ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 469 นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันตั้งใจไว้! (1)
วันเกิดของนอร่า เซไซต์ถือเป็นวันสําคัญสําหรับจักรวรรดิเซนต์เม
ซิท เพราะเป็นวันที่ขุนนางจะมารวมตัวกันเพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคม
ของตัวเอง รวมอิทธิพลของแวดวงขุนนางกับราชวงศ์เข้าด้วยกัน ทําให้
เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สําคัญ
ทว่าเมื่อไม่ได้ใช้ในลักษณะดังกล่าวแล้ว วันนั้นก็ดูเหมือนจะหมด
ความสําคัญไป
นอร่าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดต่อคําอวยพรวันเกิดของโรเอล
เธอไม่ได้สนใจที่จะนับวันเลยนับตั้งแต่มาถึงป้อมปราการทาร์ก อีกทั้ง
การสูญเสียความทรงจําเป็นครั้งคราวจากสถานะอวตารทูตสวรรค์เองก็
ทําให้มันยากสําหรับเธอที่จะจดจําวันเวลาได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตามโรเอลยังคงจํามันได้อย่างชัดเจนในทุกๆ วัน และ
พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้มองว่าวันเกิดของเธอเป็นเครื่องมือทาง
การเมืองอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด เด็กหนุ่มจดจํามันไว้ในใจ เพราะมัน
เป็นวันสําคัญสําหรับนอร่าจริงๆ
ความปลาบปลื้มเอ่อล้นไปทั้งหัวใจของนอร่า ที่ได้รู้ว่าวันเกิดของ
ตนถูกจดจําโดยชายที่เธอรัก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นเรื่อง
ยากสําหรับเธอที่จะแสดงความสุขออกมา“ด…เดี๋ยวก่อน! ข้าดีใจที่เจ้าจําวันเกิดของข้าได้ แต่ที่ข้อมือนี่มัน
คืออะไรกัน!”
“มันเป็นตรวนแห่งสัญญา ไม่สิ ตอนนี้ฉันควรจะเรียกมันว่า ‘ตรวน
ทูตสวรรค์’ น่าจะเหมาะกว่า”
“หา?”
“มันเป็นตรวนพิเศษที่สร้างขึ้นโดยการสั่นพ้องทางพลังเวทของผู้มี
พลังเหนือธรรมชาติที่มีพลังเวทในคุณลักษณะเดียวกัน มันไม่ใช่สิ่งของ
ที่จับต้องได้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหลุดจากมัน มันจะถูกตัด
ออกได้ก็ต่อเมื่อหนึ่งในแหล่งพลังเวทได้หายไปเท่านั้น”
โรเอลอธิบายหลักการเบื้องหลังตรวนที่เขาได้รับจากราชินีแม่มด
นอร่าสับสนกับคําอธิบายนั้น แต่ไม่นานร่างของเธอก็แข็งทื่อ เมื่อ
เธอได้เข้าใจความหมายแฝงเบื้องหลังคําพูดเหล่านั้น
“พลังเวทของคุณสมบัติเดียวกัน? หรือว่านี่เจ้า… “
“ใช่แล้ว ในการต่อสู้ครั้งก่อนราชาทูตสวรรค์ทิ้งพลังเวทของเธอไว้
ในร่างกายของฉัน”
“!”นอร่ารู้สึกเวียนหัว ไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้ถึงความอันตรายของพลัง
ของพลังเวทสีทองมากเท่ากับเธอ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเธอถึงได้
มีปฏิกิริยารุนแรงกับมัน
“ทําไมเจ้าไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับข้า? เจ้ารีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!
นี่เป็นคําสั่ง!”
“คําสั่ง? ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันขอปฏิเสธ”
“โรเอล เจ้านี่มัน!!!”
นอร่าแผดเสียงด้วยความตื่นตระหนก
เธอกระวนกระวายใจอย่างหนักเมื่อคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพวก
เขาเดินต่อไปบนเส้นทางนี้ต่อไปในสภาพที่เธอไม่อาจควบคุมสถานะ
อวตารทูตสวรรค์ ซึ่งโรเอลก็เพียงแต่ถอนหายใจเบาๆ เพราะเขารู้ดีว่า
ตัวเองต้องทําอะไร
โรเอลไม่สามารถปล่อยให้นอร่าจากไปเพียงลําพังได้ในช่วงหัว
เลี้ยวหัวต่อนี้ ทั้งราชาทูตสวรรค์และตระกูลเอลริกไม่ใช่ภัยคุกคามที่เธอ
จะสามารถเผชิญได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้นถ้าเขาต้องการจะเปลี่ยนชะตา
กรรมของเธอละก็ เขาจะต้องโน้มน้าวเธอให้ได้ก่อนเมื่อตัดสินใจได้แล้ว โรเอลก็ก้าวออกไปข้างหน้า การจู่โจมอย่าง
กะทันหันของเขาทําให้นอร่าถอยกลับไปทางด้านข้างของประตู เด็ก
หนุ่มจึงรีบเอามือแตะที่ประตู ขวางกั้นทางหนีของเธอและบังคับให้เด็ก
สาวที่กําลังตื่นตระหนกเผชิญหน้าเขาอย่างตรงไปตรงมา
นี่เป็นครั้งแรกที่นอร่าเห็นโรเอลแสดงท่าทีเช่นนี้ การเปลี่ยนแปลง
อย่างกะทันหันของเขาทําให้เธอประหลาดใจ ทันใดนั้นดวงตาของทั้งคู่
ก็สบประสานกัน
“…”
“…”
โรเอลมองเห็นความกลัวและความตื่นตระหนกในดวงตาของนอร่า
ผ่านการแลกเปลี่ยนสายตาอย่างเงียบงัน อารมณ์ที่ไม่ค่อยปรากฏบน
ใบหน้าของเธอ ครั้งสุดท้ายที่เธอแสดงให้เขาเห็นอะไรแบบนี้คือภายใน
สถานะผู้เฝ้ามอง แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้หนักอึ้งเท่ากับตอนนี้ มันยาก
เกินไปสําหรับเธอที่จะสงบสติอารมณ์หลังจากที่ได้รู้เกี่ยวกับอาการ
บาดเจ็บของโรเอล
ในทางกลับกัน นอร่าเองก็สามารถรับรู้อารมณ์ของโรเอลผ่าน
สายตาของเขาได้เช่นกัน มันเป็นความสงบที่มาพร้อมกับความตั้งใจที่
จะละทิ้งทุกสิ่งหัวใจของพวกเขากําลังสื่อสารเจตจํานงของกันและกันอย่าง
เงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นาน โรเอลก็เริ่มพูด
“ฉันรู้ว่าเธออยากจะให้ฉันกลับไป เพราะเธอกังวล แต่การตายเป็น
สิ่งสุดท้ายที่ฉันคิดในตอนนี้ ฉันจะไม่ยอมตายเด็ดขาด ฉันเลือกที่จะอยู่
เคียงข้างเธอ เพื่อให้เธอชนะอุปสรรค และเป็นความหวังในอนาคตของ
พวกเรา”
“แล้ว…ถ้าข้าล้มเหลวล่ะ?”
“เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ เพราะเธอคือนอร่า เซไซต์”
“อะไรนะ?”
คําตอบของโรเอลนั้นทั้งหนักแน่นและทรงพลัง ไม่มีความลังเลเลย
แม้แต่น้อย เขาแตะแก้มของเธอพร้อมมองเข้าไปในดวงตาของเธอ
อย่างตั้งใจ
“เธอจะชนะ ฉันขอรับประกัน เธอแข็งแกร่งกว่ามัน”
“เธอเป็นสมาชิกตระกูลเซไซต์เพียงคนเดียวในรอบพันปีที่มี
สายเลือดดั้งเดิม เป็นความภาคภูมิใจของจักรวรรดิเซนต์เมซิท และเป็น
ดาวรุ่งที่จะนําทางโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างไปสู่ความยิ่งใหญ่ เธอใจดี ชอบธรรม และไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ แม้แต่ชะตากรรมของฉันเองก็ยัง
เปลี่ยนไปเพราะเธอ”
“มีอนาคตที่สดใสรอเธออยู่ เธอจะสวมมงกุฎ และขึ้นเป็นผู้พิทักษ์
มนุษยชาติ กลายเป็นพระสังฆราชที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์
ของจักรวรรดิเซนต์เมซิท มนุษย์ทุกคนจะรู้จักชื่อของเธอ และคําพูด
ของเธอจะต้องดังก้องกังวานไปหลายชั่วอายุคน”
“ราชาทูตสวรรค์นั้นสูงส่งและทรงพลัง แต่ยุคสมัยนั้นได้เปลี่ยนไป
แล้ว นี่ไม่ใช่ยุคของมังกร ไฮเอลฟ์ และทูตสวรรค์ เศษซากที่เหลือของ
ราชาทูตสวรรค์ อาจทําให้เธอสะดุด แต่ท้ายที่สุดเธอจะต้องรวบรวม
ความกล้าและเอาชนะมันได้แน่ ฉันเชื่อแบบนั้น”
“…”
นอร่าหมดคําพูด เธอจ้องเข้าไปในดวงตาอันเปล่งประกายของโร
เอล แต่ก็ไม่พบร่องรอยของความลังเลเลย สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงความ
มั่นใจ ราวกับว่าอีกฝ่ายเห็นเธอเป็นศูนย์รวมศรัทธาของตัวเอง
มันไม่ใช่การประจบประแจงหน้าซื่อใจคดหรือให้กําลังใจเกินจริง
โรเอลเชื่อในสิ่งที่เขาพูดอย่างจริงจัง เขาถ่ายทอดความรู้สึกอย่างเต็มที่
ผ่านสายตาและคําพูดของเขา ซึ่งนอร่าเองก็สัมผัสได้
ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครไว้ใจคนอื่นได้ถึงขนาดนี้เขาน่าจะรู้ดีว่าชีวิตของเขาจะจบลงทันทีที่เราล้มเหลว ทั้งๆ ที่ไม่มี
การรับประกันใดๆ แท้ๆ แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวเรางั้นเหรอ?
จู่ๆ นอร่าก็รู้สึกเหมือนกําลังแบกของหนักๆ อยู่บนบ่า แต่นั่นไม่ได้
ทําให้เธอรู้สึกเหมือนแบกภาระเลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้วน�าหนักนั้น
ยิ่งทําให้เธอสบายใจ ระงับความวิตกกังวลและความไม่มั่นใจในตัวเธอ
ลง
“…ทําไมกัน?”
“หืม?”
“ทําไมเจ้าถึงยังเชื่อในตัวข้า? ข้าเคยล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่งนะ
อีกทั้งเจ้าเองก็น่าจะรู้ถึงสภาพในปัจจุบันของข้าดีนี่นา ข้าไม่คู่ควรกับ
ความไว้วางใจของเจ้าหรอก”
“…เธอเป็นเจ้าชีวิตของฉัน คนที่สําคัญที่สุดสําหรับฉัน และฉันก็
กล้าที่จะพูดว่าฉันรู้จักเธอยิ่งกว่าใครๆ ในโลก”
โรเอลนึกถึงความทรงจําในอดีตของตนและเปิดเผยความจริง
อย่างใจเย็น นอร่ากะพริบตาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่ริมฝีปาก
ของเธอจะเริ่มขดเป็นรอยยิ้ม“เจ้าพูดเหมือนคําทํานายเลยนะ แต่ใช่เจ้าพูดถูก ข้าเป็นเจ้าชีวิต
ของเจ้า และก็เป็นผู้พิทักษ์ของเจ้าด้วยเช่นกัน ข้ามีหน้าที่ต้องปกป้อง
เจ้า คงจะน่าอายน่าดูหากข้าทําให้เจ้าผิดหวัง”
“ไม่ออกไปแล้วเหรอ?”
“ข้าออกไปไม่ได้แล้ว แม้ว่าอยากจะไปก็ตาม”
นอร่าส่ายหัวขณะที่ตอบ
หลังจากฟังสิ่งที่โรเอลพูด เธอก็ไม่สามารถหันหลังให้กับเด็กหนุ่ม
และทรยศความเชื่อใจของเขาได้อีกต่อไป ด้วยการสนับสนุนของโรเอล
เธอจะสามารถเอาชนะอุปสรรคทางจิตและยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งกว่า
ที่เคยได้สําเร็จ
อันที่จริงโรเอลสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างในตัวนอร่าเปลี่ยนไป
นับตั้งแต่ที่เขาช่วยเธอให้พ้นจากเงื้อมมือของราชาทูตสวรรค์ นอร่าก็
สูญเสียความมั่นใจและความตั้งใจอันแรงกล้าตามปกติของเธอไป นั่น
คือเหตุผลที่เขาต้องทําแบบนี้ เพื่อที่เธอจะได้เอาชนะจุดอ่อนของตัวเอง
และมุ่งความสนใจไปที่อนาคตเพียงอย่างเดียว
นอร่าจะไม่แพ้ ตราบใดที่เธออยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด นี่คือสิ่งที่
ได้รับการพิสูจน์แล้วในเกมอายออฟโครนิเคิลแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วสินะ
ในที่สุดหัวใจของโรเอลก็ผ่อนคลายลง เขาปล่อยมือจากประตู
เตรียมที่จะถอยกลับ แต่จู่ๆ นอร่าก็คว้าปลายอีกด้านของโซ่และดึงเขา
กลับมา
กึง!