ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 447 พาเธอกลับมา (1)
เมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
ยังคงเงียบสงบเช่นเคย ลมหนาวที่ก่อตัวขึ้
นใน
ฤดูหนาวพยายามที่จะบุกรุกเข้าไปในพระราชวังที่มีการป้องกันอย่าง
แน่นหนา ก่อนจะถูกกรองออกไปกลายเป็นลมอุ่น แต่ถึงกระนั
้
นภายใน
ห้องประชุมของราชวงศ์โรเอลกลับยังรู้สึกหนาวสั่
น
นอร่ากําลัง… อวตารทูตสวรรค์?
เด็กหนุ่มค่อยๆ ทําความเข้าใจสิ่
งที่เพิ่
งได้ยินมาจากพระสังฆราช
จอห์น จากนั
้
นท่าทางของเขาก็ค่อยๆ แข็งทื่อ
แม้ว่าโรเอลจะไม่ได้รู้เบื้องลึกเกี่ยวกับคําว่า ‘อวตารทูตสวรรค์’
หรือผลกระทบของมัน แต่เด็กหนุ่มก็สามารถบอกได้จากการแสดงออก
ของพระสังฆราชจอห์นว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเขารู้ว่าการกลายพันธุ์มัก
เกิดขึ
้
นจากการความล้มเหลวในการปลุกพลังทางสายเลือด ดังนั
้
นโรเอ
ลจึงสงสัยว่าอวตารทูตสวรรค์เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้นั้
นรึเปล่า
“ท่านปู่จอห์น ‘อวตารทูตสวรรค์’ ที่ท่านบอกมันหมายความว่า…”
“มันเป็นอุปสรรคที่พวกเราตระกูลเซไซต์จะต้องเผชิญระหว่าง
การปลุกพลังทางสายเลือด มันเป็นอุปสรรคที่ยิ่
งใหญ่ที่สุดที่ขวางทาง
พวกเรา เช่นเดียวกับตัวแปรที่พวกเราต้องควบคุมให้อยู่ภายใต้อาณัติ”
จอห์นอธิบายสั้
นๆ เกี่ยวกับทฤษฎีเบื้องหลังการปลุกพลังทาง
สายเลือดของตระกูลเซไซต์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้
นในกระบวนการ และ
ความขัดแย้งภายในของอํานาจของพวกเขา
ในฐานะผู้สืบทอดสายเลือดทูตสวรรค์การปลุกพลังสายเลือดของ
ตระกูลเซไซต์ต้องอาศัยการชําระพลังเวทให้บริสุทธิ์
เป็นหลัก เพื่อให้ได้
ระดับความคล้ายคลึงที่สูงขึ้
นกับตัวตนในอดีตกาล ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น
นอกจากทูตสวรรค์
ทูตสวรรค์เป็นสาวกของเทพีเซียมาตั้
งแต่ยุคโบราณ และพลังอัน
ยิ่
งใหญ่ที่พวกเขามีก็ทําให้พวกเขาเป็นตัวตนที่เทียบได้กับเทพเจ้า
แม้ตระกูลเซไซต์จะมีพลังอันยิงใหญ่ของโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง ่ แต่
พวกเขาก็ไม่เคยหยุดค้นคว้าเกี่ยวกับศักยภาพในพลังของตนเอง
“หลายศตวรรษก่อนหลังจากการก่อตั
้
งโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง
งานวิจัยหลักชิ
้
นหนึ่งที่ตระกูลเซไซต์ค้นคว้าก็คือ การเพิ่
มประสิทธิภาพ
การเติบโตของเราให้สูงที่สุดในระหว่างการปลุกสายเลือด ในยุคสมัยอัน
วุ่นวาย พลังทางสายเลือดอันแข็งแกร่งจะช่วยให้พวกเรามีพลังมาก
พอที่จะต่อสู้กับศัตรูของเรา และนั่
นคือสิ่
งสําคัญสําหรับการอยู่รอดของ
พวกเรา”
“พวกเราเชื่อว่าสายเลือดแห่งทูตสวรรค์เป็นขุมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่
มีความเป็นไปได้ไม่จํากัด และกําลังรอการค้นพบ พวกเราพัฒนาคาถา
เวทเสริมจนค่อยๆ เชี่ยวชาญมากขึ้
นในการเข้าถึงพลังของสายเลือด
แห่งทูตสวรรค์แต่ในขณะเดียวกัน พวกเราก็ได้ล่วงรู้ถึงผลข้างเคียงของ
มัน นั่
นก็คือ อวตารทูตสวรรค์”
ตามที่จอห์นกล่าว เมื่อสายเลือดทูตสวรรค์มีความบริสุทธิ์
ถึงระดับ
ใดระดับหนึ่ง ก็อาจจะเกิดความเสี่ยงทําให้พลังทางสายเลือด
เขียนทับอัตลักษณ์ตัวตนของผู้ใช้ซึ่งพวกเขาเรียกกันว่าการ อวตารทูต
สวรรค์
ชื่อนี้บ่งบอกว่ามันเป็นรูปแบบสุดท้ายที่ผู้สืบทอดสายเลือดทูต
สวรรค์จะสามารถไปถึงได้หากพิจารณาในแง่ของความบริสุทธิ์
ของ
พลังทางสายเลือด ปัญหาเดียวก็คือ อวตารทูตสวรรค์ไม่ได้แปลงร่าง
ผู้ใช้เป็นเทพเจ้าผู้มีอํานาจดั่
งทูตสวรรค์ของเทพีเซีย แต่กลับทําให้พลัง
ของผู้ใช้คุ้มคลั่
ง
“อีกนัยหนึ่งก็คือ การตื่นขึ้
นของสายเลือดแห่งทูตสวรรค์เป็นการ
ต่อสู้กับตัวเอง ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างความแข็งแกร่งทางจิตใจ
และพลัง หรือก็คือ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสัญชาตญาณอัน
ศักดิ
์
สิทธิ
์
ที่เกิดจากพลังของทูตสวรรค์”
“สัญชาตญาณของทูตสวรรค์?”
“ใช่ พลังของทูตสวรรค์มีอิทธิพลต่อจิตใจของพวกเรา ซึ่งแตกต่าง
กันไปในแต่ละคน อย่างไรก็ตามสําหรับนอร่าแล้วมันแข็งแกร่งเป็น
พิเศษ”
จอห์นกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เขาเริ่
มพูดถึงทุกสิ่
งที่เกิดขึ้นในขณะที่โรเอลไม่อยู่
ไม่นานหลังจากที่นอร่ามาถึงเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
และเริ่
มทําการ
รักษา อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้
น สายเลือดแห่งทูตสวรรค์ในร่างกาย
ของเธอได้ก้าวข้ามขีดจํากัด ไปถึงขั้
นของอวตารทูตสวรรค์ทําให้พลัง
ของเธอคุ้มคลั่
ง
ความโกลาหลดังกล่าวถูกระงับอย่างรวดเร็วโดยที่นอร่าไม่ได้รับ
บาดเจ็บใดๆ ต้องขอบคุณจอห์นที่ยื่นมือเข้าไปช่วยอย่างรวดเร็ว แต่ถึง
กระนั
้
น พลังอันน่าประหลาดและจิตสังหารอันทะลักล้นที่นอร่า
ปลดปล่อยออกมาในสภาพที่บ้าคลั่
ง ก็ต้องทําให้เขาประหลาดใจและ
บังคับให้เขาต้องคิดหาทางรับมือในกรณีที่เธอเสียสติอีกครั้
ง
“นอร่ากําลังเดินทางไปป้อมปราการทาร์กแล้ว”
“ป้อมปราการทาร์ก?”
“การฟื้ นคืนสายเลือดดั้
งเดิมทําให้สถานะอวตารทูตสวรรค์ของเธอ
รุนแรงกว่าที่ข้าคิดไว้เธอต้องหาทางระบายพลังงานที่ถูกกักเก็บไว้และ
วิธีที่ดีที่สุดก็คือการต่อสู้กับพวกกลายพันธุ์”
“อา ที่เธอไม่ตอบจดหมายผมก็เพราะแบบนี้เองสินะ”
นอร่าอยู่ในช่วงกําลังเดินทาง ดังนั
้
นจึงเป็นเรื่องยากสําหรับเธอที่
จะรับจดหมายของโรเอล ยิ่
งไปกว่านั้
น การส่งจดหมายไปและกลับจาก
ชายแดนตะวันออกเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั
้
นหากจดหมายจะหายไปก็
ไม่ใช่เรื่องแปลก
นั่
นจะอธิบายได้ว่าทําไมโรเอลถึงไม่ได้รับจดหมายใดๆ จากนอร่า
เท่าไรในช่วงที่ผ่านมานี้
และเขาก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจของจอห์นเช่นกัน
มีสงครามเกิดขึ
้
นมากมายในทวีปเซีย และสนามรบเหล่านั
้
นเองก็
น่าจะปลอดภัยกว่าพรมแดนทางตะวันออก อย่างไรก็ตามถ้าหากนอร่า
ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และพลั
้
งพลาดลงมือกับมนุษย์คนอื่นๆ
เธอก็อาจเสียชื่อเสียงได้ซึ่งถือเป็นหายนะสําหรับผู้นําโบสถ์แห่งเทพี
ผู้สร้างในอนาคตอย่างเธอ
โชคดีที่การทําสงครามกับพวกกลายพันธุ์นั้
นแตกต่างออกไป นอ
ร่าสามารถทําทุกอย่างได้ตามที่เธอต้องการ เพราะเดิมทีแล้ว แนวคิด
เรื่อง ‘การยอมจํานน’ ไม่มีอยู่ในการทําสงครามกับพวกกลายพันธุ์ด้วย
ซ�า เนื่องจากมันเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
คงไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้เรื่องนิสัยซาดิสม์ของนอร่ามากไปกว่าโรเอล
เขายังคงจําภาพนอร่าที่กําลังยิ้
มอย่างโหดเหี้ยมขณะเหยียบอยู่บนภูเขา
ซากศพที่ล้อมไปด้วยแม่น�าสีเลือดไหลจากอายออฟโครนิเคิล
โรเอลเคยคิดว่ามันเป็นแค่นิสัยส่วนตัวของนอร่า แต่ดูเหมือนว่ามัน
จะไม่ใช่แค่นั้
นเสียแล้ว มีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างนิสัยซาดิสม์กับ
ความกระหายเลือดของเจ้าตัว
ยกตัวอย่างเช่นทัศนคติของนอร่าที่มีต่อโรเอล ในขณะที่นิสัย
ซาดิสต์ของเธอมักจะแสดงออกผ่านคําพูดและการกระทํา แต่เธอไม่
เคยทําร้ายโรเอลมาก่อน ตรงกันข้ามเธอพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้อง
เขาเสียด้วยซ�า ดังนั
้
นบางทีความกระหายเลือดที่เธอแสดงออกมาใน
เกมอายออฟโครนิเคิล อาจจะเป็นเพียงวิธีการสําหรับเธอในการระบาย
พลังเวทออกมาเพื่อต่อสู้กับสถานะอวตารทูตสวรรค์
สภาพปัจจุบันของนอร่าดูแย่กว่าที่ปรากฏในเกมมาก การตื่นขึ้
น
ของพลังทางสายเลือดของเธอเกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในระดับ
พลังเหนือธรรมชาติทําให้เพียงแค่จินตนาการถึงการอาละวาดของเธอ
ก็สามารถทําให้เขากลัวได้แล้ว
โรเอลขมวดคิ
้
วอย่างกังวล ขณะที่จอห์นประเมินเขาด้วยสายตาลึก
ล�า ไม่กี่นาทีต่อมา พระสังฆราชก็ตัดสินใจได้ในที่สุด
“นอร่าบอกข้าว่า ห้ามบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่เธอจะเดินทาง
ไปยังป้อมปราการทาร์ก อย่างไรก็ตามในฐานะผู้นําตระกูล ข้าเองก็ต้อง
คํานึงถึงความปลอดภัยของเธอด้วย นั่
นเป็นเหตุผลที่ข้าเรียกเจ้ามา”
“ท่านปู่จอห์น…”
“ในฐานะผู้นําของตระกูลเซไซต์ข้าอยากจะขอร้องเจ้า ข้าหวังว่า
เจ้าจะสามารถเดินทางไปยังป้อมปราการทาร์กได้”
“!”
คําขอที่สงบทว่าจริงจังจากผู้เฒ่าผมขาวทําให้โรเอลเบิกตากว้าง
จักรวรรดิเซนต์เมซิทดําเนินการภายใต้ระบบการปกครองแบบ
กระจายอํานาจ เพื่อให้จักรพรรดิไม่มีอํานาจบังคับที่จะกําหนดคําสั่
ง
ใดๆ ต่อห้าตระกูลขุนนาง และตระกูลเซไซต์เองก็แทบไม่ได้ร้องขออะไร
จากตระกูลขุนนางเหล่านั
้
นเลยเช่นกัน โดยเฉพาะในสมัยการปกครอง
ของพระสังฆราชจอห์น
โรเอลตะลึงกับคําพูดเหล่านั
้
นชั่
วครู่ เขาต้องการตอบรับข้อเสนอ
ในทันทีแต่ความสงสัยหลายอย่างก็ผุดขึ้
นในใจ
“ท่านปู่จอห์น มันก็จริงอยู่ที่ผมอยากไปเจอนอร่า แต่ในแง่ของ
พลังเหนือธรรมชาติแล้ว ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถช่วยอะไรเธอได้ยิ่
ง
ไปกว่านั้
น ท่านยังบอกว่าเธอไม่ต้องการให้ผมรู้เรื่องนี้ถ้าผมไปอย่าง
กะทันหันมันจะไม่เป็นการกวนใจเธองั้
นหรือครับ?”
“มันก็เป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้
น แต่ข้าก็ยังอยากให้เจ้าได้ไปพบกับ
นอร่า เพราะเจ้าน่ะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอ”
“ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ?”
“หนึ่งในวิธีต่อสู้กับสถานะอวตารทูตสวรรค์ก็คือการระบายพลัง
เวทออก และทําให้สัญชาตญาณศักดิ์
สิทธิ
์
หายไปจนหมดสิน
้ และอีกวิธี
ก็คือการเสริมสร้างความเป็นมนุษย์เจ้าเป็นตัวตนที่พิเศษสําหรับเด็ก
คนนั
้
น เจ้าคือความอุตสาหะและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอ เหมือนกับ
เคน ข้าเลยสั่
งให้เขาไปที่ป้อมปราการทาร์กด้วยเช่นกัน”
“อย่างไรก็ตามแม้ว่าเคนจะมีสายเลือดสัมพันธ์ทางสายเลือดกับ
นอร่า แต่ความเข้ากันได้ดีทางพลังสายเลือดระหว่างเจ้ากับนอร่านั้
น
กลับสูงกว่า เห็นได้ชัดจากการตื่นของเอสเซนด์วิง และการที่นอร่าปลุก
สายเลือดของเธอขึ
้นมาเร็วเกินไปก็ทําให้ข้าไม่อาจคาดเดาอะไรได้บาง
ทีการปรากฏตัวของเจ้าจึงอาจจะมีความสําคัญต่อเธอ”
“เข้าใจแล้วครับ”
โรเอลพยักหน้า
ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิเซนต์เมซิท ไม่มีทางที่จอห์น
จะออกจากเมืองหลวงศักดิ์
สิทธิ
์
และติดตามนอร่าไปที่ชายแดน
ตะวันออกได้ด้วยเหตุนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดรองลงมาคือการส่งให้องค์
ชายเคนไปกับเธอ
ถึงกระนั
้
นก็มีความเป็นไปได้ที่ว่าความสัมพันทางเครือญาติอาจจะ
ยังไม่เพียงพอที่จะยึดเหนี่ยวความเป็นมนุษย์ของนอร่าเอาไว้ให้ต่อสู้
ชนะสัญชาตญาณศักดิ
์
สิทธิ
์
ได้นั่
นจึงเป็นเหตุผลที่จอห์นเข้าหาโรเอล
เขาหวังว่าโรเอลจะเป็นคนช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของนอร่าเอาไว้ในกรณี
ที่สิ่
งผิดปกติเกิดขึ
้
น
เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว โรเอลก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว พร้อม
ที่จะมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการทาร์ก จอห์นรู้สึกยินดีกับคําตอบนี้มาก
และได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมการอย่างรวดเร็ว
ปกติแล้ว เนื่องด้วยโรเอลเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูล
แอสคาร์ด มันจึงมีความจําเป็นอย่างยิ่
งที่จะต้องรับรองความปลอดภัย
ของเขา และแจ้งให้สมาชิกในครอบครัวของเขาให้ทราบก่อนล่วงหน้า
เกี่ยวกับการตัดสินใจนี้อีกทั
้
งยังอาจจะต้องเตรียมกองทัพขนาดใหญ่
เพื่อพาตัวเขาไปยังป้อมปราการทาร์กอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตามเรื่องการตื่นทางสายเลือดของนอร่าจะต้องถูกปกปิด
เอาไว้ดังนั
้
นการเดินทางของโรเอลไปที่ป้อมปราการทาร์กจึงต้องถูก
เก็บเป็นความลับเช่นกัน