ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 34 การโจมตีเข้าไปในเขตศัตรูทิศใต้
34 การโจมตีเข้าไปในเขตศัตรูทิศใต้
「กบฏขุนนางทิศใต้」 「การจลาจลของมาร์เกรฟ อัลโนด」
ข่าวที่น่าตกใจปลิวไปทั้งเมืองหลวงในทันที ไม่ว่าคุณเป็นชนชันกลางหรือขุนนาง มันได้เป็นหัวข้อที่ร้อน มันไม่มีข้อยกเว้นในวัง ในระบบราชการคณะรัฐมนตรีได้ลนอย่างขบขันและตื่นตกใจระหว่างที่วิ่งไปทั่ว
「งั้นเราจะจัดสภาอาณาจักรฉุกเฉิน หัวเรื่องในการพูดคุยครั้งนี้คือ…」
「อย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็นเยี่ยงนั้น! มันจะเป็นอะไรอื่นไปได้ นอกจากกำหนดขั้นตอนที่จะระงับกบฏ!?」
หนึ่งการตะโกนจากราชาทำให้ที่นี้เงียบ
「ปรกติแล้วสภานี้ก็ไม่จำเป็นด้วย กบฏได้เรียกกองทัพมา และเราจะไประงับนั่น ไม่ใช่นั่นคือมันทั้งหมดหรือ!?」
ราชายืนจากเก้าอี้ของเขาดั่งการสนทนาได้จบแล้วแต่รัฐมนตรีได้รั้งเขา
「แต่พระองค์ แม้ว่าท่านได้ขอให้ระงับพวกเขา มาร์เกรฟได้รวมทหารหลายพันแล้ว ทหารได้รวมจากเขตชายแดนและความปลอดภัยชายแดนอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย」
「พวกเขาไม่มีแผนจะลบล้างอำนาจของพระราชา พวกเขาแค่ได้งงงันกับคำสั่งที่หนัก อืม ของพระองค์」
ท่าทางของรัฐมนตรีตัดสินใจไม่เด็จขาด
「เจ้าพยายามจะพูดอะไร? เจ้าอยากให้เราประณีประนอมกับกบฏหรือ ก้มหัวในความหวังว่าเจ้าจะถูกให้อภัยหรือ?」
「แต่ในเวลาปัจจุบัน ประเทศไม่มีวิธีจะระงับพวกเค้า ถ้านี่ยืดเยื้อ มันจะมีช่องว่างให้อาร์คแลนด์เอาเปรียบ」
รัฐมนตรีที่โง่เขลา ไม่ใช่ว่ามันเนื่องจากความไร้ความสามารถของเขาหรือ ที่ทำให้สถานการณ์ในอาร์คแลนด์หนักขึ้น!
「ความกลัวของเจ้านั้นไม่จำเป็น มันด้วยเหตุผลอันนั้น ทำไมเราถึงมีกองทัพกลาง*」
«TLN: จากกองทัพศูนย์กลาง»
「แต่…บางอย่างที่รวบรวมมาแบบนั้น-」 「นายตรงนั้นน่ะ!」
การปฏิเสธกองทัพที่ราชาได้ให้การสนับสนุนในที่สาธารณะนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนที่กล้าพอที่จะเขย่าเรือถ้าให้พูด
「ก่อนอื่นให้กองทัพกลางมุ่งหน้าไปสู่คนพวกนั้นและพยายามจะระงับพวกเขา ถ้ากองทัพถูกกำจัด เราจะคิดบางอย่างใหม่ สภาพจบแล้ว! ฉันจะมอบคำสั่งออกเดินทางด้วยตัวเอง!」
ราชาไม่พูดอะไรอีกแล้วลอยออกไป
「โอ้ชั้น ช่างเป็นชายที่มีปัญหา…」
「ไปด้วยตัวเค้าเองเหมือนการกบฏเพื่อบัลลังก์」
「ยังไงซะ ถ้าของเล่นเค้าที่เค้าพูดโอ้อวดพังบางทีเค้าอาจจะสามารถมองความจริงได้บ้าง」
