ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 479: ก้าวข้ามความตาย (1)
โรเอล แอสคาร์ดพ่ายแพ้ไปแล้ว
นี่คือข้อสรุปที่ฝูงชนได้เห็นเป็นประจักษ์จากระยะไกล
โรเอลไล่ตามไบรอันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเพื่อปิดฉาก แต่แล้วการต่อสู้
ก็พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือในไม่กี่วินาที
เงาสีเทาได้ปรากฏขึ้นข้างๆ ไบรอันผู้ร่วงหล่น กระตุ้นการเฝ้าระวัง
ของฝูงชน ซึ่งโรเอลก็สังเกตเห็นมันเช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความ
แตกต่างอะไร เงาสีเทาดังกล่าวปล่อยการโจมตีที่สามารถเจาะทะลุการ
ป้องกันทั้งหมดของโรเอลได้ออกมา ส่งผลให้เขาพ่ายแพ้ในทันที
จากนั้นเงาสีเทาก็หายไปหลังจากปล่อยการโจมตีนั้น และไบรอันก็
ยืนขึ้นมา
นี่ทําให้ทั้งพวกลัทธินอกรีตและเหล่าอัครสาวกต่างตระหนักได้ว่า
พวกเขาถูกหลอก ที่จริงโรเอลคือเป้าหมายที่แท้จริงของไบรอันมาตั้งแต่
แรก เห็นได้จากการเตรียมการอันประณีตของอีกฝ่าย
ที่แย่ที่สุดก็คือ แผนการของอีกฝ่ายนั้นได้ผล
โรเอลล้มลงโดยสมบูรณ์หลังจากถูกลําแสงของม่านหมอกสีเทา
โจมตี พลังเวทสีแดงเข้มและพลังเวทน�าแข็งกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นร่างกายของเด็กหนุ่มก็ถูกปกคลุม
ไปด้วยม่านหมอก สีเทา เลือนรางขึ้นไปในทุกวินาที
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนพวกลัทธินอกรีตไม่สามารถโต้ตอบได้
ทัน
ร่างกายของซินเทียแข็งค้าง ร็อดนีย์ที่กําลังต่อสู้เองก็ชะลอการ
เคลื่อนไหวของตนลงจนหยุดอยู่กับที่ วู้ดจ้องมองไปยังโรเอลด้วยดวงตา
เบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเพิ่งเห็น
ตรงกันข้าม พวกลัทธิชั่วร้ายต่างเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา
เมื่อโรเอลตาย ก็ไม่มีใครมีพลังมากพอที่จะต่อต้านพลังอันทรง
พลังของไบรอันได้อีก หมายความว่าการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขานั้นเป็นฝ่าย
ชนะแล้ว
แน่นอนว่าพวกลัทธินอกรีตและเหล่าอัครสาวกเองก็ตระหนักถึง
เรื่องนี้เช่นกัน ความสิ้นหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา แม้พวก
เขาส่วนใหญ่พร้อมที่จะตายในหน้าที่ แต่ทุกคนล้วนไม่สามารถยอมรับ
การสูญเสียในครั้งนี้ พวกเขาต่างเข้าใจดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพวก
ลัทธิชั่วร้ายชนะศึกนี้
ทว่า มีเพียงชายคนหนึ่งที่ยังเชื่อมันว่ามันยังไม่จบ…เคาต์แฮงค์แฮงค์เชื่อว่าโรเอลยังคงมีโอกาสที่จะฟื้ นกลับมาได้ ต่อให้ชีวิตของ
เขากําลังจะดับสูญ แต่ตราบใดที่โรเอลสามารถค้นพบแก่นแห่งความ
เชื่อของตัวเองได้ และพัฒนาระดับแก่นแท้ขึ้นมา เขาก็อาจจะสามารถ
พลิกผันสถานการณ์ต่างๆ ในตอนนี้ได้
น่าแปลกที่สภาพใกล้ตายของโรเอล ยิ่งทําให้แฮงค์เชื่อแบบนั้น
เมื่อคิดถึงช่วงเวลาเดือนกว่าๆ ที่ได้เดินทางมายังชายแดน
ตะวันออกร่วมกับเด็กหนุ่มคนนี้ แฮงค์ก็คลายความกังวลใจลง เขาได้
พบกับอัจฉริยะมามากมายตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุผล
บางอย่าง เขามั่นใจเป็นพิเศษว่า โรเอลไม่มีทางตายที่นี่แน่
นี่คือความรู้สึกที่ได้มาจากสัญชาตญาณและประสบการณ์ในช่วง
หลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ไบรอันเดินผ่านโรเอลมุ่งตรงไปยังบ้านพักที่นอร่าอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้นแฮงค์ก็รีบวิ่งมาออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังเวทแสงสี
ขาวปกคลุมทั่วร่างกาย
เราต้องซื้อเวลาเอาไว้ รอการกลับมาของเขา
