ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 24: ฉันเกิดในปีที่ไม่ถูกต้องสินะ
บทที่ 24: ฉันเกิดในปีที่ไม่ถูกต้องสินะ
“เจ้าตกใจทำไมกัน? ในเมื่อเจ้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับองค์หญิงนอร่า มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ที่เจ้าจะต้องไปยังสถาบันการศึกษาพร้อม ๆ กับเธอ?” คาร์เตอร์พูดพร้อมกับจิบชาอย่างสบายอารมณ์
“ไม่ ๆ ผมเข้าใจ ๆ แต่ที่บอกว่าผมต้องไปที่นั่นกับเธอมันหมายความว่ายังไงกันแน่ครับ?”
โรเอลถามด้วยใบหน้าอันซีดเผือด
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของคาร์เตอร์ ในที่สุดโรเอลก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าเป็นสถานศึกษาชั้นนำสำหรับเหล่าลูกหลานผู้สืบทอดตระกูลขุนนางจากอาณาจักรต่าง ๆ ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากพวกเขาจะต้องเข้าร่วมกลุ่มกับคนที่มาจากอาณาจักรเดียวกัน
แน่นอนว่านอร่า ผู้เป็นถึงองค์หญิงแห่งจักรวรรดิ ไม่มีทางถูกทิ้งให้เข้าเรียนอย่างโดดเดี่ยวแน่ ดังนั้นลูกหลานขุนนางที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับนอร่าทุกคน จึงต้องเข้าร่วมสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าไปกับเธอ เพื่อสั่งสมอิทธิพลของพวกเขาและหลีกเลี่ยงการถูกรังแกจากผู้อื่น
พูดง่าย ๆ พวกเขาก็แค่ใช้อิทธิพลของราชวงศ์ในการปกป้องตัวเองเท่านั้น
มันไม่มีกฎอันตายตัวชัดเจนบ่งบอกว่าขุนนางจะต้องทำหน้าที่นี้ แต่ที่ทุกคนเลือกจะทำเช่นนั้น ก็เพราะว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความใกล้ชิดกับองค์หญิง…และมันก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไร
ด้วยความที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียนของมันจึงสูงลิบลิ่ว แม้แต่ในหมู่ชนชั้นสูงเอง หากไม่ใช่ตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยก็คงไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนส่งลูกหลานของตนเองไปศึกษาที่นั่นได้
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ที่นอร่ากำลังจะลงทะเบียนเข้าศึกษา ทางราชวงศ์ได้ทำการแจกทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนทุกคนที่ประสงค์จะเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า
แม้ว่าหนทางชีวิตนั้นจะยากลำบาก แต่ในฐานะผู้ใหญ่ พวกเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องปูทางให้กับลูกหลานในรุ่นต่อไป! ฉะนั้นการศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็น!
เคยได้ยินชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่ากันรึเปล่า? มันเป็นสถาบันการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเซีย มันคือเส้นทางสู่การศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่บุตรหลานของคุณจะได้รับ! ไม่ต้องกังวลไป ต่อให้พวกคุณยากจน พวกเราก็จะจ่ายค่าใช้จ่ายส่งให้ลูกหลานของพวกคุณได้ไปอยู่ในสถาบันการศึกษานั้นเอง!
โอ้ ใช่แล้ว บังเอิญว่าในปีนี้องค์หญิงของพวกเรา กำลังจะสมัครเข้าเรียนในสถาบันการศึกษานั้นพอดี ฮ่า ฮ่า มันช่างบังเอิญจังเลยใช่ไหม? แค่ก แค่ก…พวกคุณเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังจะสื่อรึเปล่า?
