ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 51 ประเทศอาจจะล่มสลาย แต่ภูเขายังคงอยู่
- Home
- ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi
- ตอนที่ 51 ประเทศอาจจะล่มสลาย แต่ภูเขายังคงอยู่
51 ประเทศอาจจะล่มสลาย แต่ภูเขายังคงอยู่
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
—————————————————————
【—มุมมอง ซีเลีย—】
«TLN: ชื่อตอนน่าจะมาจากกลอนญี่ปุ่น»
หัวของหนูเจ็บอย่างมาก แม้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะนอน แต่ตัวของหนูไม่ขยับ เกิดอะไรขึั้น?
มาดูกัน… พวกเราเข้ามาที่วังและอากอร์-ซังถูกกำจัด และจากนั้นหนูกระโดดออกไป..
「ชั้นถูกเตะ!」
หนูเด้งขึ้นและรู้ว่าหนูนอนอยู่ที่เตียงนุ่มๆ ต่อจากนั้นหนูหามาสเตอร์แต่หนูไม่เจอเขา หนูถูกเอาชนะโดยผู้หญิงคนนั้น…เป็นไปได้มั้ยว่าเอเกอร์-ซามะ ไม่นั่นไม่มีทาง!
หนูอยากจะกระโดดออกจากเตียงแต่หนูรู้สึกถึงความปวดหัวและเปลี่ยนใจ
「ใครก็ได้! มีใครอยู่ที่นั่นมั้ย!?」
「มีอะไร?」
ทหารที่ได้คุ้มกันเต็นท์โผล่ออกมา
「เอเกอร์-ซามะปลอดภัยมั้ย!?」
ทหารหัวเราะโดยไม่สนใจอะไรบนโลกนี้
「ใช่ เค้าเอาชนะศัตรูทุกคนและกลับมา ไม่ใช่แค่นั้น เค้าแบกอัศวินผู้หญิงคนนั้นไว้บนบ่าเค้าด้วย」
มันดูเหมือนกัปตันอากอร์รับความบาดเจ็บหนัก แต่ชีวิตของเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย
หนูถอนหายใจโล่งใจ หนูรู้สึกสบายและโกรธ สำหรับเขาที่จะนำอัศวินผู้หญิงที่หนูทำพลาดในการสังหารเธอกลับมา
ในท้ายที่สุด หนูอาจจะต้องสู้เธอในฐานะผู้หญิง เพื่อที่จะเตรียมตัวกับในเวลานั้น หนูพักตัวหนูและนอนอีกครั้ง
—————————————————————
【—มุมมอง เอเกอร์—】
「ยังไงซะ ซีเลียตื่นมามั้ยอย่างน้อย」
「ใช่ เมื่อกี้นี้เองครับ มันดูเหมือนเธอยังปวดหัวอยู่ เธอเลยกับไปนอนต่อ หมอพูดว่าเธอแค่หัวกระแทกนิดหน่อย」
ยังไงซะนั่นโล่งใจ อากอร์ก็อยู่ในระหว่างที่รักษาแผลของเขา และมันดูเหมือนเขาจะโอเค ด้วยนี้ คุณสามารถที่จะเว้นให้แม่หม้ายในโกลโดเนียอยู่ในความเสียใจ
ผมจูบซีเลียเบาๆและออกจากที่นั่นมา ยังมีหลายอย่างที่ผมต้องทำ
ภาพที่เหมือนนรกของเมืองหลวง จบไปซักพักหนึ่ง และเมืองกลับมาสู่ความสงบ
ภรรยาที่กอดสามีที่ถูกฆ่า แม่ที่เปลือยครึ่งหนึ่งและลูกของเธอนั่งตะลึง…พวกเธอไม่มองดูผมด้วยตาแห่งการแก้แค้น ก็ซ่อนตัวของพวกเธอและมองลงไปข้างล่าง
「มันค่อนข้างเป็นโศกนาฏกรรม」
「ใช่แล้ว นี่เป็นผลจากสิ่งที่เราทำหลังจากที่เราชนะสงคราม ชั้นกังวลเกี่ยวกับอนาคต」
อีริชพยักหน้าของเขา เขาสั่งให้พลเมืองมีอาหารพอสำหรับที่พวกเขาจะสบาย เพื่อที่เขาจะได้การสนับสนุน แต่ด้วยครอบครัวพวกเขาที่ถูกฆ่า มากแค่นี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย แต่มันยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
「แล้ว อีกนานแค่ไหนที่เราจะอยู่ที่นี่?」
ราชวงศ์ของอาร์คแลนด์ถูกกวาดล้างแล้ว ประเทศเองได้ถูกทำลาย ยังมีผู้รอดชีวิตจำนวนเล็กๆ แต่มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับกองทัพกลางที่อยู่ที่นี่
「ชั้นก็อยากจะส่งนี่ต่อให้เจ้าหน้าทีรัฐสภาแล้ววิ่งหนีด้วย แต่จนกว่ากองทัพของแต่ละประเทศจะกลับบ้าน ชั้นทำอย่างนั้นไม่ได้」
กำลังของกองทัพโดยตัวมันเอง มีอิทธิพลกับพลังของประเทศ ถ้าคุณดึงกองกำลังออกก่อนประเทศอื่นหลังจากที่ได้ยึดครองที่นั่น มันจะเป็นความเสียเปรียบเมื่อต้องแบ่งดินแดน
「ในอนาคตอันใกล้ คนที่โดดเด่นจากแต่ละประเทศจะมารวมกันเพื่อประชุม จนกว่าเวลานั้นจะเกิดขึ้น พวกเค้ากลับไปไม่ได้」
แต่มันมีแค่อีริชที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุด ที่กลับไปไม่ได้ ผมอยากจะรีบๆกลับ
「เซอร์ นายด้วย ลอร์ดฮาร์ดเลตต? ด้วยเหตุผลบางอย่าง หลายประเทศพูดเกี่ยวกับความสำเร็จที่กล้าหาญของนาย」
ทำไมนี่เกิดขึ้น?
