ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 437: รักแท้เอาชนะทุกสิง! ่ (2)
ชีวิตในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่านั้
นน่าตื่นเต้น และชัยชนะ
ของโรเอลในศึกชิงถ้วยก็ทําให้เจ้าตัวกลายเป็นดาราในเลนสเตอร์ไม่ว่า
จะไปที่ไหนเขาก็ได้รับความเคารพและความชื่นชมตลอด แต่ถึงกระนั
้
น
เด็กหนุ่มก็พบว่าสิ่
งเหล่านั
้
นไม่มีความสําคัญต่อเขาเลย
เยาวชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงความอบอุ่นของบ้าน แต่สําหรับโร
เอลที่ต้องฝ่าฟันอันตรายมากมายตั้
งแต่ยังเด็ก มีสถานที่เพียงไม่กี่แห่ง
ในโลกนี้ที่ทําให้เขารู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง
โรเอลชอบกลิ่
นหมึกอ่อนๆ ที่อบอวลอยู่ในห้องสมุดของคฤหาสน์
ตระกูลแอสคาร์ด เขาชอบที่ดวงอาทิตย์ยามบ่ายจะส่องแสงเป็นแนว
ทแยงมุมผ่านหน้าต่างห้องนอน เขาคิดถึงชาที่แอนนาจะชงให้ทุกเช้า
เพื่อเริ่
มต้นวันใหม่
สิ่
งเหล่านี้อาจไม่มีความสําคัญในสายตาของผู้อื่น แต่รายละเอียด
เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจําวันที่ปลูกฝังความรู้สึกนี้เป็นส่วนหนึ่งในตัว
โรเอลที่บอกว่าเขามาถึงบ้านแล้ว
ทั
้
งเขตการปกครองแอสคาร์ดและคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด อาจ
กล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งที่สุดในโลก สําหรับโรเอลมันเต็มไปด้วย
ความทรงจําดีๆ มากมาย และเขาจะไม่มีวันยอมเสียมันไปโดยเด็ดขาด
โรเอลนั่
งอยู่บนเก้าอี้ในห้องอาหารและจิบชาแดงอย่างสบายๆ ฟัง
รายงานของแอนนาเกี่ยวกับการพัฒนาเขตการปกครองแอสคาร์ด
ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา โดยมีอลิเซียนั่
งฟังเงียบๆ จากเก้าอี้ตัว
ข้างๆ
แผนล่าสุดส่วนใหญ่เกี่ยวกับการพัฒนาเขตการปกครองแอสคาร์ด
ก็ได้อลิเซียมาตรวจสอบและดําเนินการแล้ว แต่แทนที่เธอจะรายงาน
ผลการดําเนินการดังกล่าวกับโรเอลเอง เด็กสาวกลับให้แอนนาเป็นคน
รายงาน เพราะเธอไม่ต้องการไปเป็นตัวกําหนดประเมินผลของโรเอล
อลิเซียอยากรู้ความคิดเห็นแบบไร้ซึ่งอคติใดๆ จากอีกฝ่ายว่าเธอทําได้ดี
หรือไม่
นี่เป็นข้อพิจารณาที่สําคัญที่สุดในการพิจารณาว่าตัวเธอมีค่ามาก
แค่ไหน และเธอก็ไม่อยากเป็นภาระให้พี่ชาย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ไม่นาน แอนนาก็รายงานเสร็จ
“ทําได้ดีมาก”
โรเอลพูดพร้อมพยักหน้ารับทราบ
ด้วยคําพูดเหล่านั
้
น ในที่สุดอลิเซียก็เป็นอิสระจากแรงกดดันที่คอย
ทับหน้าอก หัวใจของเธอก็พองโตด้วยความภาคภูมิ
แม้ว่าอลิเซียจะไม่สามารถเอาชนะโรเอลในแง่ของพลังเหนือ
ธรรมชาติได้แต่เธอก็มั่
นใจว่า ตัวเองสามารถช่วยเขาในการต่อสู้ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการปกครองเขตการปกครอง ไม่มีสักคนเดียวที่
รู้สถานะก่อนหน้านี้ของเขตการปกครองแอสคาร์ด แล้วจะกล้าอ้างตัว
ว่าพวกเขาเหนือกว่าโรเอล
แม้แต่ชาร์ล็อตซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความเฉียบแหลมทางธุรกิจ ก็
ยังไม่กล้าพูดเช่นนั้
น
ราวกับว่าบรรพบุรุษของตระกูลแอสคาร์ดได้ละทิ้
งความสามารถ
ของพวกตนในการจัดการบริหาร เพื่อที่โรเอลจะได้รับมรดกทั้
งหมดนั
้
น
ไป ดังจะเห็นได้จากความวุ่นวายก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้
นจากการกลับมา
ของเด็กหนุ่ม ผู้คนส่วนใหญ่ในเขตการปกครองแอสคาร์ดซาบซึ
้
งอย่าง
ยิ่
งกับการบริหารของเขา
อลิเซียรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่
งที่ได้รับคํายืนยันจากโรเอล เด็กหนุ่ม
เหลือบมองไปที่อลิเซียที่กําลังยิ้
มแย้มแจ่มใสและยิมให้เธอเช่นกัน ้
เพราะเติบโตมาด้วยกัน โรเอลสามารถบอกสิ่
งที่อยู่ในใจของอ
ลิเซียได้แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม ในทางกลับกันอลิเซียก็
รู้จักเขาดีกว่าใครๆ ในโลกเช่นกัน
โรเอลสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าปัญหามากมายที่เกิดขึ้
นใน
ช่วงเวลาที่เขาขาดงานนั้
นได้รับการแก้ไขในลักษณะที่สอดคล้องกับ
รูปแบบการทํางานของอลิเซีย
ไม่นานมานี้เขตการปกครองใกล้เคียงบางแห่งเริ่
มเผยแพร่ข่าวลือ
อย่างมุ่งร้ายเพื่อกีดกันพ่อค้าจากการทําธุรกิจที่เขตการปกครองแอส
คาร์ด ซึ่งโรเอลและแอนนาจะตอบโต้ด้วยการทําสงครามข้อมูล แต่อ
ลิเซียนั
้
นกลับตัดสินใจกําจัดคนที่ปล่อยข่าวลือออกไปแทน
ในเกมอายออฟโครนิเคิล อลิเซียเป็นสายลับของจักรวรรดิเซนต์เม
ซิท นักฆ่าที่ขจัดภัยคุกคามออกจากเงามืด เธอชอบหันไปใช้วิธีแก้ไข
ปัญหาทันทีซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความเคยชินในอาชีพของเธอ แต่
บุคลิกของเธอเองก็มีส่วนเช่นกัน
อลิเซียเป็นคนสุดโต่ง โลกของเธอมีสองสีคือขาวและดํา บรรดาผู้ที่
เธอรักจะมีความสําคัญต่อเธอมากกว่าสิ่
งอื่นใดในโลก แต่ผู้ที่เธอไม่
ผูกพันก็ไม่ต่างจากวัชพืชที่ปลูกริมถนน
นั่
นเป็นเหตุผลที่เธอไม่มีปัญหาในการปลิดชีวิตผู้อื่น
โรเอลจะนําทัศนคติที่แตกต่างกันมาให้อลิเซียและเปลี่ยนอนาคต
ของเธอ โดยคิดว่าเธอจะเติบโตขึ
้นมาเป็นขุนนางผู้สง่างาม แต่เห็นได้
ชัดว่าสิงต่าง ่ ๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ในทางกลับกัน ลักษณะทาง
การทหารของตระกูลแอสคาร์ดกลับดึงเอาบุคลิกโดยกําเนิดของเธอ
ออกมาเพิ่
มเติมเสียอีก
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ข้อกังวลสําหรับโรเอล
