ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 470 นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันตั้งใจไว้! (2)
โรเอลเบิกตากว้างด้วยความงุนงง การดึงแบบปุบปับจากปลายโซ่
อีกด้านทําให้เขาเสียการทรงตัวและเซไปข้างหน้า เด็กหนุ่มจึงต้องกด
มือลงกับประตูอีกครั้งเพื่อหยุดตัวเอง ในที่สุดเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
เขาก็พบว่าใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนอร่าได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“น-นอร่า? คิดจะทําอะไรน่ะ?”
ใบหน้าของโรเอลแข็งทื่อ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ อีกด้าน
หนึ่ง นอร่าก็ยกมือขึ้น มองดูผ้าพันแขนสีขาวและโซ่ที่ผูกไว้ด้วยริม
ฝีปากที่โค้งงอ
“ข้าดีใจจริงๆ ที่เจ้าจําวันเกิดของข้าได้ เจ้าไม่รู้เหรอ ว่าการใส่
ตรวนให้กับเจ้านายเป็นการกระทําที่เลวร้ายแค่ไหน”
“ด…เดี๋ยวก่อน! เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากได้ตรวนข้อมือ?
เธอไม่ชอบของขวัญที่ฉันเตรียมไว้ให้งั้นเหรอ?”
“นั่นก็ใช่ แต่ข้าไม่เคยอนุญาตให้เจ้าใส่ตรวนข้อมือข้า ก่อนหน้านี้
เจ้ายังคงพูดถึงความจงรักภักดีอยู่แท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าบนโลกนี้จะไม่มี
ใครดื้อรั้นไปมากกว่าเจ้าแล้ว การกระทําของเจ้าช่างย้อนแย้งกับคําพูด
เหลือเกิน”“…”
โรเอลไม่สามารถหักล้างคําพูดเหล่านั้นได้ ทั้งสองคนยืนห่างกัน
เพียงไม่กี่เซนติเมตร ทําให้พวกเขารู้สึกถึงการหายใจและการเต้นของ
หัวใจของกันและกัน ทันใดนั้นความรู้สึกที่นอร่าเก็บกดไว้ทั้งหมดนั้น
เริ่มปะทุออกมา
“…เจ้าสมควรได้รับการลงโทษ”
ด้วยเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยถนัดชัดนั้นเอง นอร่าก็เอนตัวเข้ามาชิงริม
ฝีปากของโรเอล
……
ตอนเที่ยง
พระอาทิตย์ส่องแสงสีทองสาดส่องลงมาที่หุบเขาทาร์กและชําระ
ล้างความหนาวเย็นในยามค�าคืน
ภายใต้สภาพอากาศที่สบายๆ เช่นนี้ ชายโสดคนหนึ่งกําลังนั่งอยู่
คนเดียวท่ามกลางหุบเขา ไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเอง
มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเตรียมของขวัญให้ตรงกับความต้องการ
ของผู้รับ แต่สามัญสํานึกนั้นไม่ได้ถูกต้องเสมอไป และสภาพในปัจจุบัน
ของโรเอลเองก็เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่งเฮ้อ ไม่คิดเลยว่าเราจะกลายเป็นของขวัญไปซะได้
ตรวนทูตสวรรค์เป็นอุปกรณ์เวทที่ไม่มีรูปร่างซึ่งผูกพลังเวทสอง
แหล่งที่มีคุณสมบัติเหมือนกันเอาไว้ เป็นสายโซ่ที่สามารถยืดออกไปได้
ไม่รู้จบ และถ้าหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดึงโซ่ก็จะสามารถลากอีกฝ่าย
กลับมาหาได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ไกลกันแค่ไหน
โรเอลได้ขอให้อาร์เทเชียสร้างอุปกรณ์เวทนี้ทั้งเป็นของขวัญและ
วิธีที่เขาจะใช้ช่วยนอร่าจากช่วงเวลาวิกฤตในการปลุกพลังทาง
สายเลือดของเจ้าตัว มันเป็นสิ่งที่คิดขึ้นด้วยการพิจารณาถึงหลักเหตุผล
หลายๆ อย่าง ทว่ามันกลับถูกใช้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป
“นี่ อ้าปากหน่อยสิ”
บนสนามหญ้าในหุบเขา โรเอลนั่งอยู่ตรงหน้านอร่าในสภาพถูกโซ่
หลายเส้นพันรอบร่าง แหงนมองดูท้องฟ้าอย่างเงียบๆ เสียใจกับความ
ผิดพลาดของตัวเอง อีกด้านหนึ่งนอร่าก็คว้าที่ปลายของโซ่และ
‘ชักชวน’ โรเอลให้กินขนมจากช้อนในมือเธอ
โรเอลไม่ได้ถูกผูกมัดเพราะเขากลายเป็นพวกชื่นชอบความ
เจ็บปวดแต่อย่างใด เขาพยายามโต้กลับแล้ว ทว่าเขาดันคํานวณ
ผิดพลาดอย่างร้ายแรง นั่นก็คือการใช้พลังเวทของทูตสวรรค์เป็น
ตัวกลางสําหรับตรวนแน่นอนว่ายังไงๆ นอร่าก็ต้องควบคุมพลังเวทของทูตสวรรค์ได้
ดีกว่าโรเอล ซึ่งหมายความว่าเธอสามารถควบคุมโซ่ตรวนนี้เพื่อทําทุก
อย่างได้ตามที่เธอต้องการ
“เจ้าจะไม่กินจริงๆ เหรอ?”
