ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 157: ไม่ใช่ภาระ
บทที่ 157: ไม่ใช่ภาระ
โรเอลนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน? เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นอลิเซีย คาร์เตอร์ หรือแอนนา ไม่มีใครในตระกูลแอสคาร์ดเคยเห็นเขาต่อสู้มาก่อน
เนื่องจากมีกองทหารองครักษ์คอยลาดตระเวนอยู่รอบ ๆ โรเอลตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยของเขา ทำให้ชาร์ล็อตเข้าใจผิดไปเองว่าเขานั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มนักปราชญ์ผู้อ่อนแอ
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีทางเลยที่คนที่ทำสัญญากับกรันด้าอย่างโรเอลจะอ่อนแอได้ เขาเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา ภายใต้การดูแลของกรันด้า เด็กชายนั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
นอกเหนือจากความจริงที่ว่าโรเอลได้มาถึงจุดสูงสุดของระดับแก่นแท้ 5 ประกอบกับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมงกุฎที่ช่วยให้เขาแข็งแกร่งกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน พลังเวทของเขาควบแน่นมากกว่าปกติ อีกทั้งยังสามารถรีดเร้นออกมาได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ นอกจากนี้คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมงกุฎยังมีลักษณะเฉพาะตัวอีกด้วย
【การทวงคืนความรุ่งโรจน์
นักรบจากสมัยโบราณได้กลับมาสู่ถิ่นฐาน พลังที่หายไป หลังจากผ่านจากมือหนึ่งไปสู่อีกมือหนึ่งจากรุ่นสู่รุ่น ในที่สุดก็กลับมายังบ้านเกิดของตน】
…
คำอธิบายของระบบนั้นยังไร้ประโยชน์เหมือนเช่นเคย อย่างไรก็ตามคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด มงกุฎ ทำให้โรเอลสามารถใช้พลังของตัวตนโบราณที่เขาทำสัญญาด้วยได้ในระดับหนึ่ง นั่นหมายความว่าเขาสามารถใช้คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ความแข็งแกร่ง และคาถาฟื้นคืนชีพอันเดธบางส่วนของกรันด้าได้นั่นเอง
ความแข็งแกร่งทางกายภาพอันท่วมท้นนั้นน่ากลัวอย่างยิ่งในสนามรบ และเมื่อมันถูกเสริมด้วยคาถาเวทของโรเอล มันก็ทำให้เขากลายเป็นฝันร้ายสำหรับศัตรู สิ่งมีชีวิตปริศนาที่มีพลังเทียบได้กับระดับแก่นแท้ 5 จึงถูกโรเอลระเบิดหัวทิ้งได้ด้วยหมัดเดียว
“ฉันสามารถปกป้องตัวเองได้น่า นอกจากนี้ในฐานะคู่หมั้นของเธอ และคนที่เปิดเส้นทางเข้าสู่เศษเสี้ยวของประวัติศาสตร์นี้ ฉันก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องเธอด้วยเช่นกัน”
“ต…แต่…”
“ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้เพื่อหาข้อถกเถียง …นอกจากนี้ มันก็ไม่ใช่เวลาที่ดีเท่าไหร่ด้วย สิ่งมีชีวิตปริศนาพวกนี้ น่าจะเป็นมนุษย์เกล็ดจากเผ่าเกล็ด เรือลำนี้คงจะถูกพวกชนเผ่าทะเลโจมตี และดูเหมือนว่าตอนนี้สถานการณ์จะไม่ค่อยดีเสียซะด้วยสิ”
โรเอลยกมือขึ้นหยุดคำพูดของชาร์ล็อต พร้อมแหงนหน้ามองผ่านรูบนดาดฟ้า เด็กชายเห็นเงาแวบวาบไปมาอย่างรวดเร็วจากด้านบน ทำให้เขาพอจะเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันได้คร่าว ๆ
หากพูดตามหลักเหตุผล พันธมิตรของพวกเขาน่าจะเป็นมนุษย์คนอื่น ๆ ที่อยู่บนเรือ ส่วนชนเผ่าทะเลที่บุกรุกแน่นอนว่าเป็นศัตรู น่าเสียดายที่ร่างเจ็ดร่างที่เขาเห็นว่ากำลังวิ่งไปมาผ่านรู มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีเสียงตะโกนที่กระจัดกระจายไม่เป็นภาษาของมนุษย์อีกด้วย หากรวบรวมปัจจัยทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันล่ะก็…
แย่แล้วสิ พวกเรากำลังจะแพ้!
ทันทีที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว โรเอลรู้สึกว่าหัวใจของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอันไร้ที่สิ้นสุด ตอนนี้พวกเขากำลังแล่นเรืออยู่กลางทะเล แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่ามันเป็นอาณาเขตที่ชนเผ่าทะเลได้เปรียบ! ถ้าเรือลำนี้จมลงล่ะก็ ทั้งเขาและชาร์ล็อตไม่รอดแน่!
“เร็วเข้า! พวกเราต้องปกป้องเรือลำนี้เอาไว้ ก่อนที่มนุษย์ทุกคนบนนี้จะตายกันหมด!”
โรเอลตะโกนใส่ชาร์ล็อตก่อนจะรีบวิ่งเข้าขึ้นไปบนดาดฟ้าผ่านทางรู ซึ่งเป็นสนามรบอยู่ในขณะนี้ เช่นเดียวกันกับเด็กชาย ชาร์ล็อตเองก็ตระหนักได้ถึงความล่อแหลมของสถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอรีบตามเขาไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทั้งคู่ปีนออกมาจากที่กำบัง แสงที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุด โรเอลและชาร์ล็อตก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าสนามรบบนทะเลอันกว้างใหญ่
ภาพที่เห็นนั้นทำให้หัวใจของทั้งสองสั่นไหว ร่างกายแข็งทื่อ เรือลำนี้กำลังแล่นผ่านน่านน้ำอันผันผวน คลื่นขนาดใหญ่ซัดไปมา ชนเผ่าทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีดวงตาสีเหลืองอันเยือกเย็นต่างลอยขึ้นจากน้ำ เพื่อบุกโจมตีกองเรืออย่างไม่หยุดยั้ง ลูกเรือทุกคนบนเรือต่างกวัดแกว่งดาบอย่างสิ้นหวัง ฟาดฟันพวกมันด้วยเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราด
นอกจากนี้ยังมีสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ มันมีหนวดขนาดใหญ่พอ ๆ กับเสากระโดงเรือ ส่งเสียงอันน่าสยดสยองออกมาจากส่วนลึกของทะเลภายใต้คลื่น
อย่างไรก็ตาม เรือเหล่านี้ก็ไม่ได้ยอมจำนนจมลงโดยปราศจากการต่อสู้เช่นกัน พลังเวทอันทรงพลังสาดส่องไปมา ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติบนเรือ ต่างรวบรวมพลังของพวกเขาและยิงลำแสงพลังเวทอันเข้มข้นลงไปในทะเล ระเบิดศัตรูใต้น้ำทำให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของมนุษย์ เสียงร้องของชนเผ่าทะเล การระเบิดของปืนใหญ่ หรือเสียงกรีดร้องของสัตว์ประหลาดใต้น้ำ ข้อมูลทางประสาทสัมผัสมากมายจนล้นเกินนี้ได้ซัดเข้ามาท่วมหัวของทั้งคู่ ทำให้พวกเขาตกตะลึงไปชั่วขณะ
โรเอลรีบสะบัดตัวเองออกจากอาการตกใจอย่างรวดเร็ว เพื่อตั้งสติประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นเสียงของชาร์ล็อตก็ดังขึ้น
“ระวัง!”
หลังจากคำเตือนอันเฉียบคมของชาร์ล็อต ชนเผ่าทะเลสองตัวที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดก็พุ่งเข้าหาพวกเขา ภายในดวงตาที่แคบลงของโรเอล คาถาเวท ภัยพิบัติแห่งการนองเลือดได้ถูกเปิดใช้งาน แสดงชื่อของพวกมันด้วยสีแดงเข้ม
【ทหารของเผ่าเกล็ด #%@*】
【ทหารของเผ่าเกล็ด *&%#】
ชื่อสีแดงเข้มเป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจนว่าพวกมันเป็นศัตรู อย่างไรก็ตาม คราวนี้กลับเป็นชาร์ล็อตที่โจมตีก่อน
“คลังกระสุนอัญมณี!”
เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงลูบแหวนอันวิจิตรงดงามบนนิ้วของเธอ จากนั้นแหวนก็เริ่มขยายตัวเปลี่ยนแปลงรูปร่างท่ามกลางแสงอันเจิดจ้า กลายเป็นอุปกรณ์เวทที่มีรูปร่างคล้ายปืน งดงามดั่งงานศิลปะที่สร้างขึ้นจากแร่อัญมณีราคาแพง แต่ถูกประดับประดาไปด้วยอัญมณีหลากสีแทนกระสุน
มันส่องประกายด้วยแสงระยิบระยับ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นพรจากเทพมรณะ
คลังกระสุนอัญมณี
มันเป็นอุปกรณ์เวทในตำนานที่สืบทอดกันมาในตระกูลโซโรฟยา คล้ายกับดาบแห่งนักบุญ 12 ปีกของจักรวรรดิเซนต์เมซิท คลังกระสุนอัญมณีเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากยุคโบราณ มีชื่อเสียงในฐานะสมบัติของไฮเอลฟ์ โดยมันสามารถใช้ยิงเวทมนตร์ชนิดใดออกมาก็ได้
“กระสุนทับทิม!”
ชาร์ล็อตชี้อุปกรณ์เวทของเธอขึ้นไป โดยไม่แม้แต่จะหยุดเล็ง เด็กสาวเหนี่ยวไกออกไปอย่างเยือกเย็นเกิดเป็นเสียงรัวปืนอันไพเราะ
แกร๊ง!
หลังจากนั้น ทับทิมในปืนก็สลายกลายเป็นประกายไฟพุ่งทะลุผ่านหัวใจของศัตรูทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาในทันที
“อุวอก อุววอก!”
“กา!
ชนเผ่าทะเลทั้งสองนั้นอยู่ในท่าป้องกันทันทีที่ของพวกมันถูกโจมตีพร้อมเสียงร้องอย่างสิ้นหวังออกมาจากปาก ก่อนจะกุมบาดแผลที่อกของตัวเอง เลือดพุ่งออกมาจากปากของมัน จากนั้นพวกเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นเรือ ม่านตาสีเหลืองอันสดใสค่อย ๆ หรี่ลงสู่ความมืดมิด จนกระทั่งตายพวกมันก็คงไม่อาจเข้าใจได้ว่าหลังจากที่มันตายมีอะไรเกิดขึ้นไปบ้าง
“จริงด้วย ชนเผ่าทะเลพวกนี้มีภูมิต้านทานต่อคาถาเวทประเภทคำสาปต่ำ!”
เมื่อค้นพบจุดอ่อนของเผ่าเกล็ด กำลังใจของชาร์ล็อตก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ขณะเดียวกันโรเอลก็สังเกตเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในค่าของระบบ
【การประเมินอย่างละเอียด : ระดับต่ำ (7 %)】
“!”
หรือว่าเราจะสามารถยกระดับการประเมินได้โดยการฆ่าเจ้าพวกนี้? ยิ่งไปกว่านั้น ที่ชาร์ล็อตได้ลงมือกำจัดไปก็นับงั้นเหรอ?
โรเอลค่อย ๆ หันความสนใจกลับไปที่สนามรบ แต่คราวนี้ ดวงตาของเด็กชายเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตอนแรกโรเอลคิดว่า มนุษย์เกล็ดเหล่านี้แข็งแกร่งจนเป็นภัยคุกคามสำหรับเขา แต่ตอนนี้พวกมันกลายเป็นเพียงตัวเก็บแต้มเพื่อค่าประสบการณ์สำหรับเขาไปซะแล้ว
เจ้าพวกปลาหน้าโง่ จงตายเพื่อปลุกพลังสายเลือดของฉันซะเถอะ! ฮ่า ๆๆๆ! ฉันจะเคาะเหงือกของพวกแกออกจากหน้าให้เอง!
พลังเวทสีแดงแผ่กระจายออกมาจากร่างของโรเอล จากนั้นเขาก็เริ่มสำรวจพื้นที่อย่างตั้งใจ จนได้พบกับศูนย์กลางของสนามรบในที่สุด ที่ซึ่งมีกลุ่มมนุษย์กำลังต่อสู้กับมนุษย์เกล็ดเป็นร้อย ๆ ตัว มันถือเป็นแนวป้องกันสุดท้ายของมนุษย์ที่นี่ และตอนนี้มันก็พร้อมที่จะพังทลายลงได้ทุกเมื่อเสียแล้ว
“ชาร์ล็อต ฉันจะไปตรงนั้น ระหว่างนี้เธอควรหาที่ซ่อน…”
“โรเอล ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดไป ข้าไม่ใช่สัมภาระของเจ้า แต่เป็นคู่หมั้นของเจ้าต่างหาก”
ชาร์ล็อตหรี่ตาสีมรกตของเธอลงด้วยความไม่พอใจ พร้อมก้าวออกไปข้างหน้า ก่อนจะควงปืนอันงดงามในมือของเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ฝากด้านหลังของเจ้าให้ข้าซะสิ”