มันคิดไม่ได้ที่จะคาดหวังชัยชนะจากกองทัพที่เพิ่งก่อนตั้งและมีตัวตนอยู่มาต่ำกว่าสองเดือน และตอนนี้ได้ถูกส่งเข้าไปในเขตศัตรู ฉันเพียงแค่หวังว่าพวกเขาได้สู้การต่อสู้ที่ดี และยังรักษาอำนาจและพลังหลังจากการต่อสู้
รัฐมนตรี ถอนหายใจและคิดกับพวกเขาเองเกี่ยวกับเงื่อนไขสันติสุขหลังจากการต่อสู้
—————————————————————
「เรดาห์ล…ชั้นหมายถึงอีริช การรบแรกในที่สุดก็มาสู่เรา」
「ครับ ผมจะทำเต็มที่เพื่อให้พบกับความคาดหวังของพระองค์ครับ」
ราชาพูดในความใจเย็นโดยไม่แสดงเศษเสี้ยวของความหลงใหลบนสีหน้าของเขาสู่รัฐมนตรี ภาพลักษณ์ที่เขาตื่นเต้นก็เป็นการแสดงด้วย พวกเราทุกคนรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรตั้งแต่ทีแรก
「เหตุผลในการออกเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เพียงชัยชนะ เราจำเป็นต้องได้รับชัยชนะที่ท่วมท้น ชัยชนะที่ไม่เพียงแค่ทำให้กบฏสั่นในความกลัวแต่ขุนนางด้วย」
「เข้าใจแล้วครับ」
「มันเพิ่มถูกเปิดเผยให้ฉัน แต่เมื่อเราสำเร็จการทำความสะอาดภายในแล้ว เราควรจะเตรียมตัวสำหรับการโจมตีของอาร์คแลนด์ สำหรับเหตุผลนั้น เราไม่สามารถที่จะใช้เวลากับกบฏเล็กๆแบบนี้ได้」
「อาร์คแลนด์ งั้นเหรอครับ?」
「ขยี้ขุนนางนั้นให้เต็มที่และอย่างสมบูรณ์จนไม่มีผู้ใดที่จะคิดต่อต้านฉันอีกครั้งหนึ่ง」
อีริชพยักหน้าเงียบๆ มันไม่มีความจำเป็นสำหรับความเมตตา ที่เราหาคือผลกระทบทางใจและความกลัว
—————————————————————
「ออกเดินทางกันเถอะ!!」
ผู้บัญชาการกองทัพ อีริชมอบคำสั่งที่ข้างหน้าด้วยการชักดาบ ผู้นำของแต่ละทีมย้ำคำสั่ง และกองทัพกลางได้เริ่มเดินทัพในแถวที่เรียบร้อย กองทัพที่ขยายไปถึง 5000 คน ได้เชื่อฟังคำสั่งอย่างดีและเดินทัพอย่างงดงาม ชาวเมืองในเมืองหลวงหยุดงานของพวกเขาและมารวมกันที่ถนนหลัก
「อากอร์ อย่าประหม่านักสิ นอกจากออกคำสั่งออกเดินทาง กัปตันคือชั้น นายแค่ต้องสนับสนุนชั้นด้วยทุกอย่างที่นายมี」
「ครับท่าน! นี่มันไม่ดีเลย จุดอ่อนในกองทหารได้มาที่ใจของชั้น และทำให้ชั้นกังวล」
「สำหรับนาย มันเป็นซักพักตั้งแต่ประสบการณ์ครั้งสุดท้ายเหรอ?」
「ใช่ เมื่อชั้นยังหนุ่ม ชั้นเข้าร่วมในการแข่งขันของอาณาจักร แต่ชั้นเป็นพลทหารในเวลานั้น ชั้นไม่มีประสบการณ์จริงในการนำผู้คน」
「แม้อย่างนั้น มันสำคัญที่ว่านายต้องรู้สึกถึงความรู้สึกของสนามรบ ถ้านายเจอช่องว่างในคำสั่ง บอกชั้นได้」
อากอร์พยังหน้าและเข้าร่วมกับทหารม้าคนอื่น ออกคำสั่ง
ปัจจุบัน กองทัพกลางมีกองร้อยทหารม้าสามกอง พร้อมทหารม้าหนัก 180 คนและทักษะที่ยอดเยี่ยม กองร้อยของผมเป็นกำลังหลักจะไม่หวั่นไหว ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาของคำสั่ง มันเป็นไปได้ที่เราจะมีอิทธิพลกับสภาพของการรบของทั้งกองทัพ
ไม่ว่ายังไง ผมค่อนข้างง่วงก่อนออกมาจากการรอเมื่อวานนี้ เพราะสาวๆจะไม่ได้เจอผมซักพัก คาร์ล่าและนนน่าโดยเฉพาะ ได้ขอผมจนผมไม่ได้นอนเลยซักนิด
ในฐานะของขวัญการจากลา ผมสร้างความรักกับสาวๆอย่างงดงาม เมื่อในที่สุดพวกเธอได้อยู่ในสภาพที่อันตราย พวกเธอสลบ ผมได้บอกมิทตี้และอัลม่าให้เช็ตตัวพวกเธอ แต่เด็กๆไม่รู้ผลของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง
「โอเน่-จัง เหนียวๆนี้มันอะไร」
「น-นั่นคือ…ความรักของผู้ชายถ้าให้พูด…หรือเมล็ดพันธุ์ถ้าเธอจะเรียก…」
「ช่างเป็นกลิ่นที่แปลก」
「อย่าทำอย่างนั้นอัลม่า! ถ้าเธอนั่งนั่นเธอจะท้องนะ!」
「เอ๋?」
ขณะที่ผมจำเรื่องแบบนั้นได้ ผมเริ่มหัวเราะ ผมไม่ได้จัดการกับเด็กโดยตรง แต่ผมพูดไม่ได้ว่ามันเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับเด็กๆที่จะเรียนรู้
「เอเกอร์-ซามะ มีอะไรเหรอ?」
จู่ๆ ซีเลียก็ได้มาเรียงข้างผม ทหารม้าได้มอบหมายม้าศึกตัวใหญ่ ดังนั้นแม้ว่าเมื่อเรียงกับชวาร์ซ ไม่มีความต่างในความสูงเหมือนเมื่อก่อน เมื่อวานนี้ เธอได้หลับที่มุมเตียง ดังนั้นเธอไม่ได้ดูเหมือนง่วง
「ชั้นพยายามมากไปเมื่อวานแล้วชั้นไม่ได้นอนเยอะน่ะ」
หน้าของซีเลียได้แดงทันที
「ห-หนูแม้แต่บอกท่านให้ท่านดูแลตัวเองเมื่อวานนี้… ไม่มันเพราะสองคนนั้นที่โหยหาท่านอย่างสิ้นหวัง! หนูรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันและอะไรแบบนั้น แต่หมดสติแล้วกรีดร้องมันเหมือนกับสัตว์หื่นเลย」
「อย่าพูดอย่างนั้น เพราะชั้นใส่พวกเธอแรงเกินไป จนพวกเธอกลายเป็นแบบนั้น มันปรกติแล้วเป็นความผิดของผู้ชายเมื่อเธอดูบนเตียง」
「ออุ~ แล้วก็มันเกี่ยวกับสองคนนั้นแต่เร็วๆนี้ มันดูเหมือนว่าพวกเธอไม่ได้ใช้ ‘ยานั่น’ ท่านรับรู้มั้ย?」
ซีเลียนั้นคม เธอได้ให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของเราก่อนและหลังความประพฤติของเรา
「อ้า ชั้นรู้เกี่ยวกับมัน มันดูเหมือนพวกเธออยากได้ลูก ดังนั้นนั่นทำไม ชั้นได้ซื้อบ้านแล้วและคิดว่ามันโอเค เราได้เข้าใจร่วมกันดังนั้นไม่ต้องกังวล」
ซีเลียได้ทำหน้าตาที่ซับซ้อนแล้วคิดเกี่ยวกับมัน
「งั้นนั่นทำไมสองคนนั้นเป็นแบบนั้น…หนูก็จะทำนั่นด้วยถ้าหนูโตขึ้นอีกนิดหน่อย…」
「เธอจะโอเคที่จะท้องแล้วรออยู่ทิ่บ้านเหรอ?」
「หนูคงไม่ต้องการอย่างนั้น」
ชวาร์ซเหมือนพูดว่าเขารู้สึกพอแล้ว ร้องออกมา เสียงนั้นทำให้ม้ารอบข้างของขุนนางรบกวนเล็กน้อย ขนาดของชวาร์ซยังพิเศษแม้ว่าในหมู่ม้าศึก ที่กองพลทหารม้าที่ 1 ได้รวบรวม ความรักผู้หญิงของเขายังชัดเจนจากก่อนหน้านี้ และเขาจะไม่ให้ทีมจับเขา ดังนั้นซีเลียได้ดูแลเขาในเวลานั้น แต่ตอนนี้เขาได้มีผู้ดูแลหญิงส่วนตัวดูแลเขา
「ซีเลีย มันเป็นสงครามครั้งนี้」
「ค่ะท่าน! หนูจะแสดงผลงานให้ท่านดู」
「นั่นคงจะดี…」
มันจะเป็นปัญหากับผมถ้าเธอหาความสำเร็จและจบที่การตายเพื่อมัน
「เมื่อเธอได้เป็นผู้หญิงโตแล้ว เธอจะมีลูก ดังนั้นอย่ามาตายกับชั้นนะ」
「ฟุเอะ! ม-มันเป็นสิทธิพิเศษ!」
ไปที่ฐานของศัตรูของกองทัพกบฏของมาร์เกรฟ อัลโนด ด้วยการเดินทัพปรกติจะใช้เวลา 7 วัน แต่ดินแดนของมาร์เกรฟนั้นอยู่ในระยะที่กว้าง ดังนั้นเพื่อที่จะไปถึงเมืองมันจะใช้เวลาอีก 2 วัน ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์นั้นเป็นของศัตรูอย่างสมบูรณ์ เราต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
จนถึงตอนนั้น มาลูบก้นซีเลียและไปที่นั่นอย่างสบายๆเถอะ
—————————————————————
7 วันต่อมา ดินแดนของมาร์เกรฟ อัลโนด ทัพหลักของอีริช
「มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเราที่จะทำการรบในที่โล่ง ใช่มั้ย? ชั้นคิดอย่างแน่นอนว่ามันจะต่อสู้ภายในเมือง」
กองทัพของมาร์เกรฟจะอยู่ในที่ที่ใกล้กับทางเข้าด้านใน แผ่อยู่ระหว่างเนินเขาเล็กๆ
「พวกเขาควรจะอยากเลี่ยงการถูกเผาเมืองระหว่างความสับสนบนสงคราม แต่มันสะดวกสำหรับเรา」
จากที่ผมเห็นกองทัพของมาร์เกรฟ ส่วนใหญ่เป็นทหารราบและมีทหารม้าอยู่น้อย การยึดครองเมืองนั้นถูกคาดการณ์แต่ที่เราจะสู้นั้นเป็นที่โล่ง และจะทำด้วยความได้เปรียบ
「จัดรูปแบบของเราเร็วๆเข้า ตำแหน่งของพวกเค้าอยู่สูง; ลูกธนูจะมาถึงเราก่อนดังนั้นระวังตัว คนที่มีโล่ควรจะไปข้างหน้า」
ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะผลของการฝึกหรือเปล่า แต่พวกเขาได้เคลื่อนไหวระหว่างที่รับคำสั่งและจัดรูปแบบ มันไม่ได้ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของกองทัพที่ได้สร้างแค่เพียงสองเดือน
ในทางกลับกัน กองทัพของมาร์เกรฟมีจำนวนคนเท่ากันแต่ไม่มีระเบียบ มันดูเหมือนพวกเขากระจุกรวมกันเหมือนซาลาเปา เห็นว่าเราจัดรูปแบบ และได้เริ่มเดินหน้า พวกเขาได้รีบจัดระเบียบระหว่างแถวของพวกเขา แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขาเฉื่อย ถ้าคุณมองดีๆแถวของเขาเป็นแถวเบี้ยวๆ
แม้อย่างนั้น การที่อยู่บนเนินเขาเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ สำหรับทหารราบที่เข้ามาหา เพราะการตกของลูกธนูจะทำให้พวกเขาแยกกัน ทหารที่ล้มเหลวในการป้องกันลูกธนูด้วยโล่จะล้มลง ยิงลูกธนูจากบนเนินเขาจะยืดระยะของมัน และเพราะความต่างของความสูงมันจะเพิ่มความแรง มันจะเจาะทะลุเกราะหนังที่ทหารราบใส่หลักๆอย่างง่ายๆ
เป็นซักพักหนึ่ง พวกที่แนวหน้าได้ถูกยิงอยู่ฝ่ายเดียว แต่โดยไม่ลดความเร็วของการเดินทัพ และเดินหน้าต่อไป ศัตรูก็ได้อยู่ในระยะของทีมนักธนูของเรา
「ยิงต่อเนื่อง ยิงอย่างไม่ต้องหยุด!」
ลูกธนูจากทีมนักธนูพวกของเราก็ได้ยิงออกไป และการยิงกันระหว่างกองทัพสองกองทัพได้เริ่มขึ้น ลูกธนูของกองทัพมาร์เกรฟได้เทลงมาและกระจายเป็นระยะกว้าง ระหว่างที่นักธนูพวกของเราได้ยิงให้เป็นจังหวะเดียวกันและเล็งไปที่เดียวกัน เน้นไปที่จุดเดียว
ต่างจากทหารราบ นักธนูป้องกันตัวเองไม่ได้ด้วยโล่ ดังนั้นพวกเขาเปิดเผยต่อการโจมตีโดยไร้การป้องกัน นักธนูของกองทัพมาร์เกรฟที่ได้ถูกยิงโดยการเน้นโจมตีล้มตายไปทีละคนทีละคน ธนูที่โจมตีสวนมาน้อยลงไปอย่างมองเห็นได้
รวมตัวกัน ทีมนักธนูของศัตรูได้ถอยไป พวกเขาน่าจะไปซ่อนหลังโล่ที่ข้างหลัง ถ้าจากทฤษฎีแล้ว จากนั้นหอกยาวที่มีการป้องกันสูงกว่าจะออกมาแล้วตอนนี้
「ตอนนี้ ออกคำสั่งกองพลงทหารม้าที่หนึ่งให้บุกเข้าตีตรงกลางของศัตรู เต็มความเร็ว!」
คำสั่งได้ถูกบอกทันทีโดยใช้สัญญานมือ
—————————————————————
「กัปตัน มีคำสั่งให้บุกเข้าโจมตี」
อากอร์ได้ทำหลังให้ตรงและรายงาน
「ทุกหน่วยรูปแบบทะลวง*และบุกเข้าตี! ตามชั้นมา!」
«TLN สามเหลี่ยม»
「ห-หนูด้วย!」
เพราะการฝ่าวงล้อมคือสิ่งที่เราให้ลำดับความสำคัญ รูปแบบที่พิเศษในการตีฝ่าวงล้อมคือรูปแบบทะลวง เนื่องด้วยการขยายที่รวดเร็ว ระยะของศัตรูแค่นิดเดียว เราจะไม่มีปัญหาถ้าเราวิ่งเต็มความเร็ว แม้ว่าในหมูกองทหารของเราที่ได้รวบรวมม้าที่พิเศษในความเร็ว ชวาร์ซได้ทิ้งห่างและเร่งความเร็วต่อไป
ทีมทหารราบและนักธนูที่อยู่ข้างหน้าเปิดทางให้เรา ผ่านช่องว่านั้นไป 200 หน่วยได้ฝ่าไปดุจพายุเฮอร์ริเคน
「ดู! ศัตรูเปลี่ยนจากหน่วยธนูและหอกจะทำไม่ทันเวลา มาฝ่าวงล้อมไปทั้งแบบนี้ อย่าชะลอลง」
ทัพหน้าของกองทัพมาร์เกรฟประกอบไปด้วยการผสมของนักธนูที่หนีและหอกยาวซึ่งมาข้างหน้า แต่พวกเขาไม่ได้สร้างแถวที่ดี เพิ่มเติมจากนั้น นักธนูที่กลัวทหารม้าหนักที่มา โดนไม่เคารพคำสั่ง ยิงธนูออกมาซึ่งกระตุ้นความวุ่นวาย
ไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสนี้ไป
บางเวลาธนูที่ประปรายบินเข้ามาหาเรา แต่มันไม่ไดสร้างปัญหา ระยะคือ 50 เมตร เมื่อมันถึงเวลาไม่กี่วินาทีก่อนจะกระแทกทั้งทีมได้ตะโกนพร้อมกัน
โออออออออ้!!
สำหรับกองทัพของศัตรู เสียงที่ไปถึงพวกเขา ดั่งเสียงกรีดร้องของปีศาจ
—————————————————————
แคมป์ขุนนางฝั่งใต้
「ชั้นไม่ได้ยินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!」
พวกเราตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันระหว่างที่ชี้หอกไปที่พวกเขา ขุนนางที่ได้ถูกเกณฑ์มาจากหมู่บ้านได้ถูกบอกเพียงว่าให้นำหอกมา และให้อาหารตัวเอง มันเป็นเมื่อนกันเมื่อกองทัพของราชาได้เดินหน้ามาสู่เรา ตราบใดที่ฉันระวังตัวระหว่างเผชิญหน้าทุกอย่างจะโอเค
ระหว่างยิงกันด้วยธนูในตอนเริ่ม ฉันได้ซ่อนอยู่ใต้โล่ แต่พวกของฉันทั้งหมดได้ล้มลมไป ฉันยังได้ยืมธนูมา แต่พวกนั้นที่ยิงจากที่สูงอยู่ในความได้เปรียบแน่นอน
ทีมนักธนูได้วิ่งหนี ดังนันเราได้ถูกสั่งให้ตั้งหอกและมุ่งหน้าไป เรามุ่งหน้าในความรีบ แต่นักธนูที่วิ่งหนีได้มาขวางทาง ดังนั้นเราไม่สามารถตั้งแถวได้อย่างดี!
ระหว่างที่เราทำอย่างนั้นทหารม้าศัตรูได้วิ่งมาที่เรา
ทุกคนได้ใส่เกราะที่หนาอย่างพลการเหมือนอัศวินขุนนาง และมาที่นี่ในแถวเดี่ยว เหี้ยเอ้ย! มันจะโอเคแล้วถ้าคุณแค่ไปทางซ้ายหรือทางขวานิดหน่อยก่อนหน้านี้
พวกนั้นในทีมนักธนูได้ตื่นตกใจและยิงธนูออกไป แต่มันไม่มีผล มากกว่านั้น พวกนั้นที่หยุดและเล็งลูกธนูของพวกเขาได้เข้ามาขวางทางของหอกยาวของเรา และเราตั้งแถวดีๆไม่ได้
「เดินเร็วกว่านี้! พวกแกขวางทางอยู่!」 「อย่าดันโว้ย!」 「พวกมันมาถึงแล้ว!!」
คนพวกนั้นตะโกนการคำรามของสงคราม และพวกที่ล้อมรอบได้กลัวและเตรียมที่จะวิ่งหนี
มันไม่ดีเหรอ? ขณะที่ฉันคิดอย่างนั้น มีชายในหมู่พวกนั้นบินมาที่เราขี่ม้าสีดำตัวใหญ่ และตัดพวกนั้นที่อยู่ข้างหน้าและเดินหน้าเข้ามาหาเรา ชายที่พยายามจะขวางทางเขาได้ถูกเหยียบย่ำและขยี้โดยม้าของเขา ทำเสียงที่ร้องออกมาเหมือนกบ พวกเขาตายอย่างน่าสมเพชและรวดเร็ว สหายของฉันจากบริเวณเดียวกันล้อมเขาด้วยหอกและพยายามจะแทงเขา แต่พวกเขาถูกหั่นครึ่งโดยหอกที่เหมือนขวาน โมโม่และไทเลอร์…แม้ว่าพวกเขาเป็นคนดี
「คนนั้นเป็นผู้บัญชาการ! ยิงเค้าให้ตาย!」
ขุนนางได้ชักดาบของเขาและเขากำลังจะพูดบางอย่าง แต่การแทงเพียงครั้งเดียวฆ่าเขา ทหารม้าคนอื่นได้มาทีละคนเหมือนหิมะถล่มและกำจัดเพื่อนของฉัน
ไม่มีทางที่เราจะชนะ! ฉันโยนอาวุธของฉันและเกราะหนักของฉันและทุกอย่างทิ้ง และวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่ฉันทำได้ ฉันไม่อยากจะตายในที่แบบนี้! ฉันมีเมียและลูกชายคอยฉันอยู่ในหมู่บ้าน!
—————————————————————
ฐานของอีริช
「ผู้บัญชาการครับกองทหารทหารม้าที่หนึ่งได้ทำลายฝ่าตรงกลางของศัตรูอย่างสมบูรณ์ ศัตรูได้ทลายแล้วครับ!」
「ความต่างในทักษะได้แสดงออกมา ถ้าพวกเค้าจัดแถวหอกของพวกเค้าได้เร็วมันจะไม่ง่ายมาก」
แม้อย่างนั้น มันน่าทึ่ง ในทีเดียว รูปแบบของศัตรูฉีกเป็นชิ้นๆ โดยเฉพาะเอเกอร์ที่ตัดคนรอบเขาข้างหน้า คนในเส้นทางของพวกเขาได้บินไปในอากาศเหมือนใบไม้ปลิวตามลม เสียงกรีดร้องที่น่าขยะแขยงได้ออกมาจากฉากนั้น แนวการสู้ของเขาคือเพื่อการทำลายหัวใจของศัตรู
「การการดูเกราะของพวกเค้า พวกเค้าควรจะเป็นชาวนาที่ถูกเกณฑ์และสมัครเข้ามา ถ้าบางอย่างแบบนั้นเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเค้า พวกเค้าไม่มีทางเลือกนอกจากวิ่งหนี」
เจ้าหน้าที่ได้ประทับใจขณะที่เขาพูดมัน
「นั่นใช่แล้ว แม้แต่ชั้นก็จะวิ่งหนีถ้าบางอย่างแบบนั้นได้ออกมา ชั้นไม่อยากจะตาย」
รูปแบบของศัตรูได้ถูกเจาะโดยทหารม้า และตรงกลางได้ทรุดลงไปเหมือนเหมืองถล่ม เพื่อที่จะช่วยตรงกลาง ปีกขวาและปีกซ้ายของกองทัพได้เปลี่ยนทิศทางของเขา
「มันมาแล้ว ทหารราบเดินหน้า ขยี้ศัตรู」
「ไม่มีความจำเป็นต้องเล่นกลอะไรแล้ว ศัตรูได้เตรียมหนีแล้ว เราแค่ใช้กำลังเพื่อดันพวกเขาออกไปได้」
「นั่นใช่แล้ว มาสั่งให้ทหารทั้งหมดบุกทั้งหมดเถอะ! มาปิดม่านกับเรื่องนี้กัน」
ในเวลาที่ทั้งหน่วยทหารราบได้เดินหน้า กองร้อยทหารม้ากองพลที่หนึ่งได้ฝ่าทำลายรูปแบบของศัตรูไปแล้ว และออกมาจากด้านหลัง
「หนูได้ฝ่าวงล้อมของศัตรูมาอย่างสมบูรณ์แล้ว! มาเปลี่ยนทิศแล้วบุกเข้าตีอีกครั้งเถอะ!」
ซีเลียได้พูดอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับความสำเร็จของเธอในการต่อสู้
「ไม่ พวกเราจะกลับไปทั้งแบบนี้」
「ทำไมล่ะ?! แม้ว่าศัตรูจะถูกเปิดเผยและอยู่ในสภาพที่ไร้การป้องกัน…」
「ถ้าเราบุกเข้าไปอีกครั้งทุกคนจะสู้กันอย่างอิสระ แลพพวกเค้าจะใช้ธนูไม่ได้ บนสิ่งนั้น มันมีอันตรายจากการไปตีโดนกันเอง และทหารราบจะเดินทัพแบบที่ต้องการไม่ได้ มันจะโอเคถ้าเราอยู่ตรงนี้ต่อ แค่การมีศัตรูอยู่ที่ก้นของพวกเค้าจะเป็นคำขู่สำหรับพวกเค้าพอแล้ว」
อากอร์ก็พยักหน้าด้วย มันถูกต้องในฐานะกลยุทธ์ แต่มันน่าเบื่อที่จะรอแล้วไม่ทำอะไรเลย
「ทั้งหน่วย เข้าตีหน่วยขนส่งในด้านหลังแต่ทำมันระหว่าที่ไม่ทิ้งฐานของศัตรู」
เห็นผลของมันก่อนจะหนี มันจะไม่เจ็บที่จะตีเสบียง
หน่วยขนส่งทั่วไปแล้วจะมีคนคุ้มกันไปกับเขาระหว่างแบกของไปทำภารกิจ แต่หน่วยแบบนั้นมันไม่พอที่จะหยุดทหารม้าติดอาวุธหนัก ถ้าพวกเขาอยากจะวิ่งหนี มันจะวิ่งหนีโดยที่ไม่ได้ลากรถม้าขนส่งที่ช้า คนขับและหน่วยคุ้มกันจะกระเด็นไปรอบๆในเทศกาบของเลือด และอาหารจำนวนมากจะตกอยู่ในมือของเรา
ทำลายหน่วยขนส่ง และระหว่างที่กลับไปตั้งแถว ศัตรูได้หนีไปบนยอดเนินเขา กำลังหลักของกองทัพกลางได้ดันพวกเขากับไป สู้หรือหนี คนพวกนั้นที่ไม่สามารถจะตัดสินใจได้ คือพวกนั้นที่ล้มตาย มาทำให้ง่ายสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจเร็วๆนี้เถอะ ทำไมเราไม่ทำอย่างนั้นล่ะ?
「มันเกือบจะได้เวลาแล้ว มาไปกันอีกครั้งอากอร์ มาสรุปนี่กัน」
พวกเขาอยู่ในการต่อสู้แบบอิสระสำหรับทุกคนแล้ว ดังนั้นจะไม่มีธนูไหนๆที่จะถูกยิง พวกเรามีกำลังเหลือ และดังนั้นพวกเขาส่งคนหลายคนกระโดดและบินไปได้ แต่ถ้าเราสรุปนี่ให้รวดเร็ว ผลของมันจะเป็นการลดความเสียหาย
「ทุกคน จัดตำแหน่งแนวนอน ขยี้ศัตรูส่งเดชเลย」
ทหารมีกำลังใจที่สูง และยกอาวุธขึ้นและตะโกน พวกเขาพุ่งเข้าตีในแถวเดี่ยวแนวนอน
ทหารม้าฝ่าทะลุตรงกลาง เพิ่มเติมจากการหนีระหว่างที่รับการโจมตีของทั้งหน่วยทหารราบ กองทัพของมาร์เกรฟได้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงโดนทหารหม้าที่พุ่งเข้าตีจากข้างหลัง หลังจากที่ถูกเจาะทะลุจากข้างหน้าไปแล้วทีหนึ่ง ผลของการไล่ตามอย่างดุร้างของทั้งกองทัพกลาง จากกองทัพทั้งหมด 5000 คน 2000 คนได้เปลี่ยนเป็นศพ และพวกเขาได้รับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสูด ลูกชายคนโตของมาร์เกรฟ อัลโนด วิสเคานต์ โดโอเรีย ได้ตาย และขุนนางมากมายได้ตามเขาไป ในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว พันธมิตรขุนนางฝั่งได้ได้รับความเสียหายที่ใหญ่และถึงฆาต
การเดินทัพของกองทัพกลางไม่ได้หยุด ตรงไปข้างหน้า สู่เมืองทิศใต้ซาลที่มาร์เกรฟ อัลโนดได้มีบ้านอยู่ พวกเขากลับไปเดินหน้าต่อ
—————————————————————
ชื่อ : เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต 19 ปี ต้นฤดูร้อน
สถานะ : อัศวินอาณาจักรโกลโดเนียกองทัพกลางกองทหารทหารม้าที่ 1
เงินเดือนประจำปี 80 ทอง
เงิน : 257 เหรียญทอง (เงินและต่ำลงมาไม่นับ)
อาวุธ : แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)
อุปกรณ์ : เกราะเต็มตัวเหล็กระดับสูง, ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)
พวกพ้อง : ซีเลีย, นนน่า อีเล็คตร้า, เมลิสซ่า, มาเรีย, คาร์ล่า
คนรับใช้ : มิทตี้, อัลม่า, ครอลล์
ลูกน้อง : อากอร์ (ผู้ช่วย), คริสตอฟ, คาร์ล, ชวาร์ซ (ม้า)
จำนวนคู่นอน : 28
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord