่นลงที่พื้น
「มาดูว่าใครแข็งแรงกว่า ถ้านายชนะ นายขุดเหล็กหรือทำอะไรก็ได้」
เขาหยิบขวานอีกอันจากกำแพง และเหวี่ยงมันเหนือหัวของเขา
ผมห้ามซีเลียไม่ให้กระโดดใส่เขา และผมก็หยิบขวานด้วยสองมือ และถือมันขึ้นมา ผมไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร แต่มันหนักอย่างมหาศาล มันหนักกว่าหอกผมไปหลายเท่า
「งั้นนายก็ยกมันได้!」
เมื่อเห็นผมตั้งท่ายืนบัลบาโน่ตะโกนอย่างมีความสุข ผมแค่ต้องตีโดนเขาเพื่อที่จะชนะ ผมโอเคด้วยอะไรที่เข้าใจง่ายๆ
「อุโกกกกก้」
บัลบาโน่ตะโกนโดยการเอาลมออกจากตัวเขาและเหวี่ยงขวานลงมา ถ้าดูเป็นวิชาดาบ การเคลื่อนไหวนั้นมันช้าสุดขีด แต่ผมยังรับมันตรงๆด้วยกำลังทั้งหมดขอผม
เสียงคำรามที่ดังอย่างคาดไม่ถึง ปะทุขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวช้าๆ การเคลื่อนที่สองเราทั้งสองคนกระเด็นไปข้างหลัง ด้วยอาวุธที่หนักขนาดนี้ คุณจะถูกขยี้ถ้าคุณกันมันครึ่งๆกลางๆ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เร็วที่สุด
「ฟุนนนก้าาา!」
ใช้การหมนุนต่อจากการกระเด็น บัลบาโน่โจมตีอีกครั้ง หมุนตัวหนึ่งครั้ง และใช้แรงเหวี่ยงจากแกน ผมก็ไปเจอการโจมตีของเขาด้วยการเหวี่ยงเต็มกำลังของผม
เสียกกระแทกทื่อๆสะท้อนออกมาอีกครั้ง และผมรับการโจมตีของเขาสำเร็จ และแรงปะทะ ทำให้ผมถอยหลัง ผมสงสัยว่ามันนานเท่าไหรแล้ว ตั้งแต่ผมสามารถที่จะโจมตีแล้วโจมตีอีกในการต่อสู้ซึ่งหน้าแบบนี้
「ต่อไปเป็นตาชั้น」
ระยะระหว่างเราเพิ่มขึ้น ดังนั้นผมใช้กำลังจากการวิ่งเริ่มต้น เพื่อส่งแรงให้การเหวี่ยงลงของผม และเหวี่ยงอาวุธไปในแนวนอน อาวุธมันหนักและช้า แต่ยังมีพลังที่เพียงพออยู่หลังการโจมตี
「โอออ้ หนัก! มันหนัก!」
อย่างไรก็ตาม บัลบาโน่กันการโจมตีซึ่งหน้า โดยที่ไม่แม้แต่จะก้าวไปข้างหลัง ความสูงของเขาเกือบจะเท่าความสูงของซีเลีย แต่ในแง่ของน้ำหนัก เขาน่าจะหนักกว่าผม ด้วยตัวที่เตี้ยและขาสั้นๆ เขามีศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงที่มั่นคง มันเป็นครั้งแรก ที่ผมปะทะกับคู่ต่อสู้แบบนี้โดยใช้ขวาน
「น่าสนใจ!」
ผมมยกขวานด้วยทั้งสองมือ และถือมันด้วยกำลังทั้งหมด มันไม่ได้เหมือนว่ามันเป็นท่ายืนที่เต็มไปด้วยช่องเปิด แต่คู่ต่อสู้ไม่ได้ดูเหมือนจะมีเจตนาที่จะเอาเปรียบ และหันขวานเพื่อรอการป้องกันการโจมตี
「ก่ะะะ!」
「ฟู่นนน!」
แต่ละการโจมตี มีกำลังของทั้งตัวเขาอยู่ข้างหลังมัน ทำให้เกิดเสียงคำรามของการปะทะอีกครั้ง ไม่ใช่ทั้งบัลบาโน่หรือผม ที่ถอยจากจุดที่เรายืน และควันฝุ่น ขึ้นมาใต้แขนเรา เขียนภาพให้เห็นว่าแรงกระแทกมันทรงพลังแค่ไหน การกระแทกมันแรงมากจนมันพอที่จะให้กระดูกผมร้องและหน้าผมเบี้ยว แต่เขาก็กัดฟันของเขาคล้ายๆกัน เราเสมอกันในจุดนี้
「มันจะไม่สรุปแบบนี้」
「เดาว่าไม่」
การต่อสู้จะไม่ถูกตัดสินแบบนี้ จากใจ ผมฆ่าเขาได้ ผมเบี่ยงกำลังของเขาไปได้ และมีทักษะพอที่จะส่งให้หัวของเขาบินไป แต่นั่น จะไม่มีความหมาย เพราะนี่เป็นศึกแห่งกำลัง
ผมวางขวานลงตรงนั้นเลย ถ้ามันแค่วัดกำลังกัน มันมีวิธีที่ดีกว่า
「ชั้นเอาด้วย!」
เมื่อเดาว่าเจตนาผมคืออะไร บัลบาโน่ก็ทิ้งขวานเขาไว้ข้างหลัง และพุ่งเข้ามาหาผมด้วยมือเปล่า เราล็อคกันอย่างแน่นหนา และดันกัน ผมรู้อยู่แล้ว แต่คนนี้กล้ามหนักอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
ขาของผมไหลไปข้างหลังช้าๆ แต่เมื่อผมดันกลับไป ตัวของเขาลอยในอากาศ
「นนนุ!」
เขาแยกจากผมอย่างรวดเร็ว และโยนเสื้อออกจากท่อนบนของเขา ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมก็ทำเหมือนกันและถออดเกราะท่อนบน และทิ้งมันไปที่พื้น
โดยที่เปลือยครึ่งหนึง ทั้งสองเราประชิดระชะ และปะทะด้วยแรงส่งที่โหดร้าย มันมีเสียงตุ้บที่เข้มข้น เมื่อตัวของเราเข้าหากัน และผมได้การเย็นนิดหน่อย จากความรู้สึกของร่างกายที่เต็มไปด้วยขนของเขา แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องนั้น เราทั้งสองคนใส่ทั้งกายและวิญญาณเข้าไปในทุกการโจมตี แต่กำลังของเขาต่อต้านกัน และไม่มีเราซักคนที่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว มีแค่เหงื่อที่หยดลงจากตัวของเรา
「หัวกล้ามสองคนปะทะกัน……ร่างของชายมันเซ็กซี่จัง……ช่างมหัศจรรย์」
นั่นใครเมื่อกี้นี้? มันจะเบี่ยงความสนใจของผม
「อุกก้าาาาาา!」
บัลบาโนดูเหมือนจะคิดว่าเขาชนะ และปล่อยเสียงตะโกนอย่างดังออกไป ระหว่างที่ผลัก อย่างที่คาด ผมทนมันไมได้และผมถูกดันกลับไปอย่างช้าๆ
แต่มันยังไม่จม ผมใส่กำลังที่สะโพกของผมและรับน้ำหนักของเขาได้
ผมเหวี่ยงสะโพกบนสาวๆ ไปหลายต่อหลายพันครั้ง ทุกๆคืน ผมมั่นใจมากเกี่ยวกับกล้ามเนื้อสะโพกของผม มากว่าสิ่งใดๆ
「อุโอออออออออ้!」
「นายจะยกชั้นขึ้นเรอะ!?」
ช้าๆแต่แน่นอน กายของบัลบาโน่ลอยอยู่่ในอากาศ เขาน่าจะยังไม่เคยถูกยกมาก่อน หน้าของเขาย้อมไปด้วยความประหลาดใจ ผมจับแขนของเขา และใช้สะโพกของผมเพื่อยกตัวหนักๆของเขา จากนั้น ส่งเขาบินไปข้างหลังด้วยกำลังทั้งหมดของผม
「กุว้าาา!」
「เค้าโยนบัลบาโน่!」 「บัลบาโน่บินแล้ว!」 「มันสรุปแล้ว!」
ก่อนที่เราจะรู้ตัว ทั้งกลุ่มดวอร์ฟก่อตัวเป็นสังเวียนรอบๆเรา และดูการต่อสู้ ยังไงซะ ผมสงสัยว่านั่นโอเคมั้ย
ผมทำการยั้งมือไม่ได้ ดังนั้นผมโยนเขาไป ด้วยกำลังทั้งหมดของผม แต่มันอย่างที่คาดกับคนที่ทนทานเหมือนบัลบาโน่เขายืนขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าจะหลังจากกลิ้งไปที่พื้นและกระแทกกับกำแพง
「ชั้นแพ้!!」
เขาตะโกนด้วยเสียงที่แหบกร้าน ดวอร์ฟที่ล้อมรอบส่งเสียงเชียร์ ผมไม่เห็นความอิจฉาหรือความไม่พอใจในพวกเขาซักคน พวกเขาแค่มีความสุขกับการดูเราสู้กัน เพื่อจะดูว่าใครแข็งแรงกว่า
「มันเป็นนายที่ชนะ! เอ้าดื่ม!」
บัลบาโน่เทเหล้าเข้าไปในแก้ว ทีปรากฏว่ามันอย่างน้อยก็ใหญ่กว่าแก้วเดิมห้าเท่า และส่งมันให้ผม ระหว่างที่มันยังล้นไปด้วยเหล้า แต่เขาทำอย่างเดียวกันในแก้วที่ขนาดเท่าๆกัน และกินมันเหมือนเททิ้งในทันทีในท้ายที่สุด นายได้ดื่มไม่ว่านายจะชนะหรือแพ้เหรอ เอ๋
จากใจเลย เหล้านี้มันแรง และผมก็หมุนๆแล้วจากสองแก้วก่อนหน้านี้ แต่มันจะน่าเบื่อที่ผมจะปฏิเสธที่จะกินมัน
เมื่อผมดื่มเสร็จ เขาเติมแก้วผมอีกครั้ง ผมเลยหันไปเพื่อส่งต่อมันให้พวกพ้องของผมด้วย ถ้ากินมันมากไปกว่านี้ ผมจะสลบ และซีเลียกินไม่ได้อย่างแน่นอน เธอจะหลับจากจิบเดียว
「อย่าผลักดันตัวเองมากเกินไป……นี่ เกราะพ่อ」
ซีเลียที่ยื่นเกราะของผม มีหน้าที่แดง และชำเลืองมองที่นั่นที่นี่ และตรงนั้นมีกายท่อนบนที่เปลือยของผม แต่เธอสมควรจะชินกับการเห็นผมเปลือยแล้วนะ
「ช่างเป็นกล้ามที่น่าทึ่ง」
เลอาห์ก็จิ้มตัวที่เต็มไปด้วยเหงื่อของผมเบาๆ
「ฮ่าา ฮ่าา ชายมีเหงื่อ……ฮ่าห์! อย่าสนหนู」
นั่นมันหนูก่อนหน้านี้นี่ ใช่มั้ยแคลร์? หนูเกือบทำให้พี่แพ้แล้วนะ
