ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 459 เพื่อเธอ (1)
ภายใต้ท้องฟ้ายามค�าคืน แม่มดผมสีขาวมองไปยังโรเอลที่กําลังจุด ประกายพลังเวทพลางถอนหายใจเบาๆ เพราะรู้ว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว
ระหว่างการฆ่าคนที่รักเพื่อปกป้องตัวเอง หรือเชื่อในความหวังอัน ริบหรี่ โรเอลได้เลือกอย่างหลัง แน่นอนอาร์เทเชียรู้ว่ามันไม่ใช่ตัวเลือกที่ ชาญฉลาด แต่เธอก็ไม่แปลกใจกับตัวเลือกของโรเอลเลย
“อีกแล้วเหรอ? เจ้านี่ช่างเป็นคนโลภจริงๆ วีรบุรุษของข้า เจ้าตั้งใจ จะปลุกเธอจากภวังค์ด้วยวิธีไหนกัน?”
อาร์เทเชียถามด้วยความเคร่งขรึมที่หายากบนใบหน้าของเธอ
หลังจากความพยายามอันล้มเหลวก่อนหน้านี้ของโรเอลในการ ปลุกความเป็นมนุษย์ในตัวนอร่ากลับมา สัญชาตญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของ เธอก็ดูจะระมัดระวังตัวมากขึ้น ณ จุดนี้มันจึงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่จะ ใช้คําพูดแก้ปัญหา
โรเอลใช้เวลาคิดสองวินาที แล้วจึงเปิดเผยแผนของตัวเอง
ดวงตาสีแดงของอาร์เทเชียเบิกขึ้นอย่างช้าๆ เธอจ้องมาที่โรเอล เป็นเวลานานมากก่อนจะให้การอนุมัติ อย่างไรก็ตามตอนนี้พลังเวท ของโรเอลมีพอสําหรับค่าใช้จ่ายครั้งสุดท้ายเท่านั้น
แสงสีเหลืองอ่อนแผ่ออกมาจากร่างกายของโรเอล ซึ่งเพิ่มพลังของ เขาให้เท่ากับระดับแก่นแท้ 3 ด้วยพรของเปตรา
หลังจากนั้นไม่นานศิลาแห่งมงกุฎก็เริ่มเปล่งประกายสดใส
“สัมผัสธารน�าแข็ง!”
โรเอลร่ายคาถาเวท
คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกําเนิดมงกุฎสั่นพ้อง แล้วจึงปล่อยพลังของ ศิลาแห่งมงกุฎออกมา พลังเวทน�าแข็งแผ่ออกจากร่างกายของเขาขึ้น ไปทางท้องฟ้าสีทอง พร้อมกับร่างของสัตว์ร้ายที่ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา ราวกับว่าตัวตนอันน่าสะพรึงจากยุคโบราณได้ตื่นขึ้นมา เพื่อปลดปล่อย หิมะนิรันดร์อีกครั้ง
ยิ่งเขาคอยยกมือขึ้นมากเท่าไหร่ ปริมาณพลังเวทน�าแข็งที่ปล่อย ออกมาก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นไปท้าทายท้องฟ้าสีทองที่ถูก ครอบงําโดยราชาทูตสวรรค์ เปิดฉากการต่อสู้อีกครั้ง
พลังเวทสีทองและพลังเวทสีขาวปะทะกันบนท้องฟ้า
หกภัยพิบัติเป็นทูตของมารดาแห่งเทพธิดา พวกมันคือภัยพิบัติที่มี พลังการทําลายล้างดั่งภัยธรรมชาติในระดับที่สูงกว่าเทพเจ้า แม้แต่
พลังการโจมตีของราชาทูตสวรรค์ก็ไม่อาจสามารถที่จะทําลายพวกมัน ได้
โรเอลสร้างโดมพลังเวทน�าแข็งล้อมรอบนอร่าไว้เพื่อตัดการ เชื่อมต่อของเธอกับท้องฟ้า แต่นั่นก็ไม่ได้ทําให้เธอตกใจแต่อย่างใด กลับกันแล้วเธอเริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นในการปะทะกับกรันด้า ทําให้กรันด้า เริ่มใกล้ที่จะถึงขีดจํากัดเต็มที
โครงกระดูกขนาดใหญ่ของกรันด้าถูกย้อมไปด้วยชั้นของพลังเวท ทองคํา พลังเวทสีทองเริ่มซึมซับเข้าไปในร่างกายของเขา และทําลาย ภายในจนชิ้นส่วนกระดูกเริ่มร่วงออกมา
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่ เพราะโรเอลต้องการกรันด้าสําหรับ แผนของเขา
สิ่งแรกที่เขาต้องทําเพื่อปลุกความเป็นมนุษย์ของนอร่าก็คือเขา ต้องเข้าไปใกล้เธอ นั่นคือเงื่อนไขแรกที่ต้องบรรลุให้ได้ก่อน อย่างไรก็ ตามคนเดียวที่สามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายนั้นได้ก็คือกรันด้า
“พอจะต้านมันได้รึเปล่า?” โรเอลมองดูร่างกายที่ขาดรุ่งริ่งของกรันด้าพร้อมถาม “ทําตามใจเจ้าเถอะ”
กรันด้าตอบด้วยเสียงอันสง่างาม
โรเอลพยักหน้าเป็นการตอบรับ ก่อนจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วย การปะทุของพลังเวทชวนให้นึกถึงสายฟ้าสีแดงเข้ม
วิธีการของเด็กหนุ่มทําให้ราชาทูตสวรรค์ตื่นตระหนก นอร่าเริ่มบีบ อัดพลังเวทในมือทันที ก่อนจะปล่อยมันเป็นแสงสีทองพุ่งพรวดออกไป ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ให้โรเอลเข้ามาใกล้ได้
แสงสีทองที่พุ่งเข้ามาสว่างจ้าจนตาของโรเอลแทบบอด แต่เขาก็ ยังคงพุ่งไปข้างหน้าโดยที่ไม่มีความลังเลใดๆ ดวงตาสีทองของเขายังคง สงบนิ่ง ไม่สั่นไหวต่อการโจมตีของราชาทูตสวรรค์ เด็กหนุ่มเชื่อในราชา ยักษ์ผู้กล้าหาญว่าจะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเขา
ความไว้วางใจของโรเอลได้จุดประกายไฟในใจของกรันด้า
ราชายักษ์ปล่อยให้เสียงคํารามดังสนั่นออกมา ร่างกายขนาดใหญ่ ของเขาพังทลายลงด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากพลังเวทสีทองและ ลําแสงทําลายล้าง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรวบรวมพลังเวทไปที่กําปั้ น อย่างดุเดือด และเหวี่ยงมันออกไป
การระเบิดของแสงสีแดงเข้มที่มาพร้อมกับการโจมตีของกรันด้า ฉีกผ่านแสงสีทอง เปิดเส้นทางให้กับโรเอล เมื่อสําเร็จภารกิจร่างกาย ครึ่งหนึ่งที่เหลือของเขาก็เริ่มสลายตัว
100 เมตร
โรเอลพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไม่ให้การเสียสละของ กรันด้าเปล่าประโยชน์
ที่ฝั่ งตรงกันข้ามราชาทูตสวรรค์เปลี่ยนท่าทีเป็นป้องกันทันที เพื่อ ป้องกันการโจมตีอันรุนแรงของกรันด้า แต่ในไม่ช้านอร่าก็ตระหนักได้ ว่าพลังเวทน�าแข็งที่ล้อมรอบอยู่ได้ปิดผนึกเส้นทางการล่าถอยของเธอ ไปแล้ว แต่แล้วกรันด้าก็สลายไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้นอร่ารู้ว่าความได้เปรียบกําลังกลับมาฝั่ ง เธอ ทูตสวรรค์จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนกลับมาจู่โจมอีกครั้ง
50 เมตร
ราชาทูตสวรรค์คลายปีกแสงออก และรวบรวมพลังเวทเตรียม โจมตี ทว่าก่อนที่เธอจะสามารถปลดปล่อยการโจมตีออกไปได้ แม่มด ผมสีขาวข้างๆ โรเอลก็ร่ายคาถาออกมา
“จงกลืนกิน”
อาร์เทเชียชี้นิ้วพร้อมร่ายคาถาเวท สร้างผีเสื้อสีดํานับไม่ถ้วนให้ ปรากฏขึ้นมาจากอากาศ ทีแรกฝูงผีเสื้อถูกดึงดูดด้วยพลังเวทของอาร์
เทเชีย แต่ในไม่ช้าความสนใจของพวกมันก็เอนไปยังคนที่มีความ เข้มข้นของพลังเวทสูงกว่า ราชาทูตสวรรค์
พวกมันแห่กันไปที่ราชาทูตสวรรค์พุ่งเข้าไปที่พลังเวทแสงสีทอง
พลังเวทของราชาทูตสวรรค์สลายร่างของเหล่าผีเสื้อสีดําที่เข้ามา ใกล้ แต่ผีเสื้อสีดําเหล่านั้นก็ทําให้พลังเวทของเธออ่อนแอลง พลังเวท ทองคําที่ห่อหุ้มร่างของนอร่าเริ่มจางลงไปพร้อมกับการป้องกันของเธอ ที่ลดลงไปด้วย
30 เมตร
ฝูงผีเสื้อของอาร์เทเชียสูญสลายไปจนสิ้น แต่พวกมันก็ประสบ ความสําเร็จในการช่วงชิงพลังเวทของราชาทูตสวรรค์ไปได้ แต่อาร์เท เชียเองก็ได้ใช้พลังเวทเฮือกสุดท้ายของเธอจนหมด และจางหายไปกับ สายลม
ด้วยการเสียสละของเทพเจ้าโบราณทั้งสอง ในที่สุดโรเอลก็พร้อม ที่จะทําตามแผนการขั้นสุดท้ายของตน
ขณะที่เด็กหนุ่มพุ่งไปข้างหน้า เขาก็ได้บีบอัดพลังเวทน�าแข็งรอบๆ ราชาทูตสวรรค์ไปเรื่อยๆ พยายามที่จะห่อหุ้มนอร่าเอาไว้ในนั้น พลัง เวทน�าแข็งค่อยๆ ส่งผลกระทบต่อร่างกายของนอร่า ทําให้การ เคลื่อนไหวของเธอเริ่มแข็งทื่อ แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดเธอได้ในทันที
แต่นั่นไม่ได้สําคัญเลยสําหรับโรเอล เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่ การหยุดราชาทูตสวรรค์
แกรก
น�าแข็งจมลงเข้าไปในปีกแสงของราชาทูตสวรรค์ แช่แข็งมันจน แตกเป็นก้อนๆ เหมือนกับนกที่ถูกตัดปีกออก เธอได้ร่วงหล่นลงไปยัง พื้นดิน
เมื่อตระหนักว่าการเคลื่อนไหวของตนถูกจํากัด รอยแตกก็ปรากฏ ขึ้นบนใบหน้าของราชาทูตสวรรค์ แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวล
10 เมตร
ในตอนนี้นอร่าได้สูญเสียพลังเวทไปเกือบทั้งหมด ปีกถูกตัดออก และร่างกายก็ถูกปกคลุมไปด้วยน�าค้างแข็ง แต่ตําแหน่งที่เสียเปรียบนี้ก็ ทําให้จิตสังหารของเธอถูกกระตุ้นขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่ อย่างใด เนื่องจากศัตรูที่อยู่ต่อหน้านั้นเป็นเพียงมนุษย์
เมื่อเทียบกับเทพเจ้า มนุษย์นั้นอ่อนแอและน่าสังเวช
ราชาทูตสวรรค์รู้สึกได้ว่าโรเอลได้สูญเสียการคุ้มครองจากเทพเจ้า โบราณไปแล้ว และคิดว่าตนเองสามารถทําลายเขาได้อย่างง่ายดาย แม้ จะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ นี่ไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง แต่เป็นความตระหนักใน
ความเป็นจริงถึงความแตกต่างทางกายภาพระหว่างมนุษย์กับทูต สวรรค์
ด้านโรเอลเองก็รู้ตัวดีว่าตนไม่สามารถเทียบเคียงราชาทูตสวรรค์ ได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว และการคํานวณผิดเล็กน้อยก็อาจถึงแก่ ชีวิต
“เจ้าลืมข้าไปแล้วสินะ”
เสียงอันสง่างามของหญิงสาวเปล่งขึ้นมา ทะลุผ่านชั้นมากมาย ของพลังเวทน�าแข็งรอบๆ ราชาทูตสวรรค์ทําให้ใบหน้าของอีกฝ่าย แปรปรวนด้วยความตื่นตระหนก
ร่างของเทพธิดาแห่งผืนปฐพียังคงถูกปกคลุมหลอมรวมด้วยพลัง เวทสีทอง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการกลืนราชาทูตสวรรค์ก่อนหน้านี้ แต่เปตราก็ยังคงอดทนต่อมันได้ ดวงตาสีเหลืองอ่อนของเธอเรืองแสง อย่างสดใสเหมือนตะเกียง ค่อยๆ สาปเปลี่ยนร่างของเด็กสาวให้ กลายเป็นหิน
นัยน์ตาแห่งศิลา
คาถาต้องห้ามจากยุคโบราณ หนึ่งในคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของ เทพธิดาแห่งผืนปฐพี ที่แม้แต่ราชาทูตสวรรค์ก็ไม่อาจขัดขืนได้
และแล้วตอนนี้โรเอลก็มายืนอยู่ข้างหน้าราชาทูตสวรรค์แล้ว
5 เมตร
ด้วยความช่วยเหลือของเปตรา โรเอลก็สามารถมาถึงตัวราชาทูต สวรรค์ได้ในที่สุด นอร่าไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกแล้ว ด้วยที่ร่างกาย ของเธอกลายเป็นหิน อีกทั้งยังถูกปกคลุมด้วยน�าแข็ง ตอนนี้ทุกอย่างได้ เป็นไปตามแผนของโรเอล และเขาก็ใกล้จะคว้าชัยชนะมาได้เต็มที
อย่างไรก็ตามโรเอลนั้นประเมินพลังของสายพันธุ์ที่มีอํานาจสูงสุด ในโบราณกาลต�าไป
ทันทีที่เด็กหนุ่มเข้ามาในระยะแขนของราชาทูตสวรรค์ เธอก็เริ่ม รีดเร้นพลังเวทไปที่ทางด้านขวาของร่างกาย แบบเดียวกับกรันด้าที่ เลือกจะทิ้งร่างกายของตน เพื่อปล่อยหมัดอันทรงพลังเป็นครั้งสุดท้าย นอร่าเองก็กําลังละทิ้งร่างกายด้านซ้าย เพื่อฟื้ นสภาพร่างกายอีกฝั่ ง อย่างแข็งขัน
นี่เป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางของโรเอล
แม้ว่าราชาทูตสวรรค์จะขยับร่างกายได้เพียงครึ่งซีก แต่เธอก็ แข็งแกร่งเกินกว่าขอบเขตที่มนุษย์จะยืนหยัดต่อสู้ได้ โรเอลตระหนักถึง เรื่องนี้ดี แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้
มือของราชาทูตสวรรค์ปักลงไปที่หน้าอกของเด็กหนุ่มอย่าง ง่ายดาย