ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 224 ศึกแวนโดเลีย ② กับดักหลายชั้น
–มุมมองบุคคลที่สาม–
ป้อมปราการพรมแดนโกลโดเนียกับแวนโดเลีย
กองทัพแวนโดเลียที่เบเซกนำใช้ความเหนือชั้นคนเยอะกดดันไปข้างหน้า พยายามเต็มที่เพื่อจะข้ามหลุม, ตัดรั้ว, และฝ่าช่องว่างระหว่างป้อมปราการ
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นั้นน่าสงสาร
「หลุมลับมีอยู่เต็มไปหมด! ดูว่านายก้าวไปตรงไหน!」
「เจ้าโง่! อย่ารวมมาใกล้กันเพราะนายกลัวหลุม ศัตรูทำเราได้ง่ายๆ…… อุ่กเกี๊ยะะะ!!」
ที่จุดอ่อนมีหลุมกับดักเต็มไปหมดแน่นอน ในจุดอ่อนที่ควรป้องกันน้อยที่สุด
แต่เมื่อพวกเขาเข้าโจมตีจริงๆ หลุมพวกนั้นทำพวกเขาตก พวกเขาถูกกดดันให้สู้การต่อสู้ที่ยากกว่าที่คาดไว้
หน้าหลุมเป็นแคมป์ป้อมกันที่ทหารโกลโดเนียโจมตีมาได้และกดดันให้ทหารแวนโดเลียกลับไปดังนั้นพวกเขามารวมกันในที่ต่ำ
ผู้บัญชาการลองให้ทหารแยกออกจากกันแต่นั่นทำให้เจอหลุมกับดักจากสองข้าง
หลุมกับดักไม่ลึกมากแต่มีฟางแห้งที่ก้นซึ่งติดไฟเมื่อโกลโดเนียยิงธนูไฟใส่
พร้อมกับไฟที่เข้าใกล้พวกเขา ขบวนแถวแวนโดเลียเริ่มอัดหากันแน่นขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนเป็นก้อนคนฝูงใหญ่ทำให้พลธนูโกลโดเนียยิงพลาดยาก
「ยิงงงงง!!」
พลธนูโกลโดเนียยิงธนูอย่างเร็ว
จำนวนลูกธนูที่ตกเป็นฝนน้อยแต่ทหารแวนโดเลียรวมกลุ่มด้วยกันดังนั้นลูกธนูเก็บศัตรูได้เยอะกว่าที่คาดไว้
ทหารศัตรูพยายามกันการยิงเป็นชุดด้วยโล่ อย่างไรก็ตามมันยากที่จะเข้าสู่ท่ายืนป้องกันเมื่อกองทัพมาปนกันเป็นก้อนฝูงคนอัดกันเละๆ
「ช่างไม่น่าดู…… ออกจากระยะธนูก่อนตอนนี้! มารวมกลุ่มใหม่!」
เบเซกตะโกนพร้อมหน้าบูด
เขารู้ว่าเวลาสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น แต่เขาไม่คิดว่าพวกเขาเดินหน้าได้ถ้าพวกเขาไปทีไรโดนดันกลับมาตลอด
ถ้าพวกเขาสู้ในสภาพไม่จัดระเบียบอย่างนี้ จริงๆมันจะทำให้ศึกล้อมเมืองยืดเยื้อไป
หนีสั้นๆนอกระยกพลธนู เบเซกและคาสซาโน่จัดระเบียบกองกำลังใหม่ระหว่างวิเคราะห์การป้องกันที่ศัตรูตั้งไว้ พวกเขาเรียนจากการโจมตีก่อนหน้า
「พวกเขาไม่ได้ไล่ตามเรา…… พวกเขาอาจมีกองกำลังน้อยเทียบกับป้อมปราการที่ดูน่าประทับใจ จำนวนลูกธนูไม่เกิน 300 ในคราวเดียว ถ้าพวกเขามีกลุ่มปรกติที่เขาหาได้ มันควรมีประมาณพัน」
「สุดท้ายพวกเขาต้องพยายามให้สูญเสียน้อยสุดระหว่างรอกำลังเสริมมาถึง ถ้าทหาร 5000 คนจากกองทัพหลักของฮาร์ดเลตต์มาถึงป้อมปราการ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะผ่านไป」
จากการรายงานของทหาร แคมป์ป้องกันอยู่ที่ที่เชื่อว่าเป็นจุดอ่อน มันดูแย่กว่าที่คิด
มีหลายหลุมกระจัดกระจายไปที่ลึกกว่าความสูงตัวคนทั่วไป แต่นอกจากนั้น อย่างเดียวที่ป้องกันคือรั้วไม้และไม้แหลมที่ทำเป็นการต่อต้านทหารม้า
มันเทียบกันไม่ได้กับกำแพงหินของป้อมปราการ
「เหมือนที่เราคิด พวกเขาสร้างเสร็จทันไม่ได้ พวกเขาตั้งที่จุดดีเพื่อให้พร้อม แต่เราจะเตรียมตัวกับการโจมตีครั้งหน้า」
「ใช่ จุดนั้นอัดแนนกว่าที่ภูมิประเทศเป็นเพราะแคมป์ เมื่อเราดันไป มันติดตันและเคลื่อนไหวยากสำหรับเรา ศัตรูน่าจะคาดว่านี่จะเกิดขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะแบ่งเป็นกลุ่มไม่กี่พันและโจมตีเป็นระลอก จะมีผู้เสียชีวิตแต่น่าจะฝ่าได้เร็ว」
เบเซกพยักหน้ายินยอมและเติมอะไรที่จะพูด
「เรามีทหารม้าประมาณ 500 คน หลังจากกวาดรั้วและไม้แหลมทิ้ง พวกเขาจะบุกเข้าไป เมื่อพวกเขาไปถึงอีกฝั่งของป้อมปราการ ทหารศัตรูจะอยากวิ่งหนี」
「เสนอได้ยอดเยี่ยม」
เบเซกและคาสซาโน่มุ่งไปเพื่อพูดให้กำลังใจเหล่าผู้บัญชาการผู้รีบจัดระเบียบหน่วยพวกเขาให้เสร็จ
「ฉันคิดว่ากลุ่มนักโทษจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ แต่พวกนายพอใช้ได้นี่」
「พวกนายด้วย แม้ว่าฉันล้อนายที่เป็นนายพลกองทัพผู้พ่ายแพ้」
พวกเขาสองคนหัวเราะและจับมือกัน
มันเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจโจมตีสำเร็จในการโจมตีหน้า
ความคิดอย่างนั้นอยู่ในใจของพวกเขา
ฝั่งโกลโดเนีย
「ถ้าศัตรูไม่ใช่ควายเขาจะโจมตีเป็นระลอกต่อ」
「ระลอกเหรอครับ?」
「ใช่ ศัตรูได้ดูการป้องกันของเราดีๆ แล้ว พวกเขาโค่นเราได้โดยไม่มีกำลังใหญ่ ปัญหาที่สำคัญกว่าคือพวกเขาใกล้กัน เห็นไหม ให้ทหารที่จุดเบอร์ 2 และจุดเบอร์ 3 รวมกันที่นี่ด้วย」
「แน่ใจเหรอครับ?」
หลุมดินตอนนี้ที่ถูกโจมตีไม่ใช่จุดอ่อนเดียวของป้อมปราการปลอมบนพรมแดน
มีตำแหน่งอื่นอีกสองตำแหน่งที่ภูมิประเทศทำให้กำแพงตั้งยาก
เพราะมันจะฝ่าง่ายถ้าจุดเหล่านั้นถูกโจมตี ทหารที่ประกอบด้วยทหารหลายร้อยประจำอยู่ที่จุดพวกนั้นเพื่อปกป้องพวกมัน
ถ้าใครก็ตามใกล้เกินไป แผนคือยิงปืนใหญ่พังๆเพื่อขู่พวกเเขา
「ศัตรูสูญเสียเยอะเพื่อดูการป้องกันในที่นั้น พวกเขาจะไม่เน้นโจมตีจุดอื่นที่เวลานี้ ถ้าพวกเขามีกำลังทหารพอ มันจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะฝ่าจุดนั้น」
「ถ้าอย่างนั้นผมจะไปสั่งในทันที ……พูดถึงแล้ว ท่านไม่ใส่เกราะสักตัวเหรอ? ถ้าศัตรูเข้าหาท่านล่ะก็……」
ทหารมองด้วยหน้าตามีปัญหากับทริสตันที่ไม่ได้ปกป้องอะไรเลย ทริสตันผู้ตอบระหว่างสั่งไปเคี้ยวคุกกี้ไป
「มันไม่ประโยชน์ แกะใส่เกราะกับไม่ใส่ไม่ต่างกัน」
ทริสตันพูดแบบล้อเลียนก่อนยืนขึ้น
「ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อไหร่มาเกรฟจะมา? ถ้าอย่างน้อยเขาส่งทหารม้าก่อนพวกเขาได้ ถ้าอย่างนั้นเราสรุปศึกนี้ได้」
「สาส์นด่วนถูกส่งไปราเฟนจากเบียโดกำลังออกมาข้างนอก……」
ตำแหน่งตรงๆของกองทัพหลักที่สมควรมุ่งกลับไปราเฟนยังไม่รู้ ทริสตันเลยสั่งทหารอย่างนั้นเพื่อส่งขอมูลให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
「มันไม่ได้ดูเหมือนพวกเขานำด้วยทหารม้า ให้ตายเถอะ เขามีเจตนาให้ฉันทำงานหนักแค่ไหนกัน」
ทริสตันถอนหายใจใหญ่ แม้ว่ามันไม่มีความด่วนในน้ำเสียงของเขา