「งั้นนี่หมายถึงอนุญาตให้เราขุดภูเขาแล้วใช่มั้ย?」
「แน่นอน นายเป็นคนที่น่าสนใจ และนายแข็งแรงด้วย มันจะดีกว่าอีกถ้านายเกิดเป็นดวอร์ฟและไม่ใช่มนุษย์」
「เพื่อนใหม่ของเรา!!」
หึ่งในดวอร์ฟตะโกนอย่างดัง ทุกคนถือแก้วเหลัาในมือหนึ่ง และดื่มมันทั้งหมดลงไปทีเดียว ถ้าผมมองอย่างระวัง มีดวอร์ฟหญิงและดวอร์ฟที่เหมือนเด็ก ที่กระเดือกเหล้าไปด้วย มันน่าจะถูกปฏิบัติเป็นอะไรที่แทนน้ำ
พูดถึงแล้ว ดวอร์ฟหญิงมันดูคล้ายๆกับชาย ซื้อพวกเธอดูเหมือนการบีบอัดของผู้หญิงปรกติ – ซืึ่งมันโอเค – แต่ผมรู้สึกว่าเธอมีค่าต่างออกไป เมื่อผมเห็นหนวดและขนหน้าอก ผมดีใจที่ผมพาซีเลียและเลอามากับผม
「ค้างคืนนะวันนี้ ข้างในภูเขาอาจจะไม่สบายสำหรับมนุษย์ แต่อย่างน้อยมันดีกว่าการนอนข้างนอก นายจะกินเหล้าแค่ไหนก็ได้ด้วย」
ผมไม่ต้องการเหล้า แต่ผมขอบคุณเตียงนุ่มๆที่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ ผมยินดียอมรับข้อเสนอและอยู่ค้างคืน
—————————————————————
ยามค่ำ
「ว่า……ไม่ใช่มันได้เวลาแล้วที่หนูจะสนใจเจ้านี่เหรอ?」
「แค่นานกว่านี้อีกนิด……หนูขอโทษ」
「หนูจะทำทุกอย่างทีหลังแค่อีกนิด……」
ซีเลียและเลอาห์จูบและถูแขนและอกผมซ้ำๆ เอ็นของผมและยืนเรียกร้องความสนใจไปแล้ว แต่พวกเธอยังไม่สัมผัสมันตอนนี้
「ช่างเป็นกล้ามเนื้อที่น่าทึ่ง……」
「หนูได้เท่าไหร่ก็ไม่พอเลย」
บางอย่างเข้าไปสู่พวกเธอหลังจากที่เห็นการต่อสู้ของผมกับบัลบาโน่ พวกเธอถูแขนและอกผม และถูแก้มของเธอเข้ากับผมด้วย ผมทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นถ้านี่มันนานไปกว่านี้ ผมจะทำพวกเธอด้วยกำลัง มันเป็นเวลานั้นเมื่อผมพลิกซีเลีย และคิดว่า ทั้งหมดที่ผมต้องทำ เพื่อที่จะให้ซีเลียศิโรราบกับผมคือกระแทกเอ็นของผมเข้าไปในเธอ
「เฮ้ เพื่อน ตื่นอยู่มั้ย?! บางอย่างแย่ๆเกิดขึ้น ได้โปรดตื่น」
บัลบาโน่รีบเข้ามาในห้องนอนโดยไม่เคาะประตู เพราะสองสาวร้องกรี้ดและปิดตัวเองด้วยผ้าห่ม ผมถูกทิ้งไว้ให้เปิเผยระหว่างที่เปลือย
「……มีอะไร?」
「แมลงดินหลุดมาอาละวาด ชั้นอยากจะยืมแรงของนาย เพื่อน ดังนั้นได้โปรด มาด้วย」
ผมไม่ได้เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันไม่ได้ดูเหมือนว่ามันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นทุกวัน ผมไม่มีทางเลือก นอกจากจะไป แต่เอ็นของผมมันแข็งเกินไป และมันเข้าไปในเสื้อผ้าไม่ได้ ถ้าซีเลียหรือเลอาห์ใช้ปากของเธอล่ะ……
「เพื่อน……เอ็นของนายยค่อนข้างใหญ่ ของชั้นก็ด้วย แต่มันไม่เหมือนแบบนั้นเลย」
บางทีเขาก็เพิ่งตื่น แต่บัลบาโน่ก็เปลือยครึ่งหนึ่งขณะที่เขาพยักหน้าระหว่างที่พูดอย่างนั้น ทันทีเลยที่ผมรู้สึกว่าเอ็นของผมเปลี้ยทันที และผมใส่เข้าไปในเสื้อผ้าโดยไม่มีปัญหาอะไร
—————————————————————
「งั้น บอกรายละเอียดให้ชั้น เกิดอะไรขึ้น?」
ซีเลีย และทั้งหน่วยคุ้มกัน ที่ใส่เกราะเต็มที่แล้ว รวมกันอยู่ข้างผม เลอาห์ อดอล์ฟ และแคลร์ถูกปกป้องโดยดวอร์ฟในห้องปลอดภัย
「แม้ว่านายจะบอกว่าแมลงดิน ชั้นไม่เข้าใจ」
「นายจะเข้าใจถ้านายมา」
บัลบาโน่พูดอย่างนั้นและเดินหน้าลึกเข้าไปในภูเขา เขาถือขวานที่เขาใช้ เมื่อเราวัดพลังกันที่หลังของเขา มันค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะแม้ว่าจะด้วยน้ำหนักของมัน เขาแบกมันไปด้วยได้และเดินได้ง่ายๆ
ขณะที่ผมมองดูหลังดวอร์ฟที่แข็งแรง เดินหน้าไปสู่ทางที่คดเคี้ยว เพดานขยับ
