ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 126: ความสมบูรณ์ของโครงการทั้งสาม
บทที่ 126: ความสมบูรณ์ของโครงการทั้งสาม
กลับมาที่คำถามเดิม ผู้นำต้องทำอย่างไรจึงจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน?
มีปราชญ์เฒ่าผู้ชาญฉลาดในอดีตเคยกล่าวไว้ว่าผู้ที่สามารถชนะใจผู้คนได้คือผู้พิชิตโลก ซึ่งโรเอลมีความได้เปรียบที่อดีตชาติของเขามาจากยุคแห่งข้อมูล ดังนั้นเด็กชายจึงสามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้คนในอดีตที่เคยเดินบนเส้นทางคล้าย ๆ กันมาก่อน
การเอาชนะใจผู้คนเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนถือเป็นหัวข้อสำคัญในโลกสมัยใหม่ อดีตชาติของโรเอลที่เขาแสนจะคุ้นเคย เคล็ดลับคืออะไรงั้นเหรอ?
แน่นอน การรับใช้ประชาชนยังไงล่ะ!
ประชาชนย่อมมีตาที่จะดูด้วยตนเองว่าผู้ปกครองเขตการปกครองของตนเป็นคนอย่างไร จะดี จะชั่ว ไร้ความสามารถ หรือมีความสามารถทุกอย่างล้วนตัดสินจากการกระทำ
แม้ว่าชีวิตนี้โรเอลจะเกิดมาในตระกูลชนชั้นสูง ทำให้เขาไม่อาจใช้ข้ออ้างทั่ว ๆ ไปเช่น ‘ผู้นำที่เกิดจากเสียงของประชาชน’ แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็สามารถเป็นผู้นำที่เข้าถึงผู้คนได้
โครงการ ‘ล้างพิษออกจากท้องถนน’ ทำให้เกิดการขาดดุลทางงบประมาณอย่างหนัก แม้ว่าโรเอลจะริบทรัพย์สินของอาชญากรมามากมาย แต่เขตการปกครองแอสคาร์ดก็ต้องเสียเงินทั้งหมดนั้นให้กับผู้เสียหายอยู่ดี อย่างไรก็ตามมันก็ช่วยให้โรเอลได้รับความนิยม และการสนับสนุนจากผู้คนซึ่งเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ง่าย ๆ ด้วยเงิน
ขณะเดียวกันมันก็นำให้กองกำลังต่าง ๆ ของโรเอลใกล้ชิดกับเขามากขึ้นด้วย
โรเอลทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายการเงินและฝ่ายประชาสัมพันธ์ในโครงการนี้ การทำงานร่วมกันช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน ยิ่งไปกว่านั้นความสำเร็จของโครงการยังทำให้พวกเขารู้สึกได้รับเกียรติภูมิร่วมกันอีกด้วย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเดิร์กถึงมีความสุขมากในงานเลี้ยงฉลอง เขาชื่นชมยินดีไม่เพียงแค่ความสำเร็จของภารกิจเท่านั้น แต่ยังมีความสุขที่เป็นผู้ผดุงรักษาความยุติธรรมในเขตการปกครองบ้านเกิดของตนเองอีกด้วย มันทำให้เขามีชื่อเสียงที่ดี และสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานภายใต้การบริหารของโรเอล
เช่นเดียวกับทหารหนุ่มคนอื่น ๆ ในหน่วยผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ด้วย พวกเขารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำงานเพื่อสังคม โดยเห็นได้ชัดจากความเคารพอันจริงใจจากเหล่าประชาชนที่มีต่อพวกเขา เจ้าของร้านขายของชำมักจะให้อาหารแก่พวกเขาฟรี ๆ เป็นครั้งคราว มีผู้คนคอยตะโกนขอบคุณพวกเขาขณะที่กำลังเดินลาดตระเวนไปตามถนน
… แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจมากที่สุดก็คือการได้รับคำสารภาพรักจากบรรดาหญิงสาวมากมายเกินกว่าที่เคยมีมาทั้งชีวิต
เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘วีรบุรุษผู้พิทักษ์สาวงาม’ เลื่องลือออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สมาชิกของหน่วยผู้พิทักษ์สันติราษฎ์หลุดพ้นจากการเป็นโสดอย่างรวดเร็ว!
ผู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือโรเอล ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าสูงสุดของพวกเขา มีหญิงสาวจำนวนมากคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของเด็กชาย ระดับที่ว่าถึงกับมาตั้งค่ายพักแรมดักรอล่วงหน้าเพื่อแอบมองดูเขา เรียกได้ว่าโรเอลนั้นได้รับจดหมายสารภาพมากกว่าหนึ่งโหลในทุก ๆ วัน อีกทั้งบางวันก็มีลูกสาวของเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเข้ามาเสนอตัวขอเป็นสนมของเขา
แน่นอน ข้อเสนอทั้งหมดเหล่าถูกปฏิเสธโดยโรเอล โดยอ้างว่าเขาไม่สามารถตัดสินใจได้เนื่องจากคาร์เตอร์ไม่อยู่ที่นี่
…
กลับมายังปัจจุบัน โรเอลเดินเข้ามาในสำนักงานบริหารของเขตการปกครองแอสคาร์ด ตรงเข้าไปที่ห้องของตัวเอง นั่งลงบนเก้าอี้หนังพลางถอนหายใจ
1 ใน 3 โครงการแรกของโรเอลนั้นถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อโครงการที่ 2 และ 3 ของเขา
โครงการที่สองที่เขาเตรียมไว้ก็คือการก่อสร้างเครือข่ายคมนาคมให้กับเขตการปกครองแอสคาร์ด มันเป็นโครงการใหญ่ที่กินระยะเวลานานหลายปี เป้าหมายคือการสร้างเครือข่ายการขนส่งให้สะดวกมากขึ้น โดยเชื่อมต่อกันระหว่างตัวเมืองหลัก เมืองรอบ ๆ และหมู่บ้านต่าง ๆ ภายในเขตการปกครองแอสคาร์ด นี่ถือเป็นแนวทางสำหรับวางรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
อย่างที่เคยมีใครสักคนกล่าวเอาไว้ ถนนสู่โชคลาภ มักจะเริ่มต้นจากถนนที่เราสร้างขึ้นมาเอง
ด้วยที่โรเอลมาจากโลกสมัยใหม่ เขาจึงเข้าใจดีว่าถนนที่ดีนั้นมีความสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด เขตการปกครองจะเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ถ้าการคมนาคมเมื่อไม่สามารถเข้าถึงได้?
ถนนที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการระดมกำลังทางทหารและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งนี่ก็ผ่านมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่มีการซ่อมแซมถนนในเขตการปกครองแอสคาร์ด
เมื่อถึงตอนที่มาร์ควิสคาร์เตอร์ขึ้นตำแหน่งผู้นำตระกูล ถนนเหล่านั้นก็ทรุดโทรมเกินกว่าจะซ่อมแซมได้แล้ว เรียกได้ว่ามีบางส่วนถูกตัดทิ้งออกไปแล้วเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ความคิดแรกของโรเอล คือการติดต่อสมาคมพ่อค้าเพื่อจัดหาเงินทุน แต่เมื่อนึกถึงหนี้ก้อนโตที่ติดค้างระบบแล้ว เด็กชายก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรจะทำให้สถานการณ์ทางการเงินของตัวเองแย่ลงไปกว่านี้น่าจะดีกว่า เขาควรจะหลีกเลี่ยงการกู้หนี้ยืมสินทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้
โชคดีที่โรเอลมีวิธีที่จะสามารถดำเนินโครงการนี้ต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหาเงินทุนจากภายนอกอยู่พอดิบพอดี นั่นก็คือการประหยัดต้นทุนวัตถุดิบ
【เส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตัน
ในระหว่างการวิจัยภูติแห่งผืนป่าในการประสานอารยธรรมเข้ากับธรรมชาติ พัฒนาขึ้นเป็นอุปกรณ์ที่สามารถผลิตอิฐไม้ที่ทนทานราวกับหิน ซึ่งพอปลูกลงดินแล้วพวกมันก็จะเริ่มหยั่งรากเพิ่มความทนทานในระยะยาว
‘ภูติไม้ยังคงมีอยู่ในโลกนี้ เพียงแต่ว่าลักษณะการดำรงอยู่ของพวกมันแตกต่างไปจากเมื่อก่อน’
– สมบัติของมิลตัน
ราคา : 30,000 แต้มความสนใจ /หน่วย】
【ขอแสดงความยินดีแก่ตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองคนใหม่
การสั่งสมอิทธิพลยาวนานเป็นเวลาพันปีย่อมส่งผลให้เกิดเป็นความมั่งคั่ง ในขณะที่การละเลยเป็นเวลาพันปีย่อมส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรม มีเพียงความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองเท่านั้นที่จะสามารถใช้ต่อกรกับคมดาบของศัตรู
สินค้าที่ร่วมรายการทั้งหมด ได้รับส่วนลด 50%!
เส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตัน
ราคาส่วนลด: 15,000 แต้มความสนใจ /หน่วย
…
】
เมื่อโรเอลเห็นรายการสินค้าลดราคาในร้านค้าของระบบ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองจะต้องซื้อเส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตันมาให้มากที่สุด ไม่มีสินค้าชิ้นในในร้านค้าระบบที่จะมาเทียบเคียงกับมันได้
หากพูดถึงการก่อสร้างถนนแล้วล่ะก็ ตัวแปรสองอย่างที่ทำให้ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น นั่นก็คือกำลังคนและวัสดุ
วิธีการสร้างถนนนั้นมีหลากหลาย โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการทำให้พื้นดินเรียบและแข็งขึ้น แต่วิธีดังกล่าวนั้นไม่มีคุณภาพและขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากหญ้าวัชพืชเติบโตได้อย่างรวดเร็วบนพื้นที่ราบ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการกัดเซาะด้วยเช่นกัน วิธีที่ดีกว่าก็คือการสร้างถนนขึ้นมาใหม่ แต่การจัดการพื้นที่ การก่อสร้างและการขนส่งวัสดุทั้งหมด ก็ต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามถ้าโรเอลใช้เส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตันเป็นวัสดุ เขาก็จะสามารถประหยัดเงินทุนเหล่านี้ลงไปได้
วัตถุที่มีชื่อแปลก ๆ นี้เป็นชุดอุปกรณ์เวทที่ภูติแห่งผืนป่าใช้คาถาของพวกเขาสร้างขึ้นมา เมื่อใส่ท่อนไม้เข้าไปในอุปกรณ์เวทดังกล่าว มันจะสร้างอิฐไม้ที่แกร่งกว่าไม้ทั่ว ๆ ไปขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นอิฐไม้เหล่านี้ยังสามารถฝังตัวลงไปในพื้นดินได้โดยการหยั่งราก ทำให้มันกลายเป็นวัสดุก่อสร้างอันน่าอัศจรรย์สำหรับการสร้างถนนผ่านป่าเขา
ประเด็นสำคัญที่สุดที่โรเอลกังวลเกี่ยวกับมันก็คือ ความไวไฟของวัสดุก่อสร้างนี้ คงไม่มีใครอยากเดินทางบนถนนที่อาจกลายเป็นนรกได้เพียงชั่วพริบตาแน่ ๆ …
ทว่าหลังจากที่โรเอลได้ซื้อมันมาทดลองใช้งานมันหนึ่งหน่วย เขาก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่จำเป็นจะต้องกังวลถึงเรื่องนั้นเลย ปรากฏว่าอิฐที่ผลิตโดยเส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตันนั้นสามารถดูดซับน้ำเข้าไปได้ ทำให้มันกลายเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ยากยิ่งกว่ายางมะตอยซะอีก อีกทั้งด้วยที่สภาพอากาศรอบ ๆ เขตการปกครองแอสคาร์ดนั้นชุ่มชื้น เขาจึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลว่าจะเกิดไฟไหม้เลย
อีกปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาก็คือประสิทธิภาพของมัน เส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตันนั้นอาจจะเป็นสินค้าที่ดี แต่มันจะไม่มีความหมายเลย หากผู้ใช้สร้างอิฐขึ้นมาและลำเลียงได้ช้าเกินไป ดังนั้นโรเอลจึงได้รวบรวมช่างฝีมือผู้ชำนาญงานฝีมือมาทดสอบใช้มันสร้างถนน ผลปรากฏว่าประสิทธิภาพของมันนั้นเทียบเท่ากับการนำสร้างวัสดุชั้นดีในเขตการปกครองแอสคาร์ดขึ้นเอง
นี่ไม่ต่างอะไรไปจากการถูกรางวัลที่หนึ่งเลย! ต้นทุนที่โรเอลต้องจ่ายนั้นเกือบเป็นศูนย์ ไม่มีทั้งค่าขนส่งสำหรับการก่อสร้าง และประสิทธิภาพของวัสดุเองก็ยังคงมาตรฐานสม่ำเสมอในทุก ๆ ชิ้น
ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาโรเอลได้สะสมรวบรวมแต้มความสนใจมาเกือบ 300,000 แต้ม ทำให้เด็กชายสามารถใช้จ่ายพวกมันได้อย่างไม่ต้องลังเล เขาซื้อเส้นทางแห่งธรรมชาติของมิลตันมาเพิ่มอีก 9 หน่วย ซึ่งเป็นขีดจำกัดสำหรับการซื้อสินค้านี้
ด้วยเหตุนี้โครงการที่สองของโรเอลจึงดำเนินไปได้ตามแบบแผน ดังนั้นเขาจึงหันความสนใจไปที่โครงการที่สาม นั่นก็คือการสุขาภิบาลสาธารณะ
โรเอลอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลแอสคาร์ดมานับตั้งแต่เขาเกิด และการเดินทางส่วนใหญ่ของเขาก็โดยสารด้วยรถม้า ดังนั้นเด็กชายจึงขาดความเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของเขตการปกครองแอสคาร์ด นั่นคือเหตุผลที่สิ่งแรกที่เขาทำในฐานะตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองคือการออกไปตรวจสอบสำรวจทั่วเขตการปกครอง ไม่นานนักโรเอลก็สังเกตเห็นถึงปัญหาใหญ่
เขตการปกครองแอสคาร์ดได้จำลองระบบบำบัดน้ำเสียมาจากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ลอเรน ดังนั้นที่นี่จึงไม่มีปัญหามากนักในเรื่องนั้น ทว่าหากพูดถึงการกำจัดขยะแล้วล่ะก็ เขตการปกครองแอสคาร์ดต้องปรับปรุงอีกมาก
เขตการปกครองแอสคาร์ดใช้วิธีกำจัดขยะโดยการฝังขยะ ซึ่งดีกว่าที่บางประเทศในอดีตชาติของโรเอลที่เลือกที่จะทิ้งขยะลงในแม่น้ำ ทำให้สิ่งแวดล้อมใกล้เคียงสกปรก ทว่าการฝังขยะเองก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะเมื่อถึงฤดูร้อน ในสถานที่ ๆ ร้อนและชื้น กลิ่นเหม็นของขยะใต้ดินจะโชยออกไปทั่วพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้นสารพิษเหล่านั้นอาจไหลเวียนอยู่ในพื้นดิน หรือกระจายออกไปปนเปื้อนแหล่งน้ำในบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนี้ พฤติกรรมการทิ้งขยะในครัวเรือนของประชาชนเองก็เป็นปัญหาเช่นกัน ภายในพื้นที่เมือง ประชาชนมักจะทิ้งขยะเพียงสัปดาห์ละครั้งเพื่อความสะดวก เนื่องจากในโลกนี้ไม่มีถุงขยะ ผู้คนจึงมักทิ้งขยะกอง ๆ เอาไว้ตามมุม ซึ่งเป็นแหล่งสั่งสมเชื้อโรคที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประชาชนในภายหลังได้
ที่แย่ที่สุดก็คือในปีที่ฝนตกมากกว่าปกติ เชื้อโรคจากกองขยะเหล่านั้นก็จะไหลเข้าสู่ครัวเรือนพร้อมกับน้ำท่วมฉับพลัน เป็นเหตุให้มีโรคระบาดเกิดขึ้นในเขตการปกครองแอสคาร์ด
อารยธรรมความเจริญในทวีปเซียยังอยู่ในขั้นตอนที่กระบวนการผลิตส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ ดังนั้นสุขภาพของประชากรจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการรักษาประสิทธิภาพของการผลิตและแรงงาน ด้วยเหตุนี้ การระบาดของโรคระบาดจึงส่งผลกระทบทางการเงินอย่างร้ายแรงต่อเขตการปกครอง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการล้มละลายตามมาได้
โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขตการปกครองแอสคาร์ด แต่มันคงเป็นเรื่องโง่ที่จะปล่อยให้ชะตากรรมของเขตการปกครองเป็นไปตามโชคต่อไป
ดังนั้นโรเอลจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีปฏิบัติในการกำจัดขยะจาก ‘ฝังขยะ’ เป็น ‘การเผาขยะ’ ซึ่งสะดวกกว่าทั้งในแง่ที่ว่าพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องขุดหลุม อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วยเช่นกัน การปฏิบัติดังกล่าวทำให้ประชาชนจะสามารถทิ้งขยะได้ในทุก ๆ สามวัน นี่ถือเป็นการปรับปรุงสุขาภิบาลในเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งเขตการปกครองเลยทีเดียว
แน่นอน ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีใครคิดที่จะเผาขยะมาก่อน อย่างไรก็ตามเหตุผลที่วิธีนี้ไม่ถูกนำมาใช้นั้นเป็นเพราะ มันถูกมองว่าเป็นความคิดที่ดีในทางทฤษฎี แต่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และเหตุผลก็คือต้นทุน
การเผาขยะนั้นไม่ง่ายเหมือนการจุดไฟบนคบเพลิงและรอให้มันหายไปเป็นเถ้าถ่าน จริง ๆ แล้วขยะส่วนมากนั้นเปียกและติดไฟได้ยาก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะต้องใช้น้ำมันช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการเผาไหม้ อย่างไรก็ตามการเสียน้ำมันที่มีราคาแพงไปกับการเผาขยะนั้นเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือยเกินไป หากเทียบกับการนำน้ำมันไปใช้เพื่อผลประโยชน์อื่น ๆ
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าว โรเอลจึงหันไปพึ่งพาร้านค้าแลกเปลี่ยนแต้มความสนใจของระบบ และทันใดนั้นเขาก็พบสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้
【เตาเผาแห่งอ็อคเซอร์
หากได้เดินสำรวจไปตามถนนของเมืองแห่งภูเขาไฟอ็อคเซอร์ ก็จะต้องพบกับเตาหลอมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟจากภูเขาไฟนิรันดร์ มันเป็นเตาหลอมที่ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ของเผ่าคนแคระนิยมใช้กันเพื่อแสดงทักษะการตีเหล็กอันเหนือชั้นของพวกเขา ระวังให้ดี สำหรับผู้ที่ไม่มีทักษะ อุณหภูมิอันร้อนแรงในเตาเผาเหล่านี้สามารถเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเถ้าถ่านได้ภายในไม่กี่วินาที
ราคา: 200,000 แต้มความสนใจ】
【ขอแสดงความยินดีแก่ตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองคนใหม่
…
เตาเผาแห่งอ็อคเซอร์
ราคาส่วนลด: 100,000 แต้มความสนใจ】
โรเอลลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นราคาของมันในครั้งแรก เนื่องจากราคานี้ถือว่าแพงเกินไปสำหรับเขา อีกทั้งมันยังเป็นสิ่งของที่ควรจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการกำจัดขยะ อย่างไรก็ตามหลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เด็กชายก็ยังตัดสินใจซื้อมันมาอยู่ดี เนื่องจากบนโลกนี้ไม่น่าจะมีปรมาจารย์เผ่าคนแคระเหลืออยู่อีกแล้ว และช่างตีเหล็กชาวมนุษย์เองก็คงไม่สามารถตีดาบได้ภายในเวลาสิบวินาที จึงไม่น่าจะมีใครสามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงของเตาหลอมนี้ได้ ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะมีปัญหาหากเขาจะใช้มันเพื่อกำจัดขยะ
นี่เป็นอีกครั้งที่โรเอลได้อ้างว่าอุปกรณ์เวทของเขาอย่าง เตาเผาแห่งอ็อคเซอร์มาจากห้องสมบัติในตำนานของตระกูลแอสคาร์ด เด็กชายอ้างว่ามันเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งเอาไว้ และมอบหมายให้ทหารหลายนายคอยยืนเฝ้าข้างเตาหลอมตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ
เตาเผานี้มีขนาดใหญ่มาก และพลังการเผาผลาญของมันก็น่าประหลาดใจมากด้วยเช่นกัน เพียงเสริมส่วนประกอบเพิ่มเติมสองถึงสามชิ้นบนเตาเผา พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนมันให้เป็นเตาเผาขยะอันมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นกระดูกสัตว์หรืออุปกรณ์ทำการเกษตรที่เสียหาย ล้วนใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในการเปลี่ยนเป็นขี้เถ้า แน่นอนว่านี่หมายความว่าพวกเขาจะต้องตักขี้เถ้าเหล่านั้นออกมาอย่างรวดเร็วในการทำความสะอาดด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นเครื่องมือตักเองก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านไปด้วย
ไม่ว่าในกรณีใด เตาเผานี้ทำให้ขยะทั้งหมดในระยะเวลาสามวันของทั้งเขตการปกครอง ถูกเผากำจัดลงจนหมดได้ด้วยเวลาเพียงครึ่งวัน มันจึงช่วยปรับปรุงสุขอนามัยในเมืองให้ดีขึ้น ลดโอกาสที่ประชาชนจะล้มป่วย หรือเกิดโรคระบาดในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลเป็นอย่างมากต่อผลผลิตในอนาคตของเขตการปกครองแอสคาร์ดอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยผลลัพธ์ทั้งหมดนี้ โครงการทั้งสามของโรเอลจึงเป็นไปตามแบบแผนที่เขาต้องการ
โครงการ ‘ล้างพิษจากท้องถนน’ ช่วยให้โรเอลสามารถชนะใจผู้คนในเขตการปกครองแอสคาร์ดได้ นำเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของตระกูลแอสคาร์ดขึ้นไปสู่จุดที่สูงยิ่งขึ้น
โครงการก่อสร้างถนนนั้นเป็นโครงการระยะยาว จึงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่ผลประโยชน์จะเริ่มปรากฏ
ส่วนสำหรับโครงการปรับปรุงสุขาภิบาลนั้น เนื่องจากมันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผลประโยชน์ของมันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน กลิ่นเหม็นขยะที่ลอยอยู่บนถนนได้หายไปจนหมดสิ้น ช่วยให้มาตรฐานการครองชีพของประชาชนในเขตการปกครองดีขึ้นเป็นอย่างมาก
ด้วยการบริหารอันมีประสิทธิภาพของเขา ทำให้โรเอลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามัญชนที่ไม่เคยได้รับประโยชน์จากการบริหารของผู้ปกครองเขตการปกครองรุ่นก่อน ๆ ต่างรู้สึกซาบซึ้งต่อความเมตตาของโรเอล ทำให้ความนิยมของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เป้าหมายของโครงการทั้งสามคือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาเขตการปกครองแอสคาร์ด หากพยายามสร้างปราสาทโดยไม่วางฐานให้ถูกต้อง ย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
ตัวเขาเองรู้สึกว่านี่เป็นตัวแปรสำคัญในการหักเดธแฟล็คของเขา แม้ว่าการลดความเกลียดชังที่เหล่านางเอกในเกมมีต่อเขาจะสำคัญ แต่ความเสื่อมโทรมของเขตการปกครองแอสคาร์ดเองก็ถือเป็นเดธแฟล็คที่สำคัญเช่นกัน ระบบเคยบอกใบ้ให้เขารู้ถึงเรื่องนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว อีกทั้งมันยังอาจจะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้โรเอลในเกมตกสู่ความเลวทรามด้วยเช่นกัน
นี่คือเหตุผลที่ทำให้โรเอลทุ่มสุดตัวกับโครงการทั้งสาม เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะปกป้องเขตการปกครองของตระกูลแอสคาร์ด และพัฒนามันให้ดีที่สุด…
เราจะต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ 500,000 เหรียญทองของระบบ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขให้ได้เลย!
ด้วยความคิดเช่นนั้นในใจ โรเอลก็หันกลับไปจดจ่อกับงานของตนต่อ และเวลาก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว