ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 488: จะนอนลงดีๆ หรือต้องให้บังคับ? (2)
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END
- บทที่ 488: จะนอนลงดีๆ หรือต้องให้บังคับ? (2)
โรเอลยอมรับคําแนะนําของอาร์เทเชียโดยพยักหน้ารับความ
ห่วงใยที่หายากของเธอ เขามีความคิดในใจอยู่แล้วว่าตนเองควรจะทํา
อะไรต่อ เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของ
อาร์เทเชีย ก่อนที่เธอจะกลับคืนสู่สภาพปกติ
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเผชิญกับอันตรายหรอกนะ แต่มันคงจะน่า
เบื่อน่าดู หากเจ้าดําเนินใช้ชีวิตในทุกๆ วันอย่างเรียบง่าย เจ้าไม่คิด
อย่างนั้นบ้างเหรอ?”
“เปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้ไวชะมัด ฉันไม่น่าคาดหวังอะไรกับแม่มด
เลยจริงๆ”
“ฉะนั้นแล้ว ทางเลือกเดียวของเจ้าก็คือการสังหารศัตรูที่น่า
รังเกียจทุกตัวของเจ้าให้หมดไป หึ ข้าเริ่มตื่นเต้นซะแล้วสิ”
อาร์เทเชียวางมือบนแก้มพร้อมเผยรอยยิ้มอันสดใส ดวงตาสีแดงที่
หรี่แคบเปล่งประกายด้วยจิตสังหาร ความตื่นเต้นของเธอกินเวลาไม่กี่
วินาทีก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนและหันไปทางโรเอล
“เจ้าคงจะเหนื่อยล้ามาก หลังจากต่อสู้ในการต่อสู้อันดุเดือด ไป
พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ วีรบุรุษของข้า”“ฟังดูน่าขันจริงๆ ที่คํานั้นหลุดออกมาจากปากของคนที่เข้ามา
ขัดขวางการพักผ่อนของฉัน”
โรเอลตอบพร้อมกับถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อกล่าวคําอําลาเสร็จ สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กหนุ่มก็เริ่มบิด
เบี้ยว จากนั้นในไม่ช้าทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืด
ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่โรเอล แอสคาร์ดทันทีที่เขาตื่นขึ้นจาก
การหลับใหล เปลือกตาที่หนักอึ้งของเขาไม่ยอมเปิด ดังนั้นเขาจึง
ตรวจสอบสภาพร่างกายด้วยพลังเวทแทน
โรเอลได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่การต่อสู้กับไบรอันจะเริ่มเสียอีก
แต่เขาก็ยังปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา โดยใช้พลังเวทออกไปอย่าง
เต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังร่ายคาถาเวทเสริมกองทัพเสียงคํารามแห่ง
อัสนีสีชาดเพื่อเขย่าความมุ่งมั่นของไบรอันในตอนท้ายอีกด้วย
แน่นอนว่าการฝืนใช้พลังอย่างบ้าบิ่นเช่นนั้น ก็ย่อมจะต้องมี
ผลข้างเคียงตามมา
การก้าวไปสู่ระดับแก่นแท้ 3 ของโรเอลทําให้สภาพของเขาดีขึ้นมา
บ้างเล็กน้อย แต่ในทางกลับกัน ด้วยความที่ขยับตัวมากเกินไป หลังจาก
ที่ได้เห็นนอร่าเอาชนะอุปสรรคมาได้อย่างปลอดภัย ก็ทําให้อาการของ
เขาหนักยิ่งกว่าเดิมถึงขนาดที่โรเอลรู้สึกสงสัยว่ามีใครแอบเปลี่ยนเลือดในร่างกายของ
เขาเป็นตะกั่วหรือเปล่า
โรเอลถอนหายใจอย่างเงียบๆ พลางพยายามบังคับตัวเองให้ลืมตา
ก่อนจะตกตะลึงกับใบหน้ายิ้มแย้มที่ปรากฏขึ้นมาในครรลองสายตา
แสงแดดอันอบอุ่นส่องผ่านหน้าต่างและกระจายไปทั่วตัวของนอร่า ทํา
ให้ผิวของเธอเปล่งประกายสวยงาม กลายเป็นภาพที่สวยงามมากเสีย
จนโรเอลพบว่าตัวเองตกอยู่ในความงุนงง
บ้านพักไม้ที่พวกเขาพักอยู่นั้นหลังคาปลิวหายไปแล้วในการก้าว
ข้ามอุปสรรคทางสายเลือดของนอร่า ดังนั้นพวกเขาจึงไปพักที่บ้านพัก
หลังอื่นในบริเวณใกล้เคียงแทน เพื่อหาที่หลบภัยในตอนกลางคืน
“นอร่า? เธอมาทําอะไรที่นี่เนี่ย?”
“นั่นคือคําถามแรกของเจ้าเวลาเห็นข้าตอนตื่นนอนงั้นเหรอ? พวก
เราอยู่ห้องเดียวกันมาสักพักแล้วไม่ใช่หรือ?”
“นั่นก็ใช่ แต่ฉันคิดว่ามันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่แล้ว เพราะ
นอกจากพวกเรา เคาท์แฮงค์และคนอื่นๆ เองก็อยู่ที่นี่ด้วย”
แค่นึกถึงใบหน้าของผู้บัญชาการผู้เคร่งศาสนาโถงแห่งอัครสาวก ก็
ทําให้โรเอลปวดหัวแล้วนอร่านั้นยังคงมีสถานะเป็นองค์หญิงของจักรวรรดิเซนต์เมซิท
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรักษามารยาทและระยะห่างเอาไว้ แม้ว่าพวกเขา
จะมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในที่สาธารณะเป็นครั้งคราว แต่โรเอลก็มักจะ
ระมัดระวังไม่ให้มันเกินเลยขอบเขตไป
ถ้าพวกเขาอยู่ในห้องแยกกันเพียงลําพังมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตามถ้าข่าวลือแพร่กระจายว่าพวกเขาใช้ห้องพักร่วมกัน หรือ
แย่กว่านั้นก็คือเตียง มันก็อาจจะทําให้ชื่อเสียงของนอร่าเสื่อมเสียได้
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรักษาระยะห่างเอาไว้ในคืนก่อน
นี่ทําให้โรเอลไม่เข้าใจทัศนคติที่เปลี่ยนไปแบบปุบปับของนอร่า
น่าแปลกที่เด็กสาวตรงหน้าไม่สนใจความกังวลของเขาเลยสักนิด
“ทุกอย่างปกติดี ข้ามีเหตุผลเพียงพอที่จะอยู่เคียงข้างเจ้าแล้ว
ในตอนนี้”
“เหตุผลเพียงพอ?”
“…มองออกไปข้างนอกสิ เจ้าคิดว่าสภาพอากาศเช่นนี้เป็นอย่างไร
กัน?”นอร่าเอาผมสีทองของเธอทัดไว้ข้างหลังใบหูขณะมองออกไปนอก
หน้าต่าง ซึ่งโรเอลก็มองตามออกไปด้วยความสับสน แต่ไม่นานเขาก็
เข้าใจ
ข้างนอกมีแดดจ้ามาก และแผนการเดิมของพวกเขาคือ เดินทาง
ออกจากที่นี่ตอนรุ่งสาง ทว่าดูเหมือนเวลาจะล่วงเลยผ่านไปแล้ว
“นี่มันบ่ายแล้ว…เจ้าอาการหนักมากนะ รู้ตัวบ้างไหม!”
“เอ๋?”