「มันเป็นแมลงดิน!」
บัลบาโน่ตะโกน และผมแทงหอกได้เร็วกว่าที่เขาจะยกขวานขึ้นมาได้ สิ่งนั้นมันส่งเสียงแหลมที่ไม่น่าพึงพอใจ ที่ไม่ได้คล้ายอะไรเลยทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์ จากนั้นลงสู่พื้นด้วยเสียงแปะ
「มันเป็น……แมงมุม? ใหญ่เป็นพิเศษ」
「มันดูเป็นอย่านั้น」
รูปทรงของนั้นมันคล้ายกับแมงมุมมาก ที่เราคุ้นชินในการเห็นมันที่ปรกติจะอยู่กับกำแพง และทำให้เจ้าของที่ดินกลัว แต่ขนาดของมันไม่ปรกติเลย และมันอาจจะใหญ่เท่ามนุษย์ถ้าคุณนับรวมขาของมัน ถ้าเป็นแบบนี้ มันจะสามารถกัดหัวบางคนเหมือนซีเลียหลุดไปได้
「นุนนนน!」
แมลงตกสู่พื้นตามมา โดยขวานของบัลบาโน่ แมงมุมตัวใหญ่ กระจายเป็นชิ้นๆด้วยการโจมตีของขวานหนักทีเดียว น้ำสีเขียวกะจายไปทุกที่ ผลของมันคือกลิ่นที่เหม็นลอยอยู่ในอากาศ
「มันมีอยู่ตรงนี้ตัวนึงด้วย!」
ซีเลียเจอแมงมุมคลานบนเพดาน และโยนมีดใส่มัน เธอสามารถจะปาโดนตัวมัน ด้วยความแม่นยำที่ตรงเป้า แต่มันไม่เพียงพอที่จะจบชีวิตเจ้าสิ่งนี้
「จัดการมัน!!」
ทหารสามคนจากหน่วยคุ้มกัน แทงเจ้าสิ่งนั้นด้วยหอก ตามๆกันทีละคน และทำมันร่วงลงสู่พื้น หลังจากฟันมันหลายครั้ง ในที่สุดมันก็ตาย
สิ่งเดียวที่แมงมุมเหล่านี้มีในตัว คือขนาดของมัน แต่มันยังใช้เวลาเพื่อที่จะจบชีวิตมัน และบนเรื่องนั้น กำแพงอุโมงค์อนุญาติให้แมงมุมไต่ขึ้นและลง ซ้ายและขวา ทำให้เราต้องไล่มันไปทั่ว สภาพแวดล้อมนี้มันแย่กว่าที่เราจะสู้กับมันในนั้น
「มันมีเจ้าพวกนี้อีกกี่ตัวกัน?」
「มากกว่านี้เยอะๆเลย! เราต้องผนึกรูที่มันหลุดออกมา……」
มันดูเหมือนบัลบาโน่รู้สึกถึงความรีบ เขเริ่มวิ่งเหยาะๆเข้าไปในอุโมงค์ มันอาจจะสายเกินไปที่จะมาเพิ่งสังเกต แต่ขาสั้นๆของเขา มันทำให้ดูเหมือนมีแต่ท่อนบนของเขาที่มันขยับได้ และมันค่อนข้างที่จะเป็นเรื่อตลก
เมื่อเราผ่านอุโมงค์ เราไปถึงห้องที่ร้อนและแออัด เตาเผาหลายเตา เผาไหม้อย่างร้อนระอุ นี่ต้องเป็นที่ที่ดวอร์ฟใช้หลอมเหล็ก
แต่ตอนนี้้ เสียงที่ผมได้ยิน ไม่ใช่เสียงปรกติของช่างตีเหล็ก แต่เป็นเสียงของการต่อสู้ มันมีแมงมุมจำนวนมาก คืบคลานอยู่บนกำแพงและเพดาน ทำให้เหล่าดวอร์ฟ หยิบค้อนและขวานเพื่อสู้กับพวกมัน
「เพื่อน ชั้นหวังพึ่งนายนะ!」
เข้าไม่ได้จำเป็นต้องบอกผม; มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะสู้ เราจะสื่อสารกับแมงมุมก็ไม่ได้ด้วย
「หน่วยคุ้มกัน แถววงกลม พวกมันมาจากทุกทิศทาง อย่ามองข้ามเพดาน」
เมื่อพูดนั่นแล้ว ผมกวัดแกว่งหอกของผม และพุ่งเข้าตี แทงข้างแมงมุม ที่มันเข้าหาดวอร์ฟ และยืดขาหน้าของมัน และเหวี่ยงมันไปรอบๆ ก่อนจะโยนมันทิ้งไป
ผมตีแมงมุมอีกตัวให้กระเด็นไป ที่มันหล่นลงมาบนผมด้วยด้ามจับ และกระแทกมันใส่กำแพง อีกตัวที่ดึงตัวมันกลับไปก่อนที่จะพุ่งใส่ผม ถูกผมแทงจากข้างบน และหยุดมันใส่พื้น ก่อนที่ผมจะกระทืบใส่ที่ที่ดูเหมือนหัวมัน
ในท้ายที่สุด มันไม่มีอะไรเลยนอกจากแมงมุม; มันไม่ได้แข็ง แต่มันเคลื่อนไหวอย่ารวดเร็ว และไม่เป็นรูปแบบ แต่อาวุธของเหล่าดวอร์ฟ – ค้อนและขวานใหญ่ – ไม่ได้เหมาะกับแมงมุมเอาเสียเลย
「กุ่อ้า!」
หนึ่งในดวอร์ฟใกล้ๆผม ดูเหมือนจะถูกกัดและจับแขนของเขา ผมเหวี่ยงหอกจากด้านล่าง เพื่อที่จะทำให้แมงมุมกระเด็นไป และแมงมุมตัวนั้น มันเข้ามาโจมตีอีกครั้ง และจากนั้นผมแยกมันเป็นสองชิ้นกลางอากาศ
「โอเคมั้ย?」
「น-นี่มัน้น……ออุ กุกุกุกุกกุ……」
ตัวแผลเองมันดูเหมือนมันไปถึงเนื้อของเขา แต่ชายเริ่มฟองออกปาก และสลบไปในความทุกข์ทรมาน
「ระวังนะ พวกมันมีพิษ!!」
บัลบาโน่ตะโกน นายควรจะพูดเรื่องแบบนั้นล่วงหน้านะ
「ซีเลีย อย่าบาดเจ็บนะ ระวังด้วย!!」
「ค่ะท่าน!」
ซีเลียม้วนผ้าคลุมใต้ต้นขา และนำดาบสั้นของเธอออกมา เหวี่ยงมันไปร้อบๆดั่งเธอเต้นรำ มันยากที่จะฆ่ามันในทีเดียว แต่ถ้าเธอเล็งไปที่แมงมุมที่ห้อยอยู่บนเพดาน และทำให้มันตกสู่พื้นได้ เพื่อที่จะมันจะถูกฟันได้ มันจะทำให้สิ่งต่างๆมันง่ายขึ้นกว่านี้อีกนิด
「ระวัง!!」
มีสองตัวอยู่ทางขวา และตัวหนึ่งทางซ้าย และตัวหนึ่งจากข้างหลัง ดั่งจะทำให้จังหวะเวลาพร้อมกัน พวกมันทั้งหมดกระโดดพร้อมกัน แต่ผมจะขอบบคุณที่มันทำเช่นนั้น
「ฟู่นนน!!」
หลังจากผมกลั้นหายใจ ผมหายใจออกทั้งหมดทีเดียว และเหวี่ยงหอกไปรอบๆผมทั้งหมด ผมได้ยินเสียงของเนื้อนิ่มๆมันโดนฟันได้ และแมงมุมใหญ่ทั้งหมดสี่ตัวกระเด็นไปในทันที พวกมันสามตัว ไปชนกับกำแพงและถูกขยี้ ตัวสุดท้าย กระเด็นเข้าไปในเตาเผา และส่งเสียงร้องแห่งความตายออกมาที่มันทนไม่ได้กับหูผม
「มันจบแล้วมั้ย!?」
ผมคำรามหลังจากที่ผมเหวี่ยงหอกลง ด้วยกำลังทั้งหมด ลงไปมนแมงมุมที่ไม่ขยับ และขยี้มันเป็นชิ้นๆ น้ำจากแมงมุมนั้นน่าขยะแขยง แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าของเสียจากมนุษย์
ดวอร์ฟที่รายล้อม ก็โห่ร้องออกมา ดูเหมือนจะได้กำลังใจกลับมา ขณะที่พวกเขาจบชีวิตแมงมุมทีละตัวตามๆกัน คนที่โดนพิษถูกลากไปที่ข้างหลังและเทเหล้าใส่ปาก พวกเขาใช้เหล้าสำหรับทุกอย่างเลย ไม่ใช่เหรอ
「มันไม่จบเลย เราควรทำยังไง?」
「รูที่พวกมันออกมา ควรจะอยู่ลึกเข้าไปอีก! ถ้ำที่มันทรุดอาจจะเชื่อมกับนรกนี้」
ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าอะไรเกิดขึ้น แต่มันอยู่ข้างหน้า ใช่มั้ย? ถ้าพิษมันเพียงพอที่จะให้ดวอร์ฟตัวหนาๆสลบไป แบบนั้นแน่นอนว่ามันจะแย่ ถ้าซีเลียได้รับบาดเจ็บ ผมต้องจัดการกับเรื่องนี้โดยเร็ว
—————————————————————
ด้วยการนำทางของบัลบาโน่ เรามุ่งหน้าลึกเข้าไป และมาเหมือนที่ที่เหมือนพลาซ่า ที่มีเพดานสูงเล้กน้อย แต่มันมีรูอยู่ตรงกลางห้อง และส่วนใหญ่ของห้องเต็มไปด้วยรู ก้นรูมันดำสนิท และผมบอกไม่ได้ว่าพวกมันอยู่กันเท่าไหร่ในนั้น
「มันอยู่ที่นี่มั้ย ……? รูนี้มนเปิดไปถึงนรกเลย!」
พร้อมเสียงขยุกขยิกที่น่าขยะแขยงจากในรู แมงมุมตัวใหญ่ไต่ออกมา
「เราควรทำยังไง? เราควรจะโยนไฟเขาไปในนั้นมั้ย?」
「รูนรกนี่มันใหญ่ มันจะไร้ความหมายถ้าเราทำอย่างนั้น……เราต้องปิดรู……」
แทงแมงมุมที่ไต้ขึ้นมา และโยนมันกลับเข้าไปในรู บัลบาโน่มุ่งหน้าไปข้างหน้าของผม ซีเลียตัดขาหน้าสองขาของแมงมุมหนึ่งตัวที่หันกลับไป และแทงหัวมันด้วยดาบของเธอ รีบเข้า ซีเลียจะได้รับบาดเจ็บแล้ว
「โอเค…… ทางนี้…… โอ้ ไม่!!」
เมื่อผมคิดว่าบัลบาโน่เจอบางอย่าง เขามาหาผมด้วยขาสั้นๆ และถูกส่งบินไป
ได้ความรู้สึกที่แย่ ผมจับซีเลียและม้วนลังกาหลัง ทันทีต่อมา บางอย่างแปลกๆออกมาจากรู และแทงหนึ่งในทหารของหน่วยคุ้มกัน
「โก่ะบั่วววะ!!」
ทหารที่น่าสงสารไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น และถูกแทงทะลุเกราะ และลากลงไปในรู
「เจ้านั่น……โอ้ไม่」
ผมรู้ตัวตนของสิ่งที่ไม่รู้จักนั้นทันที ซึ่งมันเป็นขาแมงมุมยัก……บางอย่างที่เทียบไม่ได้เลยกับแมงมุมใหญ่ที่เราเห็นมาจนถึงจุดนี้ แมงมุมมโหฬารนี้มันใหญ่ได้ถึง 5 ม.
「นนนนุ……」
「นี่มัน……」
ซีเลียและบัลบาโน่ดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก จากการดูผ่านๆ มันไม่ได้เหมือนว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่มนุษย์เอาชนะได้ เพื่อที่เราจะกำจัดมันได้ เราต้องการที่เปิดและกองทัพ
「ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องความสบาย」
ถ้าผมปล่อยบางอย่างแบบนี้เลยผมไป ดวอร์ฟจะถูกกวาดล้างในทันที และเลอาห์และคนอื่นๆจะอยู่ในอันตราย ผมไม่มีทางเลือกนอกจากจะปลิดชีวิตมันที่นี่
ผมมุ่งมั่นตัวเอง และตั้งท่ายืนด้วยหอกของผม อาวุธของผมดูเหมือนจะเล็ก ที่ 3 เมตร เมื่อเทียบกับเจ้าตัวใหญ่นั่น
「นายทำมันได้มั้ย!?」
「ชั้นต้องลอง」
หลังจากพูดอย่างนั้น ผมพุ่งเข้าตีไปข้างหน้า และเหวี่ยงไปที่ขาหน้าของแมงมุม ผมรู้สึกไปถึงแรงกระแทก แต่ขนาดที่ใหญ่ของมันไม่ให้ผมแยกมันเป็นสองส่วน ในพริบตา ขานับไม่ถ้วนมาใส่ผม แต่ผมกันการโจมตีสองครั้ง และหลบที่เหลือ
ปลายของขาที่ผมหลบ เหวี่ยงลงมาที่ผมอีกครั้ง แต่เมื่ออผมลังกาออกกจากทาง เขี้ยวมันพุ่งมาใส่ผมต่อ
「จึ!」
ผมฟันหัวมันด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง แต่เพราะมันไม่ได้มีแรงหลังการโจมตีนั้นมาก มันไกลจากบาดแผลถึงตาย เจ้าสิ่งนี้มันน่ารำคาญ
เพราะทั้งหมดมันเป็นศัตรูที่มีแปดขา มันใช้สีขาเพื่อยกตัวมันน ระหว่างที่ใช้ทีเหลือสี่ขาเพื่อโจมตี กับผม ที่มีหอกเพียงหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า การโจมตีของมัน สร้างแผลถึงตายได้ผ่านเกราะ เพราะมันเพิ่งพิสูจน์ด้วยลูกน้องของผมไป ถ้าผมมีอาวุธอีกซักอย่าง
「บัลบาโน่ เอาขวานให้ชั้นยืม」
「ขวาน? ……ได้เลย」
เมื่อเห็นว่าผมไม่มีที่จะหายใจ เขาไม่ได้ถามอะไรอย่างอื่น และโยนขวานยักษ์มา ของที่หนักตกลงไปที่พื้น และทำเสียงตุ้บทื่อๆ
「เอาละนะ เจ้ามอนสเตอร์」
ผมเปลี่ยนเป็นถือหอกด้วยมือซ้าย และถือขวานด้วยมือขวา หอกผมก็หนักแล้ว แต่ขวานมันหนักมากเกินสองเท่าเข้าไปอีก มันเหนื่อยที่จะถือแต่ละชิ้นด้วยแค่มือเดียว แต่ไม่เหมือนเมื่อเวลาที่บัลบาโน่และผมวัดพลังกัน ชีวิตผมมาเสี่ยงอยู่ตรงนี้ นอกจากน้ จำนวนน้ำหนักขนาดนี้ควรจะพอที่จะจบชีวิตตัวนี้
ผมรีบเข้าไปด้วยหอกใหญ่และขวาน ผมหลบขาหน้าที่เหวี่ยงมาของมันโดยไม่โดนโจมตี และเหวี่ยงขวานด้วยกำลังทั้งหมดไปที่ขาหนึ่งที่มันอยู่กับที่ ด้วยเสียงบดขยี้ ที่คล้ายกับเมื่อท่อนซุงฉีก หนึ่งในขาของมันฉีกออก
「นั่นหนึ่งแล้ว!」
ผมเข้าหาแมงมุมยักษ์ที่ร้องเสียงแหลมมากเข้าไปอีก ขณะที่ผมปัดป้องขาที่โจมตี ผมสกัดกั้นอีกขาหนึ่ง โดยการเหวี่ยงลงจากเหนือหัวด้วยขวานของผม แต่เพราะท่ายืนผมไม่ค่อยดี มันขุดลงไปในขาครึ่งทางและหยุด แต่ผมยังไมจบ ผมตีขวานด้วยหอกของผม และตัดผ่านขามั้นด้วยกำลัง
「นั่นสอง!」
อย่างไรก็ตาม มันเป็นตอนนั้น ที่ขาที่เหลือสองขามันโจมตีผมในเวลาเดียวกัน และแม้ว่าผมสกัดกั้น และกันมันด้วยอาวุธผมยังกระเด็นถอยหลังไป ผมกระแทกเข้ากับกำแพง และผมรู้สึกว่าลมถูกกระแทกออกจากตัวผม
「เอเกอร์-ซาม้าา!!」
ซีเลีย ปาดาบ แทนที่จะเป็นมีด แต่หนังหนาเลี่ยงมันจากการที่จะถูกแทง หนูควรจะเป็นเด็กดีและรอ ผมไม่ตายหรอก
ขาเหวี่ยงวงมาเพื่อจบชีวิตผม แต่ผมใช้ขวานเพื่อฟันฉีกขาแนวตั้ง จากนั้นปล่อยให้ขาสุดท้ายเหวี่ยงและพลาดไป ก่อนที่จะจับมันด้วยมือเปล่า และบีบ ขาที่เต็มไปด้วยขน ควรจะเป็นความรู้สึกที่ไม่น่าพึงพอใจเลย แต่ผมเริ่มชินกับมัน อย่างไรก็ไม่รู้
「โออออออ้!!」
ระหว่าที่จับขา ผมบิดตัวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับข้อต่อ และหักมันด้วยเสียงกรอบๆเปียกๆ
「นั่นสี่! มันจบแล้วมั้ย!?」
แต่แมงมุมยักษ์หันมาหาผม ระหว่างที่ดิ้นอยู่ในความเจ็บปวด และใช้ทั้งหมดของความพยายามของมันเพื่อพุ่งมาข้างหน้า มันใช้เขี้ยวแทนขาตอนนี้……ผม อาจจะต้องขยี้ทั้งตัวของมันแล้วถ้าแบบนี้
「แต่นั่นโอเคนะ ใบมีดชั้นไปถึงแกถ้าแบบนั้น」
มันใหญ่มาก จนผมโจมตีอะไรไม่ได้เลย นอกจากขามันถ้ามันยืนอยู่ แต่ตอนนี้เขี้ยวมันถูกใช้ และหัวมันควรจะเข้าใกล้ด้วย มาสรุปเรื่องนี้เถอะ
ผมโยนหอกไปที่ศัตรูที่พุ่งเข้ามา เพื่อที่จะโจมตีมันก่อน หอกโดนเป้าหมายคร่าวๆ และติดคาหัวของแมงมุม แต่เพราะกระดูกแมลงที่แข็งของมัน มันไม่เจาะทะลุเข้าไปตลอดทางและมันไม่ได้เป็นแผลถึงชีวิต แต่นั่นโอเค
หอกแทงอยู่ที่ระหว่างตาของมัน ทำให้ศัตรูหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ และมันอนุญาตให้ผมวิ่งและเอาตัวกระแทกมัน มันจะไร้ว่าหมาย ถ้าผมไปกระแทกใส่ตัวมัน ดังนั้นผมเลยเล็งไปเพื่อจะกระแทกด้ามหอกที่ยื่นออกมา ครึ่งหนึ่งของหอก 3 เมตรฝังเข้าไปในหัวของแมงมุม ตามมาด้วยเสียงแหลมแสบแก้วหู แมงมุมยักษ์ดิ้นในความเจ็บปวด แต่มันยังไม่จบ
ผมปล่อยหอก และเหวี่ยงขวานใหญ่ด้วยสองมือ
ผมสูดหายใจลึกๆก่อนที่จะกระโดด และเหวี่ยงอาวุธผมลง ด้วยกำลังที่เต็มที่ของตัวผม ลงไปบนหัวของแมงมุม
เสียงกรีดร้องที่แปลกประหลาดที่ดังก้องในถ้ำ หยุดกระทันหันแต่ตัวใหญ่ๆของมันทรุดไปที่พื้นอย่างช้าๆ หัวของมันเปิดแยกออก และน้ำสีเขียวท่วมล้นออกมา หมดกำลัง แมงมุมยักษ์ไหลกลับไปที่ก้นรู
โอ้เวร มันเอาหอกผมไปด้วยตามตัวมันไป ผมชอบหอกนั้นด้วยสิ
ความเงียบห้อมล้อมทุกคนรอบๆผม ไม่มีทั้งบัลบาโน่ ทั้งซีเลีย ทั้งหน่วยคุ้มกันคนไหนๆ เอ่ยคำใดออกมา แต่เรายังไม่ได้แม้แต่ควบคุมสถานการณ์เลยนะ
「จะรีบทำอะไรเกี่ยวกับรูมั้ย ถ้ามีตัวเหมือนกันขึ้นมาอีก ชั้นก็จะหนีแล้วนะ」
คำพูดของผม พาพวกเขากลับมาสู่ความเป็นจริง และบัลบาโน่รีบไปข้างหน้า เขาถึงขวานใหญ่ ซึ่งมันจะดูเหมือนค้อนมากกว่า
「รอยแยกนี้……มันอยู่ที่นี่มั้ย?!」
บัลบาโน่กระโดดอย่างมีทักษะ ด้วยขาสั้นๆของเขา และตีจุดหนึ่งของเพดานด้วยค้อนของเขา เมื่อเขาทำเชนนั้น หินเริ่มแยกและกระจาย และเสี้ยวหินเริ่มตกมาจากบนหัว
「ชั้นจะถล่มห้องนี้ ไปข้างนอก!」
ทุกคนรีบออกไปข้างนอกห้อง และเพดานพังลงมาในทันทีเดียวกัน พร้อมด้วยหินนับไม่ถ้วยที่ลงไปเติมเต็มรู การถล่มดำเนินต่อไปซักพัก จนกว่าในที่สุด ห้องถูกฝังทั้งหมดในหินและดิน
—————————————————————
「รูมันปิดไปแล้ว……ทั้งหมดที่เราต้องทำ คือแปะบางอย่างเพื่อทำให้มันแน่น และเราจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีกแล้ว」
「นั่นเป็นที่สำคัญที่สุด ชั้นเหนื่อยมาก」
ผมยืดแขนและขา และให้ซีเลียถอดเกราะ และเธอตรวจดูอย่างเต็มที่เพื่อที่จะดูว่าผมบาดเจ็บตรงไหนมั้ย ได้เหล้ามาหน่อยก็ดีตอนนี้
「งั้น สุดท้ายน่ะ เจ้านั่นมันตัวอะไร?」
ผมรู้สึกเหมือนอยากจะขี้เกียจ จนกว่าซีเลียจะตรวจเสร็จ
「ในส่วนลึกของภูเขา……มันมีนรกลึกกว่าอุโมงค์ที่เราขุด นรกนั่นมันแพร่ไปอย่างไม่สิ้นสุดอยู่ใต้ดิน ที่ทั้งบริเวณมันเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ไม่รู้จัก」
เขาเพิ่มเติมไปว่า มันไม่มีใครซักคนที่กลับมาหลังจากทที่เห็นมัน
「มันมีกรณีหายาก ที่รูที่มันนำไปสู่นรกนั้น มันจบที่การมาเชื่อมกับอุโมงเรา แต่ถึงอย่างไร นรกมันลึก และมอนสเตอร์ไม่ควรจะไต่ขึ้นมาได้ง่ายๆ……」
「แต่แมงมุมมันไต่ขึ้นมาได้นะ」
「เพื่อน มันจะเป็นภัยพิบัติที่ย่ำแย่ ถ้านายไม่ได้อยู่ที่นี่ ดวอร์ฟนี่นี่ทั้งหมดอาจจะถูกฆ่า」
「นั่นเป็นโชคชะตา」
ผมไม่ได้เสี่ยงชีวิตไว้บนเส้นด้ายเพราะพวกเขา ผมมีเจตนาที่จะปกป้องซีเลียและคนอื่นๆ แต่ผลที่ออกมามันเหมือนกัน
ซีเลียดูแลผมเสร็จ หลังจากเธอยืนยันว่าไม่มีแผลใหญ่ๆ ผมใส่เสื้อผ้า นอกจากทหารคนเดียวที่ตายไป หน่วยคุ้มกันไม่ได้รับการบาดเจ็บใหญ่ๆด้วยเช่นกัน
「คนที่ตายก่อนหน้านี้มีครอบครัวมั้ย?」
「มี」
ผมจำได้ว่าเห็นเมียของเขามาส่ง
บัลบาโน่ลดหัวของเขา
「บางอย่างที่ย่ำแย่เกิดขึ้้น เนื่องจากความไม่เหมาะสมของชั้น ชั้นจะแก้ไข」
นี่ก็เป็นโชคชะตาด้วย อีกเก้าคนยังมีชีวิตอยู่ มันแค่หมายถึงว่าเขาโชคร้าย
「นายก็เสียหอกไปด้วยนี่」
「ใช่……」
ถ้านั่นเป็นแอ่งคู่ นนน่าจะร้องไห้สะอึกสะอื้น ในแง่หนึ่ง ผมยังค่อนข้างที่จะโชคดี
บัลบาโน่ยืนขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ขาของเขาสั้น ความสูงเขาเลยไม่เปลี่ยนไปมาก
「ได้เลย! ดวอร์ฟจะสร้างอาวุธใหม่ให้นาย เพื่อน! อยากได้อะไร? ขวาน? ค้อนศึก?」
「ไม่ หอกโอเคแล้ว เพราะทั้งหมดชั้นไม่ได้ไปเจอมอนสเตอร์ทุกครั้ง」
ขวานของพวกเขามันหนักเกินไป ที่จะใช้มันกับคู่ต่อสู้ที่เป็นมนุษย์
「เข้าใจแล้ว……ชั้นเข้าใจ เมื่อไหร่ที่นายจะมาที่นี่อีกครั้ง?」
มันจะเป็นหลังจากที่ผมไปที่ชาติภูเขา
「ชั้นไม่รู้วันที่แน่นอน แต่ชั้นจะมาในอาทิตย์นึง」
「ไปรอบ*นึงเรอะ? นายจะไปรอบๆไหน」
TLN: ‘อาทิตย์’ กับ ‘บริเวณรอบๆ’ เสียงคล้ายๆกันในภาษาญี่ปุ่น
「……ประมาณเวลาที่นายกิน 20 มื้อ」
「ได้เลย เราจะเตรียมมันให้พร้อมสำหรับนาย ถ้างั้น」
บัลบาโน่กระแทกอกสมชายของเขาด้วยกำหมัด
「ให้มันทนที่สุดเท่าที่ทำได้ และชั้นไม่สนเกี่ยวกับลายละเอียด หรือการตกแต่งอะไรที่ไม่ธรรมดา」
มันจะเป็นเหมือนหอกเพชร ที่ผมได้รับมาจากราชาไม่นานมานี้ ผมลองเหวี่ยงมันด้วยความสงสัย แต่มันงอเล็กน้อย ถ้าผมงอมันในทิศทางตรงกับข้าม จะไม่มีใครรู้
「ดวอร์ฟสร้างแค่อะไรที่ทนๆ ทนและหนัก」
นั่นแนวทางผมเลย ผมรอคอยมัน
—————————————————————
「งั้นมาจบนี่โดยเร็ว เพื่อฉลองการขับไล่เจ้าสิ่งนั้นออกไป มากินเหล้าเป็นถังๆกัน!!」
「โออออออ้!!」 「แก่เพื่อนใหม่ของเรา!」 「แก่เพื่อนที่แแข็งแรงของเรา!!」
หลังจากที่ขับไล่แมงมุมที่แอบออกมาจากรู เหล่าดวอร์ฟนำหม้อเหล็กที่เต็มไปด้วยเหล้ามา และงานฉลองที่ยิ่งใหญ่ก็เริ่มต้นขึ้น
「เอาเหล้าให้คนบาดเจ็บ!」 「ให้คนที่โดนพิษดื่มเหล้า!」 「ดื่มฉลองชัยชนะกันเถอะ!」
งานฉลองที่ใหญ่ดำเนินต่อไปทั้งคืน; ซีเลียสลบไปแค่จากกลิ่น และเลอาห์ล้มหลับจากที่จิบไปหนึ่งครั้ง อดอล์ฟดื่มเหล้าไปแก้วหนึ่ง จากนั้นซีดและอ้วกที่มุมห้อง
นี่มันค่อนข้างจะไร้สาระ แต่ผมชอบที่มันจะมีชีวิตชีวามากกว่า ผมรู้สึกเสียใจ กับทหารที่ตายไป แต่แม้ว่าเราจะทำตัวหดหู่ มันไม่เหมือนเขาจะกลับมามีชีวิต
「เพื่อนมนุษย์ชั้น ชั้นได้ยินมาว่านายเป็นชายที่รักหญิง」
ทันใดที่กระทันหัน หนึ่งในดวอร์ฟคุยกับผมระหว่างที่ถือเหล้าในหนึ่งมือ ผมสงสัยว่ามีอะไร
「มันเป็นยังไง เธอเป็นหม้ายและต้องการจะอยู่กับผู้ชาย อยากจะมีความสุขกับเธอซักคืนมั้ย??」
คนนั้นที่นายพามากับนาย……ผู้หญิงเหรอ? เธอจ้องผมอย่างเร่าร้อนเล็กน้อย
「หญิงดวอร์ฟนั้นก็ดีด้วย ไม่เหมือนมนุษย์ เนื้อพวกเธอแน่นหากัน และพวกเธอหนัก」
มันแปลกที่การหนักจะถูกชมสำหรับผู้หญิง ผมเดาว่ามันความต่างใหญ่ระหว่างวัฒนธรรม เพราะแม่หม้ายนี้ มีขนตัวที่ค่อนของหนา มันค่อนข้างเป็นร่างกายที่เหลือเชื่อ ถ้าอิริจิน่าบีบอัดแนวตั้ง และมีขนเยอะๆ เธอจะดูเป็นแบบนี้มั้ย? บางที่เพราะมันจากเหล้าเข้มๆ ผมก็รู้สึกว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่สดใหม่
「ใช้ห้องตรงนั้น」
ชายชี้นิ้วและยิ้ม จากนั้นผมรับผู้หญิงที่มือ และเข้าห้องไป
—————————————————————
วันต่อมา ผู้หญิงที่หนักใช้แขนของผมเป็นหมอน และนอนพร้อมหน้าที่แดง
ขนหน้าอกของเธอโดนผม……มันรู้สึกเหมือนตั้งแต่ผมาที่นี่ ผมมีความผูกพันบางอย่างกับขนเยอะๆพวกนี้
—————————————————————
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูหนาว
สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา
กองทัพที่ บัญชาการ: กองทัพส่วนตัว – หน่วยคุ้มกัน: 50, อื่นๆ: ยังจัดระเบียบอยู่
สินทรัพย์: 9000 ทอง (แรงงาน -100)
หนี้: 20 000 ทอง
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกใหญ่
ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อยที่ท้อง), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คนรักที่ท้อง), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), แคทเธอรีน (คนรัก), ไมล่า (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสเซ็กส์), โยกุริ (หมกตัวอยู่บ้าน), เคซี่ (ผี), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), มิตตี้ (คนรัก), อัลม่า, ครอลล์
เดินทางของเธอเอง: ปีปี้ (ผู้ติดดตาม), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่า)
ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ (ลูกชาย), คู, รู, โรส (บุญธรรม)
ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวาร์ซ (ม้า)
คู่นอน: 89, เด็กที่เกิดแล้ว: 9
—————————————————————
เป้าหมายเดือน 8/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 1208/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook