ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 335: คำปฏิญาณแห่งการปกป้อง
บทที่ 335: คำปฏิญาณแห่งการปกป้อง
ด้านบนเตียงขนาดใหญ่ ลิเลียนกำลังคลานขึ้นไปยังที่ที่โรเอลอยู่ ทว่าเด็กชายตัวน้อยก็ยังคงก้มมองลงไปข้างล่างด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
โรเอลรู้สึกขัดแย้งสับสนในใจมาก ด้านหนึ่งความกลัวโดยสัญชาติญานของเขา กำลังกระตุ้นให้เขาถอยห่างจากลิเลียน แต่ในทางกลับกัน เขาก็ถูกดึงดูดเข้าไปโดยรูปลักษณ์ของเด็กสาวผู้งดงามตรงหน้า ความรู้สึกอันรุนแรงทั้งสองนี้ถาโถมเข้าใส่เขาอย่างไม่หยุดยั้ง
น่ากลัว… แต่ก็สวยมากจริง ๆ เราอยากเข้าไปใกล้ ๆ เธอ
ความขัดแย้งภายในนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อลิเลียนเข้ามาใกล้ ๆ เขา ทำให้โรเอลไม่แน่ใจว่าควรจะเดินหน้าหรือล่าถอย
ผมของลิเลียนยังเปียกอยู่นิดหน่อยเนื่องจากเพิ่งออกมาจากอ่างน้ำ หยดน้ำหยดลงมาที่คอของเธอจนถึงกระดูกไหปลาร้า การเคลื่อนไหวของเธอได้ทำให้ผ้าเช็ดตัวคลายออกและตกลงมาเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมของเธอบางส่วนปรกลงมาบังการมองเห็น เธอจึงค่อย ๆ ปัดมันขึ้นไปและทัดไว้ด้านหลังใบหู เผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงามและลำคอที่เรียวเนียน การปะทะกันระหว่างรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์กับนิสัยที่เป็นผู้ใหญ่ ทำให้เกิดเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร กระชากหัวใจของโรเอลจนเต้นไม่เป็นจังหวะ
“โรเอล นี่ฉันเอง… ยังจำฉันได้ไหม ?”
คำพูดเหล่านั้นทำให้ร่างกายของโรเอลสั่นเล็กน้อย
“รุ่นพี่ ?”
“ใช่นี่ ฉันเอง อย่ากลัวไปเลย ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกยังไง มันเป็นเพราะการครอบงำจากระดับแก่นแท้ใช่ไหมล่ะ ?”
“ค…ครับ ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น ผมไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน เพราะงั้น…”
“ไม่เป็นไร ๆ ฉันเข้าใจ”
ลิเลียนคลานเข้าไปใกล้ ๆ โรเอลอีกสองสามนิ้วจนกระทั่งมาอยู่ตรงหน้าเขา เธอโน้มตัวไปทางใบหน้าที่แดงก่ำของเด็กชายและจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก
“!”
ร่างกายของโรเอลสั่นเทิ่มเมื่อได้สัมผัสกับจุมพิต แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ระงับความปราถนาที่จะถอยหนีไปไว้ ขณะศีรษะของเขาก็ยังคงก้มลงนั้น ปากก็ถามคำถาม
“รุ่นพี่ นี่คือ… ?”
“จูบตอนเช้า”
“ข … เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากได้ยินคำตอบ โรเอลก็พยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ลิเลียนคิดว่าท่าทางการตอบของเขาช่างน่ารักน่าชัง อย่างกับเป็นสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ๆ ซึ่งยิ่งกระตุ้นความปรารถนาของเธอให้มากขึ้นไปอีก
อยากจูบเขา อยากกอดเขา อยากเอ็นดูเขาให้มากกว่านี้ แต่เราจะทำให้เขาตื่นตระหนกแน่ ๆ ถ้าเราเคลื่อนไหวทำอะไรอย่างกะทันหัน เราควรจะทำอย่างไรดี…
จิตใจของลิเลียนเริ่มร้อนรนขึ้นอีกครั้ง เธอมองดูมือที่สั่นเทาของโรเอล จากนั้นจู่ ๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจของเธอ
“ไม่ใช่สิ”
“เอ๋ ?”
“จูบนี้เป็นการรักษา”
“การรักษา ?”
ในที่สุดโรเอลก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อเผยให้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ลิเลียนรู้สึกยินดีกับคำตอบนี้ ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมในดวงตาสีอเมทิสต์ เธอเริ่มก็พ่นคำพูดที่เป็นความจริงครึ่ง ๆ
“ถูกต้อง พวกเราจะต้องช่วยกัน ขจัดความกลัวของเธอในการครอบงำของระดับแก่นแท้ที่สูงกว่า และบรรเทาผลข้างเคียงจากคาถาเวทย์ของเธอ ถึงแม้ว่ามันจะเลือนลาง แต่เธอก็น่าจะสัมผัสได้ถึงการสั่นพ้องทางสายเลือดของพวกเราใช่ไหม ?”
“…ใช่ครับ ผมยังสัมผัสได้ถึงการสั่นพ้องอยู่”
โรเอลนึกถึงการจุมพิตครั้งก่อนบนหน้าผาก และพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะสามารถบรรเทาการถูกครอบงำโดยระดับแก่นแท้ได้จริง ๆ รึเปล่า แต่การสั่นพ้องทางพลังของสายเลือด กำลังช่วยกระตุ้นพลังทางสายเลือดที่จำศีลของเขาให้ค่อย ๆ ตื่นขึ้น แม้การกระตุ้นจะยังอ่อนแอ แต่มันก็อาจจะช่วยให้เขาฟื้นตัวจากสภาพที่เป็นอยู่นี้ได้
โรเอลสัมผัสได้ว่าพลังของเขาถูกกีดขวางโดยสิ่งกีดขวางบางอย่างที่ไม่สามารถจับต้องได้ มันมีตัวตนอยู่ แต่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ราวกับเกราะพลังเวทย์ที่จับต้องไม่ได้นี้กำลังจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของมันให้เร็วขึ้น
ด้วยการสั่นพ้องของพลังทางสายเลือด โรเอลน่าจะสามารถเสริมสร้างความต้านทานให้แก่ตัวเอง และทลายเกราะดังกล่าวที่ปิดกั้นอยู่ให้เร็วยิ่งขึ้นได้ และลดระยะเวลาของผลข้างเคียง
สิ่งนี้ทำให้โรเอลคิดว่าการกระทำของลิเลียนนั้นสมเหตุสมผล แม้ว่ามันจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดก็ตาม
“เข้าใจแล้ว รุ่นพี่ คุณตั้งใจจะบรรเทาผลข้างเคียงจากคาถาเวทย์ ผ่านการสั่นพ้องทางสายเลือดสินะครับ ?”
“ใช่แล้ว เพื่อการนั้นแล้ว พวกเราต้องใกล้ชิดกันให้มากขึ้นอีก นี่ก็เพื่อที่จะรักษาอาการของเธอ”
ลิเลียนค่อย ๆ ล่อลวง โรเอลเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก แม้ว่าความคิดของเธอจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เธอชอบของน่ารัก ๆ มาโดยตลอด และรูปร่างในปัจจุบันของโรเอลก็ดึงดูดใจเธออย่างสุดจะพรรณนา ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าการสูญเสียความสามารถในการต่อสู้จะเป็นอันตรายต่อเขา เธอก็คงไม่ต้องการให้เขาฟื้นตัวจากสภาพนี้
ลิเลียนถอนหายใจเบา ๆ ในใจ ก่อนจะเอนตัวเข้าไปอีกครั้ง เพื่อจูบที่หน้าผากของโรเอล
“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอคงรู้สึกสับสน แต่ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวไปหรอก ฉันอยู่กับเธอแล้ว”
“รุ่นพี่…”
“ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอ เหมือนกับที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ร้อยปีก่อน”
“!”
คำปฏิญาณอันทรงพลังนี้ทำให้โรเอลเงยหน้าขึ้น มองไปที่ลิเลียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองตรงมาที่เธอนับตั้งแต่ที่ร่างกายของเขาหดเล็กลง
เด็กชายพบว่าดวงตาสีอเมทิสต์ที่อ่อนโยนและแน่วแน่ของลิเลียนนั้นส่องประกายราวกับมีดวงดาวอยู่ภายใน และสิ่งเดียวที่สะท้อนอยู่ในพวกมันคือใบหน้าของเขา
เธอคนนี้คือเด็กสาวคนเดียวกันกับที่เคยยืนอยู่ข้างหลังป้อมปราการอันสูงตระหง่าน เพื่อปกป้องเขาจากอันตราย ทันใดนั้นความกลัวที่เขารู้สึกจากการครอบงำทางระดับแก่นแท้ก็ค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความละอายใจที่รู้สึกกลัวเธอผู้เต็มใจจะเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา
ลิเลียนสังเกตเห็นว่าโรเอลกำลังโทษตัวเอง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแต่อ้าแขนกว้างด้วยรอยยิ้ม เป็นการกระทำที่ไม่อาจบรรยายได้ด้วยคำพูดใด ๆ ได้
“ขอโทษด้วยครับ รุ่นพี่”
โรเอลกล่าวด้วยเสียงที่แห้งแหบ
จากนั้นทั้งสองก็โอบกอดกัน
โรเอลไม่สามารถเอื้อมโอบถึงไหล่ของลิเลียนได้เนื่องจากร่างกายที่เล็กลง ส่งผลให้เขาถูกฝังอยู่ในหน้าอกของลิเลียนสัมผัสเข้ากับผ้าเช็ดตัว เขารู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ก็จริงง ทว่าความรักและความเสน่หาก็ทำให้เขาไม่อยากจากเธอไป… นอกจากนี้เขายังไม่สามารถขยับตัวได้อีกด้วย
แขนของลิเลียนกระชับเอวของโรเอลไว้แน่น ทำให้ร่างของทั้งคู่ถูกบดเบียดเข้าด้วยกัน เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของเธอ มันทั้งดังและชัดเจน การสั่นพ้องของพลังทางสายเลือดที่แม้จะอ่อนแอลง แต่ก็สร้างความสัมพันธ์ทางธรรมชาติระหว่างพวกเขาทั้งสอง เวลาเริ่มผ่านไปพร้อมกับร่างกายที่ต่างก็เริ่มแดงระเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ
ในที่สุดมันก็มาถึงจุดที่โรเอลรู้สึกประหม่าอายจนทนไม่ไหว
“ผ…ผมคิดว่า ผมควรไปอาบน้ำได้แล้ว”
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งรีบขยับตัวสิโรเอล !”
โรเอลผู้ร้อนรนพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของลิเลียน แต่ด้วยความเขินอายอันเอ่อล้น เขาจึงลืมนึกถึงสภาพปัจจุบันของอีกฝ่ายไป ส่งผลให้ผ้าขนหนูคลายตัวและร่วงหล่นลงบนเตียงพร้อมกับเสียงอุทานของลิเลียน