โรเอลยังคงสับสนกับสิ่งที่นอร่ากําลังจะสื่อ จนกระทั่งในที่สุดเธอก็
หมดความอดทน ก่อนจะอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดในที่สุด
ทุกคนได้มารวมตัวกันตอนรุ่งสางแล้วตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนจะ
เห็นว่าโรเอลหายไป แฮงค์จึงส่งอัครสาวกคนหนึ่งไปตรวจสอบโรเอล
และก็พบว่าเขาไม่ยอมตื่นเสียทีทั้งๆ ที่พยายามปลุกซ�าแล้วซ�าเล่า พวก
เขาจึงเข้ามาตรวจสอบสภาพร่างกายของเด็กหนุ่ม ทําให้ในไม่ช้าก็รู้ว่า
เขาป่วย
ไม่แปลกใจเลยที่อาร์เทเชียบอกให้โรเอลพักผ่อนให้เต็มที่หลังจาก
ที่พวกเขาแยกทางกัน“ขอโทษด้วย ดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นภาระของทุกคนไปซะ
แล้วสิ เดินทางกลับกันเลยดีกว่า ถ้าเรารีบไปตอนนี้ล่ะก็ เราน่าจะไป
ถึง…”
“นอนลงซะ”
“หืม? ฉันสบายดีแล้ว พวกเราน่าจะ…”
“ข้าบอกให้เจ้านอนลงซะ นี่คือคําสั่ง หรือเจ้าอยากให้ข้าใช้วิธี
รุนแรงแทนล่ะ?”
นอร่าออกคําสั่งพร้อมขู่เข็ญและเขย่าโซ่ตรวนสีขาว
“…”
คําพูดเหล่านั้นถูกพูดด้วยรอยยิ้ม ซึ่งขัดกันกับแววตาของเธอ เมื่อ
เห็นเช่นนั้น โรเอลก็เอนตัวลงนอนอย่างเชื่อฟัง อย่างไรก็ตามเขาก็อด
ไม่ได้ที่จะประท้วงเป็นครั้งสุดท้าย
“ฉันสบายดีน่า เธอน่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
ไม่ค่อยเจ็บป่วยกัน”
“ใช่ ข้าเลยเข้าใจดียังไงล่ะว่า พวกเขาต้องอยู่ในสภาพอ่อนแอแค่
ไหนถึงจะล้มป่วยได้ ถึงจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ตามทีเถอะ
สภาพนี้เจ้าไม่ไหวแน่”นอร่าโต้กลับเคืองๆ
ทันทีที่เธอปล่อยให้ความโกรธหลุดออกมา เด็กสาวก็พบว่าตัวเอง
ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอจ้องไปที่โรเอลด้วยความโกรธ
เคือง
“เจ้าโกหกข้าใช่ไหม? ที่บอกว่าไบรอันจะนําผู้ช่วยมาเพียงคนเดียว
และการต่อสู้นั้นจบลงอย่างรวดเร็ว เจ้าบอกว่ามันไม่อันตรายอย่างที่คิด
เจ้า…”
“…”
นอร่ากําหมัดแน่น และไม่สามารถทนพูดต่อไปได้อีก
กลับกันแล้วโรเอลนั้นพูดอะไรไม่ออก สภาพที่อ่อนแอของเขา
น่าจะกระตุ้นความสงสัยของนอร่าเข้า ทําให้เจ้าตัวไปถามกับแฮงค์และ
คนอื่นๆ และทราบถึงเหตุการณ์ในสนามรบทั้งหมด
โชคดีที่นอร่าปล่อยเรื่องนี้ไป ดูเหมือนว่าเธอไม่มีแผนที่จะซักไซ้ต่อ
ในขณะที่เขาป่วย เธอออกจากห้องไปครู่หนึ่งแล้วกลับมาพร้อมกับจาน
อาหาร ก่อนจะอุ่นอาหารอย่างเงียบๆ ด้วยคาถาเวท แล้วยกส้อมไปทาง
โรเอล
“อ้าปาก”“ไม่จําเป็นหรอกน่า ฉันกินเองได้…”
“…คิดจะยั่วโมโหข้างั้นเหรอ? เจ้าโกหกข้า แล้วตอนนี้ยังคิดจะ
ปฏิเสธข้าอีกงั้นเหรอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่พวกเราทําแบบนี้ อ้าปากได้
แล้ว!”
“…”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาถูกมัดและบังคับให้กินอาหาร
จากนอร่าเมื่อวันก่อน โรเอลก็ยอมจํานนอย่างเชื่อฟังและอนุญาตให้นอ
ร่าทําตามที่ต้องการ แต่ที่ทําให้เขาประหลาดใจก็คือ ไม่มีเจตนาแอบ
แฝงอื่นๆ ในการกระทําของนอร่า มีเพียงความอ่อนโยนและความ
พิถีพิถันเท่านั้น ทําให้เขารู้สึกอับอายแทน
นอร่าไม่ได้ทําสิ่งนี้เพราะรสนิยมส่วนตัว เธอพยายามอย่างจริงจัง
ที่จะดูแลเขาจริงๆ สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ
พิจารณาถึงตําแหน่งของนอร่า ทําให้โรเอลรู้สึกซาบซึ้งกับความรู้สึก
ของเธอมาก
“ที่นี่เองก็ไม่น่าจะปลอดภัยไม่ใช่เหรอ? มันจะดีจริงๆ งั้นเหรอที่
พวกเราจะอยู่ที่นี่ต่ออีกวัน”
“ถ้าเจ้ากําลังพูดถึงพวกกลายพันธุ์ ข้ากําจัดพวกมันหมดแล้ว
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นอกจากนี้ พวกเราไม่ได้หยุดเพื่อเจ้าเพียงคนเดียวหรอกนะ พวกทหารเองก็เหนื่อยจากการเดินทางอันยาวนาน
และการต่อสู้เมื่อวานนี้ พวกเขาเองก็ควรได้รับการพักผ่อนเหมือนกัน”
คําตอบของนอร่าช่วยล้างความรู้สึกผิดที่โรเอลแบกรับไว้
หลังจากป้อนอาหารเสร็จ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนก็ค่อยๆ
กลับสู่สภาวะปกติ
ขณะที่นอร่าเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าผากของโรเอล ทันใดนั้น
ความคิดของเธอก็ล่องลอยไปยังเหตุการณ์ก่อนที่โรเอลตื่น จากนั้นแก้ม
ของเธอก็เริ่มแดงขึ้น
ตอนนี้โรเอลมีอาการดีขึ้นมาก แต่ก่อนหน้านี้เมื่อในตอนที่เขายัง
หลับอยู่ อาการไข้ทําให้เขาอยู่ในอาการเพ้อฝัน พึมพําชื่อของเธออยู่
เสมอ และด้วยเหตุนี้เอง นอร่าจึงไม่คิดจะออกจากกระท่อมไม้หลังนี้
และห้ามไม่ให้ทุกคนเข้ามาในห้อง เพื่อที่เธอจะได้ผูกขาดพื้นที่แห่งนี้
ความจริงที่ว่าโรเอลกําลังคิดถึงนอร่าแม้จะอยู่ในสภาพเพ้อฝันเป็น
เครื่องพิสูจน์ถึงความรู้สึกอันจริงใจของเขาที่มีต่อเธอ ทําให้นอร่า
ประทับใจมาก อย่างไรก็ตาม เด็กสาวไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้กับโรเอล
เพราะเธอเองก็ได้ทําอะไรบางอย่างในช่วงเวลาแห่งความรักนั้น
เช่นกัน…
“หืม? มีอะไรติดที่ปากฉันรึเปล่า?”โรเอลสัมผัสริมฝีปากของตัวเองพร้อมถาม ทําให้ใบหน้าของนอร่า
แดงยิ่งขึ้น เธอรีบปิดปากของเขาและสั่งอย่างเข้มงวดเหมือนหมอสั่ง
คนไข้
“หยุดพูดน่า ไปนอนได้แล้ว”