นอร่าขัดขวางการย้อนความทรงจําของโรเอล พลางจ่อช้อนขนม
ไว้ข้างหน้าเขา และพยายามจะหลอกล่อเขา อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มนั้น
ได้ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อเธอแล้ว
“ไม่”
“มันอร่อยมากเลยนะ ข้าเตรียมมันมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ อย่าง
น้อยๆ เจ้าก็ควรจะลองชิมหน่อยสิ”
“ปลดตรวนข้อมือออกก่อนสิ”
“ไม่ได้ๆ”
นอร่าปฏิเสธคําขอของโรเอลด้วยรอยยิ้มที่สดใส
เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้นพลางรวบผมไว้ด้านหลังไหล่ เผยให้
เห็นต้นคออันงดงาม ก่อนจะกระซิบข้างหูของโรเอลเบาๆ
“ทําตัวดีๆ หน่อยได้ไหม?””…ขอปฏิเสธ”
“ข้าคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ ดูท่าจะต้องใช้บทลงโทษบางอย่าง
กับเจ้าซะแล้ว”
“ด…เดี๋ยว…เดี๋ยวก่อน! เธอกําลังจะทําอะไรน่ะ?”
โรเอลอุทานด้วยความตกใจ
ใบหน้าของนอร่าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นขณะที่มือเริ่มถอดรองเท้าของ
ตัวเอง เผยให้เห็นขาเรียวยาวคู่หนึ่งที่ห่อหุ้มถุงน่องสีดําบางๆ การ
เคลื่อนไหวของเธอทําให้จิตใจของโรเอลเริ่มร้อนรุ่มขึ้นอย่างควบคุม
ไม่ได้ ปลุกสัญชาตญาณของผู้ชายให้ตื่นขึ้น
เขารู้ทันทีว่านี่คงไม่ดีแน่
ในฐานะที่เป็นคนที่มักจะอยู่ร่วมกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์เสมอ โรเอลมี
ความอดทนสูงในฐานะผู้ชาย ทว่าเมื่อองค์หญิงผู้มีเกียรติ ซึ่งรู้จักกันใน
นามทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ มองมาทางเขาด้วยใบหน้าแดงก�า และดวงตา
ที่ผสมผสานระหว่างความบริสุทธิ์และความปรารถนานั้นเอง เขาก็
พบว่าตัวเองกําลังจมดิ่งลึกลงไปในความยั่วยวนอันร้ายกาจที่ปรุงด้วย
ความแตกต่างอันย้อนแย้ง
ใครมันจะทนได้กันล่ะความตั้งมั่นทั้งหมดของโรเอลพังทลายอย่างรวดเร็ว
นอร่าวางขาของเธอไว้บนต้นขาของเด็กหนุ่มเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทําร้ายเจ้าหรอก”
“ไม่ๆ นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย”
การเสียดสีของถุงน่องที่ขาของโรเอลทําให้เด็กหนุ่มรู้สึกจั๊กจี้
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มสัมผัสได้ว่าเท้า
เล็กๆ ของอีกฝ่ายค่อยๆ เคลื่อนขึ้นไปข้างบน พร้อมความปรารถนาใน
ดวงตาของเธอที่ดูเหมือนกําลังจะอาละวาด
เมื่อรู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้สิ่งต่างๆ ดําเนินต่อไปในลักษณะเช่นนี้
โรเอลก็รีบร้องออกมาอย่างรวดเร็ว
“ฉ…ฉันจะกินแล้ว! ฉันยอมกินก็ได้!”
“หืม?”
“ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้กําลังจะป้อนอาหารให้ฉันเหรอ? ฉันจะกินมัน
เดี๋ยวนี้แหละ เธอจะได้หยุดสิ่งที่เรียกว่าการลงโทษซะเดี๋ยวนี้ไง!”
“อ…อืม ก็ได้”หลังจากสูญเสียเหตุผลที่จะลงทัณฑ์ต่อ นอร่าก็ค่อยๆ ฟื้ นคืนสติ
และถอนขาของเธอออก เธอหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ลง แต่
เธอก็ยังไม่สามารถดับความร้อนรุ่มที่รู้สึกได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น เมื่อโรเอลโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อกัดช้อนขนม นอร่าก็ทํา
ตามความปรารถนาของตัวเองโดยการจูบอีกฝ่ายแทน โรเอลพยายาม
ถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่นอร่าก็คว้าโซ่ไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาขยับ
หนี
ทั้งสองคนติดอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ก่อนที่นอร่าจะปล่อยโร
เอลไปในที่สุด
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราตกลงกันไว้นี่”
โรเอลบ่นพร้อมสูดอากาศ
“…มันเป็นอาหารเรียกน�าย่อยน่ะ”
นอร่าตอบอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นเด็กสาวก็หยิบช้อนขนมขึ้นมาแล้วส่งไปที่ปากของโร
เอล ให้เขาได้ชิมขนมเมื่อได้ระบายความรู้สึกแล้ว นอร่าก็ไม่ต้องพยายามทําอะไรอีก
โดยเลือกที่จะป้อนอาหารเขาอย่างสงบจนกว่าเขาจะอิ่ม เธอรู้ตัวดีว่าถ้า
ขืนยังคงดึงดันต่อไป มันอาจจะเกินขอบเขตไปได้
นี่ไม่ได้หมายความว่านอร่าเกลียดชังความคิดการร่วมรักกับคนรัก
ในวันเกิดของตัวเอง แต่เธอรู้สึกว่าสถานที่นี้ยังไม่เหมาะเท่าไหร่ ยิ่งไป
กว่านั้นโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้างยังห้ามไม่ให้ผู้ติดตามใช้วิธีคุมกําเนิดใน
การร่วมรักอีกด้วย
การเกิดของชีวิตใหม่ถูกมองว่าเป็นของขวัญจากเทพีเซีย แต่มันก็
ยังเร็วเกินไปสําหรับพวกเขาที่จะมีลูกเพียงปีเดียวหลังจากมาถึงวัย
ผู้ใหญ่ นอกจากนี้มันยังไม่เหมาะสําหรับพวกเขาที่จะทําเช่นนั้น
เนื่องจากสถานการณ์ของราชวงศ์ในปัจจุบัน
การหายตัวไปขององค์ชายเคน ทําให้ตระกูลเซไซต์ต้องการผู้สืบ
ทอดที่ทรงพลังและไร้ที่ติ นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสําหรับนอร่าที่จะตั้งครรภ์
นอกจากนี้เธอก็ยังมีอุปสรรคสําคัญที่ต้องฝ่าฟันให้ได้รออยู่
“วันพรุ่งนี้แล้วสินะ”
“อืม น่าจะช่วงหลังพระอาทิตย์ตก”
หลังรับประทานอาหารกลางวัน โรเอลก็ถามเกี่ยวกับเวลา
โดยประมาณที่สถานะอวตารทูตสวรรค์จะกลับมาเป็นครั้งสุดท้ายของนอร่า ซึ่งเด็กสาวก็สัมผัสถึงพลังทางสายเลือดของเธออย่างรวดเร็ว
ก่อนจะพยักหน้า ทั้งสองคนพิงกันและกันฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่าย
การต่อสู้ที่กําลังจะเกิดขึ้นในช่วงพระอาทิตย์ตกดินในวันพรุ่งนี้จะ
เป็นตัวกําหนดความอยู่รอดของพวกเขา อนาคตของจักรวรรดิเซนต์เม
ซิท และอาจรวมไปถึงชะตากรรมของมนุษยชาติด้วย ซึ่งโรเอลเองก็มี
ภารกิจที่เขาต้องทําให้สําเร็จเช่นกัน
โรเอลหันสายตาไปทางทิศตะวันตก ดวงตาสีทองเป็นประกายของ
เขาดูเหมือนจะท่องไปทั่วอวกาศ จ้องมองไปยังกลุ่มของศัตรูที่กําลังวิ่ง
มาทางทั้งสองด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ทางแยกแห่งโชคชะตากําลังจะมาถึงพวกเขาในไม่ช้า