แฮงค์เริ่มรวบรวมพลังเวททั้งหมดที่มีในตัว เขาเตรียมที่จะสละ
ชีวิตของตัวเอง เพื่อถ่วงเวลาสําหรับการกลับมาของโรเอล อย่างไรก็
ตามการปะทุของพลังเวทอย่างกะทันหันก็ได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป…
ช่วงเวลาที่โรเอลจับมือที่ยื่นออกมาจากเงามืด พลังเวทก็ปะทุขึ้น
เป็นระลอกๆ จากกระดูกสีขาวของโครงกระดูกยักษ์ที่ล้มลง
มันสร้างปฏิกิริยาลูกโซ่ ทําให้ไบรอันหยุดฝีเท้าของเขา และภายใน
สํานักงานใหญ่ของสมาคมนักปราชญ์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ร่างในชุด
คลุมเองก็ต้องหันหน้ากลับมา ด้วยความประหลาดใจและมองดูแสงอัน
เรืองรองด้านหลังเขา
กึก
รอยแตกปรากฏขึ้นบนหินที่นักสะสมใช้เป็นสื่อเวทก่อนหน้านี้ ทํา
ให้เศษแสงทะลักออกมาจากภายใน
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่แขนของตน
สภาพแวดล้อมรอบตัวนักสะสมเปลี่ยนไปในทันที และแสงเทียน
ริบหรี่ก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา มีเด็กหนุ่มผมดําคนหนึ่งกําลังจับ
ข้อมือของเขาแน่น ส่งพลังเวทน�าแข็งเข้าไปในตัวเขา แช่แข็งร่างกาย
ครึ่งหนึ่งของเขา
“!”ร่างในชุดคลุมดึงแขนของตนอย่างรวดเร็ว และปล่อยเปลวเทียน
หลุดออกจากมือไป
การปลดปล่อยเปลวเทียนออกไปได้ปล่อยคลื่นพลังเวทอันเจิดจ้า
ขึ้นมาในทันที มันชําระล้างความมืดทั้งหมด และผู้บุกรุกที่กล้าบุกรุก
มายังดินแดนนั้น
ทันทีที่นักสะสมกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เขาก็หรี่ตาลงช้าๆ
มองไปที่แขนที่ถูกแช่แข็งของตนด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ
หลายปีที่อารมณ์ที่แท้จริงของเขาแสดงออกมาบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว
เขาเข้าใจได้ในทันทีว่าผู้ปลุกพลังสายเลือดตระกูลแอสคาร์ด
สามารถคว้าร่างที่แท้จริงของเขาในพื้นที่มืดนั้นได้ยังไง
อีกฝ่ายนั้นได้ค้นพบแก่นแห่งความเชื่อของตัวเองแล้ว นับจากนี้
เป็นต้นไปจะไม่มีใครสามารถแทรกซึมเข้าไปในดินแดนภายในจิตใจ
เพื่อดับเปลวเพลิงของเขาได้อีก ตอนนี้สายเลือดแห่งผู้แสวงหาราชา
ได้รับการปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
หลังจากผ่านไปหลายศตวรรษ สายเลือดโบราณนั้นก็ได้ปรากฏขึ้น
อีกครั้งบนโลก กระแสชะตากรรมของทุกสรรพสิ่งจะต้องเปลี่ยนไป ถึง
ขั้นที่แม้แต่เทพปีศาจและเทพเจ้าก็ยังต้องหันมาสนใจนักสะสมจ้องไปที่สื่อเวทซึ่งกําลังเรืองแสงด้วยใบหน้าที่อ่านไม่
ออก ยากที่จะบอกว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่
อีกด้านหนึ่ง ณ หุบเขาทาร์กดวงตาสีฟ้าของไบรอันจ้องเขม็งด้วย
ความไม่เข้าใจ
ราวกับว่ามีใครบางคนย้อนเวลากลับไป รอยเปื้ อนสีเทาค่อยๆ
กลับมาบรรจบกันรอบๆ กระดูกสีขาวที่พังทลาย ทําให้ร่างกายที่เลือน
รางของโรเอลกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน พลังเวทจํานวนมหาศาลที่ดูเหมือนจะถูกร่ายออกมา
จากที่ไหนสักแห่ง ก็เริ่มมารวมตัวกันบนท้องฟ้าและก่อตัวเป็นภาพ
ภาพนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้สง่างาม
ที่ถือดาบอยู่ในมือ สัตว์ร้ายอันดุร้าย ทูตสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ และมังกรผู้
สง่างาม…
สิ่งมีชีวิตที่เคยมีตัวตนอยู่ในยุคโบราณต่างปรากฏขึ้นมาทีละอย่าง
ซึ่งรวมไปถึงเทพเจ้าและเทพปีศาจก็ด้วย แม้ว่าจะพวกเขาจะโผล่มาไม่
นาน แต่ก็ทําให้เกิดแรงกดดันต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ ก่อนที่จะหยุด
ลงที่ตัวตนอันเปล่งประกาย
ทันทีที่เธอปรากฏตัว แม้แต่ผู้นับถือลัทธิชั่วร้ายที่ชั่วร้ายที่สุดก็ต้อง
ล้มลงกับพื้น ตัวสั่นร้องอ้อนวอนที่จะกลับใจราวกับว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กน้อยผู้โง่เขลาและหลงทางไปชั่วขณะ ผู้ศรัทธาที่เคร่งศาสนาต่างอ้า
ปากค้างด้วยความตกใจพึมพําชื่อของเธอด้วยความคารวะ
เทพีเซีย
ฉากตรงหน้านี้ทําให้หัวใจของไบรอันสั่นไหว ม่านหมอกสีเทา
กระจัดกระจายไปอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว ส่วนแฮงค์ก็รีบก้มศีรษะ
ลงอย่างเคารพ แม้จะกําลังอยู่ในสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยง
ไม่มีทางที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ แม้จะเป็นการก้าวสู่
ระดับแก่นแท้ 3 ก็ตาม คําอธิบายเดียวที่เป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ นี่
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความทรงจําของสายเลือดแห่งตระกูลแอสคาร์ด
เมื่อเชื้อสายโบราณหวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต ร่างกายที่เย็น
ยะเยือกก็ลุกโชนไปด้วยไฟแห่งเจตจํานง
โรเอลมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้านบนนั้นร่างที่กําลังส่องสว่าง
ต้อนรับการกลับมาของเขาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ยื่นมือของเธอออกมา
หาเขา ทําให้คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกําเนิดมงกุฎสั่นไหว
【กริ๊ง!】
【ผู้ใช้ได้รับพรของเซีย】【การปลุกพลังสายเลือดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ระดับการปลุกพลัง:
100%】
【กริ๊ง!】
【ได้รับทักษะใหม่: ก้าวข้ามความตาย】
【ก้าวข้ามความตาย
ในมิติแห่งจิตใจ คุณยึดมั่นในความเชื่อของตัวเอง และเบ่งบาน
ขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด ไม่มีใครสามารถควบคุมเปลวไฟอันลุกโชน
ในตัวคุณได้อีก กระแสแห่งโชคชะตากําลังเปลี่ยนแปลง ความตายไม่ใช่
จุดจบ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ผล : เพิ่มความต้านทานต่อความตาย ผู้ใช้จะได้รับการเพิ่ม
ประสิทธิภาพ ปริมาณพลังเวทและความสามารถของสายเลือด ที่
สอดคล้องกันกับอาการรุนแรงของการบาดเจ็บ】
การแจ้งเตือนหลายครั้งดังก้องขึ้นในหูของโรเอล พร้อมความรู้สึก
ที่อธิบายไม่ถูกที่พัดผ่านเข้ามา มันเป็นความรู้สึกอันอ่อนโยนและเงียบ
สงบ ภายในส่วนลึกของจิตวิญญาณ เด็กหนุ่มหลับตาลงและปล่อยให้
แสงอันอบอุ่นชําระล้างสิ่งสกปรกในนั้น ขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึง
การมีอยู่ของแกนกลางภายในคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกําเนิดที่รวบรวมทุก
อย่างเอาไว้ด้วยกันปรากฏการณ์นี้กินเวลาเพียงครู่หนึ่งก่อนจะจางหายไป แสงจ้าส่อง
เข้ามาในร่างของโรเอล จากนั้นความกดดันในอากาศก็สลายลงไปใน
ที่สุด
โรเอลลืมตาขึ้นอีกครั้งและจ้องไปที่ไบรอัน อีกฝ่ายก็ไม่สามารถ
รักษาใบหน้าอันสงบนิ่งเอาไว้ได้อีกต่อไป มีเพียงความตกตะลึงใน
สายตาของเขา
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที แต่พลังเวทของโรเอลกลับแตกต่างไป
จากเดิมอย่างสิ้นเชิง พลังเวทที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแสดงให้เห็นว่าเขา
ได้เอาชนะคอขวดของตนและก้าวไปถึงระดับแก่นแท้ 3 แล้ว ดวงตาสี
ทองอันเปล่งประกายของเขา แสดงความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ราวกับว่าแม้แต่ความตายก็ไม่อาจทําให้เขาหวาดหวั่นได้อีก
นี่ทําให้ไบรอันรู้สึกกลัวการเปลี่ยนแปลงของโรเอล แต่เขาก็ชื่อว่า
ตนเองยังมีโอกาส