ไม่ว่าอลิเซียจะเป็นขุนนางที่สง่างามหรือผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่
เด็ดขาด มันก็ไม่สร้างความแตกต่างให้กับเขาเลย อลิเซียก็คืออลิเซีย
เธอเป็นญาติของเขา และนี่คือความจริงที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
โรเอลจิบชาต่อด้วยรอยยิ้
ม ในขณะที่อลิเซียก้มหน้าลงดื่มด�ากับ
ความสุขของเธอ
เมื่อมองดูฉากที่กลมกลืนกันนี้แอนนาก็รู้สึกซาบซึ้
งใจอย่างมาก
หลังจากรับใช้โรเอลในฐานะสาวใช้ประจําตัวมาตั้
งแต่เขาอายุยัง
น้อย เธอจึงเข้าใจได้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้
ยินว่าโรเอลจะลงทะเบียนเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า เธอก็
รู้สึกกังวลอย่างมากในฐานะผู้จัดการแฟนคลับของโรเอล X อลิเซีย
วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่ผู้คนมักจะสูญเสียการควบคุมตัวเองได้อย่าง
ง่ายดายและนําไปสู่การทําอะไรแบบไม่ยั้
งคิด มันเป็นเช่นนั้
นหากพวก
เขาอยู่ในเขตการปกครองแอสคาร์ด แต่เลนสเตอร์เป็นเมืองที่เต็มไป
ด้วยเยาวชนในวัยเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์และความน่าเชื่อถือของโรเอล
คงมีเด็กสาวมากมายที่มองว่าเขาเป็นเหยื่อของพวกเธอ
ไม่มีอะไรจะสามารถยืนยันได้ว่า โรเอลจะสามารถยืนหยัดอย่าง
แน่วแน่ได้เมื่อเผชิญกับการยั่
วยวน
แทบไม่มีวันที่ผ่านไปโดยที่แอนนาไม่กังวล
ในเวลานี้เองที่เธอเห็นฉากที่ประสานกันระหว่างคนทั้
งสอง ทําให้
หัวใจของเธอสงบลงในที่สุด เธอได้รับการเยียวยาจากปฏิสัมพันธ์ของ
พวกเขา
อย่างที่คาดไว้ไม่ว่าจะมีสิ่
งรบกวนมากมายเพียงใดระหว่างทาง ไม่
มีอะไรในโลกที่จะสามารถบ่อนทําลายความรักที่แท้จริงระหว่างนาย
น้อยกับนายหญิงได้!
ก่อนที่เธอจะรู้ตัว ใบหน้าของแอนนาก็มีรอยยิ้
มประดับอยู่เสียแล้ว
แม้แต่สาวใช้ที่อยู่ใกล้เคียงเองก็ยังอมยิมและพยักหน้าเห็นด้วย ้
ภาพ
ธรรมดาๆ เช่นนี้ทําให้เกิดบรรยากาศที่สนุกสนานในห้องอาหาร
อย่างไรก็ตาม คําถามที่โรเอลถามหลังจากดื่มชาเสร็จก็ได้ทําลาย
บรรยากาศอันอบอุ่น
“แอนนา มีจดหมายมาจากเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
บ้างไหม?”
“แน่นอนค่ะ นับตั
้
งแต่ที่ข่าวความสําเร็จของนายน้อยในศึกชิงถ้วย
กระจายออกไป เราก็ได้รับจดหมายแสดงความยินดีจากขุนนาง
ระดับสูงมามากเลยทีเดียว”
แอนนาตอบด้วยรอยยิ้
มภาคภูมิใจ
“ฉันจะจัดการกับจดหมายของคนอื่นทีหลัง เอาจดหมายของนอร่า
มาให้ฉันก่อน”
โรเอลเริ่
มรออย่างอดทนเพื่อให้แอนนาส่งจดหมายถึงมือของเขา
แต่โดยไม่คาดคิด อีกฝ่ายกลับไม่มีการขยับใดๆ เขาเลิกคิ
้
วอย่างสงสัย
และคําตอบของแอนนาก็ทําให้เขาหรี่ตาลง
“ขออภัยด้วยค่ะ นายน้อย ทางเรายังไม่ได้รับจดหมายจากฝ่าบาท
เลยค่ะ”