「แต่พระองค์ก็จะกระทำโดยอันดับความสำคัญสูงสุด มันจะไม่ใช้เวลามากขนาดนั้น ดังนั้นจนถึงเวลานั้น นายพักตัวของนายได้」
ยังไงซะ นอกจากนั่นมันไม่มีอะไรให้ทำอีก
「ยังไงก็ตาม ได้โปรดระงับจากการกินผู้หญิงทั้งหมดในเมือง แม้จะไม่มีเรื่องนั้น พวกเธอทุกข์ทรมานพอแล้ว นายไม่อยากจะสร้างความเกลียดที่มากขึ้นกับพวกเธอใช่มั้ย?」
「ชั้นทำอะไรภายใต้การเห็นด้วยร่วมกันตลอด มันจะไม่เป็นปัญหา… ว่าแต่ มันเกี่ยวกับอัศวินที่ชั้นจับ」
「คนที่นายพูดถึงเมื่อวาน? มันดูเหมือนเธอเป็นลูกสาวของตระกูลอัศวิน แต่เธอไม่ใช่ขุนนางใหญ่โตหรือผู้ทำกองทัพ เธอดูไม่เหมือนว่าจะมีจุดยืนทางสังคมที่จะถูกโทษสำหรับสงคราม ชั้นยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับบทลงโทษของเธอจริงๆ ดังนั้นนายโยนเธอออกมาหรื่อโอบกอดเธอ หรือทำอะไรก็ตามที่นายอยากทำเถอะ」
แต่ได้ยินคำเหล่านั้นก็เพียงพอแล้ว ถ้าเธอถูกลงโทษให้ประหาร ผมอาจจะหนีไปกับเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยเรื่องนี้ ผมคุยกับเธอกล้าๆได้ข้างหน้าเลย
「ขออภัย! ฮาร์ดเลตต์-ซามะ」
ผมหันไปและเห็นผู้หญิงที่ผมช่วยจากการถูกข่มขืนเมื่อวาน
「ขอบคุณท่านมากๆสำหรับเมื่อวาน ต้องขอบคุณท่าน…มันถูกสรุปได้โดยที่หนูไม่ได้ถูกแปดเปื้อน」
「ชั้นแค่ทนไม่ได้เมื่อผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยอย่างเธอ ถูกข่มขืนโดยชายอื่น มันแค่นั้น」
「เหมือนข่าวลือเลย นายรักผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่เหรอ」
ผมอยากจะถามว่าข่าวลือเหล่านั้นมันคืออะไร แต่ผมจะปล่อยมันไว้ก่อนตอนนี้ มันอยู่บนทางผมเลยจะพาเธอไปที่บ้านของเธอ
บ้านเล็กๆไม่ได้ถูกเผาหรือทำลาย และยังอยู่เป็นชิ้น มันดูเหมือนว่าเธออยู่คนเดียว
「งั้นชั้นจะไปแล้ว ถ้าอะไรเกิดขึ้น บอกชั้น」
「ได้โปรดรอเดี๋ยว! อืม…ฮาร์ดเลตต์-ซามะก็อยากจะนอนกับหนูมั้ย?」
「แน่นอน ถ้าผู้ชายไม่อยากนอนกับผู้หญิงดีๆ งั้นพวกเค้าก็มีอะไรผิดแปลกไปแล้ว」
โดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากกับคำพูดนั้น การตอบสนองทันทีทำให้ผู้หญิงแดงอย่างเขินอาย
「ยังไงซะ หนูยังไม่ได้เตรียมตัวเอง…แต่หนูปฏิเสธท่านไม่ได้ถ้าท่านมาจากข้างหน้า….」
มันดูเหมือนมันจะเป็นไปได้ที่จะกล้าแสดงออกที่นี่ เพราะเธอหลงเสน่ห์ผมแล้ว มันดีกว่าที่จะรออีกนิดหน่อยให้หัวใจเธอเปิดเต็มที่
ผมชิงริมฝีปากของเธอและลูบตัวเธอ นั่นคือทั้งหมดตอนนี้
「ขอบคุณมากๆค่ะ~」
ผู้หญิงคนนั้นเดินกลับเข้าไปในห้องในสภาพที่หัวเบา พอมาคิดดูแล้วผมลืมชื่อเธอ ไม่ ผมไม่คิดว่าเธอได้บอกชื่อผมตั้งแต่ตอนแรก
โอ้ ยังไงซะ
มันแค่การหยุดระหว่างทาง
ผมจะไปคุยกับอัศวินผู้หญิง
บนทาง ผมเตะทหารที่พยายามจะจูบผู้หญิงที่ไม่เต็มใจระหว่างที่คนอื่นไม่พูดอะไร จากนั้นผมไปที่บ้านพ่อค้าที่กองพันของผมยึด มันดูเหมือนพ่อค้าที่นี่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับราชวงศ์และเขาปล่อยให้ทหารข้างในต่อต้าน แต่พวกเขาถูกฆ่าโดยไม่มีเสียงและตอนนี้มันเป็นบ้านว่าง
สำหรับพ่อค้า มันเป็นบ้านที่ค่อนข้างใหญ่ บางทีน่าจะใหญ่กว่าบ้านผมหลายเท่า อัศวินหญิงได้ถูกจับแขนขาอยู่ที่ห้องเก็บไวน์ใต้ดิน
ไม่ว่าแบบไหน เธอสามารถพอที่จะเอาชนะได้แม้แต่อากอร์ ผมไม่คิดว่าเราจะขังเธอไว้ในห้องธรรมดา และบอกว่าทุกอย่างโอเคได้ ประตูหนาถูกล็อค และมือของเธอ ถูกมัดด้วยหนัง
「เธอยังมีชีวิตอยู่มั้ย?」
「…」
อัศวินหญิงมองผมด้วยสายตาที่เป็นศัตรู แต่เธอมองลงข้างล่างทันที จากเวลาที่ผมเห็นเธอที่วัน มันดูเหมือนมันจะมีอะไรแปลกๆกับเธอ เธอสั่นและขดตัวเหมือนสาวน้อย
「เธอไม่พอใจกับอาหารหรือการปฏิบัติมั้ย?」
「…」
「ตอบชั้นมา」
เมื่อผมยกหน้าของเธอ เธอเริ่มร้องให้ เธอดูเหมือนสาวที่น่าสงสารที่กำลังจะถูำกข่มขืน มันไม่เหมาะกับภาพที่ผู้หญิงเหวี่ยงหอกไปรอบๆ
「อาหารนั้น…เพียงพอ หนูอยากจะโดนแสงแดด…หนูจะไม่หนี」
「ถ้าเธอสาบานว่าเธอจะไม่วิ่งหนี งั้นชั้นจะให้เธอไปอยู่ห้องธรรมดา แล้วชั้นจะแก้มัดเธอด้วย เธอจะสาบานมั้ย?」
「หนูสาบาน สิ่งต่างๆถูกตัดสินแล้ว หนูจะไม่ทำอะไรในจุดนี้แล้ว」
ผมไม่มีงานอดิเรกที่จะกดผู้หญิงในชั้นใต้ดิน ผมกำลังจะตัดที่มันเธอและนำมีดออกมา
「ฮฮฮิ้ห์! อย่า! ได้โปรดหยุด!」
ในทันทีนั้นผู้หญิงเสียท่าที่สงบของเธอ เธอจับหัวด้วยมือของเธอและเริ่มร้องไห้
「ชั้นแค่อยากจะตัดที่มัดเธอ ทำไมเธอกลัวจัง?」
เธอพูดปรกติไม่ได้ถ้าแบบนี้ ก่อนอื่นผมต้องทำให้เธอผ่อนคลายจากความกลัว
ระหว่างที่เราเคลื่อนไหว ผู้หญิงไม่พูดอะไรซักอย่าง ผมเข้าไปที่ห้องและนั่งเธอไว้บนเตียง จากนั้นผมถามเธอ
「ชั้นได้เจอเธอที่สนามรบแต่ชั้นไม่รู้จักชื่อของเธอ ชั้นเอเกอร์ฮาร์ดเลตต์ เธอชื่ออะไร?」
「อิริจิน่า ตอนนี้ ชั้นแค่อิริจิน่า」
「เข้าใจแล้ว อิริจิน่า อย่างแรกไม่มีบทลงโทษมาจากกองทัพกลาง เธอแค่ต้องถูกขังจนกว่าการล่าผู้รอดชีวิตจะจบ」
「อย่างนั้นเหรอ…ขอโทษที่สร้างปัญหา」
การตอบของเธออ่อนแอ สภาพที่เธอกลัวไม่เปลี่ยน
นี่มันแปลกไม่ใช่เหรอ? ผมคิดว่าเธอกลัวที่จะโดนประหาร
「อิริจิน่า เธอจะถูกดูแลโดยชั้น ชั้นจะไม่ปฏิบัติกับเธออย่างดุร้าย」
「ขอบคุณ…」
เธอไม่ตอบสนองกับนั่นด้วย แทนที่จะอย่างนั้น เธอสั่นมากกว่าเดิม เธอกลัวอะไรกัน นี่มันเริ่มทื่อแล้วสิ
「เธอกลัวอะไรกัน? ชั้นบอกเธอไปแล้วว่าชั้นไม่มีเจตนาจะประหารหรือทรมานเธอจนตาย!」
「ฮฮฮิ้ห์ หนูขอโทษ! หนูขอร้องล่ะได้โปรดอย่างกินหนู…ได้โปรดอย่างน้อยให้หนูตายในฐานะอัศวิน!」
เธอพูดอะไรน่ะ? ผมถอนหายใจขณะที่ผมพยายามจะนึก อิริจิน่าไม่กลัวความตาย ดังนั้นบางที่เธอแค่กลัวผม ดังนั้นเธอหมดสติที่วังเพราะผมใกล้เธอเหรอ หือห์?
「อิริจิน่า ชั้นน่ากลัวเหรอ?」
「น-นายน่ากลัว!」
「ทำไมชั้นถึงน่ากลัว?」
「นายสู้เหมือนปีศาจเลย…และชั้นได้ยินมาว่านายกินคนด้วย」
ผมเข้าใจเรื่องต่อสู้ แต่ผมจำว่าปรุงแล้วกินคนไม่ได้
「เธอได้ยินมาจากใคร?」
「ทหารที่นำอาหารมาให้หนูคุยเกี่ยวกับมันหน้าประตู เขาได้พูดอะไรแบบว่า ‘กัปตันจะกินผู้หญิงทุกคนที่เค้าเจอ’ และ ‘ผู้หญิงคนนี้ตัวใหญ่เค้าเลยแรงกับเธอได้ มีให้กินเยอะเลย’ และ ‘มาพนันกันว่านานแค่ไหนก่อนที่เค้าจะกินเธอ’…」
เรื่องเองนั้นไม่ต้องถามเลย แต่อิริจิน่าโดยพื้นฐานแล้วผิดสนิทเลย บางที่เพราะเธออยู่ในตระกูลของอัศวินและไม่รู้คำหยาบที่ใช้รอบๆนี้
「หนูได้รับกายและเลือดนี้มาจากบรรพบุรุษ หนูยอมให้ตัวหนูถูกฆ่า! ยังไงก็ตาม โปรดเว้นหนูจากการถูกกินจนถึงตายนะ อย่างน้อยให้หนูเป็นคนจนถึงจุดจบ」
บนความเข้าใจผิด มันดูเหมือนว่าความหลงผิดของเธอจะเข้มข้นขึ้นอีก มันดูเหมือนจะยากที่จะทำให้เธอเข้าใจผ่านคำพูด แต่โชคดีที่ผมเป็นผู้ชายและอิริจิน่าเป็นผู้หญิง มีแค่เราสองคนที่นี่ และยังมีเตียงด้วย ผมใช้วิธีกล่อมเธอที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ได้
「อิริจิน่า ถอดเสื้อผ้าออก」
「ฮฮฮฮิ้ห์ อย่างที่ชั้นคิด นายจะกินหนู!」
「ถ้าเธอฟังชั้น ชั้นจะไม่กินเธอ」
มันยากที่อธิบายสิ่งต่างให้กับอิริจิน่า จริงๆแล้วผมจะกินเธอ แต่มันต่างจากที่เธอคิด ดังนั้นผมไม่ได้โกหก
「อออออุ…..」
อิริจิน่าไม่มีทางเลือกนอกจากจะเชื่อคำพูดของผม เธอถอดเสื้อผ้าออกและทิ้งมันไว้ที่เท้าเธอ เธอกลัวแต่วิธีที่เธอถอดเสื้อผ้าของเธอออกมันงดงาม และเธอไม่แม้แต่จะพยายามที่จะซ่อนหน้าอกและหว่างขาของเธอ มันน่าทึ่งที่เพื่อนร่วมงานยังไม่โจมตีเธอ
ตัวของเธอค่อนข้างอวบและเธอมีกายที่มีกล้ามเนื้อ หน้าอกและตูดของเธอใหญ่ พวกมันแน่นผมเลยไม่ทันสังเกตุความอ่อนนุ่มปรกติของผู้หญิง และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือความสูงของเธอ เมื่อยืนกำผมมันแทบความสูงไม่ต่างกัน และเธอค่อนข้างมีกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้าเธอทะเลาะกับผู้ชาย ผมไม่คิดว่าเธอจะแพ้
「แต่เธอไม่ระวังว่าตัวเธอเป็นผู้หญิงมากไป」
ผมยืดมือออกไปที่ข้างเธอและหว่างขาเธอ หว่างขาของเธอ โดยเฉพาะมีขนเกินที่มันยาวค่อนข้างมาก
「หนูยังไม่ได้แต่งงาน! ไม่มีใครที่หนูจะเอามันให้ดู」
「ไม่ใช่ว่าเธอเอาให้บางคนดูอยู่เหรอตอนนี้?」
「ยังไงซะ…ไม่ใช่ว่านายดูมันเองคนเดียวเหรอ」
ผมยืดสันหลังที่เหมือนทหารของเธอ และขณะที่อิริจิน่ายืนขึ้น ผมยองลงไปสู้เท้าเธอ วางปากไว้ที่หว่างขาของเธอ แต่เมื่อผมดันมันไป รูของเธอเป็นสีชมพูที่สวยงาม และมันก็มีกลิ่นที่เหมือนซีเลีย
「เธอบริสุทธิ์เหรอ?」
「หนูพูดว่าหนูยังไม่ได้แต่งงาน! แน่นอนว่าหนูเป็นอย่างนั้น」
มันดูเหมือนว่าเธอมีมาตรฐานศีลธรรมสูง ผมต้องแก้วิธีคิดแบบนั้น
ผมกอดอิริจิน่าจากข้างหลังและจับหน้าอกของเธอ เอ็นของผมถูกับก้นของเธอ ความสูงของเธอนั้นใกล้เคียงกัน ดังนั้นความรู้สึกของการทำมันคนละที่ เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่นมันน่าตื่นเต้น ผมหญิงหัวนมทั้งสองของเธอและดึงมันเล็กน้อย ซึ่งทำให้เธอปล่อยเสียงที่ค่อนข้างน่ารักออกมา
「ฮย้าน~! นายทำอะไรน่ะ?!」
โดยไม่ตอบเธอผมดันเธอลงบนเตียง หัวนมของเธอใหญ่ขึ้นและแข็งอย่างน่าตกใจ รูของเธอก็เปียกด้วย ด้วยตัวของเธอ ผมไม่ต้องกังวลว่าจะทำเธอพัง ผมจับสะโพกของเธอจากด้านหลังและวางเอ็นของผม ไปที่ช่องคลอดที่ปิดตัว
「นายจับที่ไหนของนายน่ะ…! นั่นจะทำให้มันเข้าไปไม่ใช่เหรอ? หนูพูดว่าหนูยังไม่ได้แต่งงานและนายไม่ได้คนรักของหนู…」
ผมฝังเอ็นของผมผเข้าไปในเธอขณะที่อิริจิน่าหันหน้าลง รูของเธอเองมันใหญ่ และมันแหวกเปิดอย่างดี แต่ผู้หญิงที่ดิ้นรนทำให้มันแน่น ดังนั้นการสอดใส่หยุด
「นายทำอะไรน่ะ?! อย่ามาขี่หนูนะ ลงไป」
ผมกดอิริจิน่าที่คว่ำหน้าลงอย่างสมบูรณ์ขึ้นไปอยู่บนเธอและกระซิบใส่หูเธอ
「ชั้นไม่ใช่สัตว์ประหลาด ชั้นเป็นแค่ชาย เธอไม่ต้องกลัว」
「ออุ? จริงนะ? นายจะไม่กินแขนของหนูแขนนึงนะ?」
เธอได้คิดอะไรแปลกๆของเธออยู่?
「ใช่ ดังนั้น ไม่ต้องกังวล อึก!」
「อ๊าา-! โอ้ย-!!」
อิริจิน่าผ่อนคลายจากนั้นผมใส่พลังเข้าไปในสะโพกและกระแทกมันเข้าไป ขโมยความบริสุทธิ์ของเธอ ผมใส่น้ำหนักของผมทั้งหมดเข้าไปบนเธอ และเข้าไปตลอดทางจนถึงจุดจบ
「ฮ่าาห์…มันเข้าไปแล้ว…เดี๋ยว! มันเป็นไปได้มั้ยว่านายนอนกับหนูอยู่ตอนนี้!?」
เธอเพิ่งมารู้มันเหรอเนี่ย? ผมเห็นแค่รูปลักษณ์ของเธอตอนต่อสู้และสภาพตอนเธอกลัว แต่สาวคนนี้โง่นิดหน่อยนะ
「นี่มันแย่แล้ว! ความบริสุทธิ์ของหนูถูกขโมย! หนูโดนข่มขืน!!」
อีกครั้งที่อิริจิน่าอาละวาด แต่เอ็นของผมแทงเธอเข้าไปลึก ดังนั้นไม่มีทางที่เธอจะหนีได้ แม้อย่างนั้น เธอแข็งแรงอย่างมาก ถ้าผมไม่ใส่กำลังไปในตัวเองมันรู้สึกเหมือนว่าจะกระเด็นถอย แต่ถ้าเธออาละวาด เอ็นของผมที่แทงเธอจะกระตุ้นข้างในเธอ
「นนน๊าา~! นายแทงหว่างขาหนูอยู่…ดึงมันออก! ดึงมันออก!」
เมินเสียงกรีดร้องของเธอและดันเอวผมลึกเข้าไป ผมดันเข้าไปจนถึงมดลูกเธอเหมือนที่ผมทำกับเมลิสซ่าไม่ได้ แต่ผมดันมันมากเท่าที่ทำได้กับมดลูกของเธอ และสมาชิกของผมได้ถูกกลืนไปถึงโคน
「โอออ้ มันไปได้ถึงรากเลย นี่ดีจัง」
เมลิสซ่าเป็นคนเดียวที่รับผมจนถึงโคนได้ ซีเลียให้บริการผมอย่างละเอียดอ่อนแต่แม้แต่ครึ่งก็ยังเข้าไปไม่ได้
มากกว่านั้น มันไม่ได้รู้สึกว่าห่อรัดผมเหมือนเมลิสซ่า มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่มันดูเหมือนจะบีบผมอย่างแน่นและเข้มข้น ผมขยับสะโพกของผมอย่างมีความสุข
「ออออุ~! ฮฮฮฮิ้! มันเจ็บ ทำไมมันใหญ่มาก?!!」
เธอต่อต้าน นั่นทำไมมันสร้างความเจ็บปวดและความทุกข์ทนมานให้เธอโดยไม่จำเป็น เธอควรจะมีความสุขกับมันมากกว่านี้
「อิริจิน่า…อย่าดิ้นรน ผ่อนคลายแล้วมันจะรู้สึกดีขึ้น」
「ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่ต่อต้านเมื่อถูกทำ」
「เธอ เธอไม่ชอบชั้นเหรอ? เธอควรจะรู้ว่าชั้นไม่ใช่สัตว์ประหลาด」
อิริจิน่าหยุดต่อต้านชั่วครู่ แน่นอนว่าผมขยับสะโพกของผมต่อ
「ชั้นชอบผู้ชายบึกบึนแข็งแรง แต่เราเป็นศัตรูกัน และมากกว่านั้น นายไม่ใช่คู่หมั้นของชั้นและยังมีเพศสัมพันธ์…」
「ไม่ใช่ว่านั่นดีเหรอ? การต่อสู้ได้จบแล้ว ไม่มีเพื่อนหรือศัตรูอีก ชั้นก็อยากจะสนิทกับเธอ」
「ย-ยังไงซะ…อึนนน! บางอย่างมันชา…」
ระหว่างที่เราคุยกัน เพราะเธอหยุดต่อต้าน ความรู้สึกดีของเธอได้สร้างขึ้น ระหว่างที่คุยกัน ผมจับและนวดหน้าอกของเธอ มีแค่อวัยวะเพศของเธอที่แสดงความต่อต้านเล็กน้อยและขมิบใส่ไม้เนื้อของผม
「อิริจิน่า…มันรู้สึกดี」
「นี่มัน…หว่างขาของชั้นเสียวซ่าและมันรู้สึกดี!」
「ใช่ป่ะล่ะ? นี่คือที่ผู้ชายและผู้หญิงเล่นกัน มันจะดีกว่านี้อีก」
ผมวางมือลงไปบนหว่างขาของเธอและหยิกเม็ดถั่วของเธอ และเธอตอบสนองมากกว่าเดิมอีก เราทั้งสองคนสนุกร่วมกันและอิริจิน่าดูเหมือนอยากจะพูดบางอย่าง
「มีอะไร?」
「แค่ความสงสัยของฝั่งหนู…แต่ นายรักหนูเหรอ?」
ผมคิดว่ามันกระทันหัน แต่ผู้หญิงบนเตียงคิดว่าบางอย่างแบบนั้นสำคัญ สาวที่บ้านก็บอกผมด้วยว่าถ้าคุณกระซิบคำหวานระหว่างมที่นอนกับพวกเธอ มันจะไปถึงจุดสุดยอดเร็วขึ้นสองเท่า มาทำให้ธอพอใจที่นี่เถอะ
「ใช่ ชั้นรักเธอ แค่ปล่อยกายเธอไว้ให้ชั้น เราจะมารู้สึกดีด้วยกัน」
ผมแก้ความเข้าใจผิดกับผมแล้วและนำความหลงผิดที่แปลกและความกลัวของเธอไปแล้ว ที่เหลืออยู่คือใช้เวลาอย่างอิสระและลิ้มรสชาติกับกายของอิริจิน่า
「ห-หนูเข้าใจแล้ว…งั้นคนรักความรุนแรงหือห์…นี่ก็เป็นเรื่องของผู้ชายด้วย」
การต่อต้านของอิริจิน่าหายไป ผมได้รับอนุญาตให้เอ็นผมอาละวาด และกระตุ้นข้างในของเธออย่างไร้ก็ได้ที่ผมต้องการ หรือแม้แต่ใส่น้ำหนักเข้าไปและแทงเธอ อิริจิน่าไม่บ่นใจความเจ็บปวด ถ้ามันเป็นผู้หญิงคนอื่น พวกเธอจะกรีดร้องอย่างดังแล้วตอนนี้ และจากนั้นผมอวดดีไปหน่อย ผมทนความอยากน้ำแตกไม่ได้อีกแล้ว
「อิริจิน่า ชั้นจะแตกแล้ว!」
ผมกดมือของเธอทั้งสองด้วยมือของผม และดันเอ็นของผมเข้าไปถึงโคน และแทงมดลูกเธออย่างรุนแรง ทั้งตัวของผมติดกับเธอเป็นกาว ผมกัดคอเธอเล็กน้อยและหยุดเคลื่อนไหว
「เมล็ดพันธุ์ของนายจะออกมาใช่มั้ย? นี่ต้องเป็นโชคชะตา…หนูจะยอมรับมัน」
ผมเริ่มปลดปล่อย และหลังจากที่การทั้งสองของเราสั่นซักพัก เราจูบกันอย่างเป็นธรรมชาติ พันลิ้นของเราเข้าด้วยกัน ไม่ว่าอย่างไร เธอมีกายที่ดี เมื่อผมม้วนลงบนเตียง ผมได้ยินเสียงสะอื้นจากข้างในผ้าห่ม อย่างที่คาดผมรุกหนักในการนิความบริสุทธิ์ของเธอไป และเธอน่าจะมีสิ่งต่างๆที่ต้องคิด ผมจะปล่อยเธอไว้ลำพังตอนนี้ก่อน
—————————————————————
หลังจาก 180 นาที
ผมดืมน้ำตรงๆจากเหยือก
「ฟฟฟู่ เธอไม่อยากจะดื่มมันด้วยเหรอ? เธอก็ควรจะกระหายด้วย」
「…หนูไม่ต้องการมัน」
อิริจิน่าที่นอนต่อจากผมและเธอร้องไห้น้ำตาที่ต่างจากความกลัว ระหว่างที่เธอยืนไม่ได้จากความช็อกของการถูนำความบริสุทธิ์ไป ผมทนไม่ได้อีกแล้วและใส่เธออีกครั้ง หลังจากตำแหน่งที่สุดขีดจบลง ตัวที่ใหญ่ของเธอหดและเธอเริ่มร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้ แม้ว่าเธอไม่กลัวผมอีกแล้ว
「กินหมายถึงนอนกับผู้หญิงใช่มั้ย?」
อิริจิน่าพึมพำโดยไม่มองผม
「มันเจ็บมั้ย?」
「ชั้นโอเค มันปรกติที่ผู้หญิงของกองทัพที่พ่ายแพ้จะถูกแหย่ ชั้นเตรียมใจไว้แล้ว」
「ชั้นแรงไปหน่อย ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้น」
ผมกอดอิริจิน่าใกล้กับผมผ เธอเป็นสาวที่ความสูงไม่ต่างกับมากกับผม แต่ในใจผมมีบางอย่างที่เหมือนความรักสัตว์ตัวเล็กๆ กับรูปลักษ์ของเธอที่ทำให้ตัวเธอเล็กลง
「เธอจะทำอะไรต่อจากนี้?」
ท่าของเธอเปลี่ยนและเธอใช้แขนผมเป็นหมอนขณะที่เราคุยกัน
「เพราะมันได้เป็นอย่างนี้แล้ว หนูตัดสินใจของหนูแล้ว นาย…ไม่ หนูจะใช้ชีวิตเป็นภรรายาของฮาร์ดเลตต์-โดโนะ」
「อะไร!?」
มือที่ลูบตัวของอิริจิน่าหยุด
「เธอหมายความว่ายังไงภรรยา?」
เธอมองผมด้วยหน้าที่ว่างเปล่า
「พี่หมายความว่ายังไง? พี่ขโมยความบริสุทธิ์ของหนูและเทเมล็ดพันธุ์เข้ามาในหนู หนูจะทำอะไรได้อีกนอกจากจะเป็นเมียพี่?」
นั่นไม่ดีเลย เธอน่าจะคิดทำอย่างนั้นจริงจัง
「ไม่ใช่เธอเพิ่งพูดว่าเธอเป็นผู้บัญชาการหรืออะไรบางอย่างของกองทัพที่พ่ายแพ้เหรอ?」
ผมไม่ได้มีเจตนาจะนอนกับเธอแล้วโยนเธอทิ้ง แต่ผมไม่มีเจตนาซักนิดเลยที่จะแต่งงานกับเธอ
「หนูบอกพี่แล้วว่าหนูเตรียมตัวกับอะไรแบบนี้แล้ว แล้วก็ไม่ใช่ว่าพีบอกหนูเมื่อพี่อยู่นะหนูว่า ‘พี่รักหนู’ และ ‘ปล่อยกายเธอไว้ให้ชั้น’ มันไม่ใช่การข่มขืนแต่มันเป็นเพราะพี่ชอบหนู ไม่ใช่เหรอ?」
มันหายากที่ผู้ชายจะบอกผู้หญิงบนเตียงวัน ‘ชั้นไม่ได้รักเธอ’ หรือ ‘เอาเลยต่อต้านสิ’ เธอไร้เดียงสาแค่ไหนกัน?
「หนูยอมรับฮาร์ดเลตต์-โดโนะ ฮาร์ดเลตต์-โดโนะรักหนู เราสองคนแลกเปลี่ยนคำสาบานแล้ว งั้นมันมีปัญหาอะไรล่ะ?」
พูดมากขาดนั้น ผมถอนหายใจและสีหน้าผมเปลี่ยน
「มันเป็นเรพาะพี่คิดว่าบางคนแบบหนูไม่มีสายเลือดจะเทียบเคียงกับพี่เหรอ!?」
「ไม่ ชั้นเป็นขุนนางที่เพิ่งได้รับจุดยืนเมื่อวันก่อนเอง」
「งั้นมันไม่ควรจะมีปัญหา สถานะทางสังคมของหนูมันไม่พิเศษแต่หนูมีสายเลือดที่สืบมาหลายปี มากกว่านั้นหนูได้ถูกสอนมารยาทมา หนูจะไม่ทำอะไรที่นำความอับอายมาให้พี่」
ความรู้เกี่ยวกับผู้ชายและผู้หญิงของเธอก็มาจากประเพณีโบราณด้วย ผมคิดกับตัวเอง
「แต่ พอจะมาพูดว่าเธออยากแต่งงานกระทันหัน」
「มันโอเค! อย่างที่พี่เห็น ตูดและหน้าอกของหนูโตมาอย่างดี หนูจะมีและเลี้ยงลูกที่แข็งแรง ดังนั้นพี่ไม่ต้องกังวล」
ผมไม่ได้กังวลเกี่ยวกับบางอย่างแบบนั้น
เสียงของการวิ่งในทางเดินขัดการสนทนาที่ไม่พัฒนาของเรา จากน้ำหนักเบานั่น คนนั้นมีความสามารถที่เป็นนักกีฬา แต่ผมยังบอกได้ว่าน้ำหนักเบามาก คนเดียวเข้ามาในใจผม
ด้วยเสียงปัง ประตูเปิดออกโดยไม่ได้เคาะ
「เอเกอร์-ซามะ! หนูจะพาผู้หญิงคนนั้น….มาที่นี่…..และ」
ในสายตาของเธอ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ที่นอนอยู่บนมอนแขนของผม ผ้าปูเตียงเละเทะ กลิ่นของการมีเซ็กส์อยู่ในห้อง มีรอยบนคอและหน้าอกของอิริจิน่าเป็นข้อพิสูจน์ว่าถูกดูดโดยผม
「เธอเป็นสาวน้อยจากวัง! ในเวลานั้นพวกเราทั้งสองคนเป็นศัตรูกัน ดังนั้นโปรดยกโทษให้ชั้นด้วย」
「ห-หนูสายไปแล้ว…หนูคิดว่ามันจะเป็นอะไรบางอย่างแบบนี้-!」
「อึ๋น? พี่เค้าเป็นนายของเธอเหรอ? ชั้นจะเป็นเมียของเค้า มาลืมความแค่จากตอนนี้ไปแล้วสนิทกันเถอะ」
「เธอหมายความยังไง เมีย? เมีย? เมีย? เมียยยยย!!??」
มาทำให้ซีเลียใจเย็นลงก่อน เรามาคุยกันหลังจากนั้นได้
「อย่างที่ชั้นพูด เพราะเธอนอนกับเค้าไม่ได้หมายถึงเธอเป็นเมียเค้าทันที」
「อะไรกัน-?! ชั้นเสนอความบริสุทธิ์ของชั้นให้เค้าด้วยนะ」
「นั่นใช่แล้ว ถ้าเธอพูดนั่นงั้นก็ชั้นด้วย เพราะเอเกอร์-ซามะเป็นคนแรกของชั้น…」
「เค้านำไม้เนื้อใหญ่เข้าไปในตัวที่เล็กของเธอเหรอ?! รูของซีเลียต้องใหญ่แน่เลย!」
「เธอเสียงดังไปแล้ว! ทุกคนจะได้ยินเธอ!」
ผมนำพวกเธอสองคนไปกับผมและดูรอบๆเมืองและตรวจสภาพของทีมของผม แม้ว่าพวกเธอสองคนเจอกันแบบแย่ที่สุด อย่างคาดไม่ถึง พวกเธอสนิทกันได้ดี ผมให้ซีเลียอธิบายพวกสิ่งที่น่ารำคาญ แต่อิริจิน่ามีชีวิตอยู่ในฐานะทหารมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเธอเปื้อนไปด้วยวิธีทำอะไรต่างๆของทหาร
มีสามสิ่งที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นกองทัพไหน: เคารพคำสั่งจากด้านผม ทำอย่างรวดเร็ว และเสียงต้องดัง อิริจิน่าได้ผ่านไปและพูดถึงรูของซีเลียและไม้เนื้อของผมอย่างดัง เราได้รับความสนใจจากคนรอบๆผม
แล้วก็มันเป็นบางอย่างที่ผมสังเกตุเมื่อวานด้วย แน่นอนว่าหัวของเธอมีน็อตหลวมที่ไหนซักที่แน่ สังเกตตาจากคนเหล่านั้นรอบเธอ เธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเสียงของเธอเบาลง
ส่วนหนึ่งของทหารเห็นอิริจิน่าเป็นศัตรูและทำหน้าตกใจ แต่พวกเขายอมรับมันเพราะพวกเขาเห็นเธอเดินอยู่ข้างผม
「อัศวินคนนั้น หน้าของเธอเป็นผู้หญิงโดยสิ้นเชิงเลย」
「กัปตันใช้หอกบนท่อนล่างของเค้าปลิดชีวิตเธอ ช่างเป็นชายที่น่าทึ่ง」
อิริจิน่ายังแดงอยู่และพยายามให้ตัวเธอเล็กลง แต่ผมไม่ยั้งมือและกอดเธอใกล้ๆ ถูกและลูบตูดของเธอ
「พะ-พี่ทำอะไร?! ทหารมองอยู่นะ」
「ชั้นทำให้พวกเค้าดูว่าเธอได้เป็นผู้หญิงของชั้น และชายที่คิดว่าจะว่าวุ่นวายกับเธอได้จะหายไป」
อิริจิน่าที่ผมไปหลายคน มันดีที่สุดที่จะกำจัดแรงเสียดทานให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และให้พวกเขาคิดว่าเธอได้ร่วงหล่นอย่างสมบูรณ์เพื่อเป็นผู้หญิงของผม
「อย่างนั้นเหรอ?! พี่ทำมากมายเพื่อหนู」
ถ้ามันอิริจิน่า จากนั้นหน้าอกของเธอผ่อนคลาย แต่จากนั้นเก็บแรงส่ง หน้าอกที่อุดมสมบูรณ์สองเต้าเด้งออกมา ทหารในบริเวณนี้ส่งเสียงเชียร์
「อุว้าา! เธอทำอะไรน่ะ?!」
ซีเลียตกใจและพยายามจะระงับมัน แต่เธอสูงค่อนข้างจะไม่พอและทำอย่างนั้นไม่ได้
「…ชั้นไม่ได้พูดว่าจะทำมันมากขนาดนั้น ดังนั้นซ่อนมัน」
อิริจิน่าผู้ที่รับรู้ว่าเธอจะถูกโกนใส่ตะโกนอย่างดัง
「อุว้า! ทุกคน อย่าดู! พวกขี้หลี!!」
ไม่ เธอเป็นคนที่เอามันออกมา
เห็นอิริจิน่าข้ามเขตนั้น ทหารที่มองเธอด้วยความเป็นศัตรูเปลี่ยนไป และมองเธอด้วยบางอย่างที่อบอุ่น
ภาพในบรรยากาศที่คุณพูดอะไรไม่ได้ ทหารได้มายืนยันว่าวังได้ถูกเผาแล้ว
「รายงานครับ! ห้องที่เหมือนใต้ดินขนาดใหญ่ได้ถูกพบเจอใกล้กับวัง มันอาจจะเป็นทางหนีหรือห้องลับ」
