ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 276: การอนุมัติการเข้าถึง
บทที่ 276: การอนุมัติการเข้าถึง
ในอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ตั้งแต่เด็กอายุ 8 ขวบไปจนถึงผู้เฒ่าวัย 80 ปี ทุกคนต่างรู้กันดีว่านักเรียนของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่ามาจากภูมิหลังอันโดดเด่น และมีแนวโน้มที่จะมีชื่อเสียงหลังจากสำเร็จการศึกษา
ความจริงข้อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชายหนุ่มและหญิงสาวผู้มีความทะเยอทะยาน และใฝ่ฝันที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอันสูงส่งอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ถูกแยกออกจากส่วนที่เหลือของเมืองเลนสเตอร์ จนทำให้มันได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่อยู่ในเมือง ไม่ใช่ว่านักเรียนของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่านั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเขตสถาบันแต่อย่างใด เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะออกไปข้างนอก ด้วยที่พวกเขามีทุกอย่างที่ตัวเองต้องการอยู่ภายในสถาบันการศึกษาอยู่แล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นอุปสรรคต่อความทะเยอทะยานของชายหนุ่มและหญิงสาวเหล่านั้น
วิธีหลีกเลี่ยงเพียงอย่างเดียวก็คือ หอประชุมนานาชาติแห่งปัญญา คลังความรู้ที่เปิดกว้างต่อสาธารณชน ที่ข้อกำหนดในการเข้าถึงโอนอ่อนเป็นพิเศษสำหรับนักเรียนในเลนสเตอร์ ส่งผลให้มันกลายเป็นจุดทองสำหรับเหล่าคนเจ้าชู้ จนทำให้โรเอลรู้สึกว่าเสียงรบกวนโดยรอบนั้นดังเกินไปสำหรับเขา
โรเอลค่อย ๆ เดินไปยังห้องอ่านหนังสือส่วนตัวพลางค้นหาบัตรประจำตัวนักเรียนในกระเป๋า เนื่องจากนักเรียนของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ไม่ต้องจ่ายเงินทันทีเพื่อเข้าใช้ห้องอ่านหนังสือส่วนตัว แต่จะรวมบิลทั้งหมดไปจ่ายในคราวเดียวเมื่อสิ้นสุดภาคเรียน
แน่นอนว่าผู้ถือแหวนอย่างโรเอลย่อมได้รับสิทธิพิเศษ ทั้งหมดที่เขาต้องทำ ก็แค่แสดงบัตรประจำตัวจากนั้นเขาก็จะได้รับสิทธิ์เข้าใช้ฟรี
โรเอลเดินไปต่อแถวหน้าเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ และเมื่อถึงคิวของเขา เด็กหนุ่มก็แสดงบัตรประจำตัวนักเรียนและแหวนกุหลาบน้ำเงิน ทำให้พนักงานต้อนรับให้การต้อนรับเขาดีกว่าเดิม และเลือกห้องที่มีแสงไฟดีที่สุดให้ในทันที
เด็กหนุ่มขอบคุณพนักงานต้อนรับสำหรับความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังที่ที่ใกล้ที่สุด
สิทธิพิเศษของผู้ถือแหวนนั้นยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ไม่เพียงแต่โรเอลจะได้รับความเคารพอย่างสูงเท่านั้น สิทธิการเข้าถึงหนังสือในหอประชุมนานาชาติแห่งปัญญาของเขายังสูงกว่านักเรียนทั่ว ๆ ไปมากด้วยเช่นกัน นี่ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับคนที่รักการอ่านเช่นเขา
ห้องอ่านหนังสือส่วนตัวเองก็ดีมาก แม้จะเทียบไม่ได้กับห้องส่วนตัวของนอร่าในหอสมุดหลวงของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็มีการตกแต่งที่เรียบง่ายและสง่างาม ชวนให้นึกถึงสถานที่สำหรับการเรียนรู้ทั่วไป
ที่นี่มีโต๊ะเก้าอี้พร้อมสมุดและปากกาฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการจดบันทึกการเรียนรู้ ด้านข้างมีโคมไฟทรงสูง ชั้นวางหนังสือขนาดเล็ก และราวแขวนเสื้อผ้า นี่คือทุกอย่างที่มีในห้องอ่านหนังสือส่วนตัว เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงทั้งหมด
โดยส่วนตัวแล้วโรเอลคิดว่ามันค่อนข้างดีเลยทีเดียว
โรเอลเชื่อว่านักเรียนควรมุ่งความสนใจไปที่การเรียนรู้และปรับอารมณ์ให้เหมาะสม แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความฟุ่มเฟือย ไม่ได้หมายความว่าสภาพแวดล้อมในหอสมุดหลวงของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ดี แต่เขาเพียงแค่ต้องการสภาพแวดล้อมที่เรียบง่ายกว่าในฐานะนักเรียน
เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้และเริ่มอ่านหนังสือ เมื่อไม่มีสิ่งใดมารบกวนสมาธิอีกต่อไป ความเร็วในการอ่านของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดมงกุฎทำให้เขาสามารถแยกแยะเนื้อหาที่แท้จริงของหนังสือ และมุ่งความสนใจไปที่ส่วนเหล่านั้นได้ โรเอลจึงสามารถแยกสาระสำคัญของหนังสือแต่ละเล่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรเอลใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการอ่านบันทึกโบราณจากเมื่อสองร้อยปีก่อนจนจบ ทว่าขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจะดำดิ่งลงไปในหนังสือเล่มต่อไป จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเขา
เขามั่นใจว่าสถานที่ที่ตนถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในโลกความฝันคือสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ในเมื่อเขาได้ลองผ่าชันสูตรศพศัตรู เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นแล้ว สิ่งต่อไปที่เขาควรจะทำก็คือศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิประเทศของสนามรบ
โรเอล ไม่คุ้นเคยกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รอบ ๆ สถาบันการศึกษา เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสได้ออกสำรวจพื้นที่โดยรอบอย่างเต็มที่เลยนับตั้งแต่พิธีเปิด ทำให้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีเส้นทางหลบหนีที่ไหนบ้าง หากตนเองถูกศัตรูล้อม
หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปอันตรายแน่ ๆ
หอสมุดนี้น่าจะมีผังเมืองหรือพิมพ์เขียวของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าใช่ไหม?
โรเอลมุ่งหน้าไปที่ชั้นหนังสือและเริ่มมองหาพิมพ์เขียวของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า แต่ก็ไม่เจออะไรเลย
“บางทีพิมพ์เขียวของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าอาจจะเป็นความลับที่เปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้ แบบนี้แล้วเราจะไปหามันได้จากที่ไหนกัน…”
“ ‘พิมพ์เขียวของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ฉบับที่ 26’ ตั้งอยู่บนชั้นหนังสือหมายเลขสิบสองในแถวสาม อย่างไรก็ตามท่านต้องมีระดับการเข้าถึงที่ชัดเจนเพื่อที่จะยืมหนังสือเล่มนั้น”
“อย่างนั้นหรือ? ขอบคุณมาก… หา?”
โรเอลกำลังจะหันหลังกลับเพื่อขอบคุณคนที่เพิ่งให้คำแนะนำกับเขา ก่อนจะสังเกตเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังตน เหตุการณ์ลึกลับนี้ทำให้เด็กหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เขากวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่มีสิ่งใดนอกจากชั้นวางหนังสือในบริเวณใกล้เคียง
“หา? ก่อนหน้านี้เรามั่นใจว่าได้ยินเสียงผู้หญิงนี่นา…”
“สวัสดีตอนบ่าย ฝ่าบาท กำลังตามหาข้าอยู่งั้นเหรอ?”
คราวนี้โรเอลได้ยินเสียงจากเบื้องบนอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นในทันที และสิ่งที่เข้ามาในสายตาของเขาคือลูกบอลคริสตัลที่ส่องแสงระยิบระยับ
นี่มันอะไรกัน?
“มันเป็นเสียงของเธอเองเหรอ?”
“ท่านผู้ถือแหวนที่เคารพ ข้าวิญญาณเทียม มาร์กาเร็ตพร้อมให้บริการ”
“วิญญาณเทียม?”
มันคืออะไรกันน่ะ?
โรเอลจ้องไปที่ลูกบอลคริสตัลเหนือหัวอย่างสับสน พยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กหนุ่มนั้นเป็นนักประวัติศาสตร์ การอ่านหนังสือมาตลอดหลายปี ทำให้เขาเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางมาก อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินเรื่องวิญญาณเทียมมาก่อนเลยในชีวิต
มีตำนานที่อธิบายไม่ได้มากมายที่อยู่รายล้อมคำว่าวิญญาณในทวีปเซีย เช่นพวกเขาเป็นต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ เป็นสิ่งมีชีวิตแรกเริ่ม และอื่น ๆ วิญญาณมักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์ขาดความเข้าใจในเรื่องวิญญาณ แนวคิดในการสร้างวิญญาณเทียมจึงฟังดูเป็นเรื่องเหลวไหล
นอกจากนี้ต่อให้มีใครสามารถสร้างวิญญาณเทียมขึ้นมาได้จริง ๆ มันน่าจะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่โด่งดังไปทั่วโลก จึงไม่มีทางเลยที่โรเอลจะไม่รู้เรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่เคยเห็น ‘มาร์กาเร็ต’ ในเกมอาย ออฟ โครนิเคิลมาก่อนด้วย
“การสร้างวิญญาณเทียมควรเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นี่นา เนื่องจากเทคโนโลยีของมนุยษ์ในปัจจุบันมีข้อจำกัด เธอเป็นอะไรกันแน่?”
สถานการณ์ที่เข้าใจยาก ทำให้โรเอลระแวดระแวงเป็นพิเศษ เขามองดูลูกบอลคริสตัลอย่างระมัดระวัง ซึ่งบอลคริสตัลก็ส่องประกายเงียบ ๆ สักครู่ก่อนที่จะตอบในที่สุด
“ขออภัยด้วย ท่านยังไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้น ”
“…”
นี่หมายความว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้จริง ๆ งั้นเหรอ?
โรเอลครุ่นคิดเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
“ท่านโรเอล แอสคาร์ด ข้าเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่รับผิดชอบด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การจัดสรรทรัพยากร และการดำเนินงานอื่น ๆ อีกมากมาย ข้าอยู่ที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่ามานานหลายศตวรรษแล้ว หากท่านสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของข้า ท่านสามารถขอคำชี้แจงจากอาจารย์ใหญ่ แอนโตนิโอ หรือ ผู้ถือแหวนคนอื่น ๆ ได้”
“ข้ามาที่นี่เพื่อถ่ายทอดข้อมูลบางส่วนให้ท่าน ท่านได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงระดับสาม ในฐานะผู้ถือแหวนกุหลาบสีน้ำเงิน และสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงภายในสภาผู้ถือแหวน”
“มีการปรับเปลี่ยนสิทธิ์การเข้าถึง การตัดสินใจครั้งก่อนของสภาผู้ถือแหวน ได้ยกระดับการเข้าถึงของท่านไปยัง สิทธิ์ในการเข้าถึงระดับสอง ทำให้ท่านมีอำนาจมากกว่าอาจารย์ใหญ่ นี่ถือเป็นสิทธิ์การเข้าถึงสูงสุดในหมู่นักเรียนในปัจจุบัน ดังนั้นโปรดใช้พลังนี้อย่างชาญฉลาด”
“…”
โรเอลขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของมาร์กาเร็ต แต่ในอีกแง่เขารู้สึกผ่อนคลายด้วยเช่นกัน
ถ้ามาร์กาเร็ตเป็นตัวตนที่เป็นที่ยอมรับในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า เธอก็ไม่น่าจะเป็นศัตรู ส่วนที่เธอไม่ได้ปรากฏในเกมอาย ออฟ โครนิเคิลก็คงจะเพราะพอลนั้นไม่ได้เป็นผู้ถือแหวน
จะว่าไปแล้ว ‘สภาผู้ถือแหวน’ ที่ถูกกล่าวถึงก็น่าจะหมายถึง ‘สภากุหลาบ’ อีกด้วย แม้ว่าจะมีข่าวลือมาบ้างเป็นครั้งคราว แต่มันก็ยังน่าแปลกใจจริง ๆ ที่รู้ว่าอำนาจของสภาผู้ถือแหวนนั้นเหนือกว่าอาจารย์ใหญ่แอนโตนิโอจริง ๆ นั่นคงเป็นสาเหตุที่ผู้ถือแหวนได้รับสิทธิพิเศษอันสูงส่งขนาดนี้
อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของสิ่งที่มาร์กาเร็ตจะพูด
“สาเหตุสิทธิ์การเข้าถึงระดับที่สามของท่านถูกยกระดับไปยังสิทธิ์การเข้าถึงระดับที่สองนั้น เนื่องจากการครอบครอง ‘วัตถุพิเศษ’ อย่างไรก็ตามสิทธิ์ของท่านใน ‘ระดับที่สอง’ นั้นยังไม่ได้รับการอนุมัติ”
“หืม? สิทธิ์การเข้าถึงระดับที่สอง? วัตถุพิเศษ?”
โรเอลที่กำลังตกตะลึงหวนนึกถึงแหวนอีกวงที่มีอยู่ในทันที ดังนั้นเขาจึงรีบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุพิเศษนั้น
“ ‘วัตถุพิเศษ’ ที่เธอหมายถึงคืออะไร?
“ขออภัยด้วย ท่านยังไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้น”
“แล้วใครเป็นคนกำหนด สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลกัน?”
“ขออภัยด้วย ท่านยังไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้น”
“เธอรู้ไหมว่าใครคือ ‘นักวิชาการ’?”
“ขออภัยด้วย ท่านยังไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้น”
“…”
คำตอบนั้นน่าผิดหวังมากจนโรเอลรู้สึกอยากจะสอยลูกบอลคริสตัลลงมาจากเพดานแล้วทุบมันให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ให้ตายเถอะ อะไรทำให้มันน่ารำคาญได้มากขนาดนี้กัน?
โรเอลผู้โกรธจัดสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง เพื่อทำให้ตัวเองสงบลง ก่อนจะสังเกตเห็นปัญหาเบื้องหลังเรื่องนี้
นี่ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่โรเอลได้รับแหวนทั้งสองวง แล้วทำไมวิญญาณเทียมถึงได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาในตอนนี้? ถ้าเธอมาเพื่อแจ้งถึงอำนาจใหม่ที่เขาได้รับจริง ๆ เธอควรจะทำมันทันทีหลังจากที่เขาได้รับแหวนสิ
ทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้ด้วย?
ถ้าสิ่งที่มาร์กาเร็ตพูดเกี่ยวกับหน้าที่ของเธอในโรงเรียนเป็นความจริง พลังของเธอก็น่าจะแผ่ขยายไปทั่วทั้งสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ไม่มีทางที่เธอจะถูกจำกัดการสื่อสารไว้แค่ภายในห้องสมุดเท่านั้น
หรือว่า…
ความเป็นไปได้ผุดขึ้นมาในใจของโรเอล ทำให้เขาหรี่ตาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามอีกครั้ง
“มาร์กาเร็ต สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของฉันถูกยกระดับเป็นระดับสอง เมื่อวานนี้ใช่ไหม?”
“ท่านยังไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าถึงสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลระดับสอง ฝ่าบาท”
“เข้าใจแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มีบางอย่างที่ฉันทำระหว่างช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ จนถึงตอนนี้ ที่อาจจะทำให้ฉันสามารถเข้าถึงสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลระดับสองได้ใช่ไหม?”
“ถูกต้องแล้ว ฝ่าบาท”
โรเอลกำมือแน่นเมื่อได้ยินคำตอบยืนยันจากมาร์กาเร็ต
นอกเหนือจากการเรียนซ่อมและพาพอลไปรับประทานอาหารเย็น อย่างอื่นที่โรเอลทำเมื่อคืนนี้ก็คือการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในความฝัน ดูเหมือนเรื่องที่แหวนกุหลาบดำสว่างกว่าเมื่อก่อนจะไม่ได้เป็นแค่การคิดไปเองเสียแล้ว
ทันใดนั้นความมั่นใจของโรเอลในการตามหา ‘นักวิชาการ’ ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขามีเบาะแสอยู่สองอย่าง หนึ่งคือสถาบันการศึกษาในฝัน ที่น่าจะมีความลับบางอย่างรอการเปิดเผยซ่อนอยู่ และอีกหนึ่งก็คือสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่เขาจะได้รับจากการฆ่าสัตว์ประหลาดในความฝัน
เนื่องจากมาร์กาเร็ตรับใช้สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่ามานานหลายศตวรรษแล้ว มันจึงเป็นไปได้ว่าเธออาจเคยได้ติดต่อกับ ‘นักวิชาการ’ ในบางช่วงเวลา บางที ‘นักวิชาการ’ อาจฝากข้อความไว้กับเธอ ซึ่งโรเอลจะต้องเข้าถึงสิทธิ์ในระดับที่จำเป็นสำหรับมัน
นอกจากนี้เขายังอยากรู้ด้วยว่าผู้มีสิทธิ์ในระดับสองทำอะไรได้บ้าง
ไม่ว่าในกรณีใด ตัวแปรใหม่นี้ ทำให้โรเอลถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอย่างน้อย ๆ ตอนนี้เขาก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสืบสวนในเรื่อง ‘นักวิชาการ’ แล้ว
โรเอลพยายามถามมาร์กาเร็ตอีกสองสามคำถาม แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือ สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของเขายังไม่เพียงพอ
“มีความลับซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยสินะ? สมแล้วที่เป็นสถาบันการศึกษาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี”
โรเอลเล่นแหวนบนนิ้ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังชั้นหนังสือที่อยู่ห่างออกไป