ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 396: การโจมตีที่ไม่คาดคิด
บทที่ 396: การโจมตีที่ไม่คาดคิด
สิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับศึกชิงถ้วย นั่นก็คือความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน ไม่น่าจะมีผู้เข้าแข่งขันคนใดที่สามารถโจมตีได้แรงเกินขีดจำกัดความเสียหายของอุปกรณ์เวททดแทนได้ในครั้งเดียว
เกณฑ์ความเสียหายไม่ได้หมายถึงการบาดเจ็บที่ผู้เข้าแข่งขันได้รับ แต่เป็นขอบเขตของการทำลายที่จำเป็นในการทำลายอุปกรณ์เวททดแทน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมลูกหลานของขุนนางและราชวงศ์ ยินดีเข้าร่วมงานประลองและผู้ชมก็สามารถชมการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวล สิ่งที่ผู้คนกังวลมากที่สุด คือสภาพอันน่าสงสารของผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออก
แม้แต่โรเอลก็ยังกังวลแค่ผลลัพธ์ของสมาชิกคนอื่น ๆ ในฝ่ายกุหลาบน้ำเงิน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อนและผู้ใต้บังคับบัญชาของตนอาจตกอยู่ในอันตราย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงตกใจมาก เมื่อได้ยินว่าพอลได้รับบาดเจ็บ
โรเอลให้สมาชิกของฝ่ายกุหลาบน้ำเงิน รีบพาเขาไปที่ที่พอลอยู่ โดยระหว่างทางเขาก็ได้ถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มีผู้ชมไม่มากที่ได้ดูการแข่งรอบคัดเลือก สนามแข่งนั้นกว้างมาก และมีผู้เข้าแข่งขันกว่าหมื่นคนต่อสู้พร้อม ๆ กัน มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะสามารถดูการแข่งทั้งหมดได้อย่างครอบคลุม มีเพียงการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเท่านั้นที่จะถูกดึงออกมา เพื่อทำให้ฝูงชนมีชีวิตชีวา
คราวนี้กลุ่มที่มีการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือกลุ่มที่สิบ
และคนเดียวที่โรเอลสนิทด้วยในกลุ่มที่สิบก็คือพอล
พอลยังอยู่ที่ระดับแก่นแท้ 5 ดังนั้นเขาจึงไม่โดดเด่นท่ามกลางผู้เข้าแข่งขัน อีกทั้งยังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้จริง ด้วยที่เป็นเพียงนักเรียนชั้นปีที่ 1
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ โรเอลจึงไม่คิดว่าพอลจะสามารถผ่านรอบคัดเลือกไปได้ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าตัวเองจะไม่รู้สึกกดดันในช่วงหลัง พอลเองก็เข้าร่วมงานประลองศึกชิงถ้วย ด้วยแนวคิดที่ว่า ‘กระบวนการต่างหากที่สำคัญ ไม่ใช่ผลลัพธ์’
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีคนตั้งเป้าไปที่พอล?
คนที่ทำร้ายพอลไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเคิร์ต หนึ่งในสามนักเรียนชายที่ย้ายมาจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวิน
เคิร์ต กุสตาฟ ทายาทของตระกูลมาร์ควิสกุสตาฟ เขามีผมสีน้ำตาล ร่างสูงตระหง่านและมีหน้าตาดูดีต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
นี่คือข้อมูลที่โรเอลมีเกี่ยวกับชายคนนั้นจนถึงตอนนี้
เคิร์ตไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษในกลุ่มนักเรียนที่ย้ายเข้ามา แต่บรรดาผู้ที่พบกับนักเรียนที่ย้ายจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ มักจะสังเกตเห็นเขาก่อนเนื่องจากรูปร่างที่สูงของเขา ทว่าในไม่ช้าความสนใจในตัวเขาก็จะถูกคนอื่น ๆ ที่โดดเด่นกว่าบดบัง ในบรรดานักเรียนที่ย้ายเข้ามา เขาค่อนข้างธรรมดากว่าคนอื่น ๆ
ทว่าคนธรรมดา ๆ คนนี้กลับกลายเป็นม้ามืดที่น่าประหลาดใจในรอบคัดเลือก และเป็นคนที่หยุดยั้งเส้นทางของพอลลง
สนามแข่งของกลุ่มที่สิบคือป่าสัตว์อสูรคลั่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นรังของสัตว์อสูรที่ดุร้าย การจู่โจมจากสัตว์อสูรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติที่นั่น ทำให้มันเป็นโบราณสถานที่อันตรายมาก ถึงกระนั้นแล้วพอลก็สามารถเอาตัวรอดได้อย่างสบาย ๆ ในสภาพแวดล้อมนั้น
พอลได้นำคุณลักษณะจากคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ‘อาณาจักร’ ของตระกูลแอคเคอร์มันน์มาใช้ มันเป็นคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดที่ตระกูลแอคเคอร์มันน์ทุ่มเทให้กับการผูกขาด ซึ่งมีอำนาจมหาศาล แต่บุคคลหนึ่งจะพัฒนาพลังนั้นไปไกลได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตนเอง
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสองคนที่มีคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดเดียวกันสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเข้าใจ คล้ายกับการที่ทุกคนได้รับการสอนหลักสูตรที่คล้ายคลึงกันในมหาวิทยาลัย แต่พวกเขากลับลงเอยด้วยการเขียนเอกสารวิทยานิพนธ์ที่แตกต่างกัน
ลิเลียนสามารถใช้ป้อมปราการทั้งสิบได้ ซึ่งตามเนื้อผ้าแล้วถือว่าเป็นจุดสูงสุดแบบหนึ่งของคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ‘อาณาจักร’ คาถาเวทนี้เป็นปาฏิหาริย์ที่สร้างขึ้นโดยความตั้งใจที่จะปกป้องประวัติศาสตร์อันยาวนานของจักรวรรดิออสทีนโบราณ เป็นเวลานานหลายศตวรรษแล้วที่ไม่มีใครสามารถควบคุมสิบป้อมปราการได้อย่างเต็มที่แบบเธอ
ในฐานะที่เป็นคนที่ทำไร่ไถนามาจนถึงปีที่แล้ว ความเข้าใจของพอลเกี่ยวกับคุณลักษณะของคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ‘อาณาจักร’ และประสบการณ์ทางโลกนั้น ย่อมอ่อนด้อยกว่าลิเลียน อย่างไรก็ตามด้วยความที่เขาเป็นตัวเอกของเกมอายออฟโครนิเคิล เขาเองก็มีสิ่งที่เขาเท่านั้นสามารถทำได้อยู่
ความเข้าใจของพอลเกี่ยวกับคุณลักษณะของคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิด ‘อาณาจักร’ นั้นง่ายมาก เขาคิดว่าร่างกายของตัวเองเป็นอาณาจักร เขาถือว่าการป้องกันตัวเองเทียบเท่ากับการปกป้องอาณาจักร ความคิดของเขาไม่สามารถพูดได้ว่ามันผิด เพราะมันยากเกินไปสำหรับเด็กกำพร้าที่ดิ้นรนเติบโตขึ้นมาในความยากลำบากที่จะคิดถึงโลกที่กว้างใหญ่เกินกว่าตัวเอง
การตีความคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดอาณาจักรของพอล ทำให้เขาสามารถเรียกอาวุธในตำนานของจักรวรรดิออสทีนโบราณออกมาได้
ด้วยความสามารถนี้ พอลสามารถหลบหนีออกมาจากป่าและเข้าไปในถ้ำที่มีคริสตัลอยู่ อย่างไรก็ตาม เคิร์ตได้มาดักรออยู่ที่นั่นเพื่อที่จะซุ่มโจมตีเขาก่อนเสียแล้ว
การระเบิดของพลังเวทเกิดขึ้น จากนั้นมือของเคิร์ตก็ขยายใหญ่ขนาดเท่ากับต้นไม้และกระแทกใส่พอล ทำให้ถ้ำพังลงมาพร้อม ๆ กัน
พอลจะไม่มีวันที่จะต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้แบบนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติแน่ แต่การจู่โจมของเคิร์ตทำให้เกิดความเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความวุ่นวาย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการขยายขนาดร่างกายบางส่วนของเคิร์ตเป็นคาถาเวทที่ทรงพลัง และเป้าหมายของเขามุ่งเป้าไปที่พอลเพียงคนเดียวอย่างชัดเจน เพียงแค่ว่าเขาล้มเหลวในการพิจารณาว่าคลื่นกระแทกอันทรงพลังของการโจมตีนั้นจะเข้าไปพัวพันกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงถ้ำ
เมื่อความก้าวร้าวซึ่งชี้นำโดยเจตนาของเคิร์ตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งออกไป พอลจึงฉวยโอกาสนี้เพื่อจุดไฟแห่งความขัดแย้ง เขากล่าวหาเสียงดังว่าเคิร์ตผูกขาดคริสตัลทั้งสิบ
นั่นทำให้ฝูงชนหันมาต่อต้านเคิร์ตทันที
ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ความโกลาหลจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ได้ปลุกให้เกิดการแตกตื่นของเหล่าสัตว์อสูรในป่า ส่งผลให้เกิดการต่อสู้สามด้านระหว่างเคิร์ต ผู้เข้าแข่งขัน และสัตว์อสูร
มันกลายเป็นความโกลาหลโดยสมบูรณ์
ผู้เข้าแข่งขันที่มาถึงทีหลังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว พวกเขาก็ถูกลากเข้าสู่การต่อสู้แล้ว และถูกบังคับให้ต่อสู้ด้วยกำลังและอาวุธทั้งหมดที่มีเพื่อเอาตัวรอด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พอลได้รับความเสียหายมากเกินไปและจบลงด้วยอาการบาดเจ็บ
ใบหน้าของโรเอลมืดครึ้มลงเมื่อได้ยินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มที่สิบ สมาชิกคนอื่น ๆ ของฝ่ายกุหลาบน้ำเงินเลือกที่จะเงียบเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวของเขา
พวกเขารีบไปที่ทางเข้าของป่าสัตว์อสูรคลั่ง ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ทั่วสนามแข่งขัน การสู้รบจะต้องเข้มข้นสุด ๆ ถึงจะส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายได้
ภายใต้การนำของสมาชิกคนอื่น ๆ ในไม่ช้า โรเอลและคนอื่น ๆ ก็พบพอล เขากำลังนอนอยู่บนเปลหามโดยมีคราบเลือดอยู่เต็มตัว ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แถมยังดูพึงพอใจแปลก ๆ
ทำไมเขาดูมีความสุขขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บกัน?
โรเอลผู้งุนงงเดินเข้ามาหาเขา เพียงเพื่อที่จะได้ยินข่าวที่ไม่คาดคิดอย่างรวดเร็ว
“ลูกพี่โรเอล ผู้ตัดสินงานประลองเพิ่งบอกผมว่า ผมจับคริสตัลได้ครบสิบนาทีก่อนที่อุปกรณ์เวททดแทนจะพัง ซึ่งหมายความว่าผมสามารถเข้าสู่รอบต่อไปได้แล้ว!”
“นายผ่านรอบคัดเลือกแล้วสินะ ?”
โรเอลประหลาดใจที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น
ปรากฏว่าพอลได้คริสตัลมาหนึ่งอันระหว่างการต่อสู้ และยึดมันมาได้สำเร็จเป็นเวลาสิบนาที ทว่าก่อนที่คริสตัลจะเคลื่อนย้ายเขาออกจากที่เกิดเหตุ พอลถูกพลังอันน่ากลัวของเคิร์ตโจมตี ซึ่งได้ทำลายอุปกรณ์เวททดแทนของพอลเองจนแหลกสิ้น และทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทันที
โรเอลแปลกใจมากที่พอลสามารถหลบเลี่ยงสถานการณ์อันยากลำบากและผ่านรอบคัดเลือกได้ ผลปรากฏว่าพอลเติบโตขึ้นมากนับตั้งแต่ที่ลงทะเบียนเข้ามาเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า
เด็กหนุ่มผมดำถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความดีใจที่พอลทำสำเร็จ เพราะเขารู้ดีว่าศึกชิงถ้วยมีความสำคัญต่ออีกฝ่ายมากเพียงใด
นี่เป็นโอกาสที่พอลจะได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้าเขาสามารถทำอะไรบางอย่างที่นี่ได้ สถานการณ์ของเขาจะดีขึ้นมาก มันคงไม่เพียงพอสำหรับลูกนอกสมรสอย่างเขาที่จะได้ขึ้นครองราชย์ แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็จะไม่ต้องโดนกดขี่อีก
มันไม่น่าเป็นไปได้ที่พอลจะคิดไปไกลขนาดนั้น แต่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง โรเอลก็อดไม่ได้ที่จะกังวลถึงเรื่องนี้ เขาจึงใช้เวลาค่อนข้างนานในการฝึกพอลให้พร้อมสำหรับงานประลอง
ใครจะไปคิดว่านักเรียนจากอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินจะมุ่งเป้ามาที่พอล และเกือบจะเป็นเหตุให้เขาถูกกำจัดออกไปจากงานประลองครั้งสำคัญนี้
โรเอลสามารถให้อภัยเคิร์ตได้ ถ้าอีกฝ่ายเข้ามาหาเขาตรง ๆ แต่อีกฝ่ายกลับเลือกที่จะกำหนดเป้าหมายไปยังคนรอบข้างของเขาแทน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่โรเอลสามารถทนได้ ด้วยสีหน้าอันมืดมน เด็กหนุ่มได้ตัดสินใจว่าตัวเองต้องทำบางอย่าง
—
เปลี่ยนเป้าหมายเป็นเคิร์ต!