ซีเลียและผมมองหน้ากัน นี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้ามันเป็นทางหนี งั้นมันเป็นไปได้ว่าราชวงศ์หรือคนสำคัญวิ่งหนีไป ขุนนางและราชวงศ์จากวังที่ถูกเผาได้ถูกเชื่อว่าตายและไม่ได้ยืนยัน
「มารีบแล้วไปที่นั่นเถอะ ซีเลีย มันโอเคถ้ามันน้อย แต่พาทหารมาด้วย」
「ค่ะท่าน!」
ผมดึงมือของอิริจิน่าที่ยังแดงและพยายามจะปิดหน้าอกของเธอ ผมปล่อยเธอในที่นี่ไม่ได้
「มันอยู่ที่นี่กัปตัน」
มีทางบันไดที่ต่อลงไปจากซากปรักหักพันที่ยังปล่อยกินเหม็นไหม่อยู่ มีหินก้อนใหญ่ปิดข้างบน ดังนั้นพื้นที่ข้างล่างไม่มีผลโดยไฟ
「เอเกอร์-ซามะ!」
ซีเลียพาทหารมาประมาณสิบคนกับเธอ ที่เพียงพอแล้ว ด้วยคนจำนวนมากคุณจะขยับง่ายๆได้ดินไม่ได้
เมื่อผมกำลังจะบอกให้รีบเข้าไป อิริจิน่าพูดมันอย่างเรียบง่าย
「นี่คือคุกใต้ดิน」
「ท่านเจอคุกใต้ดินในบริเวณที่แยกกันเหรอ?」
แต่ถ้าคุณปล่อยอาชญากรไว้ที่นี้พวกเขาจะตายหมดนะ
「นี่มันสำหรับอาชญาก็ทั่วไป มันเป็นคุกใต้ดินสำหรับพวกนั้นที่ต่อต้านราชวงศ์ และสายลับจากประเทศเทศอื่นจะถูกส่งมาที่นี่」
มันเป็นที่สำหรับอาชญากรทางการเมืองเหรอ…มันได้อยู่ใกล้วังเพื่อเป็นการแสดงตัวอย่างเหรอ?
「หนูไม่เคยไปที่นั่นเอง แต่หนูได้ยินมาว่ามันเป็นที่ที่สยดสยองที่พวกเขาทรมานและประหารนักโทษ」
มันอยากให้ผมอยากเข้าไปน้อยลงและน้อยลงไปอีก แต่มันไม่เหมือนว่าเราจะปล่อยมันไว้ลำพังได้ ผมหยิบหอกจากทหารและส่งมันให้อิริจิน่า
「พี่มั่นใจเหรอ?」
「เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรข้างใน เธอเป็นผู้หญิงของชั้นไม่ใช่เหรอ?」
รอยยื้มขึ้นมาบนหน้าเธอที่มันบอกผมว่าเธอรักการต่อสู้
「นั่นใช่แล้ว! หนูเป็นผู้หญิงของพี่! ได้เลย หนูจะมีประโยชน์กับพี่!!」
เธอวนหอกเพื่อทดสอบมันและหลงใหลมัน เธอควบคุมมันได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เสียงของเธอดังเกินไป ซีเลียที่อยู่ต่อจากเธอ ปิดหูของเธอ
ใต้ดินมันอย่างที่อิริจิน่าพูดและค่อนข้างสยดสยอง
พวกเขาไม่น่าจะมอบอาหารให้นักโทษเพราะพวกเขาอยู่ในปราสาทระหว่างสงคราม ข้างในห้องขังมีศพนับไม่ถ้วน บางศพที่เริ่มเน่าระหว่างที่เกาะรั้ว และมีบางคนที่พยายามจะมีชีวิตรอดและกัดตัวเอง
「คนนั้นอีกแล้ว…」
「อุ่แหวะะะ!」
มีทหารหลายคนที่มีประสบการณ์การต่อสู้แต่หยุดคลื่นไส้ไม่ได้จากกลิ่นเน่าและภาพที่น่ากลัว ซีเลียและอิริจิน่าก็ปิดปากและจมูกด้วยมือของพวกเธอ
「ระหว่างนี้ยืนยันว่าไม่มีผู้รอดชีวิต ถ้าไม่เทน้ำมันแล้วจุดไฟ」
ผมพาตัวเองไปค้นหาทุกซอกทุกมุมไม่ได้ แต่กัปตันมีสิทธิพิเศษที่จะสั่งทหารให้ทำอย่างนั้นระหว่างที่ยืนอยู่ใกล้ทางเข้า ที่กลิ่นดีกว่าเมื่อเทียบ
「อาณาจักรอาร์คแลนด์มีอดีตที่มืดมนด้วย ไม่ใช่เหรอ?」
「นี่เป็นที่แรกที่หนูมาที่แบบนี้ ถ้าเป็นไปได้หนูไม่อยากจะเห็นมัน」
ผมพยายามจะหลอกให้ซีเลียหดหู่ด้วยบทสนทนานี้ แต่เธอไม่เชื่อ
「บ่างอย่างแปลกไปที่นี่ ได้โปรดระวัง」
มันเป็นที่แปลกตั้งแต่เริ่มจนจบ แต่สัญชาติญานของซีเลียดีกว่าส่วนใหญ่ ผมก็ระวังและวางมือลงไปบนดาบ
「ทางขวา ข้างในคุก!」
ซีเลียตะโกนและเหตุการนั้นทันที มันเป็นศพเน่าข้างในที่เราตรวจก่อนหน้า มันควรจะตายไปซักพักแล้ว แต่มันลุกขึ้นอย่างช้าๆและกระแทกกรงเหล็ก
「มันเป็นซอมบี้เหรอ?」
ซอมบี้คือมอนสเตอร์อันเดดที่เกิดจากความแค้นหรือมีวิญญาณชั่วยึดศพ พวกมันแข็งแกร่งถึงจุดหนึ่งแต่ไม่ต่างมากจากเมื่อพวกมันยังเป็นมนุษย์ แล้วก็ไม่มีความฉลาดด้วย แต่เพราะพวกมันเป็นศพไม่มีจุดหมายในการฟันหรือแทง คุณต้องทำลายตัว
ซอมบี้เกิดขึ้นมาได้ง่ายในที่ที่คนตายบ่อยและเมื่อความแค้นถูกเน้น คุกใต้ดินนี้เป็นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเก็บเกี่ยวทั้งสองอย่างนั้น มันจะไม่แปลกถ้าศพทั้นหมดที่นี่กลายเป็นซอมบี้ มันเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ผมอยู่ในที่ที่ไม่น่าพึงพอใจแบบนี้ ผมเกือบจะลืมเกี่ยวกับมัน
แต่ซอมบี้ไม่แข็งแรงพอที่จะทำลายบางอย่างแข็งเหมือนกรงเหล็ก ผมกำลังจะเตือนทหารที่ไปข้างหน้าให้ระวังเผื่อไว้แต่…
「อุว้าา!!」 「กย้าาา!!」
มันดูเหมือนผมจะสายเกินไป
「จึ-! ปล่อยนะ!」
มันดูเหมือนทหารที่ไปข้างน่าไม่ได้สู้แค่ซอมบี้
「โครงกระดูก!」
โครงกระดูกเป็นมอนสเตอร์ที่สร้างด้วยกระดูก เงื่อนไขของการเกิดของมันไม่ต่างไปมากจากซอมบี้ แต่พวกมันน่ารำคาญกว่ามาก มันดูเหมือนพวกมันมีความทรงจำเรื่องการต่อสู้หลงเหลืออยู่ในมัน พวกมันเคลื่อนไหวเหมือนนักรบ อย่างเดียวกันกับพวกเหล่านี่ที่ทำจากกระดูก แต่ยกเว้นว่าจะทำลายตัวมัน พวกมันจะเคลื่อนไหวต่อไป
「กกกุ่เอะ!」
