ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 453 ผู้คนและเมือง (1)
ตอนที่โรเอลคิดว่าในที่สุดตัวเองก็จะได้นอนหลับฝันดีบนเตียงที่ ห่างมานาน ความหวังนั้นก็ได้ถูกทําลายลง
เขาฝันร้าย
ในความฝัน โรเอลสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติต้นกําเนิดที่ซ่อนอยู่ในส่วน ลึกของร่างกายว่ามันกําลังสั่นพ้องกับบางสิ่งในโลกภายนอก กระตุ้นให้ มันซึมซับพลังเวทและสร้างเกราะป้องกันในพื้นที่ จากนั้นเงาอัน สวยงาม และแสนคุ้นเคยก็แวบเข้ามาในหัวของเขา
มารดาแห่งเทพธิดา
“!”
เงาอันพร่ามัวแต่น่าสะพรึงกลัวได้เขย่าโรเอลให้ตื่นจากการ หลับใหล แต่สิ่งที่เขาเห็นหลังจากนั้นกลับทําให้เขาต้องตกตะลึง
เขาถูกล้อมรอบด้วยน�าแข็ง
โรเอลยังคงอยู่ในห้องเดิม แต่ทุกอย่างที่เขาเห็นกลับถูกเคลือบด้วย น�าค้างแข็ง แม้แต่เพดานเหนือหัวก็ถูกผนึกด้วยพลังเวทน�าแข็งของตน
สัมผัสแห่งธารน�าแข็งถูกร่ายออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
การสูญเสียการควบคุมในอํานาจอย่างกะทันหันเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ที่โรเอลกังวลไม่ใช่เรื่องนั้น เด็กหนุ่มสัมผัสได้ว่าศิลาแห่งมงกุฎไม่ได้ พยายามทําร้ายเขา แต่กําลังปกป้องเขาจากพลังที่คล้ายคลึงกัน เมื่อ สัญชาตญาณนี้ผุดขึ้นในจิตใจ ใบหน้าของโรเอลก็ค่อยๆ บิดเบี้ยวอย่าง น่ากลัว
พลังที่คล้ายคลึงกัน
พลังเดียวที่มาจากแหล่งกําเนิดเดียวกันกับสัมผัสแห่งธารน�าแข็ง คือการสิ่งที่โรเอลไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้าด้วยอย่างแน่นอน …หกภัย พิบัติ
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?”
ขณะพึมพํากับตัวเอง โรเอลก็ลุกขึ้นยืนคว้าสิ่งของและรีบออกจาก ห้องพัก ความโกลาหลได้ปะทุขึ้นบนท้องถนนแล้วทั้งๆ ที่เป็นยามวิกาล ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่กําลังชี้ไปที่ระยะไกลขณะพูดคุยกันอย่างเมามัน ผู้คนจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ รีบออกจากอาคารใกล้เคียงมาเพื่อสังเกต สถานการณ์
เมื่อถึงเวลานั้น โรเอลก็สังเกตเห็นปรากฏการณ์อันแปลก ประหลาด
หมอกสีขาวปกคลุมครึ่งหนึ่งของทุกสิ่งที่พวกเขาเห็นในระยะไกล แผ่ขยายจากพื้นดินไปจนถึงท้องฟ้าราวกับว่ากําลังกลายเป็นโลกใหม่ โห่ร้องอย่างฉุนเฉียวก่อนจะพุ่งมาทางทิศของเมืองบาร์กอย่างรวดเร็ว จากระยะไกล
“อ..อะไรเนี่ย!?”
“หมอกนั่นมันกําลังมาที่นี่!”
“ส่งสัญญาณเตือนออกไปเร็ว!”
กองทหารรักษาการณ์รับรู้ได้ถึงการไหลเวียนอันผิดธรรมชาติของ พลังเวทที่มาจากหมอกและรีบส่งเสียงเตือน พลังเวทถูกยิงขึ้นไปบน ท้องฟ้าทําให้เกิดเป็นระเบิดแสงอันยอดเยี่ยม แสงไฟส่องสว่างชั่วขณะ ดึงความสนใจของทุกคนไปที่ใบหน้าขนาดใหญ่ ก่อนมันจะถอยกลับเข้า ไปในส่วนลึกของหมอก
มันเป็นภาพที่น่ากลัวมากจนทําให้เหล่าทหารตะโกนออกมาด้วย ความตื่นตระหนก ทําให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจแพร่ออกไปในฝูงชน
เมื่อได้เห็นใบหน้าในหมอก ทันใดนั้นความรู้สึกถึงอันตรายในใจโร เอลจึงได้รับการไขกระจ่าง เห็นได้ชัดว่าหมอกที่คล้ายมหาสมุทรนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติทั่วๆ ไป แต่เป็นหนึ่งในหายนะที่ คุกคามโลกมาแต่โบราณ
ทหารทั่วทั้งเมืองตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้เสียงเตือนที่ดังก้อง พวกเขาออกจากบ้านพร้อมติดอาวุธของตนอย่างรวดเร็ว และรวมตัว กันภายใต้คําสั่งของนายกเทศมนตรีคาร์เมนตรงไปที่กําแพงเมือง
ทุกคนต่างระมัดระวังเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ นักธนูยึดตําแหน่งบนกําแพงเมืองอย่างรวดเร็วและตั้งคันศร พร้อมที่จะ ปล่อยพวกมันใส่ศัตรู คาถาเวทส่องสว่างถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อเปิดทัศนวิสัย ยุทโธปกรณ์ป้องกันที่ติดตั้งในกําแพงเริ่ม เปิดทํางาน
อย่างไรก็ตามโรเอลที่รู้ถึงตัวตนของหกภัยพิบัตินั้นรู้อยู่แก่ใจดีว่า ทั้งหมดนั้นล้วนไร้ประโยชน์
หกภัยพิบัติเป็นตัวตนที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของอารยธรรม มากมาย มันไม่สําคัญด้วยซ�าว่าพวกเขาจะมีทหารกี่คนหรือมีอาวุธครบ มือแค่ไหน เพราะแม้แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 1 ที่ใช้ พลังได้ราวกับเทพเจ้า ก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของพวกมัน ได้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทําให้ผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกมันล้วนสูญสิ้นไป พร้อมกับความสิ้นหวัง
แม้กองทหารรักษาการณ์จะตั้งแนวรบอย่างพร้อมเพรียง แต่หมอก ลูกคลื่นก็ไม่มีวี่แววว่าจะถอยกลับ ทําให้คาร์เมนและเหล่าทหารสัมผัส ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
พวกเขาเผชิญกับการจู่โจมจากพวกกลายพันธุ์มาโดยตลอด แต่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง คืนนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากพวกมันเลย
แน่นอนว่าพวกกลายพันธุ์ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจแต่อย่างใด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเว้นวันบุกโจมตีให้แก่พวกเขา
ดังนั้นเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ทําให้พวกกลายพันธุ์ไม่อยู่ที่นี่ก็คือ พวกมันไม่สามารถมาที่นี่ได้นั่นเอง
หากนั่นยังไม่เพียงพอ การวิ่งหนีจนเหยียบกันตายของสัตว์อสูรก็ เป็นข้อพิสูจน์ได้เช่นกัน
ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หน้าเมืองเหล่าสัตว์อสูรและสัตว์ต่างๆ นับไม่ ถ้วนต่างวิ่งหนีตายราวกับว่าพวกมันกําลังหลบหนีจากหายนะบางอย่าง ตัวที่เร็วพอก็หนีมาได้หวุดหวิด ในขณะที่เหล่าตัวที่ล้าหลังต่างก็ถูก หมอกกลืนจนหายไปโดยสิ้นเชิง
หมอกยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และปกคลุมบริเวณ โดยรอบมากขึ้นเรื่อยๆ ที่น่าแปลกก็คือแม้ว่าจะมีฝูงสัตว์อสูรถูกมันกลืน
กินไปมากแค่ไหน ภายในหมอกนั้นก็ยังคงเงียบสงบปราศจากซึ่งเสียง ใดๆ
นี่ทําให้ความกลัวเข้าครอบงําจิตใจของเหล่าทหารในกองทหาร รักษาการณ์ ลมหายใจของพวกเขาจึงหอบถี่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว
คาร์เมนส่งสัญญาณให้ทหารเริ่มโจมตี แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกศรหรือ คาถาเวทก็ไม่ทําให้หมอกจางลงเลยแม้แต่น้อย
หมอกยังคงรุกล�าเข้าไปในเมืองบาร์กด้วยความเร็วที่ไม่มีใครหยุด ได้ จนกระทั่งร่างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นที่กําแพงเมือง
“นั่นมัน…”
“นายน้อยโรเอล…?”
