ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 340: ลักพาตัวอีกแล้วเหรอ?
บทที่ 340: ลักพาตัวอีกแล้วเหรอ?
จักรวรรดิออสทีนเป็นอาณาจักรที่มีแนวคิดแบบอนุรักษนิยม ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองหรือชนชั้นสูง ทั้งทางแง่คติความคิดหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
ประชาชนทุกคนต่างปรารถนาความเจริญรุ่งเรืองของจักรวรรดิออสทีนโบราณที่ล่มสลายไปแล้ว ทำให้พวกเขาให้ความสำคัญกับโบราณวัตถุและขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่เป็นอย่างสูง ยกตัวอย่างเช่น ชุดยาวฟุ่มเฟือยที่สตรีสูงศักดิ์สวมใส่ในงานเลี้ยง แม้ว่าการเต้นที่เรียบง่ายในปัจจุบันของพวกเขาจะไม่สามารถทำให้ชุดพลิ้วไหวอย่างสง่างามได้เหมือนกับในยุคอดีต แต่ชุดเหล่านี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเสื้อผ้ากระแสหลักตลอดช่วงสองสามศตวรรษที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ชาย หญิงด้วย
ผู้ที่มีความรอบรู้ในประเพณีของจักรวรรดิออสทีน ย่อมทราบถึงความสำคัญของการที่ผู้ชายและผู้หญิงใช้เตียงนอนร่วมกันดี เพราะมันเป็นดั่งคำปฏิญาณ ที่ว่าจะจงรักภักดีต่อกัน ให้สัญญาว่าจะแต่งงานกับอีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่ใครอื่น
“เมื่อคืนนี้พวกเรานอนเตียงเดียวกันน่ะ”
“!”
คำพูดเหล่านั้นมาพร้อมกับลมหายใจอุ่น ๆ ที่สัมผัสมาที่หูของโรเอล พร้อมกับใบหน้าที่สวยงามซึ่งอยู่ใกล้เกินกว่าจะมองเห็นได้ เด็กชายรีบปิดหูของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ พร้อมรีบถอยห่างออกห่างด้วยความลนลานในทันที
นอนเตียงเดียวกัน ? ทำไมล่ะ ?
เราอยู่ในสภาพที่ไม่ดีงั้นเหรอ ? หรือว่า…
คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของโรเอลจนหัวใจของเขาเต้นระรัว และเนื่องจากอารมณ์ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างกะทันหัน …ทำให้แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเต็มที่ ถึงความรู้สึกที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เด็กชายรู้สึกกังวลและสับสน แต่ในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นและคาดหวัง
สถานะความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างพวกเขานั้นยุ่งเหยิงมาก มันเต็มไปด้วยความขัดแย้งและองค์ประกอบที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ถึงอย่างนั้นโรเอลก็พบว่าตัวเองจมลึกลงไปเรื่อย ๆ
หัวใจของโรเอลเต้นเร็วขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว ลมหายใจของเขาขาด ๆ หาย ๆ ไปบางชั่ว ข้อสงสัยมากมายครอบงำสมองของเขาอย่างรวดเร็ว
รุ่นพี่หวังว่าจะมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับเรารึเปล่านะ ?
โรเอลแตะหน้าอกตัวเองเพื่อสัมผัสถึงความรู้สึกอันแสบร้อนที่ตนกำลังประสบอยู่ลึก ๆ เขากะพริบตาอย่างลังเลก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นถามในที่สุด
“มันเป็นเพราะผมอาการทรุดลงเมื่อคืนงั้นเหรอครับ ?”
“…นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผล”
ลิเลียนตอบ
ดูเหมือนเธอเองก็รู้สึกเขินอายกับเรื่องนี้เช่นกัน เด็กสาวจึงหันหน้าหนีและเอาผมไปซุกหลังใบหู เผยให้เห็นแก้มและลำคอที่แดงก่ำ ซึ่งดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษในตอนนี้
“เมื่อคืนนี้อากาศหนาวมาก การสูญเสียพลังเหนือธรรมชาติของทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอลงมาก และส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายของเธอลดลงอย่างรวดเร็ว ฉ…ฉันเลยตั้งใจจะกอดเธอนอน เพื่อให้ร่างกายของเธออบอุ่น ตอนนั้นเองที่ฉันถอดเสื้อผ้าของฉัน…”
“อ…อา ?”
โรเอลเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด ดวงตาของเขาพุ่งไปที่เสื้อผ้าที่กองอยู่ข้างเตียง
เมื่อคืนนี้รุ่นพี่ถอดเสื้อผ้ากอดเราตอนนอนงั้นเหรอ ?
ข้อสรุปอันไม่น่าเชื่อนี้ทำให้โรเอลเพ่งมองไปที่ลิเลียน ราวกับว่าสมองของเขาหยุดประมวลผลจากข้อมูลที่มากเกินไป เมื่อเห็นสิ่งนี้ลิเลียนก็พูดอธิบายอย่างรวดเร็ว
“แต่… ฉันคิดว่าเธออาจจะเกลียดฉันได้ ถ้าฉันทำเรื่องแบบนั้นโดยไม่ขออนุญาตก่อน ดังนั้นฉันจึงนอนข้าง ๆ เธอเพียงแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น…”
“ผมจะเกลียดคุณลงได้ยังไง ? …แล้วถ้าผมตื่นขึ้นมากลางดึกล่ะ ?”
ลิเลียนเงียบไปพักใหญ่ ๆ หลังจากได้ยินคำถามของโรเอล ดูเหมือนไม่แน่ใจว่าควรจะตอบกลับอย่างไร ท้ายที่สุดเธอก็กัดริมฝีปากและพึมพำคำตอบออกมาเบา ๆ
“… ถ้าเป็นเธอ ก็ไม่เป็นไรหรอก”
“!”
คำสารภาพอันละเอียดอ่อนนี้เป็นแรงผลักดันสุดท้ายที่ทำให้หัวของโรเอลร้อนจัด จิตใจของเขาว่างเปล่า เช่นเดียวกับลมหายใจของเขาที่เข้าสู่ความระส่ำระสาย ทั้งสองมองสบตากันอย่างไร้คำพูด เป็นช่วงเวลาครู่หนึ่งทีเดียวที่พวกเขารู้สึกเหมือนเสียงเดียวที่หลงเหลือบนในโลกนี้คือเสียงหัวใจของพวกเขา
“ผ…ผมขอไปล้างหน้าก่อนนะครับ !”
โรเอลทนความร้อนรนนี้ไม่ไหว เขาจึงหนีเข้าห้องน้ำด้วยความลนลาน เด็กชายกังวลมากจนปิดประตูไม่สนิท ลิเลียนจ้องเขม็งไปที่รอยแง้มของประตูเป็นเวลานาน ก่อนที่จะทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง
ลิเลียนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ แตะที่แก้มอันรุ่นร้อนของตน พยายามที่จะปิดบังอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็วและตั้งสติ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ เด็กสาวยังคงดิ้นและสะอื้นจากความอับอายในสิ่งที่เธอเพิ่งทำลงไป
นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว ! คนอื่น ๆ กล้าทำเรื่องแบบนี้กันได้ยังไง … แต่อย่างน้อย ๆ ระยะห่างระหว่างพวกเราก็น่าจะลดลงแล้ว
เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาก่อนหน้านี้ของโรเอล หัวใจที่เต้นแรงของลิเลียนก็สงบลงเล็กน้อย
คำพูดก่อนหน้านี้ของลิเลียนดูเหมือนว่าจะได้ผลดีกว่าที่เธอคาดไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งก่อน ๆ ระหว่างพวกเขา ส่งผลต่อวิธีที่พวกเขามองกันและกันมาก แต่ดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด
ต้องยกความดีความชอบให้บรรพบุรุษของพวกเขาเมื่อสามร้อยปีก่อน โรเอลแตกต่างจากลิเลียนที่ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจแปลก ๆ ตั้งแต่แรก ดังนั้นแรงจูงใจของเขาในการเข้าหาเธอจึงไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เธอคิด เขาถูกลากไปตามเส้นทางของพี่น้องในทีแรกก็จริง แต่บรรพบุรุษอายุพันปีอีกคนก็ได้ดันขาเข้ามาและเตะเขาออกไป
การแทรกแซงเหล่านี้นำไปสู่มุมมองของโรเอลเกี่ยวกับลิเลียน ที่ไม่ได้มองเธอในฐานะพี่สาวเพียงอย่างเดียวอย่างที่เธอคิด ซึ่งหมายความว่าลิเลียนสามารถผลักดันแผนของเธอต่อไปได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังต้องทำให้แน่ใจว่าได้ดำเนินการไปทีละขั้นตอนอย่างช้า ๆ เพื่อไม่ให้มันมากจนเกินไป
หลังจากพักผ่อนสักครู่ ในที่สุดลิเลียนและโรเอลก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง บรรยากาศระหว่างพวกเขาเงียบกว่าปกติ นอกจากนี้ดูเหมือนพวกเขาจะสบตากันไม่ติด แต่อย่างน้อย ๆ ความอับอายก็ลงลดมากเพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาพูดคุยสื่อสารกันได้
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหนีตามกันออกมาได้ แต่มันก็คงจะไม่ดีแน่ ถ้าหากทั้งคู่เดินทางเตริดเตร่ไปมาอย่างไร้จุดหมาย
“รุ่นพี่ ถ้าพวกเราอยากจะหลบเลี่ยงผู้อื่น พวกเราควรจะเข้าไปซ่อนตัวในป่า หรือหาที่หลบภัยบนเกาะเล็ก ๆ ดีไหมครับ ?” โรเอลเสนอ
อย่างไรก็ตามลิเลียนส่ายหัวและปฏิเสธคำแนะนำของเขา
“การหาที่หลบภัยในสถานที่อันห่างไกลอาจจะเป็นเรื่องดีก็จริง แต่มันก็มาพร้อมกับจุดอ่อน ที่จะถูกตามตัวได้ง่าย ๆ ด้วยคาถาเวทย์ทำนายดวงชะตา นอกจากนี้ต่างจากในเมืองที่แออัด สถานที่พวกนั้นสามารถถูกศัตรูของพวกเราเข้าล้อมกรอบ และตามล่าพวกเราได้”
“ใช่ นั่นดูเป็นปัญหาจริง ๆ ด้วย”
โรเอลพยักหน้าเห็นด้วยกับจุดที่ลิเลียนกล่าว
คาถาเวทย์ทำนายมีอัตราความสำเร็จและความแม่นยำต่ำมากก็จริง แต่มันก็มาพร้อมกับจุดแข็งที่ว่ามันแทบจะไม่มีวิธีใดที่จะตอบโต้หรือป้องกันพวกมันได้เลย
โชคดีที่โรเอลไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคาถาเวทย์ทำนาย เพราะคนที่พยายามจะตามหาตัวเขาจะต้องพบกับโครงกระดูกยักษ์หรือเทพงูขนาดมหึมา ซึ่งต่อให้รอดพ้นจากสองคนนั้นได้ พวกเขาเหล่านั้นก็คงไม่มีทางได้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับโรเอลกลับไป
ทว่าตอนนี้เนื่องจากเขาสูญเสียพลังเหนือธรรมชาติ โรเอลจึงไม่มีความคุ้มครองแบบนั้นคอยปกป้องอีกต่อไป
สถานที่ห่างไกลมาพร้อมกับข้อได้เปรียบในการหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คน แต่ถ้าหากมีคนทำนายตำแหน่งของพวกเขาได้สำเร็จ พวกเขาก็จะถูกล้อมและกำจัดลงอย่างรวดเร็ว มันจึงเป็นไปได้ทั้งสถานที่อันปลอดภัยโดยสมบูรณ์ หรือไม่ก็อาจจะเป็นสถานที่ซึ่งนำมาสู่วิกฤตครั้งใหญ่ !
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราลี้ภัยไปซ่อนในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านน่าจะดีกว่าสินะครับ อย่างน้อย ๆ พวกเราก็สามารถหลบเข้าไปกลมกลืนกับฝูงชน และทำให้คนอื่นหาตัวพวกเราได้ยาก ว่าแต่พวกเราจะไปที่ไหนกันดีล่ะ…”
โรเอลกอดอกและเริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ กลับกันแล้วริมฝีปากของลิเลียนนั้นขดขึ้น เธอเดินไปหาโรเอลแล้วกอดเขาจากด้านหลัง พร้อมเสนอคำแนะนำของเธอ
“สนใจจะไปแดนเหนือกับฉันไหมล่ะ ?”