หนึ่งในทหารถูกจับที่คอโดยกระดูกและถูกฆ่าตาย การเคลื่อนไหวเหล่านั้นมันขัดเกลามา ดังนั้นมันต้องเป็นทหารเก่าแน่
「ซีเลียถอย เธอไม่เหมาะกับนี่」
ซีเลียสู้โดยการเล็งไปที่จุดสำคัญของศัตรู
ซอมบี้และโครงกระดูกไม่มีจุดอ่อนทำให้ธออยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบ
「คุ-! หนูจะสนับสนุนท่าน」
ดังเธอรู้มันด้วยตัวเธอเองแล้ว เธอเปลี่ยนดาบของเธอเป็นมีดโยนอย่างอารมณ์เสีย
「ไมมมม่!!」
ทหารคนที่สองถูกจับโดยโครงกระดูก เขาถูกกินโดยซอมบี้และตาย
มีโครงกระดูก 4 ตัวและซอมบี้ 8 ตัว มีเยอะ พวกเขาน่าจะตายจากการโดนทรมานและศพถูกโยนออกมาข้างนอกห้องขัง และปล่อยไว้ที่นี่
ผมให้ทหารถอยขณะที่ผมเผชิญหน้ากับพวกมัน เหมือนกองกระดูกบอกความแข็งแกร่งระหว่างทหารคนก่อนและผมได้ มันยืนเฉยๆพร้อมด้วยพร้อมดาบ
「ซูราาออออิตาาา-」
มีแค่ซอมบี้ที่ไม่มีสมองโซเซมาข้างหน้า ผมไม่อยากจะทำให้ใบมีดของแอ่งคู่ของผมสกปรกจากพวกกองขยะนี้ ผมนำดาบจากทหารที่ตายมาไว้ในสองมือ
「ฟฟฟู่-!」
ถือดาบด้วยสองมือ ผมส่งหัวของซอมบี้บินไปและตัดแขนทั้งสองของมัน นั่นตัวหนึ่งแล้ว
ผมตัดขาข้างหนึ่งจากอีกตัวและขยี้หัวของมันล้มลงไป นั่นทำเห็นเป็นสอง
มีดของซีเลียแทงหัวของพวกมันสองตัว แน่นอนว่านันจะไม่พอที่จะหยุดพวกมันจากการเคลื่อนไหว แต่ในช่องเปิดนั้น อีริจิน่าและผมทั้งสองคนแทงและตีมันเข้ากับกำแพง นั่นทำให้เป็นสี่
และโครงกระดูกที่ยืนอยู่เฉยๆในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหว ผมสามารถจะทำลายมันไปได้ตัวหนึ่ง แต่พวกมันสองตัวเห็นอิริจิน่าจัดการด้วยง่ายกว่าและมุ่งหน้าไปทางนั้น
นั่นแย่แล้ว อิริจิน่าใช้หอก โครงกระดูกนั้นกลวงเมื่อเทียบกับซอมบี้ ดังนั้นมันยากที่จะแทงผ่านพวกมัน
ผมกำลังจะไปช่วย แต่มันดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็น
「เซซซซ้-!」
อิริจิหน้าฝังหอกของเธอไว้ที่ชายโครงของมันและโยนพวกมันขึ้นไปบนเพดาน
โครงกระดูกนั่นบอบบางกว่าซอมบี้ มันเลยแตกออกไปชิ้นๆ
เธอกันการโจมตีของอีกตัวได้อย่างง่ายๆ และถือหอกกลับด้าน ใช้ปลายของด้ามหอกเพื่อขยี้กระโหลกด้วยการโจมตีที่รวดเร็วสามครั้ง กระโหลกแตก และเธอมอบการเตะกว้างให้โครงกระดูกที่โซเซ ส่งมันไปกระแทกกับกำแพงและถูกทำลายอย่างแน่นอน
เธอแข็งแกร่ง ผมคิดอย่างนั้นจากใจ ในการต่อสู้จริง ซีเลียเทียบกับเธอไม่ได้เลย แน่นอนว่าเธอแข็งแกร่งกว่าอากอร์และคาร์ลหลายเท่า เหตุผมที่เธอแพ้ผมอย่างง่ายดาย บางทีเป็นเพราะความจริงที่ว่าเธอเสียความสงบเนื่องจากความกลัวของเธอ
พวกทหารก็หายใจทันแล้ว และสามารถที่จะแทงและหั่นซอมบี้ที่เหลือเป็นชิ้น ถ้าเราจัดการกับมันอย่างสงบ กลุ่มติดอาวุธเต็มตัวของทหารจะไม่แพ้ซอมบี้จำนวนเท่ากัน
ผมเผชิญหน้ากับโครงกระดูกตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ มีแค่ตัวนี้ ที่บรรยากาศต่างไปเกี่ยวกับมัน มันดูเหมือนมันอยากจะหนึ่งต่อหนึ่งตั้งแต่แรกเริ่ม
ซีเลียโยนมีดใส่มัน แต่มันไม่แม้แต่จะทำลายท่ายืนของมัน มันขยับอย่างน้อยที่สุดเพื่อที่จะปัดมัน และจากนั้น มันมองแค่ผม และพร้อมดาบของมัน
โครงกระดูกต่างจากซอมบี้เล็กน้อยที่พวกมันแบกเจตนาของเจ้าของมันเมื่อมันยังมีชีวิตอยู่ วิญญาณที่ถูกฝังอยู่ในกระดูกน่าจะเลือกผมเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้าย
「พวกนายอย่าแทรงแซง」
ผมหยุดซีเลียที่กำลังจะโยนมีดอีกเล่ม ระหว่างที่ดึงแอ่งคู่ออกจากฝัก ตัวนี้มันต่างจากขยะตัวอื่น
โครงกระดูกเดินมาข้างหน้าและสกัดกันผม
พริบตาเดียว ถูกตัดโดยมิธริล เหล็กขับไล่ผี โครงกระดูกทุดลงและหายไปเป็นฝุ่น
มันหายไปเป็นฝุ่นจริงๆ แหวนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ไม่มีอัญมณีติดอยู่บนมัน และมันไม่ได้ทำมาจากทอง มันเป็นแหวนที่หยาบๆ อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมพาตัวเองไปโยนมันไม่ได้ในที่เน่าๆแบบนี้และหยิบมันขึ้น
「แบกทหารที่ตายออกไป! พวกเค้าจะกลายเป็นซอมบี้ถ้านายปล่อยพวกเค้าไว้ที่นี่」
เราต้องฝังพวกเค้าเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ที่นี่ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราอีก มันไม่มีทางเดินที่นำไปไหนด้วย และเราจะเผาที่นี่ตามที่วางแผนไว้
「เฮฮฮฮ้….ใครก็ได้…มีใครอยู่ที่นั่นมั้ย…?」
ซีเลียและอิริจิน่าตอบสนองเสียงมาจากข้างหลังคุก จากที่ที่ศพอยู่
ซอมบี้ไม่ฉลาดพอที่จะพูดคำที่มีความหมาย ดังนั้นนั่นหมายถึงเผ่าระดับสูงอย่างพวกกูล หรืออาจจะ…
「ชั้นหิว…มี…อาหารอะไรมั้ย?」
มันเป็นคนที่มีชีวิต
ระหว่างที่มองควันที่ขึ้นมาจากหลุมฝักศพที่ไฟลุกไหม้ ผู้ชายได้กินโจ๊กอย่างโลภ
「ยังไงซะ ชั้นคิดว่าชั้นจะตาย เมื่อชั้นเห็นเลดี้คนนั้น ชั้นคิดว่าเธอมารับชั้นและพาไปยมโลกหรืออะไรบางอย่าง」
「ชั้นคิดว่ามันน่าตกใจที่เมืองหลวงจะถูกยืดโดยประเทศอื่น」
ชายหยุดเคลื่อนไหวมือที่เขากินอยู่ซักครู่หนึ่ง
「ชั้นเดาว่าอย่างนั้น มันคาดไม่ถึงที่โกลโดเนียจะมาอยู่ที่นี่ อยา่งอื่นนั้นไม่แปลก ด้วยนโยบายที่ไร้แหตุผลแบบนั้น ชั้นเห็นสิ่งนี้จะมาถึง」
อีกครั้ง เค้าโกยโจ๊กเข้าไปในปากของเขา
มันดูเหมือนอาหารหยุดมาหานักโทษตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่มีที่ระบายน้ำเสียจากเพดานของห้องขังของคนนี้ ที่เขาดื่มมันและรอดชีวิตมาโดยการกินเห็ดและตะไคร่น้ำที่โตขึ้นที่นี่ที่นั้น เขาไม่ได้คุยอย่างเงียบมาก แต่เขาเป็นชายที่ค่อนข้างแกร่ง
「มันได้เวลาที่เราจะได้เวลาของนายรึยัง?」
「ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้น ชั้นยุ่งอยู่กับการกินเกินไป!」
ยังไงซะ มันดูเหมือนมันจะเป็นเดือนแล้ว ดังนั้นผมเดาว่านั่นโอเค
「ชั้น อดอล์ฟ ฟุลเกอร์ ชั้นมีนามสกุลแต่ชั้นไม่ใช่ขุนนาง ดังนั้นเรียกชื่อชั้น」
「อดอล์ฟ ใช่มั้ยนายไม่ได้ดูเหมือนคนที่จะวางแผนกบฏ ดังนั้นนายมาทำอะไรในที่แบบนี้?」
「ประเทศนี้…ชั้นเดาว่ามันไม่มีตัวตนอีกแล้ว… ชั้นเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กิจการภายในประเทศให้กับอาณาจักรอาร์คแลนด์เก่า และชั้นบ่นว่าการเก็บภาษีและแรงงานนั้นแย่ ประเทศนี้จะพังทลาย」
「นั่นคือทั้งหมดที่นายทำ ที่จะทำให้นายตกมาอยู่ในนี้เหรอ?」
「ในเวลานั้น ชั้นบ่นมันอย่างยาวว่านโยบายปัจจุบันโง่เขลาและงี่เง่า และก่อนที่ชั้นจะรู้ตัว ชั้นได้อยู่ที่นี่แล้ว」
ชายคนนี้เหมือนลีโอโพลต์ เขาพูดสิ่งต่างๆตรงไปตรงมา แต่ไม่เหมือนลีโอโพลต์ เขาไม่ได้ดูเหมือนจะหาเลี้ยงตัวเองได้
「ชั้นได้หวังว่ารัฐบาลจะถูกทำลาย แต่ถ้ามันเป็นบางอย่างแบบนี้ มันทำให้ชั้นอยู่ในจุดที่ลำบาก ถ้าประเทศอื่นปกครองที่นี่ มันดูเหมือนชั้นจะไม่สามารถทำงานได้」
แต่ละประเทศได้เอาส่วนหนึ่งของดินแดนของอาร์คแลนด์ไป ดังนั้นมันเป็นธรรมชาติสำหรับพวกเขา ที่จะพาเจ้าหน้าที่ของตัวเองมา มีขุนนางมากมายที่หาตำแหน่ง มี่มีประเทศไหนที่จะจ้างคนที่อยู่ในคุกเป็นพิเศษ
「ฮาร์ดเลตต์-ซามะ ท่านคิดยังไง? ผมมีประสบการณ์ในการจัดการกับกิจการภายใน และผมมีแผนสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่เสนอให้ท่านได้ ผมสามารถจะแสดงให้ท่านเห็นว่าจะดูแลดินแดนของขุนนางยังไง ดังนั้นท่านจะไม่พิจารณาการจ้างผมเหรอ?」
「ชั้นไม่เกลียดความเร็วที่นายเปลี่ยนฝั่งและความไม่อายของนาย แต่โชคร้าย ชั้นไม่มีดินแดน」
「อย่างนั้นเหรอ…ยังไงซะนั่นไม่ดีเลย แต่ผมเดาว่าผมจะคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้งเมื่อผมอิ่มท้องอีกครั้ง」
อดอล์ฟขยับมือและปากของเขาอีกครั้ง มันจะน่าสงสารเกินไปถ้าเราโยนเขาออกไปให้เขาหิวตาย ผมเดาว่าผมจะให้อาหารเขาก่อนตอนนี้
วันนั้น ไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยนไปมาก ผมได้นอนกับทั้งซีเลียและอิริจิน่า และจากนั้นข่าวลือได้แพร่ไป
「อัศวินผู้หญิงคนนั้น กัปตันได้ฝึกเธออย่างสมบูรณ์ และถ้าเขาสั่งการ เธอจะเปลือยที่ไหนก็ตามที่เค้าต้องการ」
「ในทางตรงกับข้ามเมื่อเธอบ้าพูดชาย มันดูเหมือนเธอจะอยากได้เอ็นทั้งวันและจะส่ายเอวเธอเหมือนคนบ้า」
「เธอยังขอให้ถูกปฏิบัติเหมือนหมาด้วย」
「งั้นถ้าเราถามเธอนายคิดว่าเราจะทำมันด้วยได้มั้ย?」
「อย่าโง่น่า ถ้านายนอนกับผู้หญิงของกัปตัน เค้าจะฟันนายขาดครึ่ง」
「ถ้านายอยากจะเป็นคนที่ 201 งั้นทำตามที่นายต้องการเลย」
「ใช่แล้ว เคาะไม้ไป」
นี่มันขัดกับความประสงค์ของผมอย่างแน่นอน
—————————————————————
โหมดปรกติ
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19 ปี ฤดูใบไม้ร่วง
สถานะ: บาโรเนตอาณาจักรโกลโดเนีย กองทัพกลาง กองพลที่ 3 ผู้บัญชาการกองพันผสม
เงือนเดือนรายปี 140 ทอง
สินทรัพย์: 1000 ทอง (เงินและต่ำลงมาไม่นับ)
อาวุธ: แองคู่ (ดาบใหญ่)
อุปกรณ์: ผ้าคลุมดำ (ต้องสาป)
พวกพ้อง: นนน่า, เมลิสซ่า, มาเรีย, คาร์ล่า, แคทเธอรีน (เดินทาง)
คนรับใช้: เซบาสเตียน, มิทตี้, อัลม่า, ครอลล์, นีน่า
ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ติดตามและคนรัก), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อากอร์ (ผู้ช่วย), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อย), คริสตอฟ, ชวาร์ซ (ม้า), อิริจิน่า
คู่นอน: 37
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 150/200
กาแฟ 0/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord