ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 123 ท่านหญิงกระโดด
123 ท่านหญิงกระโดด
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
เมืองหลวง: โกลโดเนีย วังหลวง ห้องโถงรับรอง
「สุภาพบุรุษ มันยังไม่นานเกินไป ตั้งแต่ชัยชนะสุดท้าย แต่เราเอ่ยไม่ได้ว่าศัตรูของโกลโดเนียทั้งหมดนั้น ได้ถูกกวาดล้างไปหมดสิ้นแล้ว ฉันได้คาดหวังความภักดีและการอุทิศตนที่ยิ่งๆขึ้นไปของพวกเจ้า สุภาพบุรุษ」
ห้องโถงรับรองใหญ่ ที่ใหม่นี้ได้ถูกสร้างด้วยหิน นอกจากวังหลวงแล้ว มันถูกสร้างไว้สำหรับงานเต้นรำ ที่จะใช้ต้อนรับแขกของรัฐ หรือสำหรับการรวมตัวกันของขุนนางแบบนี้ มันเป็นทางหนึ่งสำหรับประเทศใหญ่ๆ ที่จะแสดงออกอย่างโอ้อวด
「พวกเจ้ามากมาย ได้รับดินแดนจากชัยชนะด้วยเช่นกัน มันเป็นเช่นนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญ นั้นเพราะดินแดน สุดท้ายแล้วนั้น อยู่ในความปกป้องของตระกูลราชวงศ์……」
การพูดของราชา ดำเนินต่อไปต่อหน้าทุกคน ถ้าคนทั้งหมดที่เรียงรายกันที่นี่เป็นขุนนาง จะไม่ได้มีความหมายมากมาย ในการได้รับความเป็นขุนนาง ผมหาวครั้งใหญ่อย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมซ่อนข้างหลังขุนนางที่ขยุกขยิกอยยู่ ดังนั้น ผมไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพบ
「เห้อ พี่นี่เป็นคนไม่จริงจังเลยนะ ไม่ใช่เหรอ」
ไมล่าที่ยืนอยู่ข้างผม ตำหนิผมในเสียงเบาๆ และกระแทกไหล่ของเธอเข้ากับผม เพื่อตอบแทนที่เธอทำ ผมขยำก้นเธอ แต่เธอหยิกมือของผม ถ้ามันเป็นซีเลียล่ะก็ เธอจะยอมให้ผมจับเธอ ระหว่างที่แดงไปทั้งตัว
「ความกล้าหาญระหว่างช่วงเวลาสงครามนั้น เป็นความภักดีต่ออาณาจกัร และการจ่ายภาษี ระหว่างช่วงเวลาแห่งสัญติภาพ คือข้อพิสูจน์สิ่งนั้น」
ระหว่างที่ราชาพูดต่อไป เราพูดกันต่อในเสียงที่เบา
「แต่มันโอเคเหรอ? ที่จะอยู่ข้างหลังไกลขนาดนี้」
「ถ้าพี่อยู่ข้างหน้าและไม่ระวัง พี่จะหาวไม่ได้ และจับตูดหนูก็ไม่ได้ด้วยเหมือนกัน」
ขณะที่ผมพูด อีกครั้งที่ผมเอื้อมออกไปหาตูดของเธอ แต่ไมล่าจิกเล็บเข้าไปในมือของผม นั่นเจ็บนะ รู้ม้ย ขุนนางข้างๆเรา จ้องมองมาทางผม แต่เมื่อเราสบตากัน เขามองไปทางอื่นด้วยความเร่งรีบ
จริงๆแล้วมีการโต้เถียงกันระหว่างคณะ ที่เรียงรายกันก่อนที่การพูดของราชาจะเริ่มต้นขึ้น ผมถูกบอกมาว่า คนที่มีระดับสูงกว่า ควรจะไปเรียงกันใกล้กับราชา แต่มันดูเหมือน มันไม่ได้เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับอิทธิพลโดยงานที่คุณมี และรางวัลที่คุณได้จากสงคราม
โดยเฉพาะ ขุนนางดั้งเดิมและขุนนางใหม่ที่โต้เถียงกัน เทียบปีที่นานนมในการรับใช้ กับความสำเร็จทางทหารที่ได้รับมาไม่นานนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พลเรือน และเจ้าหน้าที่กองทัพก็โต้เถียงกัน แต่ละฝั่ง มีบริเวณที่ต่างกันให้เทียบกัน ดังนั้นความขัดแย้ง ไม่มีวันได้ถูกสรุป และไปไกลมาจนไปเทียบตระกูลกับคนพวกนั้นที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะตัดสินว่าตำแหน่งของตัวนั้นอยู่ตรงไหนในแถว แต่มันมีขุนนางที่ยังคงไม่มีความสุขอยู่ตลอดมา และจ้องมองกันและกันในความโมโห
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นเคานต์ และมากไปกว่านั้น ความสำเร็จในสงครามของเขานั้นมากมาย มันจะไม่น่าตกใจ ที่พี่จะไปอยู่แถวหน้าสุดเลย」
「หนูเป็นคู่ต่อสู้ของพี่ ในหนึ่งในความสำเร็จนั้นนะ」
「……มมมุ」
พูดถึงแล้ว ไมล่าได้ถูกเลื่อนตำแหน่ง หลังจากสงครามกับชาติศัตรู ดังนั้นเธออยู่ในแถวท้ายที่สุด และแม้ว่าเธออาจจะอยู่ต่ำกว่าอัศวินหรือบารอเน็ตที่แย่ที่สุด แต่เพราะผมอยู่ข้างเธอ ไม่มีผู้ใด ที่กล้ามพูดอะไร
เพราะจริบๆแล้วผมไม่ได้ไปพูดคุยเสวนาอะไรกับขุนนางคนอื่นมาก ผมไม่ตกใจ ที่ว่ามันไม่มีใครเลยที่ผมรู้จักอยู่รอบๆผม มันไม่มีสาวคนใดๆ อยู่ที่นี่เลยด้วยเหมือนกัน ผมเลยอยากจะจบๆให้ไวๆที่สุด
「……นั่นทำไม คนเหล่านั้นที่มีดินแดน จะถูกคาดหวังให้มีส่วนช่วยอาณาจักร และค่าใช้จ่ายของสงครามของ……」
เวรแล้ว ผมตด มันไม่ได้สร้างเสียงอะไร แต่เพราะผมกินเนื้อไปมากมายเร็วๆนี้ กลิ่นมันแย่มากๆ ผมแค่โบกผ้าคลุมอย่างไม่แยแส และระบายมันไป
ในท้ายที่สุด การสรุปการพูดในปีใหม่ของราชาคือ:
「เราชนะ แต่เพราะยังมีศัตรูอยู่รอบๆ อย่าลดการป้องกันลง」
「ไม่มีเงินอยู่ในคลังสมบัติชาติ ดังนั้นได้โปรดร่วมมือด้วย」
「เราอาจจะส่งคนเก็บภาษีไปสู่คนเหล่านั้น ที่มีดินแดนที่ร่ำรวย」
—————————————————————
มันเป็นซักพักแล้ว ตั้งแต่ผมมาที่เมืองหลวง ผมเลยอยากดื่มกับอีริช และไปตรวจดูอังเดรและอากอร์ว่าเปิ็นยังไงกันบ้าง ผมหวังว่าพวกเขาจะไม่ถูกแทงตาย
เมื่อการพูดทั้งหมมดจบลง ราชาออกไปจากห้องโถงรับรอง และขุนนาง แตกแยกออกไปเป็นกลุ่มๆ ในขนาดที่ต่างๆกัน และเริ่มคุยกันอยงเป็นฉันมิตร เพราะทั้งหมด มีขุนนางที่มีดินแดนมากมาย ที่ปรกติแล้วจะไม่ได้ลาจากดินแดนของพวกเขามา ดังนั้น มันเป็นโอกาสดี ที่จะได้สานสัมพันธ์ฉันมิตรให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผมมั่นใจ ว่าการเชิญไปงานเลี้ยงอาหารเย็น และการคุยเกี่ยวกับการหมั้นแต่ง บินไปทั่ว
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」
อ๊ะ งั้นเขาก็มาที่นี่ ผมหันไปเพื่อมองอีริช
「มันเป็นซักพักแล้วนะ…….ชั้นเดาว่ามันยังไม่นานเกินไป」
มันยังไม่นานเกินไป ตั้งแต่พิธีฉลองชัยชนะ
「ชั้นเดาว่าอย่างนั้น……มีเวลามั้ย?」
มีเวลาอยู่อย่างไม่มีจำกัด แต่เวลาที่ผมใช้ได้นั้นมันจำกัด มันเป็นหนึ่งในบทพูด ของละครทีนนน่าพาผมไปดูและคิดว่ามันจะทำให้ผมดูเหมือนว่ามีความรู้ แต่ผมคิดว่ามันจะมีปัญหามาก ถ้าผมได้สู้อย่างไม่จำเป็น ดังนั้นผมจะระงับจากการพูดมัน
「ชั้นมี」
「ถ้าอย่างนั้น ตามชั้นมาครู่นึง」
ผมตามอีริชไป และออกจากห้องโถงรับรอง เข้าสู่ห้องข้างในวังหลวง ที่ดูเหมือนถูกมอบให้เขา ไม่ล่า ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เธอเลยตามมาด้วยสำหรับตอนนี้
「นายไปไกลแล้วนะตอนนี้ ได้ห้องในวัง และทั้งหมดนั่น」
ผมได้ยินมาว่า อย่างน้องคุณต้องเป็นรัฐมนตรี ทีจะได้ห้องทำงานข้างในวัง
「อุมุ บารอนเนส ฮูเทีย โปรดให้เราอยู่ตามลำพังชั่วครู่」
อาา ไมล่าอยู่ไม่ได้ เหมือนที่ผมคิดเลย แต่ใครจะมาจำว่ามันมีอะไรที่จะพูดออกมา ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่? ผมเพิ่งจะรู้ ว่าผมลืมซีเลียไว้ในห้องรอ
「ลอร์ดราดาห์ล มันไม่เป็นไร เธอคือ……」
เธอเป็นศัตรูแค่ไม่นานมานี้เอง ผมพูดไม่ได้ว่าเธอเชื่อถือได้ และมันไร้ความหมาย ที่จะพูดว่าเธอเป็นพวกพ้อง เพราะนั่นมันก็ชัดเจนสำหรับเขา หืมม
「เธอเป็นผู้หญิงของชั้น ไม่ควรจะมีปัญหา」
「-!!」
ไมล่าตกใจ แต่เธอจะถูกไล่ออกไปถ้าเธอปฏิเสธ ดังนั้นเธอจะทนมันไว้
「…… เธอเป็นขุนนาง ที่ได้รับความเป็นขุนนางจากราชา จะได้อะไรมาจากการรับขุนนางบริวาร」
อิริชมองขึ้นไปหาเพดาน แต่ได้รับความสงบของเขากลับมาอย่างรวดเร็ว อย่างที่คาดกับทหารผ่านศึก เขาฟื้นตัวเร็ว
「ชั้นจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ดังนั้นได้โปรดเก็บมันเป็นความลับ ให้ตายซิ มีคนอยู่น้อยนิดมากที่ไม่สร้างปัญหา」
อิริชวางแก้วน้ำไว้ตรงหน้าไมล่า นี่หมายถึงเขาอนุญาตให้เธออยู่
「เราออกนอกเรื่อง ชั้นจะตรงไปที่ประเด็นเลย และถามนาย แต่นายเป็นพวกเดียวกับชั้นมั้ย」
เขาพุดอ่ะไรบางอย่างแปลกๆ
「ฮ่าาา ชั้นไม่คิด ว่าชั้นเคยเป็นศัตรูนายซังครั้งเดียว」
อีริชยังไม่ทิ้งสีหน้าที่จริงจัง
「เคานต์บัลดิ์วิน……ชั้นไม่ชอบที่จะเรียกเค้าแบบนี้ เคนเนธและชั้น ได้เอาขุนนางบริวารทั้งหมดมาเข้าร่วมด้วย และต่อต้านกันและกันในหลายรูปแบบ นายรู้เรื่องนี้มั้ย?」
ม่ายเลย แต่ถ้าผมพูดอย่างนั้น คำนำนี้จะยาวนานขึ้น ผมเลยจะแค่พยักหน้า
「เคนเนธนั้นไปทั่วทุกที่ และแพร่ว่าเขานั้นใกล้ชิดกับนายมากแค่ไหน สิ่งต่างๆอย่างการชวนนายไปงานเลี้ยงเต้นรำตอนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ แม้ว่าจากการที่ไม่ค่อยจะได้โผล่หน้าของนาย และการที่นายส่งจดหมายขอบคุณที่สุภาพ เมื่อภรรยาของนายได้รับของขวัญ แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องความรุนแรงของนาย」
อ๊ะ นั่นทำให้ผมจำได้ จดหมายถูกส่ง เมื่อผมพูดว่าผมจะมาที่เมืองหลวงครั้งนี้ โดยพื้นฐานแล้ว จดหมายขอบคุณทั้งหมด ถูกเขียนโดยเซบาสเตียน เขาเขียนจดหมายได้สุภาพกว่าผมเยอะเลย ไม่ว่ายังไง ผมไม่ได้เขียนจดหมายซักฉบับ ดังนั้น เขาอาจจะคิดผิดว่าคำพูดของเขานั้นเป็นของผม
「แน่นอน ว่าชั้นไม่เชื่อสิ่งที่เค้าพูด และไม่คิดว่านายอยู่ฝ่ายเขา แต่เมื่อชั้นเห็นนายนั่งรถม้าที่เค้าให้ ชั้นเริ่มที่จะเชื่อ ว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคำโกหก」
ถ้าอย่างนั้นเขารู้เกี่ยวกับรถม้า รถม้านั้นอุ่นและมันไม่โยกเยกมมากเกินไป มันเลยค่อนข้างที่จะสบาย แล้วก็ยังมีเตียงอยู่อีก ผมจึวผ่อนคลาย และมีความสุขกับเวลากับสาวๆได้ด้วย
「มันก็ยังมีความจริง ว่าเค้าอาจจะพยายามได้นายไปฝ่ายเค้าจากฝ่ายชั้น และทำให้ชั้นปั่นป่วน นั่นทำไม ชั้นอยากจะจะยืนยันมัน กับนาย นาย ยังเป็นพวกเดียวกันกับชั้นอยู่มั้ย?」
แม้ว่าเขาจะยังคงเป็นทหาร เขาดูเหมืออนจะยุ่งๆ กับงานในวังหลวง และการสู้กับเจ้าหน้าที่พลเรือน ที่มีอำนาจที่จะทำสิ่งต่างๆ มันดูเหมือนมันเป็นไปไม่ได้ สำหรับคนอย่างผม ที่จะรับมือ
「ลอร์ดบัลด์วินได้ช่วยชั้นมาหลายอย่าง แต่ไม่ว่าจะยังไง ชั้นจะตามนาย เมื่อมันถึงเวลา ชั้นเชื่อ ว่าชั้นเป็นเพื่อนนาย ตั้งแต่แรกเริ่ม」
สีหน้าของอีริชผ่อนคลาย ผมเดาว่าเขาแค่อยากจะได้ยินคำพูดเหล่านั้น
แต่ผมจะชอบมันด้วย ถ้าเขาไม่ไปบอกเคนเนธ รถม้ามันสะดวกสะบาย และผมจะไม่อยากคืนมัน
「เข้าใจแล้ว งั้นนั่นก็ดี แต่ถ้านายสนิทกับเค้ามากเกินไป และบ่อยเกินไป มันจะสร้างความกระสับกระส่าย ในหมู่ลูกน้องและขุนนางบริวารของชั้น ชั้นไม่ได้จะบอกนาย ให้ปฏิเสธคำเชิญของเค้า แต่ชั้นอยาก ที่จะให้นายเข้าร่วม การรวมตัวของชั้น ให้ได้เท่าที่นายทำกับเค้า อย่างน้อยๆ」
อาา งานที่ไม่จำเป็นได้เติ่มเข้ามาในรายการที่ต้องทำ ผมสงสัยว่าผมให้ครอลล์หรือกิโด้ปลอมตัวเป็นผม และไปแทนผมได้มั้ย ผมเดาว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเอ็นของพวกเขานั้นมันเล็กเกินไป
หลังจากนั้น ผมพูดคุยกับอีริช ในบรรยากาศที่สงบ
「นายเป็นลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ที่โดดเด่น ในทั้งหมดของโกลโดเนียแล้ว นายมีความสัมพันธ์อะไร กับขุนนางที่อยู่ติดกันมั้ย?」
「ไม่ ไม่มีเลย」
「ฟุมุ……ผู้คนรอบขาง อาจจะอยากติดต่อกับนายด้วย ทำไมนายไม่จัดงานเลี้ยงเต้นรำในราเฟนบ้างล่ะ?」
อีริชยิ้มเล็กน้อย
「ลอร์ดศักดินาหลายคนรอบข้างนาย เป็นขุนนางดั้งเดิมด้วย ถ้าพวกนายเอาชนะพวกเค้าไปอยู่ฝ่ายนายได้ อิทธิพลของนายก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าให้พูดตรงๆชั้นไม่ได้มีทักษะในการพูดอย่างหวานเหมือนเคนเนธ ดังนั้นขุนนางดั้งเดิมส่วนใหญ่ ได้ไปอยู่ฝ่ายเขา」
ดั้งเดิมแล้ว ขุนนางดั้งเดิม จะอยู่ห่างจากอีริชและเคนเนธระยะหนึ่งแขน ปฏิบัติกับพวพกเขา เหมือนคนมาใหม่ แต่ความล่มสลาย ของมาร์เควสฮูเวอร์ และอำนาจในวังหลวงถูกแบ่งออกกในหมู่พวกเขาทั้งสอง ขุนนางดั้งเดิมได้เลือกที่จะไปด้วยกับพวกเขาคนหนึ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะไม่ชอบใจมันมากแค่ไหน มันมีขุนนางไม่กี่คนมากๆ ที่จะยังคงดื้อด้าน และตัดสินใจ ที่จะไม่เลือกฝักฝ่าย เพราะนั่นจะหมายถึง พวกเขาจะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ด้วยตัวเลือกกทั้งสองเหล่านี้ พวกเขามากมายได้เลือกท่จะเข้าฝ่ายของเคนเนธ ที่คุยเกลี้ยกล่อมพวกเขา ได้อย่างมีทักษะด้วยคำพูด และทำอะไรในแบบที่เมื่อมาเทียบกัน มันใกล้กับสิ่งที่พวกเขาทำกันอยู่แล้ว แทนที่จะเลือกอีริช ที่มุ่งเน้นไปในการบริหารทหารขุนนางใหม่ที่หัวรุนแรง
อย่างไรก็ตาม น้นมันแค่ในวัง และสถานการณ์มันต่างออกไป กับขุนนางลอร์ดศักดินา เพราะพวกเขาแค่มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง ปีละครั้งหรือสองครั้ง พวกเขาสนใจเกี่ยวกับดินแดนของตัวพวกเขาเอง มากกว่าอะไรที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง มันเกือบจะไม่มีข้อดีอะไรเลย ในกการเป็นเเพื่อนบ้าน กับลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ ที่อยู่คนละฝ่าย
「เพาะทั้งหมดมันเป็นพิเศษเลยที่นายน่ะ……มีชื่อเสียงที่เหลือเชื่อ คนที่อยู่ใกล้ๆ จะอยากมีความสัมพันธเป็นมิตรกับนายอย่างแน่นอน」
ในสงครามก่อนหน้านี้กับเทรีย ก่อนหน้าที่เมล็ดพันธุ์ของสงครามจะถูกหว่าน ความขัดแย้งที่ผมก่อกับประเทศนั้น นั่นกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ขุนนางคิดกับผม เราไปสู้กับชาติๆหนึ่ง สู้กองทัพของพวกเขา ปล้นเมือง และกลับมา นั่นเป็นเรื่องราวที่เรียบงาย แต่มันมีเหตุการเฉพาะที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกรณีไหน ผมมั่นใจว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นกลัวผม ในแบบที่แปลกประหลาด
「ชั้นเข้าใจ เมื่อชั้นกลับไปที่ดินแดน ชั้นจะพยายามพูดกับคนพวกนั้นรอบๆชั้น」
「ดี ให้ชั้นรู้เมื่อนายทำ ชั้นก็จะส่งบางคนจากฝั่งของชั้นด้วย」
ถ้าผมไปบอกนนน่า เธอจะตื่นเต้น และอยากจะซื้อชุดใหม่ ผมมั่นใจว่าเงินที่เธอใช้ซื้อสร้อยคอทับทิมอย่างลับๆ ได้ถูกปัดๆไปว่าเป็นความขาดทุนโดยอดอล์ฟไปแล้ว
「ชั้นเหนื่อยเกี่ยกับการคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ทั้งหมดนี้」
「นั่นก็จริง แต่จริงๆแล้ว ชั้นไม่ใช่คนที่จะพูดเกี่ยวกับมันด้วย」
อีริชยิ้มอย่างขมขื่น และยืดตัว เขาก็เป็นทหารโดยธรรมชาติด้วย ดังนั้นการวัดอิทธิพลกันเกิดขึ้นภายในวังหลวง ไม่ใช่จุดแข็งของเขา แต่เขานั้นมีความสามารถกับงานของเขาอย่างไร้จุดหมายนะ ดังนั้นนั่นทำไมเคนเนธตามหลังอยู่อย่างช้าๆ
「การส้รางกองทัพกลางใหม่ เป็นไปได้อย่างมั่นคงมั้ย? เพราะพวกเค้าจำนวนมากพอจมลงไปในน้ำและทั้งหมดนั่น」
อีริชห่อไหล่และร่วงไปที่โต๊ะอย่างเหนื่อยหน่าย มันไม่ค่อยปรกติ ที่จะได้เห็นเขาเป็นแบบนี้
「นายไม่ลังเลที่จะพูดอะไรๆเลยนะ…….เรื่องทหารเอาไว้ก่อน มันไมม่มีผู้บัญชาการเพียงพอ ใช่ ปัญหามันอยู่ที่ตรงนั้น」
หลังจากพูดอย่างนั้น อีริชนำชุดเอกสารออกมา ผมส่งมันต่อไปข้างๆ แต่ไมล่ามอบหน้าตาที่งงงันมาให้ผม โอ้ใช่ ซีเลียไม่อยู่ที่นี่ ผมเดาว่าไม่มีทางเลือก นอกจากจะอ่านด้วยตัวเอง
「สถาบันฝึก……แห่งราชวงศ์」
「นั่นใช่แล้ว เพราะการศึกษาพื้นฐานมันจำเป็น ก่อนที่นายจะมีพรสวรรค์ที่จะนำทหาร เด็กๆของคนทั่วไป จะมาศึกษาเพื่อที่จะเติบโตมาเป็นผู้บัญชาการในอนาคต จะมีบางคน ที่ไม่เหมาะกับการเป็นทหาร แต่ถ้านายมมีการศึกษาพื้นฐาน นายจะได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่กิจการภายใน หรือผู้ว่า」
เข้าใจแล้ว ถ้าคุณฝึกคนทั่วไป คุณได้ผู้บัญชาการที่ไม่มีอิทธิพลกับขุนนางมากมายได้
「แต่ ไม่ใช่นั่นจะใช้เวลาเหรอ? นายจะต้องการคน สำหรับไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย และชั้นคิดอยู่ว่านายมีไม่พอตอนนี้」
「อุมุ มันจะไม่มีมีแค่เด็ก ที่นั่นมีมอบการศึกษาขั้นสูง กับผู้ใหญ่ทั้งหมดที่มา พวกเค้าก็จะถูกเตรียมพร้อมด้วย ค่อนข้างจะมีอัศวินหนุมๆจำนวนนึงด้วย และแม้แต่เด็กของคนทั่วไป ของตระกูลที่ร่ำรวย ที่มีการศึกษาพื้นฐานแล้ว หลังจากทั้งหมด」
เขาเพิ่มเติมไปว่าเขาสงสัย ว่าขุนนางหนุ่ม จะออกมาเป็นยังไง เข้าใจแล้ว ดังนั้นเขาจะเตรียมไว้สองที่: ที่หนึ่งเพื่อฝึกเด็กจากแรกเริ่ม และที่ที่จะฝึกพวกนั้น ที่มีการศึกษาไปถึงระดับหนึ่งแล้ว ให้เป็นผู้บัญชาการ
ถ้าเป็นอย่างนั้น คนหลังจะใช้ปีเดียวเพื่อที่จะสร้างผู้บัญชาการ
「คนพวกนั้นที่ศึกษามาแบบนี้ จะได้รับการปฏิบัติที่ดีว่า และแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการ และพวกเค้าจะถูกเลื่อนตำแหน่งเร็วด้วยเหมือนกัน เป้าหมายจะเป็น….. ลูกคนที่สองหรือคนที่สามของตระกูลอัศวิน และลูกชายของพ่อค้า ที่หวังจะก้าวหน้า」
น่าสนใจ ถ้าสถาบันนี้มันมีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม มันจะดีที่จะให้ซีเลียเรียนที่นั่น แต่เธอมีประสบการณ์การนำกองทัพแล้ว และได้รับการศึกษาแล้วด้วย
「มันมีอยู่ไม่กี่คนที่ได้เข้าเรียนที่สถาบันฝึกนี้แล้ว……โรงเรียนแห่งชาติ อยู่ในระหว่างการสร้าง นายเป็นคนในกองทัพ ดังนั้นนายไปสอนได้วิชาสองวิชา」
ทำไมผมต้องทำอะไรที่มีปัญหาอย่างนั้นด้วยล่ะ? ผมคิดเกี่ยวกับการปฏิเสธ แต่เมื่อผมมองไปดูไมล่า ตาของเธอส่องประกายระยิบระยับ ผมเดาว่า เธอเป็นประเภทที่ชอบสอนคนอื่นๆ
「ชั้นจะไปเมื่อมันมีโอกาส ถ้าอย่างนั้น」
สำหรับตอนนี้ ผมจะให้ประตูเปิดไว้ สำหรับความเป็นไปได้ในอนาคต
「ตอนนี้เมื่อนายพูดถึงมันแล้ว ชั้นยังเป็นคนในกองทัพอยู่มั้ย?」
อีริชแหมะลงบนโต๊ะอีกครั้ง
「……นายไม่ได้ฟังที่พระองค์พูดก่อนหน้านนี้เหรอ?! นายถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้เป็นผู้บัญชาการของกองทัพสำรองสนาม นายจะเป็นผู้นำหลายเหล่า ระหว่าวเวลาสสงคราม」
ผมคิดอย่างแน่นอนว่าสำรอง หมายถึงตำแหน่งเป็นพิธี ถ้าผมพิจารณาว่าหนึ่งเหล่ามี 15 000 หลายเหล่าจะค่อนข้างเป้นจำนวนที่มากมาย เมื่อพูดแบบนั้น สงครามเต็มรูปแบบยังไม่ได้มีแผน ผมจะคิดเกี่ยกับมัน เมื่อผมถูกต้อนจนมุม
อีริชและผม คุยกันซักพักหลังจากนั้น และมันเป็นเวลา ที่จะต้องจากลาในไม่นาน
「นายจะอยู่นานนิดหน่อยในเมืองหลวง ใช่มั้ย? ชั้นจะไม่เก็บนายไว้นานเกินไปวันนี้」
มันน่าเบื่อที่จะคุยกับผู้ชายระหว่างที่สร่างเมา และมันไม่เหมือนว่าเรากินหล้าในห้องทำงานของวังหลวงได้ด้วย
「ชั้นจะส่งจดหมายเชิญ งานเลี้ยงเต้นรำหรืองานเลี้ยงอาหารค่ำในอนาคตเร็วๆนี้ นายต้องมาให้ได้อย่างแน่นอนเลยนะ อย่าไปที่เคนเนธก่อน หรือเราจะขัดแย้งกันอีกครั้ง」
「เข้าใจแล้ว」
ผมดีใจที่ผมมีดินแดน ถ้ามีการชิงชัยทางการเมืองกันทุกวัน ผมจะหดหู และป่วย หรือวิ่งหนีระหว่างที่บ้าคลั่งการเสพสม
「อย่างหลังมันเกิดขึ้นไปแล้ว」
ผมคิดว่าเธอได้เงียบมาซักพักแล้ว แต่นั่นเป็นอย่างแรกที่พูดเมือเปิดปากเหรอ? เธอต้องได้รับการลงโทษ
「ฮย้านนน!!」
เมื่อผมแทงนิ้วเข้าไปในบริเวณหว่างขาของเธอด้วยกำลัง ผมใส่ในรูตูดของเธอแทนโดยความผิดพลาด คนรับใช้ที่ทางเดิน หันมาเพื่อดูเรา เมื่อพวกเธอได้เห็นเสียงที่แปลกๆ ผมกลับไปที่คฤหาส ระหว่างที่ลูบหัวไมล่า ที่ตามีน้ำตาและร้องไม่พอใจ
พูดถึงแล้ว ซีเลีย ที่ถูกทิ้งไว้คนเดียว ซึม และนั่งอยู่ในห้องรอระหว่างที่กอดเข่า ผมจะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น โดยการนวดหน้าเธอให้มันปล่อยตัวไปเลย
เมื่อผมกลับไปที่คฤหาสน์ ผมเห็นโดโรเธียด้วยหน้าตาที่มีปัญหา และนนน่าด้วยหน้าตาที่ไม่มีความุข ทันทีที่เธอเห็นผม นนน่าพูดออกมา
「เอเกอร์ซามะขา……พี่มีแผนที่จะเปลี่ยนคฤหาสน์เป็นที่เลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ?」
「พี่ไม่ได้บอกหนูเกี่ยวกับมันเหรอ?」
「หนูรู้ว่าโดโรเธียซังจะมาเพื่อดูแลคฤหาสน์ แต่สำหรับเด็กทั้งหมดที่จะเข้ามาด้วย!!」
「……แม่โดโรเธีย เราไม่ถูกอนุญาตให้อยู่นี่เหรอ?」
「……เอ่ะเฮ่ม มีเครื่องเรือนและสิ่งของชั้นสูงอื่นๆ ที่นี่ ดังนั้นมันจะไม่ดี ที่เด็กๆจะทำมันเป็นรอย」
เมื่ออเธอเห็นว่าเด็กๆกำลงจะร้องไห้ ความโกรธของนนน่าหายไปเล็กน้อย เธอก็เป็นผู้หญิงสุดขีดด้วย ยกเว้นว่าเธอมองอะไรในมุมมองของขุนนาง
「พวกเค้าไม่ได้สกปรกเป็นพิเศษนี่ พวกเค้าดูดีและสะอาด ไม่ใช่เหรอ?」
แทนที่จะเป็นเด็กพวกนี้ คาร์ล่าและอิริจิน่าจะอันตรายมากกว่า ที่จะมีอยู่รอบๆ เพราะทั้งหมมดสองคนนั้นทำลายล้างมากที่สุด ไม่ต้องพูดถึงที่คาร์ล่าทำกระถางดอกไม้หล่นแตกเลย ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมอิริจิน่าพุ่งเข้าใส่ประตู และทำลายพวกมัน
「เราไม่มีเงินเหลือมากด้วย」
「เธอเนี่ยนะที่พูด?」
การตอบสนองของคาร์ล่านั้นถูกต้อง เด็กๆของโดโรเธีย ไม่ได้ใช่เงินอย่างสิ้นเปลือง และเด็กๆทั้งหมดสะอาด ดังนั้นราคาการดูแลรักษา จะรวมกันไม่ได้มากกว่าไม่กี่ทอง นั้นประมาณเท่ากันกับที่นนน่าใช้รายเดือน ไปบนชาและขนม
「ที่สำคัญไปกว่านั้น พี่คุยกับอีริชเมื่อกี้นี้ และหัวเรื่องของการไปเสวนากับลอร์ดศักดินนาใกล้ๆขึ้นมา พี่คิดเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรืออะไรบางอย่าง เมื่อเรากลับไปที่ราเฟน」
ตาของนนน่าสว่างขึ้น
「พี่จะมอบเงินให้ ดังนั้นหนูอยากจะไปซื้อเสื้อผ้าสมัยใหม่มั้ย?」
อย่างที่คาด ศูนย์กลางวัฒนธรรมคือเมืองหลวง และแม้ว่าราเฟนยังพัฒนาอยู่ ความต่างในเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าชั้นสูง เหมมือนกลางคืนกับกลางวัน
「มิทตี้! ไปกันเถอะ!」
นนน่ายอมรับโดโรเธียอย่างคาดเดาได้ และดึงมิทตี้ไปด้วย เมื่อเห็นว่าคนเดียวไม่ามารถที่จะขนถุงทั้งหมดได้ มิทตี้ก็เอาเด็กๆไปด้วยกับเธอ
「เอเกอร์เอาใจเธออีกแล้ว」 「หนูไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย」
คาร์ล่าและซีเลียถอนหายใจ มันโอเค เธอน่ารักกว่าในแบบนี้
「มันไม่เป็นไรหรอก ถ้าหนูจะซื้อบางอย่างด้วย ยังไงเราก็ได้มาตลอดทางถึงเมืองหลวง ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงิน」
「……ถ้าอย่านั้น หนูจะออกไปข้างนอกนิดหน่อย หนูจะให้เลอาห์ไปกับหนูด้วย」
ซีเลียและพวก น่าจะไปร้านขนมทั่วเลย ผมมั่นใจ
「มืม ถ้าอย่างนั้นชั้นจะนำทางมิเรลไปรอบๆ」
「โอ้ เมืองหลวงเหรอ?…… ชั้นสงสัยว่าที่ชั้นใส่อยู่มันจะเป็นอะไรมั้ย」
แม้ว่ามันเป็นเมืองหลวง มันมีตัวเลือกเสื้อผ้าที่มากมาย ระยะจากขอทาง ไปถึงราชา ดังนั้นไปเลือกที่ชอบเลย
ไมล่าและกิโด้ ก็ออกไปข้างนอกด้วย ทิ้งคฤหาสน์ให้อยู่ในความเงียบสงบ เมื่อพูดให้ถูกแล้ว มันมีเด็กๆอยู่เป็นกลุ่มตรงหน้าผม ผู้ที่ไม่ส่งเสียง น่าจะเพราะพวกเขาประหม่า
「มานี่มา」
ผมอุ้มสาวที่ประมาณ 10 ขวบ และให้เธอนั่งตัก ตอนแรกเธอกลัวๆนิดหน่อย แต่เมื่อผมยัดขนมอบหวานไปในปากของเธอ หน้าเธอได้ละลายทันที เมื่อเห็นขนมหวาน เด็กๆเริ่มรายล้อมผมอย่างตื่นเต้น
อาหารที่เป็นขนมหวานคือของหรูหรา ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ถูกมอบให้ แทนที่จะเป็นอย่างนั้นพกเขากินดี และโตขึ้นอย่างมั่นคง หมายถึงว่าไม่มีใครซักคนที่ผอมเกินไป เมื่อสาวๆโตขึ้นนิดหน่อยและใกล้เป็นผู้ใหญ่ ผมจะลองกระซิบความรักของผมกับพวกเธอ
「อะร้าร้า หนูขอโทษอย่างมาก」
โดโรเธียลดหัวของเธอด้วยความรีบ เธอเลย 40 ไปแล้ว แต่ยังดูค่อนข้างเด็ก ขณะที่ผมคิดว่าเธอไม่ได้กินดีมาก่อน ซึ่งมันทำให้เธอผอมและแก่
「มีน้ำผลไม้อยู่ตรงนั้น กินได้เท่าที่อยากกินเลยนะ」
ผมลดเด็กสาวที่นั่งอยู่ที่ตักผม ผมแข็งเมื่อดูตูดและหน้าอกของโดโรเธีย ผมให้เอ็นของผม ไปถูกกับเด็กๆสาวๆไม่ได้ หลังจากทั้งหมด
ยังไงซะ ได้เวลาที่ดื่มกับโดโรเธียแล้ว และดึงเธอขึ้นเตียง เมื่อผมเห็นช่องเปิด มันเป็นที่เวลานั้น เมื่อผมกำลังจะคุยกับเธอ
ผมได้ยินเสียงร้อง ของม้าหลายตัวจากทางเข้า และจากนั้นผมได้ยินเสียงล้อหมุนบนถนนที่ปูด้วยหิน ผมได้ยินเสียงเกือกม้ามากมาย นั่นหมายถึง รถม้าใหญ่ ที่ถูกลากโดยม้าหลายตัว?
นั่นทำให้ผมจำได้ ไม่ใช่ว่าเธอพูดว่าจะมาที่เมืองหลวงเหรอ? ไม่มีทางที่เธอจะช้าได้มากกว่าผมที่สบายๆ เมื่อมาที่นี่
มันเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลา ที่ประตูได้ถูกเปิดออก
「คนรักของหนู!!」
กำแพงสีแดงสด แพร่ออกไปตรงหน้าผม
「คนรักของหนู! ชายของหนู! คลอเดียของพี่มาถึงแล้ว!!」
คลอเดีย ที่กระโดดออกมาจากรถม้า ใส่เสื้อสีแดงสด และไม่ได้ลังเล ที่จะกระโดดตรงมาใส่ผม เธอมีความสามารถในการกระโดดใส่ที่คาดไม่ถึง สำหรับผู้หญิง มันบินมาสู่ผมเลยจริงๆ เธอจะล้มหัวทิ่มลงพื้น ถ้าผมหลบเธอ ผมเลยกางแขน เพื่อจับเธอไว้
「อึ่ก!」
คลอเดีย ไม่ได้แค่ใช้มือเท่านั้น แต่ใช้เท้าเธอ เพื่อกอดผมด้วย
「อ๊าา ชั้นไร้คำพูดเลย! สองปี… สองปีนั้นค่อนข้างเป็นเวลานาน คนรักของหนู อ๊าา ที่รักของหนู!! เสื้อผ้ามันขวางอยู่ กายหนูมันขวางทางอยู่ หนูอยากจะให้ทุกอย่างหายไป เพื่อที่หนูจะเป็นหนึ่งเดียวกับพี่ได้ ละลายไปกับพี่ กลืนกินพี่……ไม่ หนูอยากจะถูกกลืนกิน หนูอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของพี่!!」
เธอไม่แม้แต่จะหายใจ กระนั้นเธอสามารถพูดได้อย่างอิสระมากมาย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมครวญออกมา เธอเพียงแค่หนัก น่าจะมากไปกกว่าอิริจิน่า
「ถ้าเกาะพี่มาก พี่จะไม่สามารถจูบหนูได้นะ」
ขณะที่ผมพูดอย่างนั้น คลอเดียลงจากผม และจุมพิตผมโดยไม่สงวนตัว เธอมอบการจุมพิตที่เลอะเทอะ — หนึ่งนั้นที่ทำเสียงเปียกและเสียงดูดน้ำ — ปรกติแล้วผมจะเป็นคนที่ใส่ลิ้นเข้าไปในปากสาวๆ แต่ครั้งนี่ คลอเดียพันลิ้นเข้ามาในปากของผม ดังจะพยายามไปตลอดทางถึงคอของผม
「ปุ่ฮ่าา……มันโง่เขลาที่จะทำเรื่องนี้ตอนบ่าย ที่มีผู้คนดูอยู่ ตอนนี้เข้าไปในบ้านเถอะ」
「ค่ะ หนูจะขอรบกวน!!」
คลาร่าลงจากรถม้าพร้อมนำแค่ของส่วนตัวของเธอมากับเธอด้วย และคำนับหัว เธอยัฝเป็นเด็กอยู่ เมื่อครั้งสุดท้ายที่ผมโอบกอดเธอ แต่สองปีได้ผ่านเลยไป และเธอได้สวยงามมากขึ้นขาก จนผมแทบจำเธอไม่ได้อีกแล้ว
「มา มา มา มา ไปที่เตียงกันเถอะ!! หนูจะดูดอุปกรณ์ที่ใหญ่ยักษ์ของพี่ ได้โปรด กระแทกมันเข้าไปในรูที่ลามกของหนูด้วย!」
เด็กที่ค่อนข้างจะโต ปิดหูของเด็กเล็กๆ
มันดีที่นนน่า และคนอื่นๆไม่อยู่ทีนี่ ผมจะไม่เป็นไร ถ้าพวกผมทำให้เธอสงบก่อนจะกลับมา
「แม่โดโรเธีย~ หมูแดงบินมา~」
「ฮ-เฮ้ตอนนี้! โปรดเงียบๆเลยนะ!」
โชคดี ที่คลอเดียไม่ได้ยินมัน แค่คลาร่าและผมยิ้มอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตาเราสบกัน และเรากดริมฝีปากเข้าหากันสำหรับการจูบเบาๆ เธอนั้นก็เป็นผู้หญิง ที่ผมไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานด้วยเหมือนกัน
—————————————————————
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูหนาว
สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ
กองทัพที่บัญชาการ: กองทัพส่วนตัว – 1800 (ที่ 1000 เป็นทหารม้าธนู) – กำลังจัดระเบียบ
สินทรัพย์: 6240 ทอง (แรงงาน -100) (การซื้อของของสาวๆ -10) (การซื้อของของนนน่า -100) หนี้: 20 000 ทอง
อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกดวอร์ฟ
ไปด้วยกันที่เมืองหลวง: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), มิเรล (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสกาม), เคซี่ (ผี). มิทตี้ (คนรัก), อัลม่า, ครอลล์ (ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์), ซีเลีย (ผู้ช่วย), กิโด้ (ผู้คุ้มกัน), ไมล่า (เจ้าหน้าที่เพื่อสันติสุข)
คลอเดีย (ผู้หญิงอายุมากที่น่าดึงดูดใจอึ้ง)
ครอบครัว: เมล (ภรรยาน้อยที่ท้อง), คู (คนรัก), รู (คนรัก), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คนรัก), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), แคทเธอรีน (คนรัก), โยกุริ (ปรับปรุงนิสัย), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน)
ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์ (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)
ลูกน้อง: อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่าและคนรัก), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวาร์ซ (ม้า)
คู่นอน: 104, เด็กที่เกิดแล้ว: 10
—————————————————————
ขอบคุณสำหรับเงิน 200 บาท
เป้าหมายเดือน 8/66
ค่าเน็ต 200/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 1408/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook