ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 40 ลาง
40 ลาง
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
ทางทิศใต้ของโกลโดเนียบริเวณชายแดนของอาร์คแลนด์
「ลมพัดดีนะนี่วันนี้」
ฤดูกาลในที่สุดก็เป็นฤดูร้อนแล้ว มันจะร้อนมากกว่านี้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ที่ราบกลางนั้นพูดว่าเป็นภูมิภายที่มันจะง่ายต่อการใช้ชีวิตอยู่ในฤดูร้อนและฤดูหนาว แต่แม้อย่างนั้น อากาศร้อนก็ยังร้อนอยู่ดี
「มาในที่ภูมิภาคชนบทเพื่อแค่โดนลมพัด ไม่ทำให้มันคุ้มสำหรับชั้นเลย」
ทหารพวกของข้าบ่น เจ้าไม่ต้องพูดถึงมันเลย ข้าเข้าใจ
เราเดิมทีแล้วได้ประจำการอยู่ในเมืองด้านนอกใกล้โกลโดเนียในฐานะทหารของกองทัพแห่งชาติ กองทัพมันแค่ในชื่อ และภารกิจของเราประกอบไปด้วยการปราบผู้ก่อการร้ายและโจรที่จะออกมานานๆครั้ง ด้วยกันกับการกำจัดมอนสเตอร์ การจ่ายก็ไม่แย่ด้วย และข้าสามารถที่จะได้ผู้หญิง นั่นเพราะขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ในฝั่งใต้ได้สาปสูญไปและผู้ลาดตระเวนของชายแดนของประเทศ ได้เปลี่ยนหน้าที่
ไม่มีเส้นที่แน่ชัดวาดระหว่างอาร์คแลนด์กับโกลโดเนีย โดยเฉพาะที่ที่ข้าได้ประจำการ ในบริเวณใกล้เคียงกับต้นน้ำของแม้น้ำนอสเตอร์รี่ ที่ที่มีเพียงทุ่งหญ้าและเนินเขาไม่จบไม่สิ้น มันดูเหมือนอาร์คแลนด์เป็นประเทศที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการกระจายอำนาจทางทหาร เป็นการทูตและโกรธ บนชายแดนของประเทศที่โกรธแบบนั้นมีแค่ผู้บุกเบิกงี่เง่าที่หมดตัวและคิดเกี่ยวกับการตั้งหมู่บ้านที่นี่ ที่ที่เราอยู่เป็นเพียงป้อมที่เรียบง่ายและไม่มีอะไรอื่นอยู่รอบมัน และแม้แต่วันหยุดของเรา มันใช้เวลาครึ่งวันบนรถม้าลากที่จะไปที่เมืองที่ใกล้ที่สุด
「ไม่ว่านายจะบ่นมากแค่ไหน ในท้ายที่สุดมันไม่มีอะไรอื่นให้ทำนอกจากมีความสุขกับลมที่นี่」
เราได้จับคู่สอง และภารกิจของเราก็คือ ใช้ป้อมเป็นแหล่งอ้างอิง เดินไปรอบๆแล้วดูอย่างไม่จบไม่สิ้น เมื่อข้าอยู่ในเมือง มันช่วยไม่ได้ที่ข้าต้องทำอะไรบางอย่างที่มีปัญหาเหมือนการเฝ้าดู แต่เพราะข้าพูดกับเพื่อนข้าได้ในตอนนี้ มันได้สนุก แม้ว่าคุณจะอยู่ในป้อมไม่มีอะไรให้เราทำ คนที่อยู่ข้างนอกและรับลมได้เป็นคนโชคดี
「เห็นอะไรแปลกๆมั้ย?」
「ไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่นี่และที่นั่น ไม่มีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นกับหมู่บ้านนี้」
「อย่าล้อเล่นน่า กัปตันเวรนั่นพูดว่าเขาจะนอนตอนบ่ายเพราะมันเป็นรายงานเดิมเมื่อวาน ดังนั้นอย่ามาบนกับชั้น อะไรก็โอเค แค่หาอะไรไปรายงาน」
ระหว่างที่จึ้ปาก ผมสำรวจบริเวณรอบๆกับคูหูผม มันจะเป็นแต้มเต็มถ้าเราได้ทรุดและตายในดินแดนของพวกเขา มันรายงานได้ว่า ‘ความด้อยกว่าของอาร์คแลนด์มันแย่กว่ารูปแบบของความยากจน’
「เฮ้ นั่นเป็นไง? ฝูงแกะได้เดินอยู่」
แกะ หือห์…50แต้ม มีรายงานแบบเดียวกันอาทิตย์ที่แล้ว ชั้นเดาว่ามันเป็น ‘รูปแบบที่สายลับปลอมตัวมาเป็นคนเลี้ยงแกะและทำการสอดแนม’
「นั่นแปลก…มีแค่แกะและไม่มีวีแววของคนเลี้ยงแกะเลย พวกเขาวิ่งหนีไปเหรอ?」
ถ้าแกะมาที่ฝั่งนี้ อาหารเย็นคืนนี้จะหรูหรา
「แล้วก็ การเคลื่อนไหวของพวกมันเป็นจังหวะเดียวกันเลย… มันเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและระยะการเดินก็เท่ากันด้วย」
「พูดถึง…นายไม่มีอะไรอื่นที่จะดูนอกจากแกะเหรอ? อย่ารายงานทุกอย่างที่มันน่าเบื่อเหมือนการเดินของแกะสิ!」
อย่างที่คาดคู่หูที่โมโหจะคำราม แต่เสียงของเขาไม่สามารถถูกได้ยิน
「ศัตรูโจมตี—!!! มันคืออาร์คแลนด์!!!!!」
เสื้อโค้ทขนแกะถูกโยนทิ้งทั้งหมดทีเดียว ทหารที่ใส่ชุดเกราะได้ปรากฏ เหี้ยเอ้ย! ระหว่างที่เราสบายๆ พวกมันได้มาถึงที่นี่แล้ว
「วิ่งหนี รายงานกับป้อม! พวกมันได้ข้ามเขตชายแดนมาแล้ว」
เราวิ่งไปที่ป้อมอย่างรวดเร็ว ศัตรูไม่ขยับมาจากที่ของมัน! เราหนีได้ถ้าแบบนี้
คู่หูและผมมองหน้ากันและแลกเปลี่ยนรอยยิ้มที่ขมขื่น
ทันทีหลังจากนั้น ลูกธนูได้แทงทะลุ ชายได้เป็นเม่นและล้มลงไปที่พื้น
—————————————————————
วังราชวงศ์โกลโดเนียไม่กี่วันหลังจากนั้น
「อาร์คแลนได้บุกรึ?」
ผู้ส่งสาส์นจากฝั่งใต้ได้คุกเข่าอยู่ตรงหน้าราชา และบอกข่าวกับเขาอย่างรวดเร็ว เขาน่าจะมาโดยม้าข้ามคืน การหายใจของทหารได้หยาบ และเขาได้ฝืนยืน แต่ในที่สุดเขาก็รายงานเสร็จโดยไม่ทรุดไป
「ครับท่าน! ป้อมของผู้รักษาการณ์ชายแดนได้ถูกเผา พวกเขาได้บุกภายใน และหมู่บ้านของพ่อค่าเร่และผู้บุกเบิกได้รับความเสียหาย」
「บอกขนาดฉันมา」
「มันยังไม่ถูกยืนยัน แต่อย่างน้อยไม่กี่ร้อยถึงพันคนได้ข้ามชายแดนมา」
ราชาปิดตาของเขาและพยักหน้า
「มันต้องลำบากแน่ ทานอาหารและน้ำและพักผ่อนให้ดี」
เมื่อผู้ส่งสาส์นได้ไป ผู้ร่วมงานข้างราชาได้ถอยไป…คณะรัฐมนตรีด้วยกันกับผู้บัญชาการกองทัพ และคนที่ราชาเรียกเป็นการส่วนตัวอีริชก็อยู่ที่นี่ด้วย…พวกเขาเริ่มพูด
「งั้น พวกเจ้าคิดอย่างไร?」
「มันเป็นเหมือนเดิมที่เคยเป็นตลอด」
「อาจจะมีความอดอยาก」
「หรืออาจจะเป็นการขาดชาวนาซึ่งทำให้อยากต่อการเพาะปลูก」
เสียงของคณะรัฐมนครีและคนอื่นไม่ได้รู้สึกใจร้อน หรือมีความรู้สึกรีบ
「ระหว่างการปกครองของราชาองค์ก่อน มีครั้งนึงทุกๆไม่กี่ปี ได้โปรดใจเย็นท่าน」
ในทางตรงกันข้าม พวกเขาดูเหมือนจะชินกับการทำให้ราชาใจเย็น
「เข้าใจแล้ว นี่ต้องเป็นสิ่งที่พ่อของฉันได้ทิ้งไว้ข้างหลัง」
มันไม่แปลกที่อาร์คแลนด์จะรุกรานโกลโดเนีย ด้วยนั่นที่พูด มันไม่ใช่การรุกรานเต็มกำลังทั่วไป พวกเขาแค่กลุ่มของทหารจำนวนน้อยที่ข้ามชายแดนมาหน่อย เผาเมืองเล็กๆ และต่อสู้กับผู้รักษาการณ์ชายแดน เหตุผลก็คือผู้รักษาการณ์ชายแดนของเราได้ละเมิดเขตชายแดน พวกเขาเลยรู้สึกว่ามันเป็นประเพณีของพวกเขาที่ต้องตอบโต้
และหลังจากสู้ซักพักหนึ่ง ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นการรบเต็มรูปแบบ พวกเขาจะขอการคืนดีกับเรา เงื่อนไขคือการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศ อาวุธและทาสจากอาร์คแลนด์ และส่วนใหญ่เป็นอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันจากโกลโดเนีย แน่นอนว่า มันจะถูกทำให้ได้เปรียบกว่าปรกติมากสำหรับอาร์คแลนด์ พูดว่าพวกเขาต้องการการแลกปลี่ยนที่เท่าเทียมสำหรับสันติ คือข้ออ้างสำหรับพวกเขาที่จะต้องการการแลกเปลี่ยนอยู่ฝ่ายเดียว
ราชาคนก่อนไม่ได้เปลี่ยนเงื่อนไขที่หยามเกียรตินี้เพื่อที่จะเก็บสันติไว้ระหว่างที่ดื่มต่อไป มันได้ดำเนินมา 30 ปี และแม้แต่ตอนนี้ อาร์คแลนด์ได้บุกทุกๆไม่กี่ปีดั่งมันเป็นธรรมเนียมที่ถูกตั้งขึ้น
ในเรื่องของอำนาจของประเทศ เราเหนือกว่าอาร์คแลนด์ ดังนั้นทำไมเราให้ประเทศเล็กๆอย่างอาร์คแลนด์กรรโชกเราในเงื่อนใขที่หยามเกียรติแบบนี้? ตั้งแต่ต้น มีชายที่พูดอะไรแบบนั้น แต่ระหว่างที่อาร์คแลนด์เป็นประเทศเล็กๆ มันเป็นประเทศการทหาร ซึ่งใจทรัพยากรส่วนใหญ่เพื่อจัดการกับทหาร มีอำนาจทางทหารที่คิดไม่ถึงที่มาจากทรัพยากรของชาติเหล่านั้น และทักษะของพวกเขาก็สูงด้วย เพราะพวกเขาได้ถูกจัดการมาเป็นหลายปี ถ้าพวกเขาสู้จริงจัง มันชัดเจนว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากมาย
ชนชั้นกลางและขุนนางที่คุ้นเคยกับสันติมาหลายปีก็ไม่อยากจะพิพาทกับอาร์คแลนด์ จนพวกเขาได้สังเวย ของที่พวกเขาโหยหาจากโกลโดเนียที่อุดมสมบูรณ์ก็ไม่ใช่จำนวนที่สำคัญเลยซักนิดด้วย
ดังนั้น มันจะโอเคถ้าเขาทนกับเวลาของความหยามเกียรติ และนั่นก็คือวิธีของนโยบายของราชาคนก่อนได้สนับสนุน
แต่มันได้ต่างออกไปแล้ว ราชาคนก่อนได้ตายไปแล้ว และคนที่อยู่บนบัลลังก์คือฉัน ฉันจะไม่ถอนตัวของฉันไปจากความหยามเกียรติและฉันจะไม่รับมัน ในการแลกเปลี่ยน จะมีการเสียสละครั้งใหญ่? มันไม่ใช่บางอย่างที่ต้องกังวล; ฉันจะกวาดล้างพวกนั้นในการชดใช้
โกลโดเนี่ยไม่ใช่แค่สุนัขชราที่อ่อนโยน มาเป็นเหมือนชื่อเล่นที่ขุนนางใหม่ได้ตัดสินใจเถอะ…หมาป่าในตำนาน เหมือนฮาร์ดเลตต์ แน่นอนว่าฉันจะฉีกพวกนั้นที่รุกรานฉันเป็นชิ้นและส่งพวกเขาไปในนรกด้วยตัวฉันเอง แม้ว่ามันทำให้ฉันต้องอาบไปด้วยเลือด
「มาร์เควสฮูเวอร์ กองทัพชาติได้เตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตีหรือไม่?」
คุยกับผู้บัญชาการสูงสุดที่สั่นของกองทัพราชวงศ์ มาเควสฮูเวอร์ เขาไม่ชัดเจน
「เราได้ทำดีที่สุดในการปกป้องดินแดนของพระองค์ แต่เราค่อนข้างจะกระจายกันออกไป… และมันจะใช้เวลาบ้างที่จะรวมกัน ถ้าเราเผชิญหน้ากับเค้าไม่ดี เมื่อกองทัพหลักของอาร์คแลนด์ออกมา จะมีความเสียหายมาก」
คนโง่ที่ไร้ความสามารถ! ฉันใช้งานเจ้าไม่ได้เลย! เจ้าแค่ยืนอยู่ที่นั่นด้วยหน้าของผู้บัญญาการ
「กองทัพชาติไม่สามารถอย่างนั้นหรือ? อีริช แล้วกองทัพกลางล่ะ?」
「เราทำมันได้ครับพระองค์」
ด้วยสองคำตอบ ราชาพยักหน้าด้วยหน้าตาที่พอใจและคะยั้นคะยอให้เขาพูดต่อ
「เดินทัพจากเมืองหลวงจะเป็นการเดินทัพที่บากบั่น แต่เราทำมันได้ในห้าวัน ด้วยเหตุการในอดีตในการระงับขุนนาง ผมจะนำกองพันทหารราบที่ถูกทิ้งไว้ในซาร์และรับหน้าที่ การรักษาความปลอดภัยจะค่อนข้างถูกรบกวน แต่นั่นไม่ควรจะเป็นปัญหา」
ฮูเวอร์และผู้ช่วยทางทหารทำสีหน้าที่ขมขื่น พวกเขาไม่มีข้อมูลเกียวกับกองทัพกลางและตำแหน่งของกองทัพ มากกว่านั่น หน่วยที่ถูกเรียกว่ากองพันทหารราบนั้นพิเศษสำหรับพวกเขา และมีแค่จำนวนน้อยในหมู่ของพวกเขาที่เข้าใจได้
เดิมทีแล้ว กองทัพกลางจะอยู่ภายในกองทัพชาติ แต่เนื่องด้วยเจตนาของราชา มันได้เป็นอีกตัวตนหนึ่ง
「อย่างไรก็ตาม กองกำลังของศัตรูนั้นมากมาย และไม่ใช่ว่ามันถูกรายงานแล้วหรือว่ามากกว่า 1000 เราตอบโต้ด้วยจำนวนตัวเลขที่น้อยกว่าได้ไหม?」
「กองพันทหารราบของลอร์ดบรูโน่นั้นมีจำนวน 800 มันเป็นจำนวนตัวเลยที่ด้อยกว่า ยังไงก็ตามพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต่อต้านด้วยการบริหารจัดการที่ดี ผมไม่คิดว่ารูปแบบนั้นเตรียบมาสำหรับการรบเต็มรูปแบบด้วย」
「นั่นอันตราย! การรายงานนั้นไม่แน่นอน ดังนั้นถ้าพวกเขามีทหาร 2000 คุณจะทำยังไง? ในกรณีที่พ่ายแพ้ คุณจะแค่เสียทหารและความต้องการของพวกเค้าจะหนักกว่าเดิม」
ผู้ติดตามฮูเวอร์ส่งเสียงของเขา
「ฉันถามความเห็นของเจ้าหรือ?」
ชายมองลงข้างล่างในความเงียบ แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่มั่นใจ มีอีกเหตุผลหนึ่ง อย่างไรก็ตาม; ในกรณีส่วนใหญ่การรายงานของผู้สอดแนมได้เห็นศัตรูจำนวนมาก แต่พวกเขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่ามีกองกำลังน้อยกว่านั้น และถ้าศัตรูเตรียมตัวกับการโจมตีของเรา และสามารถที่จะสู้ด้วยจำนวนเท่ากัน มันจะมีผู้เสียสละมากมาย
「พระองค์ครับ มีทางนึงที่จะแก้ปัญหา ผมจะก่อตั้งทีมกำลังเสริมจากเมืองหลวงไปที่ตำแหน่งนั้น」
หน้าของราชาขุ่นมัว เขาไม่ชอบที่อีริชได้เปลี่ยนความคิดเห็นของเขา
「แต่ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดว่ามันใช้ห้าวันเพื่อไปที่นั่นจากเมืองหลวง? ดังนั้น เจ้าคาดว่าฉันจะให้เจ้าทำตามที่ต้องการจนถึงตอนนั้นหรือ?」
「ไม่ครับ มันจะมีเพียงกองร้อยทหารม้ากองพลที่ 1 ที่จะออกจากเมืองหลวง ทั้งทีมประกอบไปด้วยทหารม้า ดังนั้นถ้ามันเป็นกองร้อยทหารม้าและเสบียงได้เตรียมในเมืองล่วงหน้า มันจะใช้สองวันเพื่อไปถึง เพิ่มเติมจากนั้น ผู้รุกรานเน้นไปที่การเคลื่อนไหว พวกเขาจะไม่มีหอกมาก หมายความว่าทหารม้าหนัก จะได้แสดงความแข็งแกร่งที่ท่วมท้น แม้ว่าศัตรูมี 2000 เราจะขึ้นนำก่อน」
「เข้าใจแล้ว ทีมที่มีเพียงทหารม้าหือห์…และคนที่ทำทัพจะเป็นคนนั้น ใช่หรือไม่?」
เสียงรอบข้างได้อื้ออึง; ไม่มีใครในหมู่พวกนั้นที่มีส่วนร่วมในกองทัพของประเทศ ที่ไม่รู้จักชายคนนั้น ชายคนเดียวที่สังหารองครักษณ์อาณาจักรชั้นสูงเรียงกัน 20 คนหรือประมาณนั้น และตัดกัปตันด้วยการโจมตีทีเดียว เพิ่มเติมจากนั้น ยังมีข่าวลือที่แพร่หลายมากที่สุด เพร่ไปในประเทศด้วย; ฮีโร่ผู้กล้าหารที่สังหารเซซิล เบลลิโด้ในการดวล
「มันจะเป็นอะไรที่เหมาะกับลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ให้เรานำพวกนั้นที่รุกรานดินแดนฉันไปนรกกันเถอะ แล้วทำไม่เราไม่แสดงพวกโง่นั้นไปกับพวกเขาด้วย」
ราชาตะโกนในความอารมณ์ดี ฮูเวอร์และผู้ติดตามของเขากัดฟันในความโกรธ พวกเขาต้องผ่านปัญหาการคืนดีกับข้าราชการพลเรือนหรือเปลี่ยนใจอีกฝ่าย
—————————————————————
「ชั้นกลับมาแล้ว」
「ชั้นได้กลับมาแล้ว」
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ซีเลียและผมได้กลับไปที่บ้านจากกองประจำการ การเดินทางถูกตั้งไว้เป็นพรุ่งนี้เช้า การเตรียมการของทีมได้เสร็จแล้ว และทุกคนที่กองประจำการได้ถูกอนุญาตให้พักผ่อน แต่ผมมีบางอย่างที่ผมอยากทำ
「ครอลล์ มันกระทันหันแต่อุ่นอ่าง มันเป็นความสำคัญสูงสุด」
「อัลม่า เตรียมผ้าเปียกและเครื่องดื่มและทิ้งมันไว้ที่นั่น」
「เมลิสซ่า? หาคาร์ล่าและบอกเธอให้อาบน้ำแล้วไปที่ห้องนอนชั้น」
ภายในวันนี้ ผมต้องทำให้มันใจว่าผมมีเพศสัมพันธ์กับทุกคน มากจนสะโพกผมหมดแรง เหตุผมที่ผมเรียกแต่คาร์ล่า มันเป็นเพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีตำแหน่งที่แน่นอน; คนอื่นได้ค่อนข้างรู้อยู่แล้วว่าอยู่ตรงไหน นอกจากห้องของเธอเอง นนน่านั้นไม่อยู่ในห้องนั่งเล่นก็อยู่ในระเบียงที่สวนและดื่มชา เมลิสซ่าอยู่ที่ที่เด็กอยู่ มาเรียอยู่ในครัว และซีเลียอยู่ข้างผม
เมื่อผมมองคาร์ล่าในอดีต เธอได้ไต่ไปอยู่บนหลังคา เธอลงไปห้องเก็บของใต้ดิน ระดับของความอิสระของเธอเพิ่มมากขึ้น
ซีเลียได้กลับไปที่ห้องเธอ ระหว่างที่ผม อยากจะกินอะไรเบาๆ มุ่งหน้าไปที่ครัวที่มาเรียได้ฮัมเพลงระหว่างที่ส่ายตูดของเธอ มันดูเหมือนมันจะเป็นเพลงเกี่ยวกับการทำความสะอาดที่เธอสร้างขึ้นมาด้วยตัวเธอเอง แต่ที่ผมสนใจมากกว่านั้นคือตูดที่เปียกของเธอ
「~~♪」
ผมโอบกอดเธอจากข้างหลัง มาเรียกรีดร้อง ทันใดนั้น- การกรีดร้องของเธอขยายไปถึงแม้แต่ส่วนล่างของเธอ
「มาเรีย วางมือเธอไว้ตรงนั้น」
「อะ- มันคืออะไร? อย่าทำอะไรแบบนั้น」
ผมระงับการต่อต้านของเธอ ตรวจดูว่าไฟได้ดับแล้วก่อนจะวางมือของเธอไปที่หน้าต่างและลูบไล้ตูดของเธอ
การเตรียมการได้พร้อมทันที; ผมดึงกางเกงในเธอออกและยกกระโปรงของเธอขึ้น และตีก้นของเธอสามครั้งด้วยเอ็นของผม ผมยัดเข้าไปในรูที่เปียกของเธอ
「อ๊าน~! มันหนา!!」
ภายในหมู่ข้างในของผู้หญิง – ยกเว้นซีเลียที่ผมยังไม่ได้แทง – มาเรียนั้นละเอียดอ่อนที่สุด ถ้าผมใส่พลังมากไป มันดูเหมือนว่ามันจะพัง ดังนั้นผมหมุนสะโพกของผม และควงข้างใน และบางทีผมจะแทงแบบนั้น ผมถอดเสื้อในด้านหน้าและพยายามจะหาหน้าอกเธอ แต่ผมไม่สามารถจะทำอย่างนั้นได้
「…..อึนน!」
มาเลียดูเหมือนจะโกรธและซ้อนมือไปกับของผมและนำมันไปที่หน้าอกเธอ ตรงกันข้ามกับหน้าอกที่เล็กของเธอ เธอมีหัวนมที่ใหญ่ และเมื่อผมนวดมัน เธอขมิบผมอย่างมีความสุข สร้างความรักที่หวานกับเธอ ในท้ายที่สุดมันถึงเวลาทำให้เธอถึงจุดสุดยอดและมันเป็นในเวลานั้นที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญได้ปรากฏ
「มาเรีย-ซัง การทำความสะอาดโถงทางเดินได้เสร็จแล้ว….ฮฮฮฮิ้ห์!!」
ไม้ถูพื้นได้ทำเสียงตุ้บขณะที่มันหล่นไปที่พื้น และมันดูเหมือนมิทตี้ได้มาเพื่อรายงานว่าเธอทำความสะอาดเสร็จแล้ว
「เอออ๋! นี่เป็นครัว? ทำไม!?」
ปรกติแล้ว เมื่อเราตกใจ เราจะหยุดที่เราทำ แต่ทั้งมาเรียและผมอีกหนึ่งขั้นจะไปถึงการถึงจุดสุดยอด ดังนั้นเราทั้งสองคนไม่หยุด
「มิทตี้!! ได้โปรด อ-อย่าดูนะ! อย่าดู! ชั้นไม่ไหวแล้ว!!」
「มาเรีย….-ซัง」
มาเรีย ปรกติเป็นผู้หญิงผู้ใหญ่ที่ใจดี ที่เธอชื่นชมสำหรับความเก่งในการทำความสะอาด ได้ถูกทรมานโดยผู้ชาย และหน้าเธอบิดเบี้ยว ลิ้นของเธอได้ห้อยออกมาระหว่างที่เธอคราง และดูอยู่ในความมึนงง มิทตี้ปิดปากของเธอด้วยมือและมันดูเหมือนเธอมองไปทางอื่นไม่ได้
มาเรียไปถึงยอดก่อนและบีบรัดผม ผม; ตามการกระตุ้นนั้นไป ก็ได้ปล่อยเมล็ดพันธุ์ของผมด้วย จบมันในการคำรามออกจมูก และการครางของมาเรีย การเคลื่อนไหวของเราได้หยุด และผมได้แยกจากมาเรียอย่างช้าๆ
「ฮฮฮฮิ้ห์!!」
อีกครั้ง เธอกีดร้อง อาจเป็นเพราะเธอเห็นของของผมปกคลุมในน้ำขาวขุ่น หรือบางทีเพราะเธอเห็นมาเรียคนนั้นเล็ดเมล็ดพันธุ์ของผมและล้มลงไป
ผมหยิบมาเรียที่เหม่อลอยและไปที่ห้องน้ำ น้ำในห้องน้ำน่าจะยังไม่ร้อน แต่ในเวลานี้ อย่างน้อยผมก็ล้างเธอด้วยน้ำได้ ก่อนที่น้ำจะร้อน ผมก็สร้างความรักกับมาเรียได้อีกครั้งในห้องน้ำ
「ขอโทษ ชั้นเอาบางอย่างที่ไม่น่าพึงพอใจให้เธอดู…หรือมันไม่ใช่อย่างนั้น?」
ขณะที่ผมพูด ในที่สุดผมก็รู้ว่ามิทตี้ได้เอามือของเธอใส่เข้าไปในกระโปรง ในความตื่นตกใจ เธอจัดเสื้อผ้าของเธอและมองลงไปข้างร้างระหว่างที่เปลี่ยนเป็นสีแดง มันเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมิทตี้ทำหน้าเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ ระหว่างที่เธอยังเป็นเด็ก มันจะไม่ดีที่ผมจะใส่ความอับอายของผู้หญิงไปที่เธอ
「…..เอ๋!」
ระหว่างที่ยังอุ้มมาเรียอยู่ในมือหนึ่ง ผมดึงปากมิทตี้มาที่ผม ผมได้คิดเกี่ยวกับการขโมยริมฝีปากของเธอไปทั้งแบบนี้ แต่มันดูเหมือนว่าเธอยังไม่พร้อม เธอปิดตาของเธอแน่น และน้ำตาได้ไหล มันช่วยไม่ได้ถ้าผมทำมันอย่างบังคับ; ผมเปลี่ยนจากริมฝีปากเธอและไปที่ต้นคอของเธอ ดูดมันอย่างแรงให้มันเป็นรอย
「ฮ้าว้าา….」
สุดท้าย ผมเลียเธอจากคอไปถึงหูเธอและปล่อยหน้าเธอ
สะโพกของมิทตี้พังทลายลงและเธอนั่งลงตรงนั้นเลย ด้วยนี้ ความทุกข์ยากของการที่ช่วยตัวเองต่อหน้าชายได้ถูกเจือจางเล็กน้อย
หลังจากที่เราออกจากห้องนั้น ไม่ว่ามิทตี้จะใส่มือเธอเข้าไปในการเกงในของเธอ ระหว่างที่จำลิ้นของผมและหน้าของมาเรียที่กระเซิงหรือไม่ คือบางอย่างที่ผมไม่รู้
—————————————————————
【—มุมมอง บรูโน่ เรนสเตอร์—】
สามวันหลังจากในในทางใต้ของชายแดนโกลโดเนีย ชายแดนอาร์คแลนด์
「รายงานจากหน่วยสอดแนมครับ! ที่ตั้งแคมป์ของศัตรูได้ถูกพบแล้วครับ」
ผม บรูโน่ เรนสเตอร์เดือดกับการรายงานของแต่ละกัปตันกองร้อยและผู้ช่วยได้จับหัวเขาลับๆ คำสั่งคือไปเจอกับกำลังเสริมจากเมืองหลวงและกำจัดศัตรู แต่ต้อนนี้ ถ้าเราปล่อยโอกาสไปศัตรูอาจจะเจอเรา ถ้านั่นเกิดขึ้น การป้องกันมันจะแน่นหนากว่าเดิม และถ้าเราทำมันไม่ดีพวกเราอาจจะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้
「กัปตัน! มาโจมตีเถอะ!」
ผู้ช่วยได้เข้ามา อย่างไรก็ตาม หน่วยสอดแนมเพียงแค่ผมศัตรูเท่านั้น และรายงานไม่ได้มีรายระเอียดเกี่ยวกับจำนวนหรือสถานการณ์ของพวกเขา มันจะดีที่สุดที่จะรอการรายง่านจะหน่วยสอดแนมเพิ่มเติม
「ถ้าเราทำมันตอนนี้พวกเขาอาจจะหนี」
ผู้ชวยดูเหมือนจะมีประสบการณ์ด้านลบในอดีตจากการโจมตีของอาร์คแลนด์ การหายใจของเขาเลยหยาบ มันจะดีถ้ากำลังเสริมมาที่นี่ไวกว่านี้นิดหน่อย…
「รายงานจากหน่วยสอดแนมเพิ่มเติมครับ! จำนวนของศัตรูคือ 800 รูปแบบคือ: พวกเขาได้เก็บเต็นท์และเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวครับ」
「กัปตันสูงสุด! เราต้องรีปแล้ว」
จำนวนของศัตรูนั้นเท่ากับของเรา แต่ระหว่างที่พวกเขาเตรียมตัวจะเคลื่อนไหว พวกเขาไร้การป้องกัน ถ้าเราซุ่มโจมตีพวกเขาเราจะชนะ กัปตันกองร้อยได้ใจร้อน และควรจะถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว
「ทุกทีมออกเดินทาง เราจะซุ่มโจมตีศัตรู อย่าข้ามยอดเนินเขาระหว่างที่เขาหาตำแหน่งของศัตรู!」
ทีมเริมเคลื่อนไหวทั้งหมดทีด้วย ทีมของผมนั้นเป็นกองพันทหารราบอย่างสมบูรณ์; ไม่มีม้านอกจากที่ใช้สำหรับสอดแนม มันไม่รุ่งโรจน์ที่จะพุ่งเข้าตีจากหลังม้า ทหารได้เก็บความเงียบโดยไม่ถามอะไรและเดินไปอย่างช้าๆ…
ศัตรูได้อยู่อีกฝั่งของเนินเขาแล้ว งานที่เหลือก็คือออกคำสั่งและการซุ่มโจมตีจะสำเร็จ แต่ คำสั่งบุกเข้าโจมตีไม่ได้มาจากปากของบรูโน่
「ทุกทีมเข้าตำแหน่งป้องกัน!!! ลูกธนูจะมา!!」
ทันที่ที่ผมเสร็จการพูด ลูกธนูเหมือนห่าฝนได้ตกลงใส่แนวหน้า และนอกจากคนนี้เอาโล่ขึ้นทันพอดิบพอดีล้มไปทีละคนทีละคน
「พวกเข้าเห็นทะลุเรา! กำลังของศัตรูไม่ได้อยู่ที่ที่ตั้งแคมป์แล้ว พวกเค้าได้ตั้งรูปแบบการต่อสู้ที่บนเนินเขาแล้ว!」
ผมเชื่อมันไม่ได้! กองกำลังที่ไต่ไปที่ยอดเขาจะเป็นเหยื่อของลูกธนู; อย่างไรก็ตาม ศัตรูได้ไต่ไปที่ยอดและส่งกำลังพลในทางตรงกันข้าม เพื่อที่จะเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ เราได้เคลื่อนไหวในรูปแบบที่แคบ แต่ศัตรูค่อนข้างเก่ง
「มาจัดรูปแบบของเราไหม่ ทีมนักธนูไปข้างหน้าฆ่าศัตรูที่อยู่ที่ยอดซะ!」
ทีมของผมไม่ได้ทักษะน้อยๆด้วย ตอนแรกเราได้ตกใจที่โดนซุ่มโจมตีและสับสน แต่เราได้ความสงบเรากลับมาทันทีและจัดรูปแบบของเราใหม่ ตราบใดที่เราชิงยอดเขา เราจะเปลี่ยนทิศทางของการรบ
ทหารราบได้ส่งเสียงของพวกเขา และโจมตีต่อ แต่เสียงนันไม่ได้สัดส่วนและพวกเขาไม่ขยับเลยซักนิ้ว
「รายงานจากกัปตันกองร้อยครับ การโจมตีของศัตรูเข้มข้นเกินไป พวกเขาเดินหน้าไม่ได้ครับ」
「เหมือนกัน ทุกทางนั้นเป็นไปไม่ได้! ลูกธนูได้บินมาสู่แนวหน้าอย่างแม่นยำความสับสนได้แพร่กระจาย」
รายงานที่กลับมาหาผมทั้งหมดมันแย่ ความเป็นผู้นำและทักษะของศัตรูได้สูงกว่าที่คาด พวกเขาได้ไวกว่าที่เราเปลี่ยนรูปแบบตลอด และขึ้นนำอย่างต่อเนื่อง!
แม้ว่าเราดั้งเดิมแล้วมาจากทหารรับจ้าง ส่วนใหญ่ของทหารกองทัพกลางนั้นเป็นพลทหารและผู้ที่ถูกย้ายมาจากกองทัพชาติ พูดอีกอย่าง พวกเขาเป็นกองทหารที่ได้รับการยกย่อง ที่ได้มีความสุขกับปีแห่งสันติที่นาน ดังนั้นนอกจากการฝึกประสบการ์จริงที่พวกเขามี มีเพียงบางอย่างอย่างการกบฏก่อนหน้านี้
ในทางกลับกัน อาร์คแลนด์ได้รับกระสบการของการต่อสู้โดยใช้อาวุธกับประเทศอื่นปีละครั้ง ความต่างในประสบการณ์ของผู้บัญชาการและทหารนั้นยิ่งใหญ่มากเกินไป
「หยุดการโจมตี จัดระเบียบ! ก่อนอื่น เราต้องออกมาจากระยะของธนู ถอยอย่างใจเย็น อย่าตื่นตกใจ」
เราได้ถอยหลังอย่างช้าๆ และไม่นาน ลูกธนูก็มาไม่ถึงเราและหยุดการโจมตี โอเค ด้วยนี่เราได้ปรับรูปแบบของเราแล้ว เมื่อเราได้ไล่ศัตรูไปจากเนินเขา พวกเขาจะเสียความเสียเปรียบไป ความเสียหายยังอยู่ในขีดจำกัดที่ยอมรับได้ เรายังสู้ได้!
แต่ความหวังแบบนั้น พังทลายลงทันที ส่วนหนึ่งของศัตรูแยกออกมาอย่างรวดเร็วและข่มขู่ข้างเรา เมื่อเราได้ถอย การเดินทัพของพวกเขาเร็วด้วย และไม่ว่าเราจะถอยแค่ไหนพวกเขาจะมาถึงเราอย่างง่ายดาย จำนวนประมาณ 200 แต่เพราะการถอย รูปแบบเราเละเทะและจัดการกับมันไม่ได้
「ปีกขวาของศัตรูได้แยกออกมา! พวกเค้ามาขนาบข้างเราแล้ว กองร้อยปีกซ้ายได้เริ่มสู้แล้ว」
「กองกำลังหลักของศัตรูได้จัดรูปแบบพุ่งเข้าตี และวิ่งมาหาเราจากบนเขา!」
「ทีมธนูของเราควรจะเล็งไปที่ไหน!? ข้างหน้า!? ด้านข้าง!?」
พวกเขา 600 ด้านหน้าและ 200 ด้านข้าง เราได้เสียส่วนหนึ่งของกองกำลังเราและจำนวนอยู่ที่ 700… พวกเราไม่สามารถจะจัดรูปแบบและได้สร้างรูปแบบสี่เหลี่ยมที่พังทหาร ระหว่างที่ได้ป้องกันกึ่งดี
ทุกองค์ประกอบได้มอบความรู้สึกของผลที่แย่ที่สุดได้เกิดขึ้น
「กวาดล้าง…」
ผู้ช่วยได้พึมพำอย่างเหม่อลอย ผมก็ไม่ได้มอบคำสั่งด้วย ทันที ทุกกองร้อยได้ตกอยู่ในความสับสนและไม่ฟังคำสั่งอย่างละเอียด มีแค่คำสั่งเดียวที่ถูกต้อง นั่นคือวิ่งหนี…หรือเมินคำสั่งและโจมตี เราได้ถูกจับในกับดักและได้เสียทีมไป…
เพมือนอย่างนี้ ชะตาผมได้ผนึกแล้ว แต่แม่ว่าฝืนสู้จนทหารทุกคนตรงหน้าผมทั้งหมดถูกฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว สภาพของการต่อสู้จะไม่ถูกพลิก
「ทุกหน่วย……ถอ-!!」
เมื่อผมกำลังจะสั่งให้ถอย ทันใดนั้น ดั่งความสับสนของเราถูกส่งผ่านไปที่ศัตรู รูปแบบของพวกเขาเละเทะ
กำลังหลักของศัตรูหยุดโจมตีเราและเมินเรา ระหว่างที่เปลี่ยนทิศทางและปะทะกับทีมที่โจมตีจากด้านข้าง
「อะไรกัน…」
คำตอบคือเสียงคำรามเสียงของทหารราบสู้กันนั้นก็น่าทึ่งด้วย แต่เทียบกับนั้น มันเหมือนดั่งมันเป็นคำพึมพำของกระแสน้ำเล็กๆ
เสียงควบม้าของเกือกม้าของ ทหารม้าหนัก 200 คนได้ดังก้อง ขณะที่พวกเขาได้ครอบงำสนามรบในทันที
【—มุมมองของ บรูโน่ เรนสเตอร์ จบ—】
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord