ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 443 ที่ใช้งานได้เหมือนกัน? (ต้น)

ไม่ใช่ขุนนางทุกคนที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอสวมแหวนประจํา ตระกูลของตน เครื่องประดับเหล่านี้มักจะเป็นตัวแทนของอํานาจและ อิทธิพล การมอบมันให้แก่ผู้อื่นจึงหมายถึงการมอบอํานาจส่วนหนึ่ง ให้กับคนที่ได้รับไป

มีเพียงผู้นําและผู้สืบสกุลของตระกูลขุนนางเท่านั้นที่มีคุณสมบัติ ในการสวมแหวนที่มีตราประจําตระกูล สมาชิกทั่วไปในตระกูลคนอื่นๆ จะถูกห้ามไม่ให้สวมใส่มันโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะบุคคลภายนอก นั่น คือเหตุผลที่แอนนาไม่ได้พูดอะไรมาก แต่รีบนํามาให้โรเอลในทันที

แม้ว่าโรเอลจะเข้ากันได้ดีกับพระสังฆราชจอห์นและตระกูลแอส คาร์ดกับตระกูลเซไซต์เองก็เป็นพันธมิตรกัน แต่เขาก็ไม่ได้หลงตัวเอง มากถึงขั้นที่จะคิดว่าพระสังฆราชจอห์นคิดที่จะมอบแหวนประจํา ตระกูลให้กับตนจริงๆ นอกจากนี้มันยังเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะส่ง ของขวัญผิด

การให้ของขวัญมีความสําคัญในแวดวงขุนนางและราชวงศ์ ฉะนั้น แล้วขุนนางจะต้องตรวจสอบมันก่อนเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสีย มารยาท ของขวัญทุกชิ้นจึงต้องผ่านการตรวจสอบหลายครั้งก่อนที่จะ ถูกส่งไป

มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ของสําคัญระดับแหวนประจําตระกูลจะถูก ส่งออกมาด้วยความผิดพลาด

แม้ว่าพระสังฆราชจอห์นจะมีอายุมาก แต่เขาก็ไม่ได้เลอะเลือนแต่ อย่างใด ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมักจะฉลาดเฉียบแหลมกว่าเดิมเมื่อมี อายุมากขึ้น ทําให้การกระทํานี้มีแนวโน้มว่าจะมีความสําคัญลึกซึ้ง เบื้องหลัง และโรเอลก็เชื่อว่านี่เป็นการเชื้อเชิญอย่างละเอียดอ่อนให้เขา ไปเยี่ยมเยียนพระสังฆราชจอห์น

กระบวนการคืนแหวนจะช่วยให้โรเอลได้รับอนุญาตในการเข้าถึง พื้นที่พระราชวังโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของระบบราชสํานักอันยุ่งยาก ซึ่งหมายความว่าเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงความสนใจต่างๆ ไปได้ กล่าว อีกนัยหนึ่งก็คือพระสังฆราชจอห์นกําลังบอกให้เขาแอบเข้าไปในเมือง หลวงอันศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้เด็กหนุ่มยังพบจดหมายแสดงความยินดีที่แนบมาพร้อม กับแหวน ซึ่งมีสองบรรทัดที่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นพิเศษ

【ขอความรุ่งโรจน์ช่วยนําทางให้แก่เจ้า คาดว่าการพบกันของเรา นั้นใกล้จะมาถึงเต็มที]

“ความรุ่งโรจน์นําทางงั้นเหรอ? ผมว่ามันไม่น่าจะมีอะไรที่สื่อถึง ความรุ่งโรจน์ได้เท่ากับแหวนวงนี้อีกแล้วล่ะ”

โรเอลบ่นพลางมองดูแหวนบนฝ่ามือ

เด็กหนุ่มแสดงจดหมายและแหวนให้กับคาร์เตอร์ ซึ่งกําลังคิดถึง เรื่องนี้ ก่อนที่จะได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันกับโรเอล

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคําสั่งให้เจ้าเข้าไปในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ แบบลับๆ ปัญหาก็คือข้าคิดไม่ออกว่าเป้าหมายของท่านคืออะไรกันแน่ เขามีภารกิจสําหรับเจ้างั้นเหรอ? หรือนี่อาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับ…”

“… ใช่ครับ ผมเองก็คิดว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับนอร่า”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควรรีบออกเดินทางโดยเร็วที่สุด อาจารย์ของเจ้า จะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่วันใช่ไหมล่ะ เราสามารถใช้เธอเป็นที่กําบังเพื่อ ปกปิดที่อยู่ของเจ้าได้”

คาร์เตอร์กล่าวขณะที่ลูบสันกรามอย่างครุ่นคิด

ซึ่งทางโรเอลก็พยักหน้าเห็นด้วย

หากพระสังฆราชจอห์นต้องการให้เขาไปเยี่ยมอย่างลับๆ มันก็ เหมาะมากสําหรับเขาที่จะแอบออกไปจากเขตการปกครองแอสคาร์ด ในตอนที่คริสมาถึง

คริสไม่ได้เป็นแค่อาจารย์ธรรมดาๆ เท่านั้น เธอเป็นถึงหนึ่งใน อาจารย์ระดับสูงไม่กี่คนในอาณาจักรแห่งการศึกษา อีกทั้งยังเป็นคนที่มี อายุน้อยที่สุดอีกด้วย เธอเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในระบบการศึกษาอันทรง เกียรติของอาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล ทําให้มีผู้คนมากมาย ต้องการเข้าใกล้เธอ

ตามหลักแล้วมันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้คนระดับเธอมาเยี่ยมถึง บ้าน ดังนั้นตระกูลผู้สูงศักดิ์คนอื่นๆ คงจะทําให้แน่ใจว่าสมาชิกใน ครอบครัวทั้งหมดของพวกเขาอยู่พร้อมหน้าเพื่อแสดงความเคารพแน่ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงไม่มีใครคาดคิดว่าโรเอลที่เป็นลูกศิษย์ของเธอ จะไม่อยู่ในระหว่างการเยี่ยมเยียนนี้

แน่นอนว่าตัวคริสเองก็คงจะไม่ได้สนใจเช่นกันว่าโรเอลจะอยู่ หรือไม่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของเธอไม่ใช่การมาเยี่ยมเยียนเขา แต่ เพื่อมาหารุ่นพี่คาร์เตอร์ที่เธอรักอย่างสุดซึ้ง เพียงแต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ หรือแม้แต่ตัวคาร์เตอร์เอง ทําให้มันกลายเป็นการปกปิดอันสมบูรณ์ แบบ

ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนที่คริสจะมาถึง

หลังจากปรึกษาหารือกับบิดาแล้ว โรเอลก็ตัดสินใจที่จะรอเวลา และโอกาสที่จะแอบหนีออกไป

ความจริงที่ว่าจอห์นผู้ยิ่งใหญ่ได้ส่งแหวนประจําตระกูลอันล�าค่า ของตระกูลเซไซต์มา เป็นสัญญาณว่าโรเอลควรจะเคลื่อนไหวอย่าง ลับๆ แทนที่จะรีบเร่ง ไม่แน่ว่าอาจจะมีสถานการณ์ผิดปกติบางอย่าง เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดสําหรับเขาที่จะเคลื่อนไหวอย่าง ระมัดระวัง

โรเอลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเจออะไรในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น จึงตัดสินใจนํากองทัพทหารรับจ้างลัทธินอกรีตไปด้วยเพื่อความ ปลอดภัย

ลัทธิความแข็งแกร่งและลัทธิความแน่วแน่เป็นกองทัพอิสระ โดยตรงภายใต้อํานาจของโรเอล ต้องขอบคุณอิทธิพลของกรันด้า และเปตรา ซึ่งทําให้เขาได้รับความจงรักภักดีโดยสมบูรณ์จากทั้งสอง ลัทธิ และทําให้พวกเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่น่าเชื่อถือซึ่งเขาสามารถ มอบหมายภารกิจสําคัญได้

ใช้เวลาไม่นานนัก กองกําลังลัทธินอกรีตทั้งสองมาถึงเขตการ ปกครองแอสคาร์ด เนื่องด้วยพวกเขายังไม่ได้ต่อสู้ในสนามรบจริงใน นามของโรเอลมาก่อน ดังนั้นจึงมีคนไม่มากนักที่รู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของ กองกําลังนี้ ทําให้โรเอลตั้งใจที่จะปลอมตัวเป็นหนึ่งในทหารรับจ้าง พเนจรไปกับพวกเขา

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก็คือคนของโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างนั้นมักจะ รังเกียจลัทธินอกรีต อย่างไรก็ตามมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ได้ ตราบใดที่พวกเขามีใบอนุญาตจากตระกูลแอสคาร์ด สมาชิกของโบสถ์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าตระกูลแอสคาร์ดและตระกูลเซไซต์ เป็นพันธมิตรกัน ยังเป็นที่รู้กันทั่วไปอีกด้วยว่าโรเอลกับนอร่าเป็นเพื่อน สนิทกันตั้งแต่ในวัยเด็ก ทําให้หลายคนคาดการณ์ว่าตระกูลแอสคาร์ด อาจกลายเป็นญาติกับตระกูลเซไซต์ได้ในอนาคตอันใกล้ ผู้มีอํานาจส่วน ใหญ่จึงไม่คิดที่จะไปยุ่งกับตระกูลแอสคาร์ด

เห็นได้ชัดจากการที่เหล่านักบวชของโบสถ์เลือกที่จะเมินเฉยต่อ กองทัพพวกนอกรีตที่นําโดยอลิเซียตอนที่พวกเขาอยู่ในเขตการ ปกครองของดยุกเอิร์ลโบรวล์

ไม่มีความชั่วร้ายใดๆ ที่นั่น

นี่คือทัศนคติที่ผู้คนในโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างเลือกจะปฏิบัติ

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ พวกนอกรีตยังคงเป็นจุดสนใจในจักรวรรดิเซนต์เมซิท เพราะหลังจาก เหตุการณ์การเดินขบวนแห่งความวุ่นวาย พวกเขาก็กระจัดกระจายกัน ออกไป และการรักษาความลับก็มีความสําคัญสูงสุดสําหรับการ

เดินทางในครั้งนี้ โรเอลจึงต้องการข้ออ้างบางอย่างให้กับกองกําลังลัทธิ นอกรีตของตน

ซึ่งสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาก็คือคําตอบที่ดีที่สุดสําหรับปัญหานั้น

โชคดีที่ผู้จัดการสํานักงานใหญ่ของสมาคมพ่อค้าโซโรฟยาสาขา จักรวรรดิเซนต์เมซิทที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์คือ อาร์เว่น ดาร์นี่ ซึ่งเป็นคนสนิทของเขา

ในวัยเด็กโรเอลได้ทําการค้ากับอาร์เว่น ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา ทั้งคู่ไปตลอดกาล อาร์เว่นได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นผู้จัดการของ สํานักงานใหญ่สาขาจักรวรรดิเซนต์เมซิท ซึ่งมีอํานาจบริหารสูงสุด เหนือธุรกรรมทางธุรกิจทั้งหมดของสมาคมในจักรวรรดิเซนต์เมซิท ส่วนโรเอลก็ได้ติดต่อกับชาร์ล็อตเพราะเหตุนั้น

อาร์เว่นได้ช่วยเหลือโรเอล เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายจะมีชื่อเสียงโด่ง ดังในอนาคตอันใกล้ และมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดจริงๆ ด้วยการหมั้น หมายของโรเอลกับชาร์ล็อต โซโรฟยา

ทุกเทศกาลเฉลิมฉลอง อาร์เว่นจะคิดหาข้ออ้างทุกประเภทเพื่อยัด ของขวัญไปที่คฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด เพื่อเป็นการแสดงความ ปรารถนาดี นอกจากนี้เขายังมีส่วนเป็นอย่างมากในการพัฒนาเขตการ ปกครองแอสคาร์ดตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

มันจะง่ายขึ้นมากสําหรับโรเอลที่จะแอบเข้าไปในเมืองหลวง ศักดิ์สิทธิ์ ผ่านความช่วยเหลือของอาร์เว่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในปัจจุบัน

กิจกรรมเชิงพาณิชย์มีแนวโน้มสูงสุดในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงถึง ต้นฤดูหนาว เนื่องจากพ่อค้าต้องรีบส่งเสบียงอาหารไปยังเมืองต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ของจักรวรรดิเซนต์เมซิท ซึ่งได้ลงนามข้อตกลงกับ สมาคมผู้ค้ารายใหญ่มากมายเพื่อซื้อเสบียงในช่วงฤดูหนาว

สมาคมผู้ค้ารายใหญ่ต่างๆ จะขายเสบียงให้กับจักรวรรดิเซนต์ เมซิทก่อนตามราคาคงที่ก่อนหน้านี้ในช่วงฤดูหนาว จากนั้นจักรวรรดิ เซนต์เมซิทก็จะค่อยๆ แจกจ่ายอาหารผ่านร้านค้าปลีกที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามีปริมาณอาหารเพียงพอในตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพ ราคาโดยรวม

ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้ารายย่อยฉวยโอกาสกักตุนเสบียง จนก่อให้เกิดการขาดแคลนอาหารและปั่ นราคา นี่เป็นหนึ่งในนโยบาย ไม่กี่ข้อที่นํามาใช้ทั่วทั้งจักรวรรดิเซนต์เมซิท เนื่องจากมันมีความสําคัญ อย่างยิ่งต่อการดํารงชีวิตของประชาชนทั่วไป

เพื่ออํานวยความสะดวกในการขนส่งเสบียง จักรวรรดิเซนต์เมซิท จะออกบัตรผ่านตลอดสองเดือนไปยังสมาคมผู้ค้ารายใหญ่ที่ทําสัญญา

เอาไว้ ทําให้พวกเขาได้รับการยกเว้นจากขั้นตอนราชการที่ยืดเยื้อและ การตรวจสอบชายแดน และนั่นคือสิ่งที่โรเอลต้องการในตอนนี้

ภายใต้ฉากหน้าของสมาคมพ่อค้าโซโรฟยา เขาก็น่าจะสามารถไป ถึงเมืองหลวงอันศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร

โรเอลทบทวนแผนของตนซ�าแล้วซ�าเล่า เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ก่อนที่จะเตรียมการ

จนกระทั่งถึงวันธรรมดาๆ ที่คริสมาถึงเขตการปกครองแอสคาร์ด ในที่สุด