“…ถอยไปเร็ว”
ต่อหน้าคาร์เมนและเหล่าทหารที่กําลังสับสน โรเอลสั่งให้พวกเขา ถอยออกไป จากนั้นด้วยพลังเวทที่ไหลเวียนอยู่รอบตัว เขาก็ขึ้นไปยัง จุดสูงสุดของกําแพงเมือง
เงาของเด็กหนุ่มสะท้อนอยู่ในสายตาของทุกๆ คน
นักธนูค่อยๆ วางคันธนูลงและนักเวทก็หยุดร่ายคาถา แม้ว่าจะมี ทหารจํานวนมากอยู่บนกําแพงเมือง แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดขวางเขา ทุก คนต่างสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างในบรรยากาศที่เปลี่ยนไปเนื่องจาก การมาถึงของโรเอล
ความรู้สึกหยุดนิ่งที่อธิบายไม่ได้และความกลัวของพวกเขาได้ หายไปอย่างกะทันหัน และหมอกที่เป็นลูกคลื่นเองก็ดูเหมือนจะหยุดลง เช่นกัน
โรเอลที่ลุกขึ้นมายืนเบื้องหน้าพวกเขาเป็นเหมือนดั่งเกราะพลัง เวทที่ปกป้องทุกคนไว้
ฝูงชนที่ยืนอยู่แถวหน้ามองดูเหตุการณ์ที่กําลังดําเนินอยู่ด้วยความ ตื่นเต้น ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนเด็กหนุ่ม
ท่ามกลางความเงียบอันตึงเครียดนี้ โรเอลได้เริ่มร่ายคาถาเวท เวท หนึ่งเป็นเวทน�าแข็งสีน�าเงินและอีกเวทเป็นเวทลมสีเหลืองซีด พวกมัน มาพร้อมกับเสียงไอน�าเยือกแข็งและพายุที่ก่อตัวขึ้น เด็กหนุ่มก้าวไป ข้างหน้า พลางจ้องมองเข้าไปในหมอกที่กําลังใกล้เข้ามาด้วยดวงตาสี ทองที่เป็นประกาย
ซึ่งฝั่ งหมอกเองก็ได้กระเพื่อมเป็นคลื่นเพื่อตอบสนองต่อการจ้อง มองอันเฉียบคมของโรเอล ทําให้เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ในหมอกที่กําลังสบตากับเขาและเริ่มโจมตีโต้กลับ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ แต่พลังเวททั้งสองที่ปกคลุมโรเอลกลับ ยังคงสว่างขึ้นเรื่อยๆ เงาของสัตว์ร้ายสามารถมองเห็นได้ริบหรี่ในพลัง เวทน�าแข็งของเขาพร้อมกับเงารางๆ ของมนุษย์ที่ล่องลอยออกไป พร้อมกับสายลมอันเกรี้ยวกราด
ด้วยพลังจากสัมผัสแห่งธารน�าแข็ง การแสดงออกของโรเอลจึง ยังคงสงบ ราวกับว่าใบหน้าของเขาถูกแช่แข็ง ทว่าความเจิดจรัสใน ดวงตานั้นกําลังเตือนสัตว์ประหลาดตรงหน้าให้ถอยกลับไป
นี่ทําให้การเผชิญหน้าอันยาวนานได้เริ่มขึ้น