ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 334: ลูกของใคร ?
บทที่ 334: ลูกของใคร ?
รู้สึกหนักตัวชะมัด
โรเอล แอสคาร์ดค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ในสภาพกึ่งมีสติ เขาเห็นเพดานที่ไม่คุ้นเคยเหนือหัว คล้ายกับพรมสีขาวที่ปักด้วยดอกไม้สีทองดูสบายตา
มีผ้าม่านสีขาวเพยิบไหวอยู่รอบตัวเขา
ภาพอันไม่คุ้นเคยนี้ทำให้โรเอลตกตะลึง เขาใช้เวลาสักครู่ก่อนที่สมองจะเริ่มทำงานอย่างช้า ๆ
ไม่ นี่ไม่ใช่เพดาน นี่คือ… หลังคาของเตียงงั้นเหรอ ?
ถึงโรเอลจะไม่เคยนอนบนเตียงสี่เสามาก่อน แต่สติที่ยังไม่ตื่นดีของเจ้าตัวก็ยังสามารถประมวลผลข้อมูลพื้นฐานได้ เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความสะลึมสะลือ
ปลายเตียงมองดูแล้วห่างออกไปมาก เตียงนี้น่าจะใหญ่มากสินะ
เสื้อผ้าของเราเองก็หลวมมากเหมือนกัน มันน่าจะขาดไประหว่างที่ต่อสู้ไหมนะ ?
ด้วยความคิดเช่นนั้น โรเอลจึงหยัดตัวเองลงจากเตียงเพื่อลุกขึ้นนั่ง เขากระพริบตานิดหน่อยและขยี้ผมยุ่ง ๆ ด้วยสายตาที่ยังรู้สึกพร่ามัวจากการตื่นนอน
ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างและพาผ้าม่านสะบัดออกไป เผยให้เห็นกระจกบนโต๊ะเครื่องแป้งที่สะท้อนใบหน้าของเด็กน้อยผู้น่ารัก
เด็กชายคนนี้ดูเหมือนจะมีอายุประมาณเจ็ดถึงแปดขวบ รูปลักษณ์อันละเอียดอ่อนชวนให้นึกถึงเอลฟ์เลือดบริสุทธิ์ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็นผิวขาวเนียน นัยน์ตาสีทองวาววับ หรือริมฝีปากสีชมพู รูปลักษณ์ที่ชวนงุนงงของเขาจากการตื่นนอนดูน่ารักจริง ๆ เชิญชวนให้ใครก็ตามอยากจะเข้าไปกอด
“หา ?”
ใบหน้าแปลกปลอมในกระจกทำให้โรเอลตกใจ เขาสะดุ้งขึ้นตื่นพร้อมขยี้ตาอย่างแรง ก่อนจะมองไปที่เดิมอีกครั้ง แต่ภาพสะท้อนก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หา ? ทำไมเงาสะท้อนของเราถึงกลายเป็นเด็ก… เดี๋ยวก่อนสิ !
จู่ ๆ ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของโรเอล เขาก้มศีรษะลงมองเสื้อผ้าที่หลวมโพรก ทว่าก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย จากนั้นเขาจึงรีบดูฝ่ามือ พวกมันเล็กลงไปถนัดตาจนน่าประหลาด
ดวงตาของเขาค่อย ๆ เบิกกว้างด้วยความสยดสยอง เมื่อหลักฐานทั้งหมดสนับสนุนความเป็นไปได้ที่น่ากลัวในใจ
เขาคลานไปที่มุมเตียงด้วยความหวาดวิตก ผลักผ้าม่านออกด้านข้าง เพื่อมองตัวเองในกระจกอย่างใกล้ชิด
“นี่ฉันเหรอ ?”
โรเอลตกตะลึงกับความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เบื้องหน้า แต่เขาก็ยังสามารถหาสาเหตุของความผิดปกตินี้ได้
มันเป็นผลข้างเคียงของคาถาเวทย์ผู้กลืนกินการเวลา
คาถาเวทย์ย้อนวัยเป็นอะไรที่แทบจะไม่มีตัวตนในทวีปเซีย มีเพียงหกภัยพิบัติเท่านั้นที่มีพลังมากพอจะสร้างเรื่องอะไรแบบนี้ได้
เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว โรเอลก็รีบตรวจดูสภาพร่างกายของตนอย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์นั้นไม่ดีเท่าที่หวังไว้
ดูเหมือนว่าพลังทางสายเลือดของเขาจะเข้าสู่โหมดหยุดพัก ทำลายหน้าต่างแห่งการเชื่อมต่อที่เขามีกับกรันด้า และเปตรา เขาสูญเสียฐานพลังเวทย์ส่วนใหญ่ไปด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาที่กลายเป็นเด็ก แต่ความแข็งแกร่งของเขาเองก็ถดถอยลงไปเป็นเด็กด้วยเช่นกัน
การสูญเสียพลังในการรบทั้งหมด ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับโรเอล เขารู้สึกตื่นตระหนกมากกว่าตอนที่เขาฟื้นความทรงจำในอดีตชาติ และพบว่าตัวเองมีเดธแฟล็กรออยู่เสียอีก
“ป… เป็นไปได้ยังไง ? ใช่ เรายังมีระบบอยู่ ! แต่…”
เขายังมีระบบให้บ่ายหน้าไปพึ่งพาอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถพึ่งได้ในการต่อสู้ นอกจากนี้เขายังไม่มีเงินมากพอจะซื้ออุปกรณ์เวทย์ หรือพลังเวทย์มากพอที่จะเปิดใช้งานมัน เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงอธิษฐานว่าระบบน่าจะมีบางอย่างที่เป็นประโยชน์ ในร้านแลกเปลี่ยนแต้มความสนใจที่เขาสามารถใช้ได้โดยไม่มีพลังเวทย์
การตระหนักว่าตนเองอยู่ในสภาวะไร้ซึ่งอำนาจ ทำให้โรเอลสะพรึงกลัว เขาเอามือก่ายหน้าผากและพยายามตั้งสติ แต่วังวนแห่งความไม่สบายใจก็ยังคงเพิ่มพูนขึ้นอยู่ดี จนในที่สุดร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ต่างจากเด็กอายุ 10 ขวบที่โง่เขลา โรเอลในปัจจุบันมีความนึกคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับอันตรายต่าง ๆ ที่ซุ่มซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการพลังความแข็งแกร่ง เพื่อปกป้องตัวเองและผู้คนที่เขารัก การไร้ซึ่งพลังอำนาจ ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถยอมรับได้
“ไม่ ๆ เราต้องใจเย็น ๆ ก่อน ตื่นตระหนกไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใช่แล้ว ที่นี่คือที่ไหนกัน รุ่นพี่ลิเลียนหายไปไหนแล้วล่ะ ?”
โรเอลมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ไม่พบลิเลียน ก่อนที่เขาจะกระโดดลงจากเตียงเพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม จู่ ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ผัวะ !
โรเอลตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินเสียงประตู เขาหันหน้าไปทางเสียงอย่างประหม่า ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็น
มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากประตู พร้อมกับไอน้ำที่ยังคงลอยออกมาจากร่างกาย เธอคือคนที่โรเอล กำลังมองหา ทว่ารูปร่างหน้าตาของเธอนั้นแตกต่างออกไปจากปกติ
ผิวขาวของลิเลียนอมชมพูขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเพิ่งอาบน้ำร้อนมา ใบหน้าของเธอดูงดงามไร้ที่ติ ร่างกายที่แบบบางของเธอก็สมส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ ท่าทางอันเย็นชาและสูงส่งในฐานะองค์หญิงของจักรวรรดิออสทีนอ่อนโยนลงด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นกันเอง ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากกว่าปกติ
ร่างกายของลิเลียนถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวเน้นโครงร่างทรวดทรงออกมาอย่างงดงาม ตั้งแต่ส่วนที่ยื่นออกมาของหน้าอกไปจนถึงเอวที่แคบลง ตามด้วยขาที่เรียวยาว
รุ่นพี่สวยมากจริง ๆ
โรเอลรู้สึกทึ่งราวกับว่าเขาได้เห็นงานศิลปะอันวิจิตรงดงาม ขณะเดียวกัน ลิเลียนก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นโรเอล
“โรเอล !”
ความโล่งใจผุดขึ้นในใจของลิเลียน เมื่อเห็นว่าเด็กชายฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้ว เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าและคว้าร่างของเขาเข้ามากอดโดยไม่คิดอะไร ทว่าทันทีที่เธอเริ่มเข้าใกล้เขา เด็กชายตัวน้อยก็เริ่มถอยห่างจากเธอโดยสัญชาตญาณ ด้วยความกลัวที่สะท้อนอยู่ในดวงตาสีทอง
ลิเลียนผงะไปชั่วครู่ก่อนที่เธอจะเข้าใจสถานการณ์นี้
การครอบงำของระดับแก่นแท้
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งกว่า จะสามารถใช้พลังเวทย์ของพวกเขาข่มผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่อ่อนแอกว่าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ลิเลียนเคยใช้กับโรเอลไป เพื่อเตือนว่าอย่าสร้างปัญหาก่อนพิธีเปิด
การครอบงำนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเท่านั้น ผลกระทบของมันยิ่งเด่นชัดเมื่อถูกใช้กับมนุษย์ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับสูง ถึงหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เด็กหากไม่จำเป็น เนื่องจากเด็กนั้นมีประสาทรับรู้ที่ไวต่อพลังเวทย์ พวกเขาจึงอาจรู้สึกว่าตนเองนั้นถูกพลังเวทย์อันทรงพลังคุกคามและตื่นกลัวได้
ดังที่กล่าวไป สำหรับโรเอลแล้วมันหนักหนากว่ากันมาก ด้วยที่เขายังมีความรู้สึกที่ไวต่อพลังเวทย์ในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 4 แม้ว่าจะสูญเสียพลังไปแล้ว ส่งผลให้การครอบงำที่เขารู้สึกได้จากลิเลียน รุนแรงมากกว่าปกติ มันจึงทำให้ความกลัวตามสัญชาตญาณที่รู้สึกต่อเธอรุนแรงไปด้วยเช่นกัน
ลิเลียนจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ของตนในทันที เธอเริ่มควบคุมพลังเวทย์ที่เกิดจากอารมณ์กระวนกระวายใจให้อ่อนโยนลง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเด็กชายด้วยฝีเท้าที่มั่นคง พยายามทำให้ท่าทางของตัวเองดูอ่อนโยนและเป็นมิตรมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ดูเป็นการคุกคาม
กลับกันแล้วโรเอลรู้สึกตื่นตระหนกและสับสนเป็นอย่างมาก จิตใจและหลักเหตุผลบอกเขาว่าบุคคลตรงหน้าคือลิเลียน เป็นคนที่ตัวเองไว้ใจได้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ระบุว่าเธอเป็นภัยคุกคามอันน่ากลัว และห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด
มันเหมือนกับความกลัวโดยกำเนิดที่ชาวนารู้สึก เมื่อต้องมายืนอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิ ความรู้สึกด้อยกว่าที่มีต่อตัวตนที่สูงส่ง แรงกดดันนั้นหนักหนามากจนเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองเข้าไปในดวงตาของลิเลียน
แม้ว่าโรเอลจะหนีขึ้นไปบนเตียง และคลานไปหลบที่ด้านข้าง ดวงตาของเขาก็ยังคงหลุบต่ำอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าสบสายตาขึ้นมอง
“โรเอล นี่ฉันเอง… ยังจำฉันได้ไหม ?”
ลิเลียนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านพร้อมถามอย่างอ่อนโยน