ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 269: ชั้นเรียนซ่อมยามดึก
บทที่ 269: ชั้นเรียนซ่อมยามดึก
ชั้นเรียนซ่อมที่ลิเลียน แอคเคอร์มันน์ จัดขึ้นสำหรับโรเอล แอสคาร์ด จะต้องถูกเก็บเป็นความลับด้วยเหตุผลหลายประการ
อย่างแรกเลยมันไม่ใช่เรื่องดีที่องค์หญิงแห่งจักรวรรดิออสทีนจะมาช่วยสอนขุนนางชนชั้นสูงจากจักรวรรดิเซนต์เมซิท ยิ่งไปกว่านั้นหากนักเรียนคนอื่น ๆ รู้ว่าลิเลียนกำลังสอนโรเอล พวกเขาจะรู้สึกว่าเธอเหนือกว่า และสิ่งนี้จะส่งผลในทางลบในแง่การรับรู้ของสาธารณชนต่อผู้ถือแหวน
โรเอลนั้นตั้งใจที่จะสร้างกลุ่มของตัวเองในอนาคต หากสมาชิกในกลุ่มของเขารู้ว่าหัวหน้าของตนเป็นคนรับใช้ของลิเลียน พวกเขาจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นต่อต้านคนของฝ่ายกุหลาบสีม่วงได้
และที่สำคัญที่สุด นอร่าและชาร์ล็อตจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน ส่วนทางฝั่งของลิเลียนเองก็มีปัญหาเช่นกัน เพราะสิ่งที่เธอทำอยู่นั้นเป็นการขัดคำสั่งของจักรพรรดิลูคัส
ด้วยปัจจัยดังกล่าว พวกเขาจึงมีฉันทามติร่วมกันว่าจะเก็บเรื่องชั้นเรียนซ่อมนี้ไว้เป็นความลับ
โรเอลรู้สึกขอบคุณลิเลียนสำหรับความช่วยเหลือของเธอ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ น้อย ๆ กับนิสัยแปลก ๆ ของเธอ เช่นรหัสผ่านทางเข้า อะไรคือ ‘ภารกิจของอาจารย์’?
ราวกับว่าลิเลียนจงใจเลือกรหัสผ่านนี้เพื่อเตือนโรเอลว่า อย่าสำคัญตนให้มากจนเกินไป แม้เด็กหนุ่มจะต่อต้านแนวคิดเรื่องการใช้รหัสผ่าน แต่อำนาจในการเลือกนั้นไม่ได้อยู่ในมือของเขา เนื่องจากลิเลียนปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเธอ โรเอลจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
เฮ้ เธอคิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่มีภารกิจงั้นเหรอ? ฉันเองก็มีภารกิจจากบรรพบุรุษเหมือนกัน!
โรเอลปลอบตัวเองขณะผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออก แล้วเข้าไปในห้องเรียน เด็กหนุ่มเห็นลิเลียนที่ยืนรออยู่ข้างแท่นในทันที
ลิเลียนสวมชุดเดรสทางการสีดำแบบอนุรักษ์นิยมของจักรวรรดิออสทีน ซึ่งคลุมขาทั้งสองข้างและรัดรอบเอว เน้นรูปร่างที่เพรียวบางของเธอ นอกจากนี้ยังมีโบว์หูกระต่ายที่หน้าอก ทำให้รูปลักษณ์ของเธอดูเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
โรเอลรู้สึกประหลาดใจกับชุดที่แตกต่างจากเดิมของลิเลียนจนเขาอดไม่ได้ที่จะมองอีกครั้ง
แม้ว่าลิเลียนจะยังคงทำหน้าเยือกเย็นอยู่เสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวยมาก เมื่อดวงตาของโรเอลมองลงไปที่ท้องอันแบนราบของเธอ หัวใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเต้นระรัว ขณะที่คำพูดของโรดังก้องอยู่ในใจ
ด…เดี๋ยว เดี๋ยวนะ นี่เราคิดอะไรของเราเนี่ย!
ขณะที่จิตใจของโรเอลเริ่มร้อนรน เขารีบละสายตาและเดินไปยังที่นั่งแถวแรก
ตามปกติแล้ว เมื่อเพื่อนนักเรียนกวดวิชาด้วยกัน พวกเขาจะนั่งติดกันเพื่อให้สะดวกสำหรับการพูดคุย อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าลิเลียนไม่มีความคิดที่จะนั่งข้างเขา ทำให้ห้องเรียนนี้กลายเป็นการบรรยายอีกครั้ง
มันเป็นฉากที่ค่อนข้างแปลก แต่โรเอลก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับ
แม้ว่าลิเลียนจะเป็นคนเย็นชา แต่เธอกลับจริงจังกับบทเรียนมาก คำอธิบายของเธอเป็นไปตามตรรกะที่ไหลลื่น ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจแนวคิดที่เธอกำลังอธิบาย
โรเอลคิดว่าอัจฉริยะอย่างลิเลียน มักจะสอนตามจิตสำนึกของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาสามารถบรรลุสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ตามธรรมชาติ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอมีรากฐานทางทฤษฎีที่แข็งแกร่งเช่นกัน ความเข้าใจในรายละเอียดของเธอตรงประเด็น เรียกได้ว่าเธอเป็นครูที่พิถีพิถันมากกว่าคริสเสียอีก
หลายสิ่งหลายอย่างที่โรเอลไม่เข้าใจในช่วงเช้าของวันค่อย ๆ กระจ่างขึ้นภายใต้คำอธิบายของลิเลียน ทำให้เขารู้แจ้งอย่างลึกซึ้ง
โรเอลเริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดคริสจึงเลือกให้ลิเลียนสอนเขาทั้ง ๆ ที่พวกเขามีภูมิหลังขัดแย้งกัน ลิเลียนนั้นสอนได้ดีมากจริง ๆ และการมีมุมมองที่แตกต่างกันสองมุมมองในหัวข้อเดียวกันก็ทำให้เกิดผลกระทบที่ทำให้โรเอลเข้าใจหัวข้อนั้นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ภายใต้บทเรียนที่อัดแน่นอย่างเข้มข้นนี้ สีหน้าของโรเอลค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ลิเลียนยังคงแสดงสีหน้าไม่ใส่ใจตามปกติ ดูเหมือนว่าเธอสามารถบรรยายได้ดีในห้องเรียนที่ว่างเปล่า
เดี๋ยวก่อน เธอปฏิบัติกับเราเหมือนอากาศงั้นเหรอ?
ความสงสัยดังกล่าวผุดขึ้นในจิตใจของโรเอล แต่การกระทำของลิเลียนก็พังทลายความคิดนั้นลงอย่างรวดเร็ว
ลิเลียนใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการอธิบายเนื้อหาของบทเรียนจนเสร็จสิ้น ก่อนจะหันมามองโรเอลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ชั้นเรียนซ่อมเริ่มต้นขึ้น
“มีอะไรที่เธอไม่เข้าใจรึเปล่า?”
“เอ่อ… ผมคิดว่า ผมน่าจะเข้าใจทั้งหมดแล้ว”
“ดี”
ลิเลียนตอบพร้อมพยักหน้า
ขณะที่โรเอลคิดว่าถึงเวลาที่บทเรียนจะจบลงแล้ว จู่ ๆ ลิเลียนก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ลองปฏิบัติ”
“ลองปฏิบัติอะไรเหรอครับ?”
“ลองสร้างเส้นใยพลังเวทที่พวกเราทำในตอนเช้าสิ”
“…”
โรเอลกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะเจาะลึกถึงการปฏิบัติใช้งานจริงในชั้นเรียนด้วย
ว้าว เธอมีความรับผิดชอบมากกว่าที่เราคิดไว้มาก แต่นี่…
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนต่อสู้ดิ้นรนระหว่างวิชาคาถาเวทละเอียดอ่อนในช่วงเช้า ใบหน้าของโรเอลก็แข็งทื่อ มันเป็นความภาคภูมิใจของผู้ชายที่จะไม่ยอมเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองต่อหน้าสาวสวยคนหนึ่ง อีกทั้งลิเลียนเองก็ไม่ใช่แค่สาวสวยธรรมดา ๆ อย่างไรก็ตามหลังจากถูกเพ่งเล็ง ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเบา ๆ และยอมทำตามอย่างเชื่อฟัง
วินาทีต่อมา พลังเวทสีแดงเพลิงก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของโรเอล ก่อตัวเป็นเชือกหนา ภายใต้การควบคุมที่ “ละเอียดอ่อน” ของเขา
“…”
ชิ ว่าแล้วไง!
โรเอลรู้สึกหมดหนทางที่ตนไม่สามารถควบคุมพลังเวทได้
การมีสาวสวยเป็นอาจารย์ไม่ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพได้ในทันที โรเอลรู้สึกเขินอายเล็กน้อยกับผลลัพธ์อันไร้ความสามารถของตน เขาเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง ก่อนจะเห็นว่าสีหน้าการแสดงออกของลิเลียนนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การขาดการตอบสนองของลิเลียนทำให้โรเอลรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาดใจ แต่คำพูดที่ตามมาของเธอกลับทำให้เขามีสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้า
“ไม่ได้ มันหนาเกินไป”
จู่ ๆ ลิเลียนก็พูดเสียดสีแปลก ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างลึกลับ ทำให้โรเอลรู้สึกแปลก ๆ ในใจ และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“ยังหนาเกินไป ลองอีกครั้ง”
“หนาเกินไป อีกครั้ง”
ลิเลียนมักจะพูดคำที่คล้ายกันแทนในแต่ละครั้งที่โรเอลปฏิบัติ ทำให้บรรยากาศดูแปลกไปเล็กน้อย เรื่องนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งในที่สุดเธอก็บอกให้เขาหยุด
“…”
โรเอลถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ในที่สุดก็สามารถหยุดพักได้ อย่างไรก็ตามบนแท่นยืน ลิเลียนนั้นไม่ได้สงบอย่างที่สีหน้าของเธอแสดงออกมา
มันคล้ายกันเกินไปแล้ว!!!
ทันทีที่ลิเลียนสังเกตเห็นว่าโรเอลใช้พลังเวทของเขาอย่างไร เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังมองตัวเองในอดีตอยู่
โดยปกติแล้วจะมีความแตกต่างบางประการในการใช้พลังเวทของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง วิธีการของโรเอลนั้นเหมือนกับตัวเธอในอดีตเป๊ะ ๆ
มันเป็นเพราะพวกเราทั้งคู่เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสายการสรรค์สร้างั้นเหรอ? แต่ถึงอย่างนั้น มันก็บังเอิญเกินไปแล้ว
คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของลิเลียน แต่มีคำถามหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
ถ้าวิธีการใช้พลังเวทของเราเหมือนกัน แล้วทำไมเขาถึงมีปัญหาในการพยายามควบคุมพลังเวทของตัวเองล่ะ?
ลิเลียนนึกถึงความล้มเหลวนับสิบครั้งที่เธอเห็น และรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แตกต่างกันระหว่างพวกเขา แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมดก็ตาม
แต่ ‘สิ่งสำคัญ’ นั้นกลับหลบเลี่ยงจากสายตาของลิเลียนไป เธอไม่สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่ามันคืออะไร แต่เด็กสาวรู้ว่ามันเป็นส่วนสำคัญของปริศนาในการหาคำตอบว่าทำไมโรเอลถึงมีปัญหาเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่วิธีการร่ายพลังเวทเหมือนกัน
ลิเลียนจ้องมองไปที่โรเอลอย่างตั้งใจ ด้วยบางสิ่งที่กะพริบอยู่ในดวงตาสีอเมทิสต์ของเธอ การจ้องมองที่เข้มข้นและยืดเยื้อของเด็กสาว ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้าง
“เข้าใจแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว”
ลิเลียนพยักหน้ารับรู้ เธอมองไปที่โรเอลและตั้งข้อสังเกตอย่างใจเย็น
“เธอเคยฆ่าใครสักคนมาก่อนใช่ไหม?”
“!”
เวลาเหมือนจะหยุดลงภายในห้องเรียน โรเอลจ้องไปที่เด็กสาวผมสีดำตรงหน้า ขณะที่เขาพบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก
แม้แต่ในทวีปเซียที่ค่อนข้างวุ่นวาย มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับนักเรียนที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะที่จะก่อเหตุฆาตกรรม โรเอลไม่เคยพูดเรื่องนี้กับคนอื่นเลย เนื่องจากคติที่เขามีเกี่ยวกับการฆ่าคน
โรเอลไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินี้
“รุ่นพี่ลิเลียน ที่คุณพูดถึงนั้นหมายความว่าอย่างไร?”
ดวงตาของโรเอลเฉียบแหลมขึ้น และน้ำเสียงของเขาเองก็เข้มข้นขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าเด็กหนุ่มจะเปลี่ยนทัศนคติอย่างกะทันหัน แต่ลิเลียนก็ยังคงไม่สะทกสะท้านเช่นเคย เธอไม่มีความตั้งใจที่จะวิจารณ์หรือตั้งคำถามเกี่ยวกับประวัติของอีกฝ่าย เด็กสาวเพียงแค่ลดสายตาลงมองมือของเขา
“เธอถูกถ่วงเอาไว้ ด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า นั่นคือเหตุผลเบื้องหลังความล้มเหลวของเธอ”
“หา?”
เมื่อมองไปยังโรเอลที่กำลังสับสน ลิเลียนก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการคาดเดาของเธอ
มันเป็นความจริงที่การใช้พลังเวทที่สูงตามปกติของโรเอลส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมพลังเวทอย่างละเอียดอ่อนของเขา แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มันเป็นสัญชาตญาณของโรเอลที่จะไม่ทำเช่นนั้น
สัญชาตญาณนี้เกิดขึ้นจากความต้องการในพลังทำลายล้างสุดขีดเพื่อทำลายภัยคุกคามทั้งหมดที่ขวางทาง หากต้องการเจาะลึกลงไปอีกเล็กน้อย อาจอธิบายได้ว่าเป็นอุปสรรคทางจิตวิทยาที่เกิดจากความไม่สบายใจอันยาวนานและประสบการณ์เสี่ยงชีวิตและความตายมากมาย
ไม่ มันไม่ใช่แค่การเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว มันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพื่อให้สัญชาตญาณดังกล่าวฝังแน่นในตัวเขา เขาคงต้องผ่านสถานการณ์ที่อันตรายมามากมายแน่… แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นได้กัน? จักรวรรดิเซนต์เมซิท ควรให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแก่เขาไม่ใช่เหรอ …
นี่เป็นครั้งแรกที่ลิเลียนมองโรเอลด้วยความสนใจ
ในทางกลับกัน โรเอลสับสนมาก หลังจากที่เขาได้ยินการวิเคราะห์ของลิเลียน
โรเอลไม่มีแนวคิดว่า ‘จิตสังหาร’ ที่ว่าคืออะไร ดังนั้นเขาจึงไม่มีเงื่อนงำว่าตนเองต้องทำอย่างไรกับข้อมูลชิ้นนี้ที่ได้รับมา
“รุ่นพี่ จิตสังหารที่ว่าหมายถึงอะไร? ผมจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรครับ?”
โรเอลถาม
น่าแปลกที่ลิเลียนเงียบกริบไปหลังจากที่ได้ยินคำถามนี้ ความเงียบนี้อยู่ในห้องเรียนเป็นเวลานานก่อนที่จะจบลงด้วยการถอนหายใจ
“ รุ่นพี่?”
“ฉันจะสรุปให้ฟังนะ”
ลิเลียนพูดอย่างใจเย็น
“มันเป็นไปไม่ได้ ที่เธอจะควบคุมพลังเวทได้อย่างละเอียดอ่อน”