ทหารรอบเขาคุ้นกับการคิดแง่ลบของทริสตันแล้ว และไม่ได้ผิดหวัง
「ฉันเดาว่าสำหรับตอนนี้เราทำได้แค่เตรียมตัวและไล่พวกเขาไป ทุกคนฉันหวังพึ่งนายให้ทำตามแผนนะ ถ้านายทำได้ดี พวกเดียวกันไม่เยอะเท่านั้นที่จะตาย มั้ง」
คนเฝ้าระวังตะโกนก้องเป็นสัญญาณว่าศัตรูโจมตี
「ศัตรูแยกเป็นระลอกทหาร 2000 คนและเน้นกับจุดเบอร์ 1! มันดูเหมือนพวกเขาโจมตีเป็นระลอก!」
「ฟุ่มุ ดีที่สุดสำหรับแถวนี้คือทหารระลอกละ 3000 คน ฉันเดาว่าพวกเขาพอผ่าน มันดูเหมือนการอัดกันตอนแรกกวนใจพวกเขา」
「เตรียมป้องกัน! ทำตามแผน!」
「อาา การมีทหารที่เคลื่อนที่เหมือนที่พูดทำให้อะไรๆมันง่ายมาก…… ทั้งหมดก็เพราะการฝึกที่ลีโอโพลต์ทำ」
「อย่าพูดบางอย่างสบายและไต่ขึ้นพื้นที่ยกสูงเถอะครับได้โปรด! ท่านต้องดูสนามรบครั้งนี้」
ทริสตันไม่เต็มใจยืนขณะทหารดึงเขา
「ฉันบอกแล้วว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไรตราบใดที่เราทำตามแผน…… อาา ฉันยังดื่มชาที่เหลือไม่หมดเลย」
กองทัพแวนโดเลียเดินหน้าเร็วระหว่างตั้งท่ายืนป้องกันที่มีโล่เหนือหัวไม่เหมือนการโจมตีแรก
ทันทีเมื่อพวกเขาเข้าระยะพลธนูโกลโดเนีย ลูกธนูตกไปเป็นฝน แต่เพราะมีโล่ตั้งแล้ว ไม่มีความเสียหายมาก
พลธนูของฝั่งแวนโดนเลียยิงกลับไปไม่ได้
เพราะพื้นที่จำกัดแค่พอเท่าที่มันมีแล้ว มันจะแค่ทำให้ไม่เป็นระเบียบถ้าพลธนูหยุดเคลื่อนไหวและยิงกลับไป
「ใจเย็น การป้องกันของศัตรูไม่แน่นหนา เราทำลายพวกเขาได้ในระยะประชิด!」
ผู้บัญชาการที่ประสบการณ์โชกโชนตะโกนดังเพื่อให้การเดินหน้าอย่างราบรื่นดำเนินต่อไป
「เฮฮฮ๋…… พวกเขาค่อนข้างมีระดับ」
「คุณภาพทหารแวนโดเลียก็ไม่ได้แย่ด้วย」
ขณะที่ทริสตันมองลงไปแบบไม่ได้สนใจมากจากพื้นที่ยกสูง แสงเพียงน้อยนิดกลับมาสู่ดวงตาเขา
「มันดูเหมือนมีทหารอยู่สองประเภท หนึ่งเป็นทหารประจำและอีกหนึ่งดูเหมือนไม่เป็นระเบียบมากกว่า…… มันเป็นการร่วมมือกันชั่วคราวเหรอ?」
ทริสตันคิดดังๆต่อไปและรู้สึกอยากเคี้ยวบางอย่าง เขาล้วงไปในกระเป๋าแต่เมื่อเขาไม่เจออะไร ปากเขากลายเป็นเบี้ยวนิดหน่อย
「ยังไงก็ตาม บางอย่างแบบนั้นไม่เป็นปัญหาหรอก」
กองกำลังทหารแวนโดเลียทนธนูขณะพวกเขาเข้าหายอดเนินเขาหน้าทางออกพื้นหลุมที่รั้วและแถวไม้แหลมตั้งอยู่
「ไป! ทำลายรั้ว!」
ทันทีเมื่อผู้บัญชาการตะโกน ทหารที่ถือขวานใหญ่และค้อนบุกไปข้างหน้าเพื่อตีรั้วและไม้แหลม
ธนูบินไปเพื่อพยายามสกัดกั้นศัตรูและพอได้ทำให้ทหารไม่กี่คนล้มได้ แต่แคมป์ป้องกันกำลังถูกทำลายด้วยความเร็วสูง
「ถอย! ถอยมา!」
ทหารโกลโดเนียที่ถูกปกป้องโดยสิ่งก่อสร้างป้องกันและถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวถูกไล่กลับไป
ไม่มีอะไรที่ทำให้ทหารเดินไปข้างหน้าได้มากกว่าเมื่อเห็นศัตรูล่าถอย
「ศัตรูกำลังวิ่งหนี! กดดันไปข้างหน้าต่อ!」
ฝั่งที่โจมตีมีผู้เสียชีวิตเยอะกว่ามากกว่าทหารโกลโดเนียผู้วิ่งถอยหลังระหว่างยิงสวนด้วยธนูและหอก
