ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 489: ข้าควรถอดไหม? (1)
อาการป่วยเป็นอย่างไรงั้นเหรอ?
นั่นเป็นคําถามที่รู้สึกไกลตัวมากสําหรับโรเอล เพราะมันก็ผ่านมา
เป็นเวลานานแล้ว นับตั้งแต่เขาล้มป่วยเป็นครั้งสุดท้าย
บางครั้งบางคราวที่ร่างกายของเขาพังทลายลงภายใต้ผลข้างเคียง
ของคาถาเวท แต่อาการเหล่านั้นต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต้อง
ได้รับการรักษาแบบพิเศษ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาป่วยเป็นไข้หวัด
ธรรมดาๆ หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่ได้สังเกตเลย
โรเอลรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอันขมขื่นที่หน้าผาก และแขนขาที่
หนักอึ้งขึ้น ก่อนจะถอนหายใจด้วยความผิดหวัง ทันใดนั้นเสียงประตู
เปิดก็ดังขึ้น เมื่อรู้ว่านอร่าน่าจะกลับมาแล้ว เขาก็รีบหลับตาลง
เด็กหนุ่มสัมผัสได้ว่าเธอกําลังเดินเข้ามาใกล้เขาอย่างช้าๆ ดังนั้น
เขาจึงแกล้งหลับ แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่เขาก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้
เธอกําลังยืนอยู่ต่อหน้าเขา โรเอลรอเป็นเวลานาน แต่ร่างที่อยู่ข้างหน้า
เขาก็ไม่ขยับไปไหน
จากนั้นโรเอลก็รู้สึกว่ามีมือมาแตะที่แก้มของเขา“ถึงข้าจะสั่งให้เจ้านอน แต่เจ้าก็ไม่จําเป็นจะต้องแกล้งนอนแบบนี้
หรอกนะ ข้าแค่ต้องการให้เจ้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อ
สนองความต้องการของข้า”
“…”
ร่างกายของโรเอลแข็งทื่อ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตา
ขึ้น โดยมีนอร่ากําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ เขาด้วยสีหน้ามั่นใจในการ
ตัดสินใจของเธอเอง
“เธอรู้ได้ยังไง? ฉันว่าฉันระวังการหายใจของตัวเองดีแล้วแท้ๆ ”
“เจ้าคิดว่าข้าเห็นเจ้าหลับมากี่ครั้งแล้ว? เรานอนด้วยกันมาหลาย
วันแล้ว อย่างน้อยๆ ข้าก็ดูออกน่าว่าเจ้าหลับจริงๆ รึเปล่า”
“…ฉันควรจะประทับใจดีไหมเนี่ย”
“นอกจากนี้ เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าพลังเวทของข้ายังอยู่ในร่างกาย
ของเจ้า? เจ้าจึงไม่สามารถโกหกข้าได้ ดังนั้นอย่าคิดที่จะลองอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้า”
“ขอรับ ฝ่าบาท”
ด้วย ‘สายลับ’ ที่อยู่ในร่างกายของเขา โรเอลจึงไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากจะต้องยอมจํานน ซึ่