ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 348: พวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แน่นอน
บทที่ 348: พวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แน่นอน
บนชั้นสามของโรงแรมเซนต์ฟิล โรเอลเดินข้ามห้องอันหรูหราฟุ่มเฟือย ชวนให้นึกถึงห้องชุดของประธานาธิบดีในอดีตชาติของเขา และมุ่งหน้าไปที่หน้าต่าง เด็กชายมองไปยังฝูงชนที่พลุกพล่านด้านล่างและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากผ่านความยากลำบากมาทั้งหมด ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแดนเหนือ อย่างน้อย ๆ ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ เขาก็น่าจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกักขังตัวเองในราชรถของคนบาปอีก
มันคงเป็นเรื่องโกหกถ้าโรเอลจะบอกว่าเขาไม่ดีใจ ในการได้รับอิสรภาพอันเล็กน้อยนี้กลับคืนมา ระหว่างการเดินทางมาที่นี่ สิ่งที่โรเอลเห็นภายนอกรถม้ามีเพียงดินแดนอันแห้งแล้ง ที่เพิ่งเริ่มละลายจากน้ำแข็งของฤดูหนาว ถึงแม้พวกเขาจะหยุดพักที่เมืองอื่น ๆ บ้าง แต่ด้วยความกังวลว่าจะกลายเป็นจุดเด่นโดยไม่จำเป็น เขาจึงต้องกักขังตัวเองอยู่ภายในรถม้า
การที่ต้องใช้เวลาหลายวันในพื้นที่ที่จำกัด ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและความเครียดทางจิตใจอย่างมากในตัวโรเอล
เด็กชายเดินไปที่ระเบียง เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาของเมือง วงโยธวาทิตผ่านไปตามถนนใต้ระเบียงที่เขาเปิดอยู่ พร้อมท่วงทำนองอันสนุกสนานที่บรรเลงดังก้องอยู่บนถนน ทำให้ฝูงชนที่ตื่นเต้นต่างโห่ร้องเสียงดังไปกับการแสดงอันยอดเยี่ยม
มีผู้คนมากมายยืนอยู่บนระเบียงทั้งสองข้างของขอบถนน เพลิดเพลินกับบรรยากาศอันรื่นเริงนี้
โรเอลอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับความพลุกพล่านของฝูงชน เขานึกถึงวันขึ้นปีใหม่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ลอเรนเมื่อสองสามปีก่อนหน้า ช่วงเวลาก่อนที่เขาจะกลายเป็นตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองแอสคาร์ด สมัยนั้นสิ่งต่าง ๆ นั้นเรียบง่ายมาก ๆ โรเอลไม่เคยต้องกังวลเรื่องการสร้างเครือข่ายสังคม หรือการเข้าสังคมใด ๆ
ในฐานะตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองแอสคาร์ด โรเอลมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่สำหรับเขตการปกครองแอสคาร์ด และด้วยงานจำนวนมหาศาลที่เขาต้องรับผิดชอบนั้น ทำให้แทบไม่ได้เพลิดเพลินกับงานเฉลิมฉลองด้วยตัวเองเลย เรียกได้ว่า ผ่านมานานมากแล้วจริง ๆ ที่โรเอลไม่ได้พักผ่อน หรือมีวันหยุดพักร้อนโดยที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องงาน
แม้โรเอลจะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกลัทธิชั่วร้ายจะมาถึงเมืองนี้ แต่อย่างน้อย ๆ ในตอนนี้ เขาต้องการเพลิดเพลินกับโอกาสที่ได้รับ
การจัดงานเฉลิมฉลองขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งเมือง การให้รางวัลแก่ทหารยามที่ปฏิบัติหน้าที่ หรือการเตรียมการด้านการขนส่ง ทั้งหมดนี้ต่างก็มีค่าใช้จ่ายมหาศาล หากพวกเขาไม่ควบคุมงบประมาณอย่างเข้มงวด ก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจประสบปัญหาทางการเงินในปีต่อไป
เขตการปกครองแอสคาร์ดนั้นยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทำให้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อรักษาอัตราการเติบโตเอาไว้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวโรเอลจึงจัดสรรงบขั้นต่ำสำหรับเทศกาลในช่วงสองปีแรกในฐานะตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองแอสคาร์ด แต่หลังจากที่เขาได้พบกับคุณหนูเศรษฐีคนหนึ่ง และได้ร่วมมือกับตระกูลโซโรฟยา สิ่งต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป
ยกตัวอย่างเช่นในปีนี้ เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองของเขตการปกครองแอสคาร์ด ชาร์ล็อตจึงตัดสินใจที่จะทุ่มสุดตัว ออกแจกจ่ายขนมทั่วเขตการปกครองแอสคาร์ดในวันปีใหม่
ขนมไม่ใช่สินค้าราคาถูกในยุคนี้ การแจกขนมจึงไม่ต่างอะไรไปจากการแจกเหรียญทอง แน่นอนว่าเงินเป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวโซโรฟยาไม่มีวันขาดดุล และนักธุรกิจหญิงที่เฉลียวฉลาดอย่างชาร์ล็อตเองก็คงจะไม่ใช้เงินของเธออย่างสิ้นเปลืองโดยไม่มีเหตุผลแน่
ชาร์ล็อตได้กระจายข่าวออกไปว่า หากเธอได้แต่งงานกับโรเอล เธอจะจัดกิจกรรมดังกล่าวทุก ๆ ปี ทำให้อลิเซียโกรธจัดเมื่อได้ยินเรื่องนี้จนเกือบเป็นลมในที่เกิดเหตุ
เมื่อหวนคิดถึงเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับชาร์ล็อต ใบหน้าของโรเอลพลันเผยรอยยิ้มอันโหยหาออกมา
ขณะที่โรเอลครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ ในใจ ลมกระโชกแรงก็พัดเข้ามาทำให้ผมของเขากระจัดกระจายไปทั่ว ร่างกายของเด็กหนุ่มสั่นสะท้านกับอากาศที่หนาวเย็น อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมามีเสื้อคลุม คลุมลงมาบนเสื้อผ้าของเขา พร้อมกับอ้อมแขนอันอบอุ่น
“เธอควรจะระมัดระวังให้มากกว่านี้นะ มันไม่เหมาะสำหรับเธอเท่าไหร่ที่จะแต่งตัวด้วยชุดบาง ๆ ในสภาพนี้ ”
“ขอบคุณครับรุ่นพี่”
โรเอลหันกลับมาและยิ้มให้ลิเลียน มันเป็นรอยยิ้มอันอบอุ่นและสวยงามจนทำให้หัวใจของลิเลียนเต้นแรง บังคับให้เธอกระชับแขนของตัวเองรอบตัวเขา
ท่าทางที่แสดงถึงความรักใคร่ของพวกเขาดึงดูดความสนใจของผู้ที่อยู่ในระเบียงใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว พวกเขาส่งเสียงผิวปากเสียงดังเพื่อสนับสนุนทั้งคู่ อย่างไรก็ตามความโกลาหลนี้ได้ดึงดูดความสนใจของเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดง ซึ่งอาศัยอยู่ห้องข้างอย่างรวดเร็ว
“เสียงดังจังเลย เกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่นกันนะ ? อา นี่มัน…”
ชาร์ล็อตบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อหันดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่เธอเดินผ่านประตูระเบียง เด็กสาวก็พบเข้ากับร่างสองร่างที่โอบกอดบนระเบียงห้องข้าง ๆ ทำให้ฝีเท้าของเธอหยุดลง
สองคนนี้…
เด็กสาวมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง แต่การได้เห็นร่างทั้งสองโอบกอดก็ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ลงรอยกันในหัวใจของชาร์ล็อต เธอไม่สามารถหาจุดจับผิดได้ เด็กสาวจึงได้แต่ครุ่นคิดพลางขมวดคิ้วอย่างลึกล้ำ ทว่าเมื่อใบไม้สีเขียวลอยผ่านดวงตาของเธอ ในที่สุดเด็กสาวก็ตระหนักได้ !
“อา ! เสื้อผ้าพวกนั้น เป็นสไตล์การแต่งตัวของเมืองเลนสเตอร์ พวกเขาต้องเป็นขุนนางจากอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล กับสาวใช้ส่วนตัวแน่ ๆ”
ช่างเป็นการผสมผสานที่หายากอะไรเช่นนี้… แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรักกันมากเลย
ชาร์ล็อตรู้สึกอิจฉาความใกล้ชิดของพวกเขาเล็กน้อย ซึ่งทำให้เธอนึกถึงโรเอลขึ้นมา
“ถ้าที่รักอยู่ที่นี่กับเราบ้างละก็”
ชาร์ล็อตกล่าวด้วยความเศร้าโศก
เธอมักจะชอบแสดงความรักในที่สาธารณะเพื่อสื่อให้คนอื่น ๆ รู้ว่า ‘นี่คือผู้ชายของฉัน’ มันจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่โรเอลถูกองค์หญิงชาวออสทีนที่ป่าเถื่อนคนนั้นลักพาตัวไป
ที่รักคงทนทุกข์ทรมานมากที่ต้องอยู่กับผู้หญิงป่าเถื่อนคนนั้นเป็นเวลานาน เขาคงจะดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อจะหลุดรอดจากความพยายามของผู้หญิงคนนั้นที่คอยบังคับเขาแน่
เราต้องช่วยเขาให้เร็วที่สุด !!
ชาร์ล็อตมองดูคู่รักที่โอบกอดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะกลับมาที่ห้อง ปิดประตูระเบียงด้านหลัง เธอเดินไปที่กลางห้อง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเริ่มใช้คาถาเวทย์ทำนาย โดยไม่รู้เลยว่าตนเองอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายที่กำลังมองหามากเพียงใด
ขณะเดียวกันคู่รักห้องข้าง ๆ ก็พอใจกับบรรยากาศงานรื่นเริง และมุ่งหน้าเข้าไปในห้องด้วยเช่นกัน
มันเป็นโลกแห่งความแตกต่างที่สร้างขึ้นโดยกำแพงอันเบาบางของการแยกจาก
…
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในห้อง 303
อาทิตย์ยามอัสดงสาดแสงสีส้มผ่านหน้าต่างกระจกมายังห้องพักที่ออกแบบอย่างวิจิตรงดงามสว่างไสว โดยที่กลางห้องนั้นมีสาวใช้กำลังนั่งอยู่บนพรมนุ่มคุณภาพสูง
“เด็กที่อยู่ห้องข้าง ๆ? ใช่ค่ะ ดิฉันเคยเจอพวกเขาแล้ว ท่านกำลังพูดถึงเด็กชายที่มากับสาวใช้ส่วนตัวใช่ไหมคะ ?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุประมาณเจ็ดถึงแปดขวบ ดิฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นบุตรของตระกูลพ่อค้าผู้มั่งคั่งในอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล แต่ก็มีข่าวลือว่าเขาเป็นบุตรของขุนนางชั้นสูง นอกจากนี้แล้วดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติจนน่าสังเกตเกี่ยวกับเขาเลยค่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
ข้าง ๆ ที่โต๊ะน้ำชา ชาร์ล็อตพยักหน้าเมื่อได้ยินรายงานของเกรซ เธอจิบชาอย่างสง่างามก่อนจะเหลือบมองยาบนโต๊ะ เด็กสาวหยิบมันขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำแล้วจึงรีบเก็บมันลงในกระเป๋า
คืนพรุ่งนี้พวกเขาจะช่วยโรเอลให้รอดพ้นจากเงื้อมมือขององค์หญิงออสทีนผู้ป่าเถื่อน แต่ด้วยที่มันเป็นคืนแห่งแสงออโรร่าที่เทพีเซียจะประทานพรให้กับคู่รัก ถ้าชาร์ล็อตช่วยโรเอลออกมาได้ มันก็น่าจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีบางสิ่งเกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของการกลับมาพบกันอีกครั้งของพวกเขา และบรรยากาศแห่งความรัก…
ยานี้อาจจะได้ใช้ในตอนนั้นก็ได้ !!
เกรซมองไปที่ชาร์ล็อตผู้กำลังแตะกระเป๋าด้านหน้าของตนด้วยรอยยิ้ม ในฐานะสาวใช้ส่วนตัวของชาร์ล็อต เธอได้เห็นการเดินทางอันเต็มไปด้วยความรักระหว่างทั้งสองคน และสนับสนุนการตัดสินใจของนายหญิงอย่างเต็มที่ เธอแม้กระทั่งเริ่มวางแผนการให้การศึกษาของลูกในอนาคตของชาร์ล็อตแล้วด้วยซ้ำ !
นายหญิงโปรดทำในสิ่งที่ใจต้องการ และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของเราเถอะค่ะ !
ตอนบ่ายชาร์ล็อตได้พยายามทำนายตำแหน่งของโรเอล แต่ที่น่าแปลกก็คือเหรียญทองบนแผนที่มักจะกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมเสมอ เธอลองใช้คาถาทำนายดวงอื่น ๆ แต่ทั้งหมดก็สะท้อนให้เห็นว่าโรเอลอยู่ใกล้ ๆ เธอ
ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของชาร์ล็อตคือตอนนี้โรเอลอาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกันกับเธอ โดยที่ไม่มีความลังเลใด ๆ เด็กสาวสั่งให้ค้นหาผู้พักอาศัยในโรงแรมอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทว่าหลังจากการสืบสวนอย่างลับ ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงและความโกลาหลเล็กน้อยจากการจับกุมบุคคลต้องสงสัยสองคน ผลลัพธ์กลับเป็นไปในทางลบ
เรื่องนี้ทำให้ชาร์ล็อตสับสน คาถาเวทย์ทำนายดวงของเธอได้รับการเสริมพลังจากความสามารถทางสายเลือด ทำให้อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา และเทพีแห่งโชคชะตา มีอัตราความแม่นยำที่สูงจนไม่น่าเชื่อ มันจึงเป็นเรื่องยากที่คาถาเวทย์ของเธอจะล้มเหลว
“เป็นไปได้ไหมว่าการคาถาเวทย์ทำนายของเราถูกขัดโดยคาถาเวทย์ปิดบังโชคชะตาหรืออุปกรณ์เวทย์ ?”
ชาร์ล็อตพึมพำ
ด้วยที่ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์นี้ได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่สรุปว่าคาถาเวทย์ทำนายดวงของตนล้มเหลว นอกจากนี้สิ่งที่แสดงออกมายังบอกว่า โรเอลอยู่ใกล้กับเธอด้วยบริบทของ ‘เวลาแห่งการรวมตัว’ แทนที่จะเป็น ‘ความใกล้ชิดทางกายภาพ’
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องรอจนถึงพรุ่งนี้จริง ๆ สินะ เพื่อจะได้รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร”
“นายหญิง ฝ่าบาทนอร่าได้ส่งข้อความมาเตือนทางเราว่าอย่าก่อความโกลาหลมากไปกว่านี้ เธอกังวลว่าการกระทำของเราอาจทำให้ศัตรูตื่นตระหนกได้ค่ะ”
“ชิ ! บอกเธอว่าฉันได้รับข้อความจากเธอแล้ว”
ชาร์ล็อตรู้ว่ามันอาจจะซับซ้อนขึ้นได้ ถ้าลิเลียนรู้ว่าพวกเธออยู่ในเมืองด้วยเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ ด้วยความหงุดหงิดเด็กสาวลุกขึ้นยืนและออกไปเดินเล่น เพื่อทำให้อารมณ์เย็นลงเล็กน้อย
แต่แล้วฟันเฟืองแห่งโชคชะตาก็ได้เริ่มหมุนอีกครั้ง
ณ ห้อง 302 ที่อยู่ใกล้ ๆ โรเอลได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เขานั่งอยู่หน้ากระจกในขณะที่ลิเลียนกำลังยุ่งอยู่กับการมัดผมยาวของเด็กชาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีรอยยิ้มแห่งการคาดหวังอยู่บนใบหน้าของเขา
ในฐานะนักชิม โรเอลมักจะมีความคาดหวังสูงเกี่ยวกับเรื่องอาหาร และอาหารที่เขากินมาตลอดการเดินทางกว่าครึ่งเดือนล้วนต่ำกว่ามาตรฐานของเด็กชาย โดยพื้นฐานแล้วพวกมันเป็นอาหารรสจืดที่มีจุดประสงค์เพียงเพื่อเติมให้ท้องอิ่มเท่านั้น ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาต้องการจะทำเมื่อกลับสู่เขตตัวเมืองแห่งอารยธรรมก็คือการสนองต่อมรับรสของตัวเอง
“คืนแห่งแสงออโรร่าคือวันพรุ่งนี้ สำหรับวันนี้พวกเรามาลองชิมอาหารขึ้นชื่อของแดนเหนือกันดีไหม ?”
“นั่นเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมเลยครับ ถ้าผมจำไม่ผิด เขตการปกครองของดยุกเอิร์ลโบรวล์ ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อแมวน้ำ ผมอยากรู้จริง ๆ ว่ารสชาติของมันจะเป็นยังไง…”
โรเอลลูบกรามล่างของเขาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่แปลก ๆ แสดงออกมาจากร่างเด็กน้อย มันดูน่าสนใจมากเสียจนทำให้ลิเลียนหัวเราะออกมา
ไม่กี่นาทีต่อมา ลิเลียนก็วางหวีของเธอลง และโรเอลก็เตรียมการอย่างสุดท้ายเสร็จสิ้น มือของพวกเขากุมกันเหมือนกับคู่รัก ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มออกจากห้องไปด้วยกัน
“อาหารในแดนเหนือมักจะมีน้ำมันเยอะ ถ้ามันไม่ถูกใจเธอ อย่างอื่นก็มีให้เลือกนะ”
“ผมรับได้กับทุกอย่าง อะไรก็ได้ที่รุ่นพี่เลือกเลยครับ”
“ฉันมีความสุขที่เธอเคารพความคิดเห็นของฉันนะ แต่เธอก็ไม่ควรลืมเกี่ยวกับตัวตนในปัจจุบันของพวกเรา”
“ครับ ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่หลุดทำตัวพิรุธต่อหน้าคนอื่น ๆ แน่”
โรเอลตอบรับคำเตือนของลิเลียนด้วยรอยยิ้มแล้วบิดลูกบิดประตู ทว่าสิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นด้านนอกคือเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่เพิ่งเดินผ่านทางเดินไป