แม้อย่างนั้น แวนโดเลียยังเดินหน้าไปเรื่อยๆ
พวกเขาจะชนะถ้าพวกเขาฝ่าได้ ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจดูจำนวนผู้สูญเสีย
「ทหารม้ากำลังมา!」
คนเฝ้าระวังรีบตะโกน
「อืม นั่นมีปัญหา」
ทริสตันพูดโดยไม่มองด้วยซ้ำ
ควันฝุ่นลอยไปถึงกลางกองทัพแวนโดเลีย โดยไปถึงหลังจากอุปสรรคหายไปแล้ว
「พวกเดียวกันกำลังทิ้งขบวนแถวป้องกันที่พื้นหลุมและถอยกลับไปที่ร่องดิน」
มีร่องดินเป็นสายยาวขุดไว้หลังขบวนแถวป้องกันตั้งอยู่ที่ก้นทางลาดลง
ทหารที่ป้องกันอยู่ข้ามแผ่นไม้ที่วางไว้หลายจุดและถอยไปอีกฝั่งของร่องดิน
รั้วที่ล้อมตรงที่สุดทางแผ่นไม้มีแถวพลหอกตั้งเป็นแถว
ปรกติแล้ว ทหารม้าแวนโดเลียที่กำลังไปจะเข้าใจการจัดตั้งแบบนี้แค่มองผ่านๆ
「ระวัง มีร่องดิน!」
「ฮึ่ม คิดว่าเราโง่พอที่จะไปอยู่รวมกันหน้าหอกเหรอ? ร่องดินไม่ได้กว้างเป็นพิเศษ ถ้าเราวิ่งให้เร็วที่สุด เรากระโดดผ่านได้ทุกอย่าง!」
「อย่ามาดูถูกม้าของเรานะ!」
ทหารม้ากระจายไปตั้งแถวขนานกับร่องดินและเร่งความเร็ว
「ทุกคน กระโดด!」
「อืม นั่นจะเป็นไปไม่ได้」
ทริสตันบ่นอุบอิบในเสียงเบาและจากนั้นมีเสียงร้องออกมาจากหน่วยทหารม้า
หลุมตื้นขุดไว้อยู่ก่อนร่องดิน
ความลึกของหลุมแค่พอตกไปถึงหัวเข่าและไม่มากไปกว่าเด็กแกล้งกัน
「พวกเขาเอาหลักเหยียบเราไป!」
「อุ่เกี๊ยะะะะะ!」
กับม้าที่ยังวิ่งเต็มความเร็วและพยายามกระโดดข้ามร่อง ความลึกแค่นั้นถึงกับชีวิต
หลุมทำให้ขาม้าตกไปติดตามๆกัน สร้างภาพเหมือนภัยพิบัติที่พวกเขาทั้งหมดกลิ้งไปข้างหน้า
ม้าขาหักและร้องน่าสงสารระหว่างคนขี่ม้าถูกม้าทับและกระอักเลือดพุ่งสู่ท้องฟ้า
แต่ยังไม่หมด โศกนาฏกรรมไม่จบเพียงเท่านั้น
「เฮ้ เกิดอะไรขึ้น!?」
「ฉันหยุดไม่ทัน!」
คนที่ตกหลุมเป็นแค่แนวหน้าแถวแรก แต่ทหารที่ตามมาก็สะดุดพวกเดียวกันที่ล้มอยู่และล้มหน้าทิ่มด้วยเหมือนกัน
ทหารที่รอดอยู่ถูกพวกเดียวกันเหยียบและถูกขยี้
ทหารม้าที่ขยี้ก็เสียหลักหลังจากนั้นและกลิ้งใส่พื้น แล้วถูกย่ำเอาโดยม้าข้างหลังพวกเขา
หน่วยทหารม้ากลายเป็นเละเทะเต็มที่
「ทำตอนนี้เลย!!」
ทหารที่ป้องกันอยู่ไม่พลาดจังหวะเปิดที่แสดงตัวออกมาเอง ข้ามร่องดินและปิดฉากทหารม้าที่ล้มหรือลากศัตรูตื่นตัวลงจากม้าพวกเขา
「หลุมดินโดนแค่คนเดียว แต่ถ้าเราใช้มันแบบนี้ มันเก็บทีเดียวหลายคนได้」
「……」
ทหารปรึกษากันว่าควรมองทริสตันแล้วเคารพดีหรือตกใจต่อแบบนี้แหละขณะตัวทริสตันเองเคี้ยวเปลือกเลม่อนแช่น้ำตาลที่เขาเจออยู่ลึกๆในกระเป๋า
「ทหารม้าศัตรูกำลังล่าถอย! ……ทหารราบแนวหลังถูกส่งออกมา มันดูเหมือนพวกเขาจะอ้อมร่องดิน」
「พวกเขาไม่เห็นต้องกลัวเลยเพราะไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นแล้ว」
บริเวณที่ทหารแวนโดเลียเลือกอ้อมไปคือพื้นเรียบที่ดูเหมือนไม่เหมาะไว้ป้องกัน
อย่างไรก็ตาม ทริสตันจงใจเดินหน้าทหารไว้ที่นั่น
「ฉันรู้แล้ว! พวกเขาสร้างกับดักบนพื้นเรียบไม่ได้หรอก เราจะเข้าประชิดทันที!」
