ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 468 ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป (2)
ข้างๆ โรเอลที่กําลังหลับสนิท นอร่า เซไซต์นั่งอยู่ในห้องมืดด้วย
ความทุกข์ทรมาน เด็กสาวห่มผ้าห่มอย่างแน่นหนา เพื่อกันแสงที่เล็ด
ลอดออกมาจากร่างกายของเธอ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังเวท
สีทองไม่ให้กลืนกินตัวเธอได้
สัญชาตญาณศักดิ์สิทธิ์ของเธอพยายามที่จะกดขี่ความเป็นมนุษย์
และเข้าครอบงําอีกครั้ง
เมื่อมองดูโรเอลที่หลับสนิท ผู้ซึ่งเชื่อใจในตัวเธอมากพอที่จะหัน
หลังให้กับเธอ นอร่าก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก ในขณะที่มือของเธอ
กําลังกําผ้าห่มแน่น เธอก็เริ่มลังเลกับการตัดสินใจของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ในตอนเย็น หลังจากที่นอร่ากวาดล้างพวกกลายพันธุ์
กว่าพันตัวในหุบเขาทาร์ก เธอก็ได้ตัดสินใจว่าหากอาการของอวตารทูต
สวรรค์ยังคงปรากฏขึ้นในคืนนี้ เธอจะออกห่างจากโรเอล และผจญภัย
ไปในส่วนลึกของหุบเขาทาร์กคนเดียว
มันขัดแย้งกับความรู้สึกและความปรารถนาของนอร่า แต่เธอก็ไม่
คิดว่าตนเองจะมีวิธีอื่นนอกเหนือจากนี้ เธอไม่สามารถปล่อยให้
ความเห็นแก่ตัวทําร้ายผู้ชายที่เธอรักได้มันไม่ใช่เรื่องไม่มีเหตุผลที่นอร่าจะตัดสินใจอย่างกะทันหันแบบ
นั้น อันที่จริงเธอสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะในช่วงเย็น
มันเริ่มต้นด้วยการเต้นอย่างรุนแรงของพลังทางสายเลือดของเธอ
ทันใดนั้นความเป็นจริงก็ดูเหมือนจะห่างไกลจากเธอไปในทันที นอร่า
พบว่าตัวเองกลับมาสู่พื้นที่สีขาวอีกครั้ง หลายครั้งก่อนหน้านี้เธอ
พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับพลังทางสายเลือดตัวเอง แล้ว
ก็ทําได้สําเร็จ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทําให้เธอตกใจ
นอร่าจําไม่ได้ว่าที่พักแรมของพวกเขาอยู่ที่ไหน
โรเอลคิดว่านอร่ากลับมาช้า เพราะเธอใช้เวลาไปกับการหาอาหาร
แต่ความจริงก็คือเธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้นหาบริเวณใกล้เคียง
จนเจอที่พักแรม
ไม่มีทางที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับที่มีพลังในการตรวจสอบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับการฝึกทางทหารอย่างเข้มงวดตั้งแต่อายุยัง
น้อย จะลืมที่พักแรมของตัวเองได้ และไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าโรเอ
ลเองก็ยังอยู่ที่นั่น
ด้วยที่พ่อของเธอหายตัวไป โรเอลจึงเป็นคนที่ใกล้ชิดกับนอร่ามาก
ที่สุด เขาเป็นหนึ่งในเสาหลักที่คอยสนับสนุนเธอ ที่เพิ่งฉุดเธอออกจากขุมนรกแห่งความสิ้นหวัง ทําให้เขากลายเป็นคนสําคัญสําหรับเธอ
มากกว่าพระสังฆราชจอห์นในบางแง่มุมเสียอีก
แต่นอร่ากลับลืมว่าโรเอลอยู่ที่ไหน
มีคําอธิบายที่เป็นไปได้เพียงข้อเดียว เบื้องหลังความผิดปกตินี้ นั่น
ก็คือเธอค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเธอ
ในขณะนั้นนอร่าก็ตระหนักได้ว่าผลกระทบของสถานะอวตารทูต
สวรรค์ของตัวเองได้ไปถึงอีกระดับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นใน
ประวัติศาสตร์ของตระกูลเซไซต์ตลอดช่วงพันปีที่ผ่านมา
