ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 171 สงครามฤดูหนาวในเมืองหลวง ① การร่ายรำของโศกนาฏกรรม
- Home
- ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi
- ตอนที่ 171 สงครามฤดูหนาวในเมืองหลวง ① การร่ายรำของโศกนาฏกรรม
171 สงครามฤดูหนาวในเมืองหลวง ① การร่ายรำของโศกนาฏกรรม
14 – 17 นาที
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
「เกิดอะไรขึ้น มันเสียงดังมาก」
「อารมณ์ของเราทื่อลงเลยตตอนนี้」
เหล่าขุนนางขมวดคิ้วและพวกคนรับใช้บ่นเมื่อประตูเหวี่ยงเปิดด้วยเสียบปัง
แต่พวกเขาไม่บ่นต่อนาน
「ยามวัง!? คิดว่าคฤหาสน์นี้ของ-……อุว้าาา ทำอะไรน่ะ!?」
ผมได้ยินเสียงของอัศวินผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาความปลอดภัยงานเลี้ยงตะเบ็งร้องแล้วจากนั้นวิ่งบนสี่ขาปกคลุมไปด้วยเลือด
「พวกคนชั่ว! ช-ช่วยด้วย……กิ่ย้าาา!」
อัศวินคลานสู่กำแพงแล้วชายน่าสมเพชก็ตายลงไม่นานหลังจากเขาถูกแทง ณ แผ่นหลังด้วยดาบ
「โออ้…… ช่างโหดร้าย!」
「อา……」
คนส่วนใหญ่ที่นี่คือเจ้าหน้าที่พลเรือนผู้ไม่เคยเห็นคนตายพวกเขาเลยปิดตาพวกเขา ระหว่างเหล่าเมียๆหลายคนสลบอยู่กับที่
「เมล ลีอาห์ หลบหลังพี่」
「ค่ะ」 「เค!」
มันห่วยแตกเมื่อไม่มีอิริจิน่าอยู่ที่นี่
แต่อย่างแรกผมต้องตรวจสอบด้วยเหตุผลก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
「ทุกคนอย่าขยับ!」
นับชายผู้ดึงดาบออกจากร่างอัศวินที่ตาย มีพวกผู้ชาย 10 คนผู้เดินในห้องโถงด้วยกัน
พวกเขาทั้งหมดใส่เกราะโซ่กับมีดาบ
อย่างคาด ไม่มีพวกเขาแม้หนึ่งมีอาวุธเช่นปืนธนูหรือหอก
「ยามวัง? ……อะไรบนโลกเกิด-!?」 「เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!?」
ผมโทษเหล่าขุนนางไม่ได้ที่ตกอกตกใจ
พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนยามผู้ปกป้องเมืองหลวงทุกอย่าง
「พวกเขาเป็นยามวังเหรอ?」
「พวกเขาคือพวกตัวปลอม」
ผมตอบเมลผู้ถามคำถามอย่างวิตกกังวลทันที
มีความเป็นไปได้ที่พวกเขามาเพราะนายท่านหลบเลี่ยงภาษีหรือพวกเขาอยู่ในระหว่างจัดการกับที่ซึ่งสนับสนุนองค์กรอาชญากร แต่มันยังแปลกในการมีเป้าหมายมาที่งานเลี้ยงโดยเฉพาะ มีขุนนางไม่เกี่ยวข้องมากเกินไปที่นี่และถ้าด้วยโอกาสใดๆพวกเขาสร้างความผิดพลาดและขุนนางระดับสูงผู้ไม่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ แต่กัปตันคงไม่เสียงานของเขาไป
และกลุ่มติดอาวุธที่เตร็ดเตร่ไปทั่วแล้วมีแผนไม่เชื่อฟังเจ้านายในเมืองหลวงจะถูกต้องสงสัยทันที
การปลอมตัวเป็นยามวังของพวกเขาแค่การอำพรางตา
ถ้าในกรณีนั้น วัตถุประสงค์ของพวกเขาคือปล้น? …….หรือบางทีอย่างอื่น
「เราเป็นคนของยามวัง! อธิบดีกิจการรัฐบาลอยู่ไหน!!?」
「โอ้ใช่ มาร์เควสบอลด์วินอยู่ไหนล่ะ」
「ไม่ใช่เขาไปสู่ห้องข้างหลังทันทีเมื่อความวุ่นวายเริ่มขึ้นเหรอ?」
ผมเดาว่าเคนเน็ธวิงไปห้องด้านหลังแล้วทันทีเมื่อเขาได้ยินการตะโกน
นั่นค่อนข้างเป็นความเร็วขาหนึ่งถ้าเขาไม่รู้ว่านี่จะเกิดขึ้น
ยามปลอมรู้ทันทีจากขุนนางเสียงดังว่าเคนเน็ธไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว
พวกผู้ชายทำสีหน้าบูดบึ้งแล้วจึ้ปาก
「ตอนนี้เมื่อมันมาถึงนี้แล้ว…… ไม่มีหยุดแม้ว่าเรามีแค่กลุ่มเล็ก!!」
พวกผู้ชายฉีกเครื่องหมายของยามวังบนเครื่องแบบขอพวกเขา
「เราคือสมาชิกผู้ภาคภูมิใจแห่งประเทศดยุคมากราโด! เรามาเพื่อลงโทษขุนนางโกลโดเนียผู้ชั่วร้ายแทนองค์พระราชาผู้ลับไปสำหรับประเทศบิดาของเรา!!」
พวกผู้ชายชักดาบด้วยกันแล้วเริ่มฟันขุนนางรอบข้างล้มตาย
ผมรู้อยู่แล้วมันจะจบลงแบบนี้
「เอเกอร์ซามะ!」 「นายท่าน เรา……」
「อย่ากังวลมีแค่พวกเขา 10 คน เราจะไม่เป็นไร」
ผมสามารถพูดจำนวนได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ศัตรูดูเหมือนจะฝึกมาดีและมันจะยากกับผมเมื่อผมไม่มีอาวุธ
ผมแค่เดินออกไปอย่างเมินเฉยแล้วกลับมาพร้อมดาบไม่ได้
「เพียซ่า หนูกลัว!」
「ปล่อยมันให้ฉันได้เลยที่รัก หนึ่งครั้งฉันเคยถูกเรียกว่าอัศวินแห่งสายลมอันรวดเร็ว」
ผมไม่แน่ใจว่าผู้ใดเรียกเขาแบบนั้น แต่อัศวินแห่งสายลมอันรวดเร็วชักดาบประดับเหมือนเข็มของเขาแล้วยืนขึ้นต่อต้านพวกอันธพาล
โอ้ใช้ คนนี้คือหนึงผู้แสดงวิชาดาบเป็นงานแสดงข้างเคียงสำหรับงานเลี้ยงก่อนหน้า
「บริเวณภายในระยะดาบของข้านี้คือม่านป้องกันของข้า! แค่ความตายเท่านั้นที่รอเหล่านั้นผู้เข้าใกล้เกินไป!」
เขาเหวี่ยงดาบเข็มไปทั่วอย่างเร็ว มันไม่ได้ดูเหมืนอจะเจ็บถ้าคุณถูกแทงโดยมัน
「โซเรี้ยย!」
ในทีสุด ดาบอัศวินโดนแขนอันธพาล ดึงเลือดออกมากับเสียงกรีดร้องในความเจ็บปวด
นั่นหนึ่งแต้ม นายจะชนะ……..ถ้านายอยู่ในการแข่งขันแบบนั้น
「ไอ้ลูกกระหรี่」
อันธพาลตะโกนสบถและเขี่ยดาบแทงคาอยู่ในแขนเขาไปด้วยดาบสออมือของเขา
ดาบบางงอในตัวอักษร ‘く’ แล้วหักครึ่ง ผลลัพธ์ออกมาคือดาบเขาใช้ไม่ได้
「อ่ะว้าว้า ดาบข้า! ขอเวลานอก! ให้ข้าได้เปลี่ยนดาบ!」
อัศวินตะโกนโวยวายเสียความตั้งใจสู้พร้อมกับดาบเขาแล้วถูกแทง ณ ท้องระหว่างมือเขายังดันออกไปหาศัตรู
「อุว่าาาาาา!! หม่าม๊าาาาา—!!」
ผมมองไปที่อื่นเพื่อเห็นพวกขุนนางพยายามหนีแล้วถูกฝันอย่างทำอะไรไม่ได้ทีละคนทีละคน
แม้ว่าไม่มีอาวุธดีๆ มี 30 คนที่ที่สู้กับศัตรู 10
ผมคิดว่าพวกเขาจะสามารถมอบเวลาให้เมลและลีอาห์พอหนีได้แต่มันไม่ได้ดูเหมือนผมคาดหวังมากจากพวกเขาได้
โชคร้าย ผมต้องทำมันด้วยตัวเอง
「ม่ายยย-! หยุดน้า!」
「เตรียมตัว ไอ้หมูโกลโดเนีย…… กุก๊า!」
หนึงอันธพาลไล่ตามล่าขุนนางและเมียของเขาถูกตีด้วยเก้าอี้ดูแพงและทนทาน เก้าอี้แตกเป็นชิ้นๆระหว่าชายลมสู่พื้นตรงนั้นด้วยหน้ากระแทก
「จึ่-! นั่นใครวะ!?」
「อย่ากังวลเกี่ยวกับเขา เราต้องฆ่าพวกมันที่เลือก่อนพวกมันวิ่งหนีไป」
ชิงเปรียบช่องเปิดเมื่อชายย้ายตาสู่มิตรผูั้สิ้นไป ผมหยิบเชิงเทียนในแต่ละมือจากยอดโต๊ะแล้วพุ่งเข้าตีใส่พวกมัน
งานเงินหนักนี้ควรมีผลมากกว่าดาบเหมือนเข็ม
「มันแกนี่เอง ไอ้บัดซบ! รับนี่ซ้า!」
หนึ่งอันธพาลรู้ถึงการมาถึงของผมแล้วเหวี่ยงดาบลงที่ผม
ผมตอบสนองด้วยสัญชาตญาณด้วยการกันฟันไร้พลังของเขาด้วยเชิงเทียนขวา
จากนั้นตามติดด้วยแทงโดยใช้เชิงเทียนซ้าย
การแทงของผมเล็งสู้หน้าเขาแล้วเทียนอันยื่นออกข้างนอกก็เลยจิ้มในตาเขายอย่างแรกแล้วฝังตัวมันเองเข้าไปข้างในตามมาสู่หัวเขา สังหารชายทันใด
「คนนี้ เขามาที่นี่แล้ว!」
「จัดการมันไวๆ!」
เชิงเทียนพังลงหลังจากกันดาบ ผมจึงโยนมันใส่อันธพาล แล้วกำลังพุ่งไปข้างหน้าโดยใช้ช่องโหว่อันมันมอบให้ผม
「เล่ห์เหลี่ยมแบบเดียวกันใช้ครั้งนี้ไม่ได้แล้วโว้ย!」
หลังจากเห็นแล้วว่าอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนเขา เขาปิดหน้าด้วยสองมือ
เขาน่าจะคิดว่าที่เดียวซึ่งผมเล็งได้คือหน้าเขาเพราะร่างเขาอยู่ในเกราะโซ่
「นั่นพอได้นะถ้าฉันเป็นชายอ่อนแอฉันว่า」
ผมแทงสู่ท้องไร้การป้องกันด้วยพลังทั้งหมดของผม
ปลายเชิงเทียนแหลมๆงออย่างช้าๆระหว่างกำลังแทงทะลุเกราะโซ่ชาย ฝังทุกอย่างเข้าไปนอกจากฐานของเชิงเทียนภายในร่างเขา
「อับบั่บบั่บ……..」
ผมเคลื่อนที่เพื่อจับดาบชายขณะเขาอาเจียนเลือดออกมา
「มึงฆ่าไปสามคนแล้ว …… อภัยให้ไม่ด้าย!」
「ตายซะ ไอ้สัตว์ป่า!」
สองนักเลงเข้าฟันผมพร้อมกัน
ผมกำลังจะปัดป้องการโจมตีด้วยเกราะแขนโดยนิสัย แต่ผมไม่มีมันใส่มาเวลานี้และกระโดดออกจากเส้นทางแทน
นั่นเกือบไป ผมเกือบเสียแขน
「ฮึ่ม แกมันไร้อาวุธ…… ไม่นานกูก็ฆ่ามึงแล้ว!」
พวกผู้ชายพุ่งเข้าตีสู่ผมด้วยรอยยิ้มโหดร้าย
โอ้ดี มันจะน่ารำคาญมากกว่าถ้าพวกแกเก็บระยะไว้แล้วเข้าใกล้ขนาบสองด้าน
ผมหลบหลีกการฟันเหวี่ยงลงเฉี่ยวปลายขนแล้วก้าวลงบนดาบเมื่อมันตีพื้นดังนั้นมันยกขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้
「ฮฮฮฮิ้! ช-ช่วยด้วยโว้ย!」
มีอีกหนึ่งผู้กำลังเล็งผมจึงต้องจบหนึ่งนี้พริบตา
มันเละเทะ แต่มันไม่มีทางเลือก
ผมกระชากเกราะโซ่ลงแล้วกัดคอเขา ฉีกหลอดลมออกมา
「ฮฮฮฮฮิ้!!」 「อุว้าาาาา!」
ศัตรูที่เหลือคนอื่นๆนั้นไม่ใช่แค่คนที่ส่งเสียงไม่สบายใจเท่านั้น พวกขุนนางก็กรีดร้องออกมา
ข้างในปากผมรู้สึกขยะแขยง…… ผมจะลืมเกี่ยวกับมันทีหลังเมื่อผมกลับไปบ้านเพื่อทำการขบลีอาห์กับเมลเล่นๆ
「อีก!」
ผมจับชายผู้เลือดสาดจากคอในแขนผมขณะอีกคนพุ่งเข้าตีมาหาผมแล้วใช้ร่างชายเป็นโล่เพื่อกันการโจมตีของดาบเพื่อนเขาก่อนโยนแบบดันศพไร้วิญญาณใส่เขา
「อุว้าา!」
ผู้ชายทิ้งดาบเขาเมื่อโดนร่างเสียชีวิตของเพื่อน
「อย่าเข้ามาใกล้นะ ไอ้สัตว์ประหลาด!」
นายมันหนึ่งผู้มาเข้ามาใส่ฉัน ยอมแพ้เถอะ
ผมจับหัวเขาแล้วหัวโหม่งกระแทกเขา จากนั้นง้างหัวจากชายกำลังสลบเล็กน้อยก่อนหัวโหม่งกระแทกเขาอีกที
หลังจากยืนยันว่าหน้าผากยุบตัวเข้าไปข้างใน ผมโยนเขาไปด้านข้างแล้วชำเลืองรอบข้าง
เพราะผมเกี่ยวข้องในการต่อสู้เล็กๆกับพวกพ้องของมัน ศัตรูห้าคนที่เหลือชี้ดาบพวกมันใส่ผมม
「ฟุมุ มันรู้สึกเบานิดหน่อย」
ผมหยิบดาบสองเล็มซึ่งเป็นของสองผู้ผมฆ่าไปแล้วกอนหน้า
ตราบใดที่ผมติดอาวุธด้วยอาวุธบางอย่างไม่มีเหตุผลอันจะกลัวแค่ห้าคน
「ฆ่าม้านนนนนนนนน!!」
หลังจากคำรามออกศึกนั้น พวกเขาทั้งหมดพุ่งตรงสู่ผมพร้อมกัน
ผมยื่นแขนพร้อมหนึ่งดาบในหนึ่งมือพุ่งเข้าตีใส่พวกเขาด้วย
ผมกันดาบซึ่งมาใส่ผมจากด้านข้างแล้วบิดตัวเพื่อหลบหลีกการโจมตีซึ่งเล็งมาท้องผมอันเปราะบาง
ในพริบตานั้น ผู้ชายสองคนผู้ฟันผมเสียสมดุลไปแล้วไปพัวพันกันเอง
「จึ่! ขยับโว้ย!」 「มึงอ่ะขยับ!」 「กุ่เอ๊!」
ผมใช้แรงส่งจากการหมุนวนร่างกายผมเพื่อฟันหัวหนึ่งอันธพาลหลุดไปแล้วจากนั้นสร้างระยะระหว่าผมและพวกผู้ชายคนอื่นๆ ผู้ชายคนที่สี่ไล่ตามมาเข้าใส่ผมด้วยดาบของเขาต่อไปแล้วผมก็ไขว้ดาบเพื่อเตรียมตัวกันการโจมตีของเขา
อบ่างไรก็ตาม ผมขยับดาบแล้วเดินออกข้างขวาก่อนไปมีดโดนของผม ทำให้เชาเหวี่ยงลมเหวี่ยงอากาศก่อนจะก้าวขึ้นบนดาบเขา
「เอ๋?」
คนที่ห้าพุ่งเข้าตีเข้ามาเข้ามาปรารถนาถึงช่องโหว่เพื่อโจมตีผมหลังจากผมไขว้ดาบกับเพื่อนซี้ของเขา แต่จบที่จ้องผมอย่างว่างเปล่าขณะผมยืนหน้าเขา
「ดูเหมือนอะไรๆมันออกมาต่างจากที่แกคาดนะ」
ผมปัดเบี่ยงการโจมตีของเขาด้วยหนึ่งดาบจากนั้นใช้อีกดาบหนึ่งส่งหัวเขาโบยบิน
「เวรเอ้ย!!」
ศัตรูผู้คงเหลือสามคนถูกทิ้งให้รู้สึกโมโหจัด ระหว่างผมจะเป็นหนึ่งผู้เริ่มโจมตีต่อไป
ผมพุ่งตัวพร้อมตีพวกเขาด้วยพลังทั้งหมดแล้วเหวี่ยง หวังจะปลิดชีวิตพวกเขาไปก่อนพวกเขาโจมตีได้
「การโจมตีระดับนี้เก่ะกุ่!」 「-หยุดได้ง่ายงะ-กะยู้ว!」
สองชายวางตำแหน่งดาบแนวนอนเเพื่อรับการฟาดฟันของผมทำดาบพวกเขาแแตกสู่เสี่ยงๆไปด้วยกับกับหัวพวกเขา แล้วจากนั้นผมส่งศัตรูผู้สุดท้ายบินด้วยเตะสู่ด้านหน้า
「อั่ก…….อุ่กกก……」
ผมคิดว่าผมเตะเต็มเป้าหมายเพื่อทำลายท้องเขา แต่เกราะโซ่อันเขาใส่ช่วยชีวิตเขา
มันจะน่าเศร้าหนักหนาถ้าผมปล่อยเขาทุกข์ทรมานในความเจ็บปวด
ผมยืนหน้าชาย ยกดาบ
「ได้โปรดรอก่อนลอร์ดฮาร์ดเลตต์!!」
แค่เมื่อผมจะจบสิ้นชีวิตเขาเสียงหนึ่งเรียกหาผมจากข้างหลัง
「เราจำเป็นต้องถามผู้ชายคนนั้นเกี่ยวกับที่มันเกิดอะไรขึ้นวันนี้ ฉันรู้ว่ามันอาจน่าหงุดหงิด แต่ได้โปรด……」
หนึ่งผู้หยุดผมคือเคนเน็ธ ซึ่งแสดงตัวออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้
「……ได้เลย」
ผมใช้ด้ามดาบเพื่อจิ้มไหล่ชาย
ด้วยเสียตุ้บชายถูกทำสลบหลับไหลร่วงล้มลง
「ทำได้ดีมาก」
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้จบลงแล้ว เมลกับลีอาห์วิ่งมาสู่ด้านข้างผม
「เอเกอร์ซามะ พี่ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนนะ ใช่มั้ย?」
「นายท่าน~」
โอ๋ โอ๋ ผมดีใจที่เธอทั้งสองไม่เจ็บตัวด้วยเหมือนกัน
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นอสูรหรือบางอย่างเหรอ……?」 「ช่างเป็นวิธีการต่อสู้ ช่างเป็นพละกำลัง……」
ไม่ใช่ขุนนางทั้งหมดมองผมชื่นชม
พวกเขาน่าจะกำลังคิดเกี่ยวกับรูปแบบการต่อสู้อันงดงายเมื่อสอฝ่ายบรรจบดาบไขว้กันสักพักก่อนการปะทะสุดท้ายที่แค่หนึ่งเดียวเท่านั้นร่วงล้มสู่พื้นดิน…… เหมือนการแสดงในโรงละคร
แต่ในความเป็นจริง เศษสมอง ลำไส้ แอ่งเล็อดจะฉีดสาดกระจายไปทั่วทั้งห้อง
ศพของคนชั่ว 10 คนกับขุนนางหลายคนนอนบนพื้นระหว่างขุนนางคนอื่นบางคนได้รับบาดเจีบแล้วร้องไห้เสียงดัง มันน่าจะเหมือนภาพจากนรกกับพวกเขา และพร้อมกับมีผมเป็นศูนย์กลางภาพนั้นทั้งหมด พวกเขามองดูในความกลัวสุดสมองและแขยงสุดลำไส้
ดั่งพยายามจะลบล้างบรรยากาศละเอียดอ่อน เคนเน็ธปรบมือแล้วทำเสียงเนื้อตีดังๆ
「ทุกคน! คนเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่คนร้ายพวกเดียวเท่านั้น พวกท่านหลายคนก็ได้รับการบาดเจ็บ มาเคลื่อนที่ไปสู่บริเวณปลอดภัยกว่านี้เร็วที่สุดเท่าที่เราทำได้เถอะ!」
「อาา……จริงด้วย」 「ลูกชายฉัน! ลูกชายฉันอยู่ไหน!?」
「เคานต์อิรฮิด นายเป็นเจ้าของงานเอาเลยแล้วนำทาง」
หน้านายท่านของคฤหาสน์เปลี่ยนเป็นซีดเมื่อเคนเน็ธจ้องเขาเขม็ง แต่เขาเริ่มเดินไปข้างหน้าด้วยเสียงสั่นชัดๆ
「ผ-ผมขออภัย! อืม ทุกคน ได้โปรดมาทางนี้ก่อนยามตัวจริงมา……」
「แล้วก็……ถ้าลอร์ดฮาร์ดเลตต์ไม่อยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราท้องหมดอาจโดนสังหารหมู่ไปแล้ว ฉันของแสดงการขอบคุณลึกซึ้งเป็นตัวแทนทุกคน ณ ที่นี้」
เคนเน็ธลดหัวสู่ผม ซึ่งทำขุนนางคนอื่นขอบคุณผมด้วย
ผมไม่ได้สนใจไม่ว่าจะแบบไหน
แล้วนายเพิ่งซ่อนหายไปบางที่ตลอดเวลาจริงๆ
มันอาจจะเป็นการตัดสินใจอันฉลาดเฉลียวในส่วนเขาเพระเขาน่าจะเข้าไปเกะกะการต่อสู้ แต่นี่ไม่ได้รู้สึกถูกต้องสำหรับผม
ที่สำคัญมากกว่านั้น ผมกังวลเกี่ยวกับบางอย่าง
「มาร์เควสบอลด์วิน เกี่ยวกับเหตุการนี้……」
「มันเกี่ยวกับที่ซากของกองกำลังมากราโดมีเป้าหมายมาที่ฉันหรือ?」
「ไม่คิดว่ามันแปลกเรอะ?」
「……ถ้าเราจะเชื่ออะไรซึ่งพวกเขาพูด แต่กระนั้นนายยังจะคิดว่าเป้าหมายของพวกเขาจะเป็น ด้วยความเคารพทั้งหมด พระองค์ คิดว่าพวกเขายอมแพ้เพราะพวกเขาแทรกซึมวังไม่ได้ นายจะคาดว่าเป้าหมายต่อไปของพวกเขาถ้าไม่มาร์เควสราดาห์ลก็เป็นลอร์ดฮาร์ดเลตต อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจไม่ได้รู้ว่านายจะอยู่ที่นี่」
เพราะทั้งหมดผมตัดสินใจที่นั่นเลย
มันจะแย่ถ้าเป็นแบบนั้น
「มันยากจะเชื่อว่าพวกเขาจะจงใจมีเป้าหมายมาแค่ฉัน…… ซึ่งหมายถึงมันเป็นไปได้ว่าพวกเขาโจมตีบ้านของมาร์เควสราดาห์ลหรือลอร์ดฮาร์ดเลตต์พร้อมๆกัน」
「ฉันจะกลับไปบ้าน รถม้า……ไม่ขอม้าตัวนึง ฉันจะยืมตัวนึง」
โดยไม่รอคำตอบผมนำเมลกับลีอาห์ไปกับผมบนม้า ไม่เหมือนชวาร์ซม้าตัวนี้ดูเหมือนมันมีเวลายากลำบาก แต่มันควรจะไม่ได้จำเป็นว่าเดินทางระยะไกล
ผมทำให้ม้าควบไปเหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน
อิริจิน่าควรกลับไปคฤหาสน์แล้วแม้ว่าเธอเมา ดังนั้นแค่คนอื่นๆผู้สู้ได้คือปีปี้กับครอลล์
ผมคิดว่าพวกเธอพอไหวด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งถ้ามีแค่ประมาณพวกมัน 10 ตัว แต่มากกว่านั้นจะอันตราย
「หวังว่าฉันจะไปทันเวลา……」
แต่ขณะผมเข้าหาคฤหาส์ กลิ่นคุ้นเคยโชยในอากาศ
กลิ่นเลือด ลำไส้กับเนื้อเผาไหม้เข้าจมูกผม
—————————————————————
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูหนาว
สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ
พลเมือง: 155,000 เมืองหลัก – ราเฟน: 22,000 ลินต์บลูม: 3500
สินทรัพย์: 60,600 ทอง
มาด้วยกัน: เมล (ภรรยาน้อย), ลีอาห์ (คนรัก), อิริจิน่า (เมา), ปีปี้ (??), โดโรเธีย (??), อลิส (??), ครอล (??)
คู่นอน: 151, เด็กผู้เกิดแล้ว: 32
—————————————————————
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl