ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 337: แน่นอนฉันจะยกโทษให้เขา
บทที่ 337: แน่นอนฉันจะยกโทษให้เขา
ตอนเช้าที่ลานน้ำชาบนระเบียงของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของหวาน มีเด็กสาวสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะคนล่ะฝั่งกัน คนหนึ่งมีผมสีทองเป็นประกาย ส่วนอีกคนหนึ่งมีผมสีน้ำตาลแดง
พวกเธอคือ นอร่า เซไซต์ และ ชาร์ล็อต โซโรฟยา
ผู้นำที่น่านับถือของฝ่ายกุหลาบทองและกุหลาบแดง กำลังดื่มชายามเช้ากันอย่างสง่างาม แต่บรรยากาศระหว่างพวกเธอนั้นไร้ซึ่งความเป็นกันเอง เพราะนี่คือการพบปะกันเป็นส่วนตัว ต่างจากการพบปะทางธุรกิจ ที่พวกเธอจะต้องพยายามรักษาทัศนคติที่เป็นกลาง เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบของตนให้สำเร็จ
ทั้งสองคนได้โต้เถียงกันมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการจัดสรรตารางเรียนของโรเอล มีเพียงความสุภาพเท่านั้นที่พวกเธอรักษาระดับเอาไว้เล็กน้อย
ทว่าในวันนี้พวกเธอไม่ได้มารวมตัวกันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งส่วนตัว แต่เพื่อหารือเกี่ยวกับจดหมายนิรนามที่ส่งมาถึงที่พักของพวกเธอในตอนเช้าตรู่ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์อันน่าเป็นห่วง
“เจ้าทราบรึเปล่า ว่าโรเอลและผู้หญิงคนนั้นได้ออกตามล่าพวกลัทธิชั่วร้ายร่วมกัน ?”
“แน่นอน ดิฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับที่รัก เรื่องแบบนั้นดิฉันจะไม่รู้ไปได้อย่างไร ?”
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ ?”
“…ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นห่วง”
ชาร์ล็อต ตอบคำถามอันคลุมเครือของนอร่าด้วยคำตอบที่คลุมเครือไม่แพ้กัน องค์หญิงแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
ในฐานะผู้พิทักษ์และคู่หมั้นของโรเอล แอสคาร์ด ทั้งนอร่าและชาร์ล็อตต่างก็ระมัดระวังกันอย่างมาก เกี่ยวกับการที่โรเอลลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ที่นี่ต่างจากคฤหาสน์ของตระกูลแอสคาร์ด เนื่องจากมีโอกาสมากมายที่เขาจะดึงดูดพวกจิ้งจอกเข้ามาเกาะแกะ
‘สุสานคู่รัก’ และ ‘สวรรค์ของจิ้งจอก’ บางคนได้ขนานนามว่าสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าเอาไว้เช่นนี้ คู่รักที่หมั้นหมายกัน หรือเพื่อนในวัยเด็กจำนวนมากได้ตกเป็นเหยื่อของดินแดนแห่งการทรยศหักหลังนี้ ทำให้มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ไม่รู้จักระมัดระวังตัว
แม้ว่านอร่าและชาร์ล็อตจะต่อสู้กันอย่างยุติธรรมเพื่อโรเอลตั้งแต่เปิดภาคเรียน แต่พวกเธอก็พร้อมที่จะร่วมมือกันขับไล่คนนอกออกไป จนถึงตอนนี้พวกเธอได้กำจัดจิ้งจอกไปแล้วสามตัว แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่หญิงสาวทั้งสองไม่อาจคิดประมาทได้
ลิเลียน แอคเคอร์มันน์
เธอเป็นศัตรูที่น่าเกรงขาม ซึ่งทั้งคู่เทียบไม่ได้ในแง่ของความแข็งแกร่ง ภูมิหลัง และรูปลักษณ์ ทำให้ลิเลียนเป็นศัตรูตัวฉกาจของทั้งสอง
เนื่องจากความชอบที่แปลกประหลาดของตระกูลแอสคาร์ดในผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือกว่า นอร่าและชาร์ล็อตจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับลิเลียน ตั้งแต่ที่โรเอลลงทะเบียนเรียน อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขามักจะทะเลาะกับลิเลียนเป็นครั้งคราวในที่สาธารณะ เช่นเดียวกับทางเลือกของพอล แอคเคอร์มันน์ ที่ได้เข้าร่วมกลุ่มกุหลาบน้ำเงินแทนกลุ่มกุหลาบม่วง ทำให้พวกเธอเริ่มคลายความกังวลลง
แต่เหตุผลที่ทำให้ทั้งสองมารวมตัวกันเพื่อหารือถึงเรื่องนี้ ก็เพราะโรเอลกับผู้หญิงคนนั้นหายตัวไปเป็นเวลาหนึ่งคืนเต็ม ๆ นั่นเอง
“เวลาคืนเดียวก็น่าจะมากเกินพอแล้วสำหรับสองคนนั้น ที่จะไล่ตามกับจับกุมพวกลัทธิชั่วร้าย หรือพวกเขาเจอปัญหาอะไรรึเปล่า ?”
“แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่จะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน นอกจากนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สนใจผู้ชายด้วย”
“ใช่ เจ้าพูดถูก”
สตรีทั้งสองครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ของลิเลียนแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก บรรยากาศคลายลงเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มอันสง่างามที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเธอ
ทั้งสองรู้จักนิสัยของโรเอลเป็นอย่างดี พวกเธอจึงไม่กังวลว่าเขาจะเข้าใกล้อีกฝ่ายมากเกินความจำเป็น ส่วนใหญ่แล้ว ที่น่าเป็นห่วงน่าจะเป็นอีกฝ่ายเสียมากกว่า โชคดีที่ลิเลียนไม่มีทีท่าว่าจะเข้าหาโรเอล ดังนั้นตอนนี้มันจึงยังไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ลิเลียนมีชื่อเรื่องความเย็นชาและห่างเหิน ระดับที่ว่าเธอนั้นไม่เคยเต้นรำกับผู้ชายมาก่อนทั้ง ๆ ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงอยู่เสมอ ผู้หญิงแบบนั้นจะพยายามล่อลวงโรเอลงั้นเหรอ ?
ริมฝีปากของพวกเธอโค้งขึ้น เพราะคำตอบนั้นชัดเจนมาก
หึ นั่นมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ทว่าสัญชาตญาณของผู้หญิง… หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เด็กสาวทั้งสองเคยประสบนั้น ได้บอกพวกเธอว่าจงอย่าได้มองข้ามประเด็นนี้จนเกินไป ในไม่ช้าชาร์ล็อตก็นึกถึงบางอย่างที่ทำให้ร่างกายของเธอแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง
เดี๋ยวนะ รู้สึกจะคลับคล้ายคลับคลาสถานการณ์แบบนี้แปลก ๆ หรือว่าจะเป็น… สถานะผู้เฝ้ามอง !
“ลิเลียนสืบเชื้อสายมาจากตระกูลที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นเดียวกับพวกเรา มีความเป็นไปได้ไหมที่พลังทางสายเลือดของที่รักจะทำงานกับเธอ ?”
“เจ้ากำลังพูดถึงสถานะผู้เฝ้ามองสินะ ? นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ลองพิจารณาจากภูมิหลังของพวกเขาสิ…”
นอร่าครุ่นคิดกับคำถามของชาร์ล็อตก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ ชาร์ล็อตจึงค่อย ๆ สงบลงหลังจากที่ตื่นตระหนกในตอนแรก
นั่นมันก็จริง หากอิงจากสถานะผู้เฝ้ามองก่อนหน้านี้ ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่มีบรรพบุรุษของพวกเธอและบรรพบุรุษของตระกูลแอสคาร์ดเป็นตัวแปรหลัก ทำให้พวกเธอถูกลากเข้าสู่สถานะผู้เฝ้ามองไปพร้อมกับโรเอล
ตระกูลเซไซต์ของนอร่า และตระกูลโซโรฟยาของชาร์ล็อต เป็นตระกูลชนชั้นสูงที่ใกล้ชิดกับตระกูลแอสคาร์ด ในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ ทว่าลิเลียนนั้นต่างออกไป ตระกูลแอคเคอร์มันน์จะไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลแอสคาร์ดได้อย่างไรกัน ?
จักรวรรดิออสทีนและเขตการปกครองแอสคาร์ดอยู่ไกลจากกันมาก จนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลแอสคาร์ดจะเคยพบปะใด ๆ กับตระกูลแอคเคอร์มันน์ นับประสาอะไรกับการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยกัน
หากตระกูลทั้งสองจะมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ด้วยกัน ก็คงต้องย้อนกลับไปสู่ยุคที่สอง ก่อนที่มนุษยชาติจะอพยพมายังทางตะวันตกของทวีปเซีย ซึ่งต้องย้อนไปยังยุคของจักรวรรดิออสทีนโบราณ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความเป็นไปได้ทางทฤษฎีเท่านั้น
ในทางปฏิบัติแล้วมันก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้
นอร่าและชาร์ล็อตพลิกดูบันทึกทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับจักรวรรดิออสทีนโบราณ โดยดูรายชื่อตระกูลชั้นสูงมากมายที่มีอยู่ในยุคนั้น แต่พวกเธอกลับไม่พบอะไรเกี่ยวกับตระกูลแอสคาร์ดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหมายความว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่บรรพบุรุษของตระกูลแอสคาร์ดจะเกี่ยวข้องกับราชวงศ์แอคเคอร์มันน์ อันสูงส่ง
มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิออสทีนโบราณมาก่อน ที่จะเข้าใจได้ว่าตระกูลแอคเคอร์มันน์นั้นยิ่งใหญ่เพียงใดในยุคที่สอง พวกเขาเป็นตระกูลผู้ปกครองผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเพียงผู้เดียว ปกครองดินแดนอันกว้างใหญ่และเป็นกองกำลังนับไม่ถ้วน ถึงขนาดที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเดินทางจากเขตชายแดนไปยังเขตเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีเพียงขุนนางผู้สูงศักดิ์เท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติขอเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิได้
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ตระกูลแอสคาร์ดจะไม่เคยพบปะกับตระกูลแอคเคอร์มันน์มาก่อน
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ลิเลียน ไม่ได้เป็นภัยคุกคามของพวกเธอเลย !
หากไม่มีสถานะผู้เฝ้ามอง พวกเธอก็คิดไม่ถึงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ ผู้ชายที่มักจะเบือนหน้าหนีจากผู้หญิง และผู้หญิงที่ไม่สนใจในตัวผู้ชาย สองคนนี้เนี่ยนะจะนอนบนเตียงเดียวกันได้ !
ชาร์ล็อตถอนหายใจอย่างโล่งอก
วันนี้เธอตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษ เพื่อแทรกซึมเข้าไปในคฤหาสน์สีกรมท่าและวางแผนกะว่าจะมอบจูบยามเช้าให้กับโรเอล ทว่าเหตุการณ์นี้กลับทำลายแผนการของเธอจนป่นปี้
ที่รักคงจะรู้สึกเซื่องซึมที่พลาดจูบตอนเช้าของเรา สำหรับเติมพลังให้กับตัวเองตลอดทั้งวันสินะ เธอคิด
โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนทำภารกิจนั้นไปแล้ว
ขณะเดียวกันนอร่าเองก็กำลังใคร่ครวญถึงเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
“เพราะพวกเราไร้ความสามารถ โรเอลจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากต้องร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนนั้นเพื่อรจัดการกับลัทธิที่ชั่วร้าย”
นอร่ากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นมีทั้งพรสวรรค์และทักษะอันน่ากลัว โชคดีที่สถานการณ์ทางการเมืองยังคงมีเสถียรภาพในขณะนี้ ไม่อย่างนั้นไม่แน่พวกเราอาจจะต้องปะทะกับเธอก็ได้”
ชาร์ล็อตพูด
เด็กสาวทั้งสองคนมองหน้ากันพร้อมถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การปรากฏตัวของลิเลียนสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อเด็กสาวทั้งสอง แต่ดูเหมือนว่าคงจะไม่มีการเผชิญหน้าใด ๆ ระหว่างพวกธอเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ต้องกังวลอะไร
“ยังไงซะ เธอก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับพวกเรานี่นา”
พวกเธอยิ้มให้กันพร้อมกับตัดสินใจให้อภัยเด็กหนุ่มที่หายตัวไป