ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 484: หัวใจที่ถูกล่ามโซ่ (2)
ภายในโลกแห่งความเป็นจริง เสาแสงอันเจิดจ้าพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าได้
สร้างความประหลาดใจให้กับผู้นับถือลัทธินอกรีตและเหล่าอัครสาวกที่
ตามมาถึงที่บ้านพัก
พลังเวทของนอร่าใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะสงบลง
นครแห่งทูตสวรรค์อันงดงาม อังค์ทาห์ได้สลายหายไปและถูกลบ
ออกจากพื้นโลก จึงเหลือเพียงเสียงอันดังก้องภายในพื้นที่สีขาว
“ขอโทษด้วย ข้าทําให้เจ้ารอสินะ”
นอร่าลืมตาขึ้นและมองไปยังเด็กหนุ่มผมดําที่กําลังรอการกลับมา
ของเธอ พลังเวทอันสง่างามในดวงตาไพลินของนอร่าค่อยๆ จางหายไป
แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร ดูเหมือนว่าฉันจะยื่นมือเข้าไปทําอะไรที่ไม่จําเป็นสินะ”
โรเอลกล่าว
เด็กหนุ่มเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า นอร่าจะสามารถเอาชนะราชาทูต
สวรรค์ได้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะสามารถบรรลุชัยชนะอันน่าทึ่งได้ถึง
ขนาดนี้ เพราะเขาเป็นคนรู้ดีว่าราชาทูตสวรรค์นั้นแข็งแกร่งเพียงใด
ด้วยที่เคยต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายมาก่อนแล้วกระนั้นนอร่าที่ปลุกพลังสายเลือดของตนเองได้สําเร็จกลับสามารถ
บดขยี้ราชาทูตสวรรค์และกําจัดสัญชาตญาณศักดิ์สิทธิ์ออกไปได้ ทําให้
ตอนนี้เธอสามารถควบคุมพลังสายเลือดทูตสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์
โรเอลมองดูตรวนข้อมือพลางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ โดยคิดว่าตัวเอง
ทําอะไรที่ไม่จําเป็นลงไปแล้ว อย่างไรก็ตามนอร่ากลับส่ายหัวและลูบโซ่
สีขาวตรงข้อมือของเธออย่างนุ่มนวล
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ต้องขอบคุณมันถึงจะถูก เพราะมันข้าถึง
ตั้งสติทวงคืนความทรงจํากลับมาได้”
“…ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”
เมื่อคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ใช้โซ่ตรวนนี้ โรเอลก็โล่งใจที่อย่าง
น้อยมันก็ได้มีส่วนช่วยนอร่าในตอนท้าย ทําให้การเสียสละของเขาไม่ได้
สูญเปล่า
ตรวนข้อมือนี้ได้รับการออกแบบเพื่อเข้าแทรกแซงโลกแห่งจิตใจ
ของนอร่า ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นเรื่องรองเมื่อเทียบกับเรื่องนั้น โรเอล
กังวลเรื่องการต่อสู้ของนอร่ากับราชาทูตสวรรค์มากกว่าการต่อสู้ของ
เขากับไบรอัน เอลริกเสียอีก ทว่าสถานการณ์กลับกลายเป็นตรงกันข้าม
แทนเสียอย่างนั้น“จะว่าไปแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าตรวนข้อมือของเจ้าจะมี
ความสามารถแบบนั้นด้วย เจ้าไม่ได้พูดถึงมันมาก่อนเลย”
“มันอาจจะบั่นทอนความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเธอได้ ถ้าฉันบอก
เธอ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันมีผลมากกว่าใช่ไหมล่ะ? มันอาจจะ
เป็นจุดชี้ขาดในการต่อสู้ของเธอเลยก็ได้”
“แน่นอน หากไม่ได้ทุ่มเททุกอย่างที่ข้ามี มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ข้า
จะเอาชนะพวกเขาได้”
นอร่าตอบพลางนึกถึงทุกสิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป
แม้ว่ามันจะไม่ใช่การต่อสู้อันน่าสยดสยอง แต่มันก็เป็นกับดักแห่ง
ความอ่อนโยนที่น่ากลัวกว่านั้นมาก เธออาจพลาดพลั้งได้ หากเธอ
ละเลยการป้องกันไปเพียงชั่วพริบตา โชคดีที่ความตั้งใจอันแน่วแน่และ
แรงปรารถนาช่วยเธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นนอร่าก็คงจะนั่งบนบัลลังก์ของ
อังค์ทาห์ และถูกราชาทูตสวรรค์ชิงร่างกายไปแล้ว
“หึ…ทั้งๆ ที่บอกว่าเชื่อใจข้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าก็ยังจะแอบคิดกล
อุบายเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ลับหลังข้าอีก ได้ใจเกินไปรึเปล่า?”
จู่ๆ นอร่าก็นึกถึงคําพูดของโรเอลก่อนหน้านี้ และเริ่มเข้าใกล้เด็ก
หนุ่มด้วยรอยยิ้มอันคุกคาม ทําให้เขาต้องรีบโบกมือพัลวันพร้อม
อธิบาย“มันก็แค่หลักประกันเท่านั้น ฉันเชื่อใจเธออยู่แล้วน่า หลังจากเรื่อง
ทั้งหมดที่เราผ่านมาด้วยกัน เธอไม่คิดว่าฉันควรได้ความดีความชอบ
จากสิ่งนี้งั้นเหรอ?”
“อืม…แม้ว่าข้าอยากจะให้รางวัลกับเจ้าในเรื่องนั้น แต่ข้าก็ไม่คิดว่า
มันจะสามารถหักล้างอาชญากรรมร้ายแรงของเจ้าที่ล่วงละเมิดหัวใจ
ของข้าได้หรอกนะ”
“…”
รอยยิ้มของโรเอลแข็งค้าง
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงที่ข้อมือ ทําให้ร่างพุ่งไปข้างหน้าจน
ตกลงไปในอ้อมแขนขององค์หญิงผู้ได้รับชัยชนะ นอร่ากอดโรเอลแน่น
จนดูราวกับกําลังนวดร่างของเขา ซึ่งเจ้าตัวก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่
สบายใจจากการกระทําของเธอ ดังนั้นเขาจึงอ้าแขนกว้างและกอดเธอ
กลับไป
เมื่อได้โอบกอดเด็กหนุ่มที่รักไว้ในอ้อมกอด ในที่สุดนอร่าก็ถอน
หายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความกังวลที่หมุนวนในหัวใจของเธอ
ค่อยๆ หายไป ทําให้เธอค่อยๆ สงบลง
เช่นเดียวกับที่โรเอลเป็นห่วงนอร่า เธอเองก็รู้สึกเป็นห่วงเขา
เช่นกัน แม้ว่าภายนอกเธอจะดูสงบและสง่างาม แต่ความไม่สบายใจก็คอยกัดกินหัวใจของเธอมาโดยตลอด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้อง
เห็นโรเอลอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ…โดยมีเธอเป็นต้นเหตุ
นอร่ากังวลอยู่กับผลของการต่อสู้ของโรเอลมาตลอดเวลาที่ผ่าน
มานี้ แต่ด้วยสภาพของเธอทําให้เธอไม่สามารถไปช่วยเขาได้ เธอไม่เคย
ประสบกับความปวดร้าวทางจิตใจเช่นนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่เป็นการจากกัน
เพียงเวลาสั้นๆ
โชคดีที่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว
ขณะที่อารมณ์ของนอร่ายังคงโลดแล่น เธอก็กัดไหล่ของโรเอล
เบาๆ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่านี่เป็นวิธีระบายอารมณ์ของเธอ ดังนั้นเขาจึงยอม
อนุญาตให้เธอทําตามใจและลูบผมของเธอเบาๆ
ไม่นานหลังจากนั้น นอร่าก็วางมือบนแก้มของโรเอล
“นี่คือบทลงโทษของเจ้าที่ไม่ยอมเชื่อในตัวข้า”
“งั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ควรจะขอบคุณความเอื้ออาทร
ของเธอจริงๆ”
โรเอลตอบด้วยรอยยิ้มขณะเหลือบมองรอยกัดที่รู้สึกเสียวซ่านไป
ด้วยความเจ็บปวดนอร่าหรี่ตาเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะ
พูดต่อ
“ข้าควรจะลงโทษเจ้าที่ทําให้ข้าต้องกังวลครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มัน
ไม่ใช่เรื่องดีสําหรับผู้ปกครองที่จะรุนแรงจนเกินไปกับข้ารับใช้ของ
ตัวเอง ฉะนั้นแล้วข้าจะเลื่อนมันออกไปก่อน”
“ทําไมเธอพูดเหมือนฉันมีโทษมากมายไม่รู้จบกันเนี่ย?”
“เจ้าควรไตร่ตรองการกระทําของตัวเองก่อนค่อยถามนะ แต่
สําหรับตอนนี้ ข้าจะเลื่อนการลงโทษของเจ้าออกไปเพื่อให้รางวัล”
“รางวัล?”
“มันเป็นรางวัลสําหรับอัศวินผู้ภักดีที่ยืนเคียงข้างข้า และคอย
ปกป้องข้าจนถึงที่สุด”
นอร่าตอบ
เด็กสาวซุกผมสีทองไว้ข้างหลังใบหู ก่อนจะเอนตัวเข้าไปที่ไหล่ของ
เขาอีกครั้ง ริมฝีปากของเธอแยกจากกันก่อนจะค่อยๆ เลียรอยกัดที่ทิ้ง
เอาไว้ก่อนหน้านี้
นี่ทําให้ร่างกายของโรเอลสั่นสะท้านมันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ความเจ็บปวดเล็กน้อยผสมกับ
อาการคันที่ทนไม่ได้ สัมผัสอันนุ่มนวลของลิ้นและลมหายใจอุ่นๆ ของ
นอร่า ทําให้รูม่านตาของโรเอลกว้างขึ้น ใจเต้นระรัวและหายใจหอบ
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าพลังเวทได้พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา
ผ่านรอยกัด ไหลผ่านร่างกายเข้าไปดูดซับพลังเวทของราชาทูตสวรรค์
และขจัดความรู้สึกอึดอัดในร่างกายของเขาออกไป
พลังเวทสีทองที่อยู่ในร่างของเหล่าเทพโบราณเองก็เริ่มสลายไป
เช่นกัน พลังเวทสีทองที่คุกคามที่ราบสีแดงเข้มได้สลายไป จากนั้น
หน้าต่างสถานะแสดงพันธสัญญาของโรเอลกับเปตราและอาร์เทเชียก็
ค่อยๆ กลับคืนมา
พลังเวทของราชาทูตสวรรค์ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา ก่อน
จะถูกดึงออกมาจากรอยกัดที่นอร่ากัด
ความรู้สึกที่ได้เป็นอิสระในที่สุดได้ไหลผ่านร่างของโรเอล ราว
กับอะดรีนาลีนนั้นกําลังพลุ่งพล่าน ทําให้เขาอยู่ในสภาวะตื่นตัวสูง ราว
กับว่านอร่าได้ปลดปล่อยจิตใจของเขาไปพร้อมกับกําจัดพลังเวทของ
ราชาทูตสวรรค์ ซึ่งทางด้านนอร่าเองก็หัวใจเต้นระรัวและอดไม่ได้ที่จะ
เลียริมฝีปากของเธอเช่นกันเมื่อทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง พวกเขาก็สังเกตเห็นความปรารถนาใน
แววตาของกันและกัน
“…ข้าอยากจะกลืนกินเจ้าทั้งตัวจริงๆ”
นอร่าบ่น
เธอวางศีรษะลงบนหน้าอกของโรเอล และเขาเองก็เริ่มลูบผมของ
เธอ
“เธอพูดเหมือนตัวเองเป็นหมาป่าเลย”
“…ใครจะรู้? ข้าอาจจะกลายเป็นหมาป่าก็ได้นะ”
แววตาวาววับฉายขึ้นในดวงตาของนอร่า แต่ก่อนที่เธอจะได้ทํา
อะไร เสียงแผ่นดินไหวก็เขย่าพื้นที่สีขาวที่พวกเขาอยู่ ทําให้แสงใน
บริเวณใกล้เคียงเริ่มสั่นไหว
“นี่มัน…?”
“ผู้หญิงคนนั้นสร้างพื้นที่นี้ขึ้นในใจข้า เพื่อกักขังข้า แต่ตอนนี้เธอ
ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พื้นที่นี้จะถล่มลงมา”
นอร่าอธิบาย
โรเอลพยักหน้าแทนคําตอบพื้นที่รอบตัวพวกเขาพังทลายอย่างรวดเร็ว จากนั้นจิตสํานึกของ
ทั้งสองก็จมดิ่งสู่ความมืด
เมื่อโรเอลลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองกําลังเผชิญกับ
ท้องฟ้ายามค�าคืนอันสวยงาม เมฆดํากระจายออกไปด้วยแสงสวรรค์ที่
หลั่งไหลออกมาก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นพระจันทร์เสี้ยวสีเงินและทะเล
แห่งดวงดาว
ทั้งคู่ได้กลับมาถึงบ้านพักที่พวกเขาอาศัยอยู่ในช่วงสองสามวันที่
ผ่านมา และเพราะหลังคาถูกทําลายจนปลิวไปแล้ว โรเอลจึงได้ยินเสียง
ตะโกนมาจากพวกผู้นับถือลัทธินอกรีตและเหล่าอัครสาวกที่อยู่ห่าง
ออกไปไม่ไกล
ครู่ต่อมา แสงหลายชั้นก็ปรากฏขึ้นข้างๆ เขาก่อนที่จะสลายไป
เพื่อเผยให้เห็นร่างของเด็กสาวผมสีทองที่เปล่งประกายระยิบระยับ
ดวงตาของนอร่าค่อยๆ ลืมขึ้นมา เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มผมดําที่
อยู่ข้างๆ เมื่อนึกถึงคําสัญญาที่พวกเขาสัญญากันไว้ก่อนจะแยกทางกัน
ตอนพระอาทิตย์ตก โรเอลก็ทักทายเธอ
“ยินดีต้อนรับกลับ”
“ข้ากลับมาแล้ว”พูดจบทั้งสองคนก็จับมือและยิ้มให้กันอย่างอบอุ่นยินดี..