สิ่งที่นอร่าเผชิญอยู่ตอนนี้ไม่ใช่แค่การคุกคามเพื่อยึดครองโดย
สมบูรณ์ แต่ยังทําให้เธอสูญเสียตัวตนไปเรื่อยๆ ด้วย
ความทรงจํา ความรู้สึก ความคิด และทุกสิ่งทุกอย่างของนอร่า
กําลังกลายเป็นสนามรบในการต่อสู้กับสัญชาตญาณศักดิ์สิทธิ์ ทุกครั้งที่
สูญเสียมันไป สภาพจิตใจของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างถาวร
การหลงลืมความทรงจําระยะสั้นถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ
ด้วยการตระหนักรู้นี้เองที่ทําให้นอร่าตัดสินใจเลือกทางที่
ยากลําบากที่สุดสถานการณ์ปัจจุบันทําให้อาการของนอร่าแย่ลงโดยไม่รู้ตัว เป็นไป
ได้ว่าการที่เธอยังคงปกติในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็เพื่อจะสูญเสียสิ่งสําคัญ
สําหรับเธอในครั้งต่อไป เธออาจกลายเป็นราชาทูตสวรรค์โดยที่เธอไม่
รู้ตัวด้วยซ�า เหมือนกับกบที่กําลังโดนต้มในน�าเดือด
นอร่าตัดสินใจไม่นอน ไม่เพียงเพื่อที่จะสังเกตสภาพของตัวเอง แต่
เป็นเพราะเธอกลัว เธอกลัวว่าตัวเองจะลืมอะไรไป หรือพลั้งมือทําร้าย
โรเอลทันทีที่เธอละเลยการเฝ้าระวัง และนั่นไม่ใช่สิ่งที่นอร่าจะสามารถ
ยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอด้วยแล้ว
เทพเจ้าโบราณที่ทําสัญญากับโรเอลอ่อนแอลงอย่างมาก ด้วยพลัง
เวทของราชาทูตสวรรค์ อีกทั้งร่างกายของเขาก็ยังอยู่ในสภาพที่ย�าแย่
เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้จากการต่อสู้กับราชาทูตสวรรค์ นอกจากนี้
นอร่ายังสัมผัสได้ว่าเขากําลังปิดบังบางสิ่งจากเธอ
นอร่าให้ความสนใจกับโรเอลตลอดทั้งคืน ทําให้เธอสังเกตเห็นว่า
ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียวอยู่ตลอดเวลา เธอจึงรวบรวมความตั้งใจ
และตัดสินใจอย่างช้าๆ
เด็กสาวค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกจากตัว จัดระเบียบตัวเองอย่างเงียบๆ
จากนั้นก็เริ่มเดินไปที่ประตูภายนอกนั้นมืดมนและหนาวเหน็บ เต็มไปด้วยเสียงคํารามของ
ศัตรู
นอร่ารู้ดีว่า ทันทีที่ก้าวออกจากประตูบานนี้ เธอจะต้องเผชิญกับ
ทุกๆ สิ่งเพียงลําพัง เป็นไปได้ว่าเธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย แต่เมื่อ
คิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถปกป้องคนที่เธอรักได้ หัวใจของเธอก็
แข็งกระด้างขึ้นอีกครั้ง
เธอจ้องมองอย่างโหยหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบังคับตัวเองให้หัน
กลับมา และเอื้อมมือไปที่ประตู ทว่าก่อนที่จะสัมผัสมัน เธอก็ได้ยิน
เสียงอันเรียบสงบมาจากข้างหลัง
“บอกกันก่อนก็ดี ถ้าเธอจะออกไปกลางดึกน่ะ”
“!”
นอร่าหยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความตื่นตระหนก แต่แล้วเธอก็ปรับ
ความรู้สึกอย่างรวดเร็วและตอบกลับโดยหันหลังให้กับโรเอล
“ตื่นแล้วเหรอ? ข้าเห็นเจ้าหลับสนิทเลยไม่อยากปลุกน่ะ”
โรเอลไม่ได้หักล้างคําตอบของนอร่า เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะ
ถามอีก
“เธอกําลังจะไปที่ไหน?”“ข้า… ข้านอนไม่หลับ และมันก็ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ข้าเลยคิดว่าจะ
ออกรวบรวมวัตถุดิบสําหรับอาหารเช้า ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับมาเร็วๆ
นี้”
“…จริงๆ นะ?”
โรเอลถาม
เขายืนขึ้นพลางเอามือแตะหน้าอกด้วยความโล่งใจ
ร่างกายของโรเอลกําลังค่อยๆ พังทลายลงด้วยพลังเวทสีทองที่
แทรกซึมเข้ามาโดยราชาทูตสวรรค์ แต่มันก็ทําให้เขาสัมผัสได้ถึงสภาพ
พลังทางสายเลือดของนอร่า ผ่านความรุนแรงของมัน
ด้วยเหตุนี้โรเอลจึงสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของนอร่าได้แม้ใน
ขณะที่เขาอยู่ในมิติของอาร์เทเชีย
แต่ในขณะเดียวกัน พลังที่เพิ่มขึ้นของพลังเวทสีทองเองก็สร้าง
ความเจ็บปวดอย่างมากให้กับเขา และตอนนี้เด็กหนุ่มก็เริ่มสัมผัสได้ว่า
ความเชื่อมโยงที่ตนมีกับอาร์เทเชียกําลังจะถูกปิดลง
หลักฐานบ่งบอกโรเอลว่านอร่ากําลังอยู่ในสภาพย�าแย่ และไม่มี
ทางเลยที่เธอจะออกไปในเวลาเช่นนี้เพื่อรวบรวมวัตถุดิบสําหรับอาหาร
เช้าแน่ อีกทั้งเขาก็รู้วิธีตรวจสอบที่ดีเสียด้วย“นอร่า ขอฉันดูตาเธอหน่อยสิ”
โรเอลร้องขอก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“…”
ร่างกายของนอร่าสั่นสะท้านด้วยความสับสน
อาการที่เด่นชัดที่สุดของสถานะอวตารทูตสวรรค์ ก็คือดวงตาที่
เปล่งประกายเป็นแสงสีทอง และทั้งสองคนต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนั้น
ด้วยเหตุนี้เธอจึงปฏิเสธที่จะหันหลังกลับ ซึ่งโรเอลก็เลือกที่จะหยุดลง
ข้างหลังเธอและรอคําตอบ
ทั้งคู่เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นอร่ากัดฟันและหันกลับมาเผชิญหน้า
โรเอลในที่สุด
“ในเมื่อเจ้ามองออกแล้ว ข้าก็ไม่จําเป็นจะต้องอ้อมค้อมอีก โรเอล
พวกเราควรจะห่างกันสักพัก”
“ทําไม? เพราะเธออยู่ในสภาพที่ย�าแย่งั้นเหรอ?”
“ข้ากําลังอยู่ในขั้นสุดท้ายของการปลุกพลังสายเลือด ข้าต้องมุ่ง
ความสนใจไปที่มัน ข้าไม่ควรให้ใครมารบกวนในเวลาแบบนี้ แม้แต่
เจ้า”“…เธอกําลังพูดว่าฉันรบกวนเธองั้นเหรอ?”
โรเอลบ่นอุบอิบพลางก้มศีรษะลง
นอร่ารู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย แต่เธอก็พยายาม
บังคับตัวเองให้อดทนต่อไป
“เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส และเจ้าก็คงไม่สามารถทําอะไรได้ หาก
ราชาทูตสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ข้าเกลียดที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่
เจ้าไม่มีประโยชน์อะไรที่นี่ ข้ารู้สึกขอบคุณสําหรับทุกสิ่งที่เจ้าทํา แต่วิธี
ที่ดีที่สุดที่เจ้าสามารถช่วยข้าได้ก็คือการกลับไปที่แนวหลัง ที่นั่น
ปลอดภัยกว่าที่นี่มาก”
ด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง นอร่ากล่าวถึงเหตุผลอันเยือกเย็นที่แทงเข้า
ไปในหัวใจของโรเอล เธอหวังว่ามันจะทําให้เขายอมหันหลังกลับ และ
มันก็ดูเหมือนว่าเธอใกล้จะประสบความสําเร็จแล้ว เมื่อเด็กหนุ่มก้มหน้า
ต�าลงไปอีก
ทว่าเมื่อโรเอลเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขากลับไม่มีความ
โกรธใดๆ มีเพียงความอ่อนโยนเท่านั้น
“เธอนี่มันโกหกไม่เก่งจริงๆ เธอควรจะทําให้ตัวเองดูใจร้ายกว่านี้
นะ ถ้าอยากจะให้ฉันกลับไป ถ้าทําแบบนี้ก็มีแต่จะยิ่งทําให้ฉันอยากอยู่
กับเธอมากขึ้นไปอีก”“!”
นอร่าตกใจมากที่โรเอลมองคําโกหกของเธอออก เธอต้องการจะ
หักล้างสิ่งที่เขาพูด แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้พูดอะไรออกมา ตรวนข้อมือ
สีขาวบริสุทธิ์สองอันที่ผูกกับโซ่ก็พุ่งออกมาจากมือของโรเอลจับข้อมือ
เธอไว้ข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว โดยอีกข้างหนึ่งรัดไว้รอบข้อมือเขา มัดทั้ง
สองคนไว้ด้วยกัน
“น..นี่มันอะไรกัน!?”
“มันคือของขวัญยังไงล่ะ”
“ของขวัญ?”
“ฉันอยากจะพูดถึงมันทีหลังเพราะอยากทําให้เธอประหลาดใจ
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีเวลาแล้ว สุขสันต์วันเกิดนะ นอร่า”
โรเอลพู