เมื่อมาถึงจุดนี้ขุนนางผู้น่าสงสารเหล่านั้น ย่อมยอมรับการบริจาคอย่างนอบน้อม พร้อมกับกล่าวชมเชยราชวงศ์ จากนั้นพวกเขาก็จะกลับบ้าน และเล่าเรื่องขององค์หญิงให้ลูกหลานของพวกเขาฟัง แล้วสั่งให้พวกเขาตามไปปรนนิบัติเธอเหมือนกับลูกเจี๊ยบตัวน้อย ๆ
กลยุทธ์นี้ทำให้ทางราชวงศ์สามารถมั่นใจได้ว่าสมาชิกในตระกูลของพวกเขาจะมีผู้ติดตามเป็นของตัวเองภายในสถาบันการศึกษา
สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นกองทัพผู้ติดตามจำนวนมากก็จะมารวมตัวกันต่อหน้าพวกเขาในทันที นี่เป็นหลักประกันสำหรับชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ยอดเยี่ยมอันปราศจากการรังแก
แน่นอนว่าตัวแทนของตระกูลแอสคาร์ดอย่างโรเอล ผู้เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของ 5 ตระกูลขุนนางชั้นสูง ไม่มีทางลดระดับตัวเองกลายเป็นผู้ติดตามเพื่อแลกกับค่าเล่าเรียนแน่ ๆ
เด็กชายนั้นจะต้องมุ่งหน้าไปยังสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า พร้อม ๆ กับนอร่าในฐานะผู้ช่วยบริหารจัดการกลุ่มผู้ติดตามของเธอ
มันเป็นตำแหน่งที่ดีทีเดียว เนื่องจากเขาจะสามารถใช้โอกาสนี้ในการคัดเลือกผู้สืบทอดจากตระกูลชนชั้นสูงมาเป็นพันธมิตร ในขณะเดียวกันก็ทำให้สร้างความดีความชอบให้กับทางราชวงศ์ไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้การได้สร้างสมความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสมาชิกของราชวงศ์ในวัยเรียนก็อาจจะมีประโยชน์ในอนาคตได้
มีหลายสถานการณ์ที่คนสนิทของผู้สืบทอดบัลลังก์ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้มีอิทธิพลและได้ทำงานใกล้ชิดกับจักรพรรดิในการบริหารประเทศ
“ทีแรกข้าก็ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี การพบกันครั้งแรกของเจ้าและนอร่าจบลงที่ความสนิทสนมใกล้ชิด ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าพวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีแน่! ทั้งข้าและองค์ชายเคนต่างก็รู้สึกยินดีกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้”
ทัศนคติในแง่ดีของคาร์เตอร์ ดูจะสวนทางโดยสิ้นเชิงกับใบหน้าอันสิ้นหวังของลูกชายเขา สถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดช่วงเวลาของหวาน จากนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับไปที่ห้องของตนเองเพื่อพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน
——————————————–
ทางด้านโรเอล เขานั้นไม่ได้เข้านอนในทันที เด็กชายนั่งอยู่บนเก้าอี้พลางครุ่นคิดทบทวนถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ นอกจากการเผชิญหน้ากับนอร่าแล้ว โรเอลได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับโลกนี้ผ่านการสนทนากับคาร์เตอร์ เกี่ยวกับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติและคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ทำให้ในที่สุดรายละเอียดบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ในตัวเกมอาย ออฟ โครนิเคิลก็เริ่มสมเหตุสมผลขึ้นมา
เด็กชายพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันของตนเอง ซึ่งก็ทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นยังคงค่อนข้างอันตรายอยู่
ประการแรกก็คือ พลังอันแข็งแกร่งของโรเอลในเกมนั้นมาจากลัทธิอันชั่วร้ายที่ทางอาณาจักรไม่ได้ยอมรับ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจมากเลยทีเดียว
โรเอลคนก่อนเรียนรู้พลังนั้นมาจากที่ไหนกัน? เนื่องจากคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดของคาร์เตอร์คือ ภูมิปัญญา ซึ่งเป็นของอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่โรเอลจะได้มาจากการสืบทอดมรดกของตระกูลแอสคาร์ดแน่ นอกจากนี้ตัวเขาเองก็ยังไม่ได้มีการติดต่อกับสมาชิกลัทธิชั่วร้ายใด ๆ เลยจนถึงตอนนี้ …
…นั่นหมายความว่าโรเอลอาจจะได้พบกับพวกเขาเหล่านั้นในอนาคต
เป็นไปได้ว่าอาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างกำลังรอเขาอยู่ในอนาคต ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาออกไปสู่เส้นทางอันชั่วร้าย
เมื่อได้รู้ว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้โรเอลรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เด็กชายรู้สึกกระอักกระอ่วนและคิดว่าตนเองจำเป็นจะต้องเพิ่มความสามารถในการต่อสู้อย่างเร่งด่วน เพื่อที่เขาจะได้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เขาต้องเผชิญในอนาคตได้
เราจะไล่ไอ้เจ้าพวกลัทธิชั่วร้ายที่เข้ามาให้วิ่งหนีหางจุกตูดกลับไปให้หมดเลย!
ทันทีที่ตัดสินใจได้แล้ว โรเอลก็เริ่มมองหาวิธีที่เขาจะสามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของตนเองได้ แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่า จนกว่าจะไปถึงระดับแก่นแท้ 5 ได้ พลังของผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินั้นจะเพิ่มขึ้นไปตามอายุขัย ซึ่งขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคน
มีเพียงหลังจากที่ได้ไปถึงระดับแก่นแท้ 5 และได้รับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมาแล้ว ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติถึงจะสามารถใช้วิธีการภายนอกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มระดับแก่นแท้ของตัวเองได้
ดังนั้นปัญหาที่โรเอลกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ก็คือ เขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่าตัวเองนั้นได้เติบโตขึ้นอย่างเหมาะสมไปพร้อม ๆ กับระดับต้นกำเนิดของเขา
หลักการของโลกนี้ มีเพียงแค่การฝึกฝนคาถาเวทหรือไม่ก็การฝึกฝนร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่จนถึงตอนนี้เด็กชายกลับล้มเหลวในการอดทนฝึกฝนวิชาทั้งสอง
การฝึกฝนคาถาเวทระดับพื้นฐานที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสองอย่างไม่ได้สร้างความสนใจให้กับโรเอลเลยสักนิด และสิ่งที่เรียกว่าวิชาดาบชั้นสูงบนโลกนี้ ส่วนใหญ่ก็มีไว้เพื่อใช้ในการแสดงเท่านั้น
ถึงแม้อาจารย์ที่คาร์เตอร์พาเข้ามาในคฤหาสน์จะเป็นถึงอดีตองครักษ์ขององค์จักรพรรดิ แต่ก็ดูเหมือนว่าโรเอลนั้นจะไม่ได้มีความสามารถในด้านนี้เอาซะเลย
ทั้งหมดเกิดจากความไร้ซึ่งพรสวรรค์ และปราศจากความขยันหมั่นเพียร จึงส่งผลให้เด็กชายมีสภาพอันอ่อนแออย่างน่าสมเพชเช่นนี้ แต่แน่นอนว่าต่อจากนี้มันจะต้องเปลี่ยนไป !
โรเอลจะจัดสรรเวลาส่วนหนึ่งของเขาในทุก ๆ วัน เพื่อฝึกฝนคาถาเวทชูนิ้วกลางอันน่ากลัวนั่น และจะเริ่มฝึกร่างกายของเขาไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้โรเอลจะต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อการฝึกฝนวิชาดาบด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าโรเอลจะต้องใช้ระบบสุดโกงที่เขาได้รับมาอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
【 ยาเสริมพละกำลังแห่งโลโบร์ รูปแบบที่2
ยาที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว โดยถูกผลิตขึ้นในภูมิภาคโลโบร์ ซึ่งติดอยู่ในภาวะสงครามมาเป็นเวลานานหลายปี ที่สำคัญก็คือคำว่า ‘ใช้ได้เพียงครั้งเดียว’ นี้ไม่ได้หมายถึงตัวยา แต่หมายถึงผู้ที่ใช้มัน
ผลข้างเคียง: ทำให้เกิดความร้อนสะสมในอวัยวะภายใน มีผลให้อายุขัยสั้นลง
ราคา : 500 เหรียญทอง】
“ …”
ทันทีที่ได้เห็นมัน โรเอลก็อึ้งกิมกี่กับวัตถุวิเศษที่ดูไม่ค่อยจะมีผลดีเท่าไหร่นี้ในร้านค้าเหรียญทอง แต่สาเหตุหลักที่ทำให้มันดึงดูดสายตาของโรเอลเป็นพิเศษนั้น เนื่องจากมันมาจากไอเทมเสริมที่อยู่ด้านล่าง แต่ดูแล้วน่าจะเป็นยาพิษเสียมากกว่า
【ยาลดความร้อนภายในแห่งโลโบร์
สิ่งประดิษฐ์อันสูงส่งโดยแท้จริง ซึ่งเปรียบได้กับแสงแห่งความหวังของมนุษยชาติ! ในที่สุด ชาวโลโบร์ก็ไม่ต้องเผาผลาญอวัยวะภายในด้วยยาเสริมพลังของตัวเองอีกต่อไป!
ช่างเหมาะเจาะอย่างยิ่งกับยาเสริมพละกำลังแห่งโลโบร์ รูปแบบที่2
บางคนถึงกับเรียกยานี้ว่ายามหัศจรรย์ขั้นเทพ! นี่คือสุดยอดยาที่ใช้เพื่อเพิ่มพูนความสามารถของเยาวชน ลูกค้าที่พึงพอใจต่างอ้างว่ามันมีรสชาติอันยอดเยี่ยมเมื่อบริโภคร่วมกับ ยาเสริมพละกำลังแห่งโลโบร์ รูปแบบที่2
ผลข้างเคียง: การแข็งตัวของพลังสายเลือด (หากบริโภคเดี่ยว ๆ)
ผลข้างเคียง: ไม่มี (เมื่อบริโภคด้วยอัตราส่วน 1: 1 กับ ยาเสริมพละกำลังแห่งโลโบร์ รูปแบบที่2
หลังจากผสมจนจับตัวเป็นสีน้ำตาลแดง)
ราคา: 1,500 เหรียญทอง】
เมื่อได้อ่านดูคำอธิบายของยาลดความร้อนภายใน ใจโรเอลก็เริ่มสงบลง แต่เขาก็ยังคงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
“รู้สึกเหมือนนี่เป็นกลวิธีทางการตลาดที่ชั่วร้ายชะมัด”