ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 392: ใครคือพ่อของคุณ (1)
บทที่ 392: ใครคือพ่อของคุณ (1)
“เหล่านักรบผู้กล้า ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะต้องต่อสู้เพื่อความฝัน!”
ควบคู่ไปกับการประกาศอันเร้าใจของแอนโตนิโอ ดนตรีอันโอ่อ่าเริ่มบรรเลงในสนามประลองของเลนสเตอร์ ริบบิ้นเต้นรำไปในอากาศขณะที่นกพิราบสีขาวบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ เสียงเชียร์ดังก้องจากผู้ชมพร้อมเสียงปรบมือ
หลังจากเตรียมตัวมาครึ่งปี ในที่สุดศึกชิงถ้วยที่ทุกคนรอคอยมาอย่างยาวนานก็ได้เริ่มขึ้นในวันนี้ จำนวนผู้เข้าร่วมและผู้ชมในงานประลองครั้งนี้เรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติชั้นนำของมนุษยชาติจำนวนมากต่างจับตามองมาที่นี่ ข้อยกเว้นพิเศษที่อนุญาตให้นักเรียนชั้นปีที่ 1 เข้าร่วมงานประลองทำให้งานมีชีวิตชีวาขึ้นมากจริง ๆ
ณ บริเวณที่นั่งผู้ชม เหล่านักเรียนจากสถานศึกษาต่าง ๆ ล้วนโบกธงของตนอย่างภาคภูมิใจเพื่อสนับสนุนเพื่อนร่วมชั้น
ข้างในใจกลางของสนามประลอง โรเอลและผู้เข้าร่วมงานประลองอีกหมื่นคนแทบจะไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของตนเองเอาไว้ได้ พวกเขามองไปยังเวทีข้างหน้าด้วยลมหายใจสั้น ๆ เฝ้ารอการจัดสรรสนามแข่งสำหรับรอบคัดเลือก
รอบคัดเลือกเป็นการแข่งแบบกลุ่มแบทเทิลรอยัลที่จะจัดขึ้นในสนามแข่งแตกต่างกันสิบสามแห่ง โดยรายชื่อในกลุ่มต่าง ๆ ได้รับการตัดสินไว้ล่วงหน้าแล้ว เหลือเพียงสนามแข่งในแต่ละกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน
บนเวที หัวหน้าฝ่ายวิชาการของเมืองเลนสเตอร์วางมือบนลูกบอลคริสตัล ทำให้ทิวทัศน์สะท้อนออกไปด้านนอก ทุกคนจ้องไปที่ทิวทัศน์ที่ฉายออกมาอย่างตั้งใจ เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของเหล่าผู้เข้าแข่งขันในกลุ่มต่าง ๆ
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทุกคนล้วนมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสถานที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการความสามารถของพวกเขา
ในประวัติศาสตร์ของงานประลอง ครั้งหนึ่งเคยมีกลุ่มหนึ่งที่ถูกจัดสรรให้ไปแข่งที่ผาทะเลสาบสูญ มีผู้เข้าร่วมงานประลองบางคนที่เชี่ยวชาญการทำสงครามทางน้ำเป็นพิเศษ ด้วยความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันตัวเต็งได้ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมากในตอนนั้น
ผู้เข้าแข่งขันตัวเต็งคือผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับความนิยมจากสาธารณชน และส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ที่ระดับแก่นแท้ 3 หรือมาจากตระกูลผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะเสมอไป มีตัวแปรมากมายในศึกชิงถ้วย นั่นก็เพราะสถานที่ประลองสามารถเปลี่ยนแปลงผลได้เสมอ
นอกเหนือจากสถานที่แล้ว การไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทของคาถาเวทและอุปกรณ์เวทเองก็สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากได้เช่นกัน อาจมีม้ามืดที่มีพลังทางสายเลือดหรือคาถาเวทพิเศษที่ทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้ได้เทียบเท่ากับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 3 ก็เป็นได้
ในการจัดอันดับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน อย่างไม่เป็นทางการโรเอลนั้นอยู่ในอันดับที่ 12 อันดับแรกคือลิเลียน และอันดับที่ 4 คือนอร่า อันดับของชาร์ล็อตอยู่อันดับที่ 13 ตามหลังโรเอลมาเล็กน้อย เนื่องจากการต่อสู้ของเธอเน้นไปที่การป้องกันตามธรรมชาติของตระกูลโซโรฟยา
ความจริงที่ว่าโรเอลไม่ได้อยู่ในสิบอันดับแรก แสดงให้เห็นว่าการจัดอันดับผู้เข้าแข่งขันที่วางไว้อย่างไม่เป็นทางการนั้น ผิดพลาดแค่ไหน และต่อให้มันแม่นยำแค่ไหน โรเอลก็ยังไม่เคยแสดงพลังที่แท้จริงออกมาอย่างเต็มที่ต่อหน้าสาธารณชนเลยสักครั้งจนถึงตอนนี้
“ต่อไปนี้จะเป็นการเลือกสนามแข่งขันสำหรับกลุ่มแรก”
“โอ้วววว!!!”
จังหวะที่หัวหน้าฝ่ายนักวิชาการของเมืองเลนสเตอร์ใส่พลังเวทในลูกบอลคริสตัล ทิวทัศน์ที่ฉายออกมาจากลูกบอลคริสตัลก็เริ่มเปลี่ยนไป
โรเอลคิดว่ามันคล้ายกันกับเครื่องสล็อตแมชชีนในอดีตชาติของเขามาก ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือความตื่นเต้นของฝูงชน นักพนันที่ทุ่มเงินในงานประลองนั้นตาแดงก่ำไม่ต่างจากนักพนันในเวกัสเลยสักนิด
ผู้เข้าแข่งขันกลุ่มแรกกระสับกระส่ายและตกประหม่า ขณะที่พวกเขาสวดอ้อนวอนอย่างหนักว่าสนามแข่งที่เลือกออกมาจะเอื้อประโยชน์ให้
ภายใต้บรรยากาศอันตึงเครียดนี้ ในที่สุดพลังเวทในลูกบอลคริสตัลก็หมดลง ทำให้ทิวทัศน์ที่ฉายหยุดนิ่งอยู่กับที่
“กลุ่มแรก บึงแห่งความวุ่นวาย!”
“ไชโย!!!”
“บึงแห่งความวุ่นวายเหรอ? บ้าจริง!”
“อึก ฉันไม่เคยไปที่หนองบึงแบบนั้นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ”
มีทั้งความสุขและความหงุดหงิดจากผู้เข้าแข่งขัน ผู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้ในที่ลุ่ม หรือในที่มืดต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ส่วนผู้ที่ไม่มีทักษะทั้งสองต่างก็วิตกอย่างเห็นได้ชัด
สถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปในกลุ่มอื่น ๆ ไม่ช้าก็ได้เวลาเลือกสนามแข่งสำหรับกลุ่มที่หก ซึ่งเป็นกลุ่มของโรเอล
“กลุ่มที่หก วัดแห่งความเงียบ!”
“อะไรกัน?! มีตั้งหลายที่ แล้วทำไมต้องเป็นขุมนรกนั่นด้วย!”
“โอ้เทพีเซีย ทำไมต้องเป็นวัดแห่งความเงียบด้วย!”
ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ในกลุ่มที่หกดูผิดหวังกับการเปิดเผยสนามแข่งของตัวเอง คนขี้ขลาดบางคนถึงกับคิดจะถอนตัวออกจากงานประลอง
โรเอลไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของพวกเขามากนักเนื่องจาก วัดแห่งความเงียบ เป็นที่รู้จักในเรื่องความน่ากลัว
วัดแห่งความเงียบเป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ที่ซึ่งวิญญาณร้ายอันน่าสะพรึงกลัวมากมายมารวมตัวกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือมันเป็นสถานที่ผีสิง
เนื่องจากมีโครงกระดูกอยู่ในทวีปเซีย จึงเป็นปกติที่จะมีวิญญาณร้ายด้วยเช่นกัน โอกาสที่วิญญาณร้ายจะปรากฏตัวในยุคที่สงบสุขนั้นต่ำมาก ไม่ต้องพูดถึงในยุคที่โบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างมีอยู่ทุกหนทุกแห่งแบบยุคนี้ เช่นเดียวกับเกม RPG ส่วนใหญ่ โบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างมีความชำนาญเป็นพิเศษในการจัดการกับภูตผีวิญญาณร้าย
ในช่วงสองสามศตวรรษที่ผ่านมามีสงครามภายในครั้งใหญ่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งในทวีปเซีย ดังนั้นมนุษย์ส่วนใหญ่จึงไม่เคยได้เห็นวิญญาณร้ายกับตามาก่อน จึงช่วยไม่ได้หากพวกเขาจะรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง
แต่สำหรับโรเอลแล้ว…
แค่นั้นเองเหรอ?
หลังจากเดินทางผ่านสนามรบโบราณมาหลายแห่งและภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัวมากมาย วัดแห่งความเงียบ ไม่ได้ต่างอะไรไปจากอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ประสบการณ์ทั้งหมดของเขาคงจะไร้ประโยชน์ถ้าถูกข่มขู่ด้วยอะไรเล็กน้อยแค่นี้ นอกจากนี้หากพูดถึงพวกอันเดธแล้วละก็…
…ตัวเขาเองนั้นมีเทพเจ้าอันเดธอยู่กับตัวอยู่แล้ว
ในไม่ช้าหลังจากที่ทุกกลุ่มถูกระบุสนามแข่ง เมื่อเตรียมการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานก็นำผู้เข้าแข่งขันนับหมื่นคนไปยังสนามแข่งของตัวเอง
…
ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่ไม่เคยมาที่อาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ที่มักจะคิดว่าสนามแข่งขันเป็นสถานที่จริงในอาณาเขตของอาณาจักร แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด
โบราณสถานเหล่านี้เป็นดั่งภาพลวงตาที่จับต้องได้ คล้ายกับแนวคิดเรื่องแมวของชโรดิงเงอร์ พวกมันมีอยู่จริง แต่ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นเช่นกัน
โรเอลตีความว่าโบราณสถานเหล่านี้เป็นสถานที่ที่คล้ายกับที่ราบของกรันด้า และหุบเขาของเปตรา ซึ่งเป็นมิติอื่นที่อยู่ระหว่างความฝันและความเป็นจริง
วัดแห่งความเงียบถูกลือกันว่าเป็นเศษซากของอารยธรรมโบราณ ที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากอารยธรรมใด กาลเวลาได้ทำลายข้อมูลที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดลง ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่สำหรับงานประลอง
ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยป่าทึบ ดวงจันทร์ถูกเมฆดำบดบังไว้ ทัศนวิสัยอันมืดมิดนี้ทำให้โรเอลถอนหายใจออกมาเบา ๆ นึกคร่ำครวญถึงอารยธรรมที่สาบสูญ เขาสีขาววาววับจากในบริเวณใกล้เคียง และเสียงกระซิบแว่ว ๆ ที่ไม่อาจเข้าใจได้จากทั่วทุกมุม
ป่าอันมืดมิดภายใต้ค่ำคืนอันไร้แสงจันทร์พร้อมกับสายตาสอดรู้สอดเห็นและความมุ่งร้ายที่คืบคลานเข้ามา ช่างเป็นสถานที่มาตรฐานสำหรับภาพยนตร์สยองขวัญจริง ๆ เพราะมันค่อนข้างน่ากลัว นอกจากนี้ยังมีเสียงร้องด้วยความกลัวดังขึ้นไม่ได้หยุดตั้งแต่เด็กหนุ่มเข้ามาในสนามแข่งนี้
“อย่าเข้ามานะ!”
“บ้าเอ๊ย ไอ้พวกนี้มันฆ่าไม่ตาย!”
เสียงร้องโหยหวน เสียงระเบิด และการปะทะกันของใบมีด ทั้งที่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าไปในสนามแข่ง สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นความโกลาหลไปเสียแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่โรเอลคาดไว้ เขาไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของผู้อื่นโดยไม่จำเป็น และแน่นอนว่าเขานั้นมีเพียงหนึ่งเป้าหมายในใจ …ทรงกลมสีเงินที่ตั้งอยู่กลางท้องฟ้าอันห่างไกล
เมื่อทรงกลมแห่งแสงนั้นตกลงบนพื้น มันจะปล่อยคริสตัลจำนวนหนึ่ง ซึ่งกำหนดโดยพิจารณาจากจำนวนผู้เข้าแข่งขันในกลุ่มนั้น ๆ เพื่อให้ผ่านเข้ารอบต่อไป ผู้เข้าแข่งขันจะต้องได้รับและครอบครองคริสตัลดังกล่าวไว้เป็นเวลาสิบนาที
รูปแบบงานประลองนี้ทำให้โรเอลนึกถึงแอร์ดร็อปจากจากเกมพับจีในอดีตชาติของตัวเอง บรรดาผู้ที่ไปถึงแอร์ดร็อปก่อนจะได้เปรียบในเกมนั้น ๆ
เช่นเดียวกับที่นี่ด้วย ใครก็ตามที่สามารถได้รับคริสตัลก่อนจะได้เปรียบเหนือผู้อื่น
สิบนาทีไม่ใช่ช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แม้มันจะไม่ได้นานพอที่จะทำให้ร่ายคาถาอะไรที่อลังการมาก ๆ ออกมาได้ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทดสอบทักษะของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องคริสตัลหรือแย่งชิงคริสตัลจากผู้เข้าแข่งขันรายอื่นล้วนต้องใช้ทักษะมากพอตัว
ฉะนั้นแล้ว กฎนี้ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว
แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีช่องโหว่อยู่เช่นกัน
หากมีความแตกต่างกันอย่างมากในความแข็งแกร่งของผู้เข้าแข่งขัน มันก็เป็นไปได้ที่คนคนดียวจะผูกขาดคริสตัลทั้งหมด และกำจัดคนอื่น ๆ ออก หรือ ผู้เข้าแข่งขันอาจจะชิงคริสตัลมาหลายชิ้นและแจกจ่ายให้กับพันธมิตรของเขา
พฤติกรรมดังกล่าวได้รับอนุญาตในงานประลอง โดยคณะกรรมการจัดงานให้เหตุผลว่าโชคและเส้นสายเองก็ถือเป็นจุดแข็งได้เช่นกัน
ฉันควรเริ่มจากหาคริสตัลของตัวเองก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ให้มั่นใจว่าฉันจะผ่านรอบคัดเลือกไปได้ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะสื่อสารกับเซลิน่าตามสถานการณ์อีกทีน่าจะดีกว่า
เด็กหนุ่มผมดำถอนหายใจเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลังจากการเจรจากับวิลเลียมล้มเหลวโรเอลก็ตั้งเป้าหมายที่จะเริ่มต้นการเจรจากับคนอื่น ๆ ที่เหลือจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ก่อน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะสื่อสารกันได้ง่าย ๆ เหมือนเทเรซา และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจุดอ่อนเหมือนบริตตานี่
เซลิน่าในการประลองรอบคัดเลือกเองก็เป็นเป้าหมายที่ทำให้โรเอลปวดหัวเช่นกัน
เธอเป็นทหารที่ไร้เหตุผล ค่อนข้างเอนไปทางพวกนักรบคลั่ง ดูไม่ใช่คนที่จะสื่อสารกันได้เลยด้วยซ้ำ นี่คือความประทับใจแรกของโรเอลที่มีต่อเซลิน่า ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดพวกเขาอาจจะต้องต่อสู้กัน
ความไม่แน่นอนนี้ทำให้โรเอลต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