「รวมแนวหลังด้วย เราจะขยี้พวกเขาด้วยจำนวนตรงนี้แหละ」
กำลังเสริมมารวมกันในที่ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นทางเดียวที่ฝ่าได้ทันที
ในทางกลับกัน ทหารที่ป้องกันอยู่ดูแล้วเห็นชัดๆว่าจำนวนไม่พอสู้
「ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเขาเอาหน่วยพลธนูและหน้าไม้ไว้ข้างหน้าว่ะ」
「เราอาจโดนยิงชุดแรกก่อน แต่เมื่อเราเข้าใกล้ พวกเขาทำอะไรไม่ได้หรอก」
มันจะต่างกันถ้ามีแคมป์ป้องกัน แต่มันดูได้อย่างเดียวว่าฆ่าตัวตายสำหรับพลธนูที่จะมาเจอกับทหารราบบนพื้นเรียบ
「บุก!」 「ขยี้พวกมันเลย!」
กองทัพแวนโดเลียบุกไปข้างหน้าพร้อมกันหมดระหว่างทหารที่ป้องกันประจำที่ พร้อมยิงกระสุน
มันเมื่อฝั่งโจมตีคิดว่าพวกเขาชนะแล้ว
「โฮ่ย」
ทหารโกลโดเนียเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกันทั้งหมดเมื่อทริสตันทำเสียงไม่มีความหมายเอาเสียเลย
คนหลายคนกลิ้งหินหนักลงหลุมเหมือนบ่อลึก
มันเป็นกลไกให้เกิดเสียงการเสียดสีของโซ่มากมายที่สีกัน
「อะไร-!?」
「ล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย……」
ทันใดนั้น แถวรั้วโผล่มาหน้าทหารที่กำลังบุก
ทหารแวนโดเลียหยุดดูรั้ว คิดว่ามันไม่ได้เป็นบางอย่าางที่ 30 วินาทีก็เสร็จได้
และจากนั้น ฝนลูกดอกหน้าไม้และลูกธนูตกลงใส่
「ทำได้ยังไง พวกเขาต้องคิดมาหลายอย่าง」
「อ่ะฮ่าฮ่า」
กลไกมันเรียบง่าย
รั้วนอนอยู่บนพื้นไว้ก่อนหน้าแล้วและมีโซ่ติดตั้งไว้หน้าฝั่งศัตรู
ถ้าหินใหญ่ที่ติดกับโล่ถูกทิ้งลงหลุมลึก มันจะเป็นกลไกให้โซ่ดึงรั้วขึ้นทันทีตอบหลังจากนั้น สิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องทำคือใช้ไม้ค้ำเพื่อตั้งรั้วให้มั่นๆเพื่อที่มันจะไม่ล้มพับมาด้านใน และจากนั้น คนหนึ่งจะมีรั้วที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
「ความแข็งแกร่งมันก็น้อยอยู่นั่น แต่ความตรึงใจเป็นอะไรที่สำคัญกว่าตอนนี้ ……ให้แน่ใจว่ามันถูกปกป้องหลังจากตั้งแล้วด้วย」
แน่นอน ทหารศัตรูสับสนกับรั้วที่มาจากไหนก็ไม่รู้และหยุดเดิน
เมื่อเป็นอย่างนั้น หน่วยพลธนูและหน้าไม้ยิงได้ตามสบาย
การยิงเล็งมั่นๆเก็บทหารแวนโดเลียตามๆกัน
ตามธรรมชาติ การโจมตีสวนจะไปไม่ถึงทหารที่ป้องกันอยู่อีกฝั่งของรั้ว ทำให้มันเป็นกิจกรรมฝ่ายเดียว
「ถ้าเราไม่ทำลายรั้วล่ะก็-…… หน่วยทุบทำลายอยู่ไหน? ค้อนและขวาน-……」
「แน่นอนตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างหลัง! เพราะเราอยากฟันดาบปะทะ!」
「แนวหลัง ถอยทัพ! เอออ๋ ถ้าทำไม่ได้ถ้าอย่างนั้นไปจากข้างๆ……」
เสียงโซ่เคลื่อนไหวมากขึ้นดังมาและรั้วโผล่มาฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
「ม-ไม่ได้แล้ว เราไม่มีทางเลือกนอกจากถอยทัพแล้ว!」
「เราจะไม่เรียกหน่วยทุบทำลายแล้วเหรอ!? พวกเขาเดินหน้ามาที่นี่แล้ว ถ้าเราถอยทัพตอนนี้เราจะขยับไม่ได้……」
เมื่อเห็นกองทัพแวนโดเลียอยู่ในความวุ่นวาย ทริสตันยกมือก่อนรั้วโดนโจมตี
「ศัตรูไม่ได้ดูข้างหน้าอีกแล้ว ฉันว่ามันควรได้เวลาแล้ววถ้าอย่างนั้น」
โซ่ถูกปลดและรั้วหลายแถวล้มลง
หลังจากนั้น ทหารประมาณ 1000 คนวิ่งไปโจมตีศัตรูที่สับสนอลหม่าน
「ถอยทัพ! ถอยทัพ……. วิ่งหนีเร้ว! วิ่งงงงงงงงง!!」
ในจุดสูงสุดของความสับสน ทหารแวนโดเลียทำการสู้ดีๆไม่ได้และถอยทัพ
「อืม มาดูกันพวกเขาจะมายังไงต่อ? ศัตรูประเภทนี้คิดตื้นๆและมันเดาล่วงหน้าง่าย ต่างจากบางคนเช่นคนนั้นที่พึ่งแต่แรงกล้ามดิบๆเถื่อนๆ」
กองทัพแวนโดเลียเดินหน้าไปข้างหน้าต่อหลังจากนั้น แต่ทุกครั้งที่เขาทำ เขาโดนสวนหนักและไล่กลับทุกรอบ
การต่อสู้ดำเนินตรงข้ามกับที่เบเซกคาด และศึกล้อมเมืองกินกันไม่ลงอยู่หลายวัน
「นี่มันกับดัก…… เราควรอ้อมโดยไม่เข้าใกล้……」
「แต่เราจะจงใจโจมตีที่ที่ป้องกันแน่นกว่านี้……」
「ไม่มีทางเลือกอื่น มันดีกว่าถูกเผา!」
「ทำการอ้อมและทิ้งฟางเปียกไว้ ง่ายจัง」
「ศัตรูมีแค่ทหารราบเบา ไล่ตามพวกมัน!」
「ถ้าเราไล่หลังศัตรูจะไม่มีหลุมกับดัก! ปิดฉากพวกมันทันที…… อุว้าาาาาา ทำไมล่ะ?」
「อืม มีอยู่บ้าง มันจะใช้ทหารราบ 100 คน และบางทีทหารราบหนักประมาณ 70 คน สำหรับช่วยตกไป」
จุดจบของการต่อสู้เกิดขึ้นเมื่อธนูไฟยิงออกไปอย่างสิ้นหวัง
มันลงพื้นจุดที่ไร้ความหมาย…… กลางกำแพงหิน แต่ไฟจากลูกธนูเริ่มไหม้กำแพงอย่างรวดเร็ว
「อ่ะช่า พวกเขาทำมันแล้วสินะ」
「……ใช่สินะครับ」
ไม้บางไหม้ทันทีและทั้งป้อมปราการถูกไฟคลอก
「ให้แน่ใจว่าคนเฝ้าระวังหนีทัน ปืนใหญ่…… ฉันว่าเราทิ้งไว้ได้เพราะมันใช้ไม่ได้อยู่ดีแหละ ฉันรู้สึกไม่ดีนิดหน่อยที่ปล่อยมันไหม้เพราะแค่มันมีตำหนิ」
พวกเดียวกันคนอื่นที่มีกำลังใจอยู่สูงหลังชนะฝ่ายเดียวก็มองด้วยความรู้สึกผสมปนเป
มันอาจเป็นการสร้างปลอมๆแต่มันยังน่าเศร้าใจที่เห็นสิ่งก่อสร้างที่พวกเขาทำงานหนักเพื่อสร้างมันมากลายเป็นเถ้าถ่าน
อย่างไรก็ตาม มันส่งความน่าตกใจสู่ฝั่งของแวนโดเลียมากกว่า
「……นั่นอะไรน่ะ?」
「ป้อมปราการ ทั้งหมดมันกำลังไหม้เหรอ?」
「ม-มันถล่มแล้ว ไม่ใช่มันทำจากหินเรอะ?」
เมื่อกำแพงที่ไหม้ล้มลง ในที่สุดฝั่งที่โจมตีก็รู้ว่าการหลอกลวงทั้งหมดและการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ไม่มีประโยชน์มากเท่าไร
「เราไปทำอะไรอยู่ตลอดเวลามานี้……
「กำแพงแแบบนั้นใช้สิบคนก็พอแล้ว ถึงอย่างนั้นเราสูญเสียเป็นพันๆ……」
ความเหนื่อยหน่ายในร่างกลายเปลี่ยนเป็นความต้องการฆ่าอย่างช้าๆ
「อย่าให้พวกคนโกลโดเนียบัดซบกลับไปเป็นๆ!」
「ถ้าไม่มีกำแพงเราสังหารหมู่แค่ทหารสองพันคนได้!」
ศัตรูเตรียมโจมตีไปด่าไป แต่ทหารโกลโดเนียไม่ได้กลับหรือหนี พวกเขาแค่ยืนในแถวเป็นระเบียบ
「ถ้าเป็นสองวันที่แล้ว เราคงหนีไปแล้วแหละ」
「ใช่สินะครับ」
ทริสตันและทหารลูกน้อง หัวเราะเบาๆด้วยกัน
พวกเขาไม่มีเหตุผลต้องรีบอีกแล้ว
「เริ่มโจมตีเต็มกำลัง! ให้พวกโกลโดเนียบัดซบได้-……」
เสียงคำรามแห่งสงครามดังดึงเสียงตะโกนจากกองทัพแวนโดเลียหายไป
「เฮ้อ ท่านจะช้าแค่ไหนกัน เพราะแบบนั้น มันรู้สึกเหมือนผมทำงานไปแล้วหนึ่งชีวิตแล้วเนี่ย」
「ทุกหน่วย บุก! ตีขนาบพวกมัน」
ควันฝุ่นปรากฏจากหลังกองประจำการ ไม่นานก็ให้เห็นทหารม้าสามพันคนควบมาข้างหน้าจากทางเหนือ
ในที่สุดกองทัพหลักก็มาถึงและเริ่มโจมตีแทนช่วยกองทัพป้องกัน
ทหารผู้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรุกรานมอลต์กรีดร้องเมื่อพวกเขาเห็นทหารม้าธนูและทหารม้าหอก
「อย่าไปกลัว! จำนวนทหารม้าศัตรูมี 3000 คน ระหว่างเรามีมากกว่า 10,000 คนได้ง่ายๆ……」
ในทันใดนั้นเอง อีกกลุ่มควันปรากฏมาที่ทิศตะวันออก
มันคือกำลังเสริมทหารม้าธนูอีก 2000 คนจากชาติภูเขาผู้ใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อมาเจอกับกองทัพหลัก
「จากสองนาฬิกา……」
「กองทหารประจำการกำลังอ้อมมาสู่ฝั่งตะวันออก! พวกเขากะล้อมเราสามทิศ……」
พวกเขาต้องเจอศัตรูที่พวกเขาได้รับความพ่ายแพ้แบบเด็ดขาดอีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาถูกล้อมอยู่
พวกเขาไม่ควรสามารถรับสถานการณ์นี้ได้อีกแล้ว
นักโทษไร้ทักษะแตกกลุ่มทันที ตามด้วยกองทัพรุกรานมอลต์ที่แตกพ่ายไม่นานหลังจากนั้น และนี่เป็นที่ศึกบนพรมแดนจบอย่างไร
「และตอนนี้หน้าที่ฉันหมดแล้ว ฉันจะกลับราเฟน……」
「เราได้รับคำสั่งจากเจ้าศักดินาซามะเมื่อกี้ที่บอกเราให้ตามเขาไป……」
「หาฟฟฟฟู่」
–มุมมองเอเกอร์–
กองทัพฮาร์ดเลตต์ กองทัพหลัก
「ไมล่าซังตีศัตรูแตกพ่าย เธอไปรวมทัพกับทหารม้าธนูที่มาเป็นกำลังเสริมและดูเหมือนกำลังกลับ ไม่เป็นไรถ้าเราไม่ไล่ตามจริงๆเหรอ?」
「เราไม่รู้เกี่ยวกับถิ่นแวนโดเลียมาก มันไม่ดีถ้าเราตามพวกเขาไกลไปอย่างไม่ระวัง เราควรให้ความสำคัญกับการเจอกับกองประจำการและทหารม้าธนูก่อน」
ลีโอโพลต์ให้คำตอบแทนผม
จากอะไรที่ผมได้ยิน กองประจำการควรสู้กองทัพศัตรูที่มีกองกำลังมากกว่ากองกำลังพวกเขาสิบเท่า แต่พวกเขาไม่ได้ดูเหมือนเหนื่อยล้ามากมาย
พวกเขาเสียชีวิตแค่ 100 คน
เหมือนที่ผมคิด ทริสตันฝีมือดีมาก ผมจะให้เขาทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆให้เหมือนอดอล์ฟ
「ถ้าอย่างนั้น อืม-」
ซีเลียและอิริจิน่ามองผมแบบไม่มีความสุข
「มีอะไรเหรอ?」
「คุ มันน่าอับอาย……」
ที่พวกเธอจะบ่นกันน่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างผม…… ผู้ช่วยของศัตรูที่ผมจับได้ระหว่างสู้กับแวนโดเลีย
ผมคิดว่าผมให้เธอบอกข้อมูลเกี่ยวกับแวนโดเลียได้ แต่เธอปิดปากค่อนข้างแน่น ผมไม่มีทางเลือกนอกจากนำเธอไปกับเราด้วย
「ท่านจะทำยังไงถ้าท่านเก็บผู้หญิงแบบนี้ไว้ข้างๆและเธอพยายามฆ่าท่านเมื่อท่านหลับ?」
ซีเลียบ่นว่าผู้หญิงอันตราย
「พี่ต้องไม่ข่มขืนนักโทษสงคราม!」
ที่อิริจิน่าบ่นน่าจะเพราะผมถูตูดผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอด
อืม เพราะมันดีที่ได้จับ ผมหวังว่าผมปล่อยผ่านได้
นอกจากนี้ มันไม่ข่มขืนถ้าไม่ได้สอดใส่ มันควรไม่เป็นอะไร
