ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 130: คู่ปรับอันน่าสะพรึงกลัว
บทที่ 130: คู่ปรับอันน่าสะพรึงกลัว
“เขามีคู่หมั้นแล้ว? เป็นไปได้ยังไง?! แล้วทำไมเจ้าถึงไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ?”
“อย่างที่ฝ่าบาทได้ยินนั่นแหละค่ะ มันเป็นสัญญาหมั้นที่มีอายุนับร้อยปีมาแล้ว ท่านพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับดิฉันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ดิฉันจะไม่รู้เรื่องนี้!”
“แบบนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีล่ะ? ถ้าเป็นคนอื่นมันก็พอจะหาทางได้ ทำไมถึงต้องเป็นชาร์ล็อต โซโรฟยาคนนั้นด้วย!”
ภายในพระราชวัง นอร่าและอลิเซียกำลังนั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะน้ำชา พลางพร่ำบ่นออกมาด้วยความขุ่นเคืองระคนผิดหวัง จากข่าวที่คาร์เตอร์ประกาศออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของนอร่า ว่าแท้จริงโรเอลนั้นมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว!
ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือคู่หมั้นของโรเอลเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามในแวดวงขุนนาง ชาร์ล็อต โซโรฟยา โฉมงามที่มีนามเลื่องลือไปทั่วทวีปเซีย ไร้ที่ติราวกับเอลฟ์ในตำนาน ซึ่งบนโลกใบนี้พวกเอลฟ์นั้นถือเป็นตัวตนที่ถูกกล่าวขานกันว่ามีเสน่ห์อันไม่อาจต้านทานได้จนผู้ที่ได้พบเห็นต้องยอมจำนน
และนั่นเป็นเพียงแค่ข้อดีด้านรูปร่างหน้าตาของเธอ
นอกจากความงามแล้วชาร์ล็อตยังเป็นนายหญิงคนแรกของตระกูลโซโรฟยาที่ได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลในอนาคตอีกด้วย เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะอัจฉริยะทางธุรกิจระดับหาตัวได้ยาก นักออกแบบระดับแนวหน้า และ ผู้นำแฟชั่น สรุปแล้วเธอถือเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครสามารถหาข้อบกพร่องได้
“นี่มันลำบากมากจริง ๆ หากเป็นคนอื่นข้าก็พอจะเมินเฉยได้อยู่หรอก แต่ไม่ใช่ชาร์ล็อต โซโรฟยา!”
“ฝ่าบาทเคยพบเธอมาก่อนงั้นหรือคะ?”
“เมื่อปีที่แล้ว พวกเราเคยเจอกันในตอนที่ข้าไปเยี่ยมตระกูลโซโรฟยา ระหว่างช่วงที่ข้าเดินทางผ่านเมืองโรซ่าไปยังชายแดนตะวันออก”
“เธอเป็นอย่างไรเหรอคะ? เป็นอย่างที่ข่าวลือกล่าวกันหรือเปล่า?”
คำถามของอลิเซียทำให้นอร่าเงียบไปพักหนึ่ง คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะประเมินภาพในอดีตอย่างยากลำบาก
“ข้าหวั่นไหว”
“อะไรนะ?”
“วินาทีที่ข้าเห็นเธอ หัวใจของข้าก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น เจ้าพอจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าพยายามจะสื่อใช่ไหม?”
นอร่าก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวัง ราวกับว่าเธอไม่อยากยอมรับเลยว่าตนเองรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ อลิเซียจ้องไปที่นอร่าครู่หนึ่งก่อนที่จะถอยห่างออกไปเล็กน้อย เรื่องนี้ทำให้นอร่าประหลาดใจเงยหน้าขึ้นมองดูคู่ปรับของตนอย่างสับสน
“ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอธิบายมันด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ มันอาจจะแหวกแนวผิดปกติไปบ้าง แต่ดิฉันรับรองได้เลยว่าจะสนับสนุนท่านจากใจจริง”
อลิเซียเผยรอยยิ้มให้กับนอร่า เป็นนัยว่าให้เธอไปใช้ชีวิตที่เหลือทั้งชีวิตกับชาร์ล็อต นี่ยิ่งทำให้นอร่ารู้สึกโมโหกว่าเดิม
“ข้าจะบอกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ ต่างหากเล่า! ผู้หญิงคนนั้นจะต้องมีความสามารถหรือคาถาเวทบางอย่างแน่ ๆ ไม่ใช่แค่เสน่ห์ธรรมดา ๆ แต่เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้นมาก บางทีอาจเป็นเพราะพลังทางสายเลือดของเธอก็ได้ แต่ให้บรรยากาศอันสูงส่งจนอธิบายไม่ถูก”
“สูงส่ง?”
“แน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลือเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเธอมันไม่ได้เกินจริงเลย เสน่ห์ของเธอเป็นของจริง ข้าเลยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก ถ้าแม้แต่ข้ายังหลงเสน่ห์ของเธอ มันก็ยากที่จะเชื่อว่าโรเอลจะสามารถรั้งตัวเองเอาไว้ได้”
นอร่าพึมพำพร้อมกำหมัดแน่น ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงสถานการณ์ที่วิกตอเรียต้องเผชิญ จักรพรรดินีวิกตอเรียต้องพ่ายแพ้ในด้านความรัก เพียงเพราะพอนเต้แต่งงานไปก่อน ทำให้เธอต้องรออีกฝ่ายเป็นเวลาถึง 20 ปีกว่าที่โอกาสจะมาถึง
แม้ว่าสิ่งที่วิกตอเรียเจอจะถือว่าแย่มากแล้ว แต่สิ่งที่นอร่ากำลังจะเผชิญนั้นดูเหมือนจะเป็นชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่า! ถ้าโรเอลแต่งงานกับชาร์ล็อตจริง ๆ ล่ะก็ มีโอกาสสูงเลยทีเดียวที่นอร่าจะต้องรอไปทั้งชีวิตโดยไม่มีโอกาสได้ครอบครองเขา!
ข้าต้องอายุยืนกว่าเอลฟ์งั้นเหรอ? ล้อกันเล่นใช่ไหม?!
แบบนี้ไม่ดีแน่ ข้าจะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปแบบนี้ไม่ได้! ต้องหาทางหยุดการหมั้นหมายระหว่างทั้งสองคนนั้น!
“พวกเราควรจะทำอย่างไรดีล่ะคะ? สัญญาหมั้นที่มีอายุนานนับศตวรรษเช่นนี้ ดิฉันไม่คิดว่าท่านพี่เพียงฝ่ายเดียวจะสามารถปฏิเสธอีกฝ่ายได้”
การที่ขุนนางผู้มีอำนาจปฏิเสธคู่หมั้นของตนเองไปหารักแท้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแค่ในนวนิยายเท่านั้น หากมีใครลองทำดูในชีวิตจริง เขาผู้นั้นจะต้องพบเจอกับนรก ยิ่งตระกูลขุนนางอีกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีเกียรติภูมิชื่อเสียงมากเท่าไร ก็ยิ่งมีเรื่องยุ่งยากตามมามากขึ้นเท่านั้น
การปฏิเสธการหมั้นหมายโดยไม่คำนึงถึงเจตนาถือเป็นการดูถูกเหยียดหยามอีกฝ่าย ประการแรก ความรู้สึกส่วนตัวไม่ถือเป็นตัวแปรในการแต่งงานทางการเมือง สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือการที่ตระกูลขุนนางทั้งสองจะได้เชื่อมโยงกันด้วยสายสัมพันธ์ทางครอบครัว นี่เป็นกรณีเดียวกับพอนเต้และภรรยาของเขา หน้าที่ของพวกเขามีเพียงแค่สมรสกัน ทำหน้าที่ในการมีบุตรให้สำเร็จ
แค่คิดว่าชาร์ล็อตจะต้องทำหน้าที่ของเธอ เพื่อให้กำเนิดลูกของโรเอลก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นอร่าหัวหมุน จู่ ๆ เด็กสาวก็รู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ได้สวยงามอีกต่อไป
ใบหน้าของอลิเซียเองก็ซีดเซียวลงไปเช่นกัน เธอมีปัญหาในการยอมรับเรื่องนี้ไม่ต่างจากนอร่า
“การปฏิเสธสัญญาหมั้นระดับนี้จำเป็นจะต้องมีเหตุผลที่ชอบธรรม และทั้งสองฝ่ายจะต้องได้รับประโยชน์หรือภาระผูกพันในเชิงบวก แม้พวกเราจะสามารถพูดคุยโน้มน้าวโรเอลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่การจะพยายามโน้มน้าวกับชาร์ล็อตนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”
“หืม? ทำไมกันล่ะคะ? เธอไม่เคยพบกับท่านพี่มาก่อนเลยไม่ใช่เหรอคะ? มันก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้เธอยืนกรานที่จะแต่งงานกับเขานี่นา”
“แน่นอนว่าชาร์ล็อตต้องมีเหตุผลที่จะต้องยืนยันการแต่งงานในครั้งนี้อยู่แล้วสิ หากเจ้าพิจารณาถึงประโยชน์ที่เธอจะได้แล้วล่ะก็นะ”
นอร่าอธิบายสถานการณ์ในปัจจุบันของอีกฝ่ายให้อลิเซียฟัง
นี่เป็นเพียงเรื่องของ ‘คู่สมรสที่เข้ากันได้’ ชาร์ล็อตเป็นนายหญิงคนแรกของตระกูลโซโรฟยา เทียบได้กับองค์หญิงแห่งสหพันธ์พ่อค้าโรซ่า คนที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอเป็นคู่สมรสของเธอจะต้องเป็นสมาชิกของราชวงศ์เป็นอย่างต่ำ ทว่าผู้นำตระกูลของราชวงศ์ในจักรวรรดิออสทีน จักรวรรดิเซนต์เมซิทและ อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์นั้น ต่างก็มีอายุย่างเข้าสามสิบกันแล้ว รวมถึงองค์ชายเคนผู้เป็นบิดาของนอร่าด้วย
“เจ้าคิดว่าเธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุสามสิบ เพื่อมาเป็นแม่เลี้ยงของข้า มากกว่าแต่งงานกับโรเอลเหรอ?”
“แต่ถ้าเธอยกเลิกสัญญาหมั้น เธอก็จะสามารถหาคนที่เธอชอบจริง ๆ และให้เขาแต่งงานเข้ามาในตระกูลโซโรฟยาได้ไม่ใช่เหรอคะ”
“ผู้ที่ยินดีจะแต่งงานเข้ามาในตระกูลโซโรฟยาคงมีเพียงบุตรชายลำดับสองของราชวงศ์ หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในสายเลือดโดยตรงเท่านั้นแหละ ในแง่ของจุดยืนและอิทธิพลแล้วไม่มีใครเทียบกับโรเอลที่เป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลแอสคาร์ดได้หรอกใช่ไหมล่ะ? นอกจากนี้ จากที่ข้ารู้มา แม้ว่าชาร์ล็อตจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลโซโรฟยา แต่ตำแหน่งของเธอก็ไม่ได้มั่นคงเท่าไหร่นัก เนื่องจากตระกูลโซโรฟยานั้นใหญ่มาก ข้าจึงแน่ใจว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะใช้การแต่งงานกับโรเอล มาเสริมความแข็งแกร่งทางจุดยืนของเธอในตระกูลโซโรฟยา”
การได้ยินว่าโรเอลจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำให้อลิเซียไม่พอใจมาก เธอคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ และคนที่ใช้การแต่งงานเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองอันไม่บริสุทธิ์ ก็เป็นผู้ที่ดูถูกความศักดิ์สิทธิ์ของมัน
นอร่าเองก็ไม่พอใจเช่นกัน ไม่มีทางเลยที่เธอจะสงบสติอารมณ์ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ หากชาร์ล็อตประสบความสำเร็จ อลิเซียก็ยังมีเหตุผลที่จะอยู่เคียงข้างโรเอลในฐานะน้องสาวบุญธรรม แต่สำหรับนอร่าแล้วเธอไม่ได้มีเหตุผลอะไรเช่นนั้น
“มีเพียงแค่หนทางเดียวเท่านั้น พวกเราต้องทำให้ชาร์ล็อตเกลียดท่านพี่โรเอลให้ได้ เราต้องหาทางทำให้การแต่งงานกับท่านพี่โรเอลเป็นฝันร้ายสำหรับเธอให้ได้ค่ะ”
“ทำให้เกลียดโรเอล? แค่พูดมันก็ง่ายอยู่หรอก เจ้ามีแผนการอะไรรึไง?”
แสงแวววับปรากฏขึ้นในดวงตาของนอร่า เธอมองไปที่อลิเซียด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง
“ชาร์ล็อต ไม่เคยพบกับท่านพี่โรเอลมาก่อน นั่นหมายความว่ามันเป็นไปได้ที่เธอจะไม่ลงรอยกับเขา สิ่งที่เราต้องทำก็คือทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกว่าท่านพี่โรเอล ไม่ใช่คนที่เธอจะฝากอนาคตเอาไว้ได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น พวกเราจะต้องร่วมมือกันค่ะฝ่าบาท…”
“ใช่ ข้าเข้าใจ”
ดวงตาของอลิเซียแข็งกร้าวขึ้นในขณะที่เธอพยักหน้าอย่างแน่วแน่ การต้องเผชิญหน้ากับศัตรู สองสาวคู่ปรับจึงตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อกำจัดภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามานี้!
“เพื่อความรัก และเพื่อการปกป้องท่านพี่ ดิฉันจะขอเล่นเป็นวายร้ายสักครั้ง!”