「พูดได้แล้วล่ะมั้ง? ฉันไม่ชอบทำผู้หญิงเจ็บแต่เพราะเธอไม่พูดอะไรเลย-」
ลีโอโพลต์บอกว่าให้ปล่อยให้เขาทำและเธอจะพูดทันที แต่ผมไม่ได้ให้เขาทำเพราะผมไม่อยากให้เธอเละ
「ฉันจะไม่มีวันทรยศชาติแบบนั้น!」
「เมื่อคิดแบบนั้น มันไม่ได้ดูเหมือนเธอจะทิ้งประเทศ」
ผมไม่คิดว่าผมเฝ้าดูเธอแน่นหนาขนาดนั้นเธอเลยน่าจะวิ่งหนีได้ถ้าเธอพยายามจริงๆ
「……ฉันไม่คิดว่าดินแดนพ่อจะยกโทษทหารที่กลับบ้านอย่างหน้าไม่อายหลังจากเป็นนักโทษสงคราม…… แต่ครอบครัวฉันจะมีปัญหาถ้าฉันตาย ถ้าเป็นอย่างนั้น ถ้าฉันถูกจับไว้แบบนี้-……」
「พวกเขาจะทำเหมือนเธอตายและให้เกียรติเธอและครอบครัวจะถูกปกป้องอย่างนั้นเหรอ?」
ผู้ช่วยพยักหน้า
แค่ลืมประเทศที่วิจารณ์ผู้หญิงที่รอดกลับไปเถอะ
「ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นผู้หญิงของฉันด้วยล่ะ ฉันจะทำกับเธอดีๆ」
「ทำไมมันต้องเป็นแบบนั้นล่ะ? ใครจะยอมตกไปเป็นของคนที่ฆ่าผู้บัญชาการที่ฉันเคารพรักกันล่ะ!?」
นั่นโชคร้าย
ผมว่าผมต้องใจเย็น และค่อยๆชนะใจเธอ
「แม้ปากว่าแบบนั้น มันชุ่มมากเลยนะ」
「อออออออุ่…… ช่างน่าอับอาย……」
ขณะผมเล่นตูดเธอต่อ มือผมเริ่มแฉะ
ผมมองและเห็นเส้นน้ำวิ่งไหลลงต้นขาหยดยาวไปถึงเท้า
ผมไม่ได้เล้าโลมเธอมากขนาดนั้นด้วยซ้ำและเธอแฉะหมดแล้ว
「มันจะรู้สึกดีกว่าเยอะถ้าฉันใส่เอ็นเข้าไปรู้มั้ย」
「ฉันจะกัดลิ้นตายดีกว่าให้นายทำแบบนั้น!」
สาวดุ แต่ผมเห็นได้แค่สาวครางในความเสียวใต้ตัวผม
ผมแน่ใจว่าเธอจะกลายเป็นของผมไม่นานหลังจากนี้
「ถ้าอย่างนั้น…… เอ่อ……」
เวร ผมลืมอีกแล้ว
「ดาช่า เอเกอร์ซามะ」
ผมพยักหน้าเมื่อซีเลียทำให้ผมนึกออกอย่างเย็นชาขณะผมลองเรียกผู้หญิงคนนั้น
「ฮึ่ม!」
เธอหยิกมือผมและยกให้มันไปไกลๆจากก้นเธอ
หืมมม การจำชื่อผู้หญิงมันสำคัญมากๆ
และจากนั้น ผมรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ร่างกายผมสั่น
「หืม? มันมีลมแปลกๆเมื่อกี้เหรอ?」
「หนูไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย!」
อิริจิน่าไม่ได้รู้สึกกับอะไรมากมายดังนั้นผมพึ่งเธอไม่ได้
「มันรู้สึกเหมือนพื้นกำลังสั่น……」
ซีเลียที่ความรู้สึกไววางมือไว้ที่พื้นแต่เธอคิดไม่ออก
「ถ้ามันเบาไปจนเราบอกไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงมั้ย พี่ว่ามันไม่ควรเป็นปัญหา ตอนนี้ มาพร้อมเดินทัพเถอะ」
「ค่ะท่าน!」
เราจะไล่ตามกองทัพแวนโดเลียที่กำลังหนี
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง
สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย เจ้าศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส
พลเมือง: 163,000 เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4500
กองทัพ: 13,200 คน
ทหารราบ:7450 คน, ทหารม้า 850 คน, พลธนู: 1000 คน, ทหารม้าธนู: 3900 คน
ปืนใหญ่: 30 กระบอก, ปืนใหญ่มาก: 10 กระบอก
ทรัพย์สิน: 570 ทอง (เปิดทำสงครามต่อ -5500)
คู่นอน: 230, ลูกเกิดแล้ว: 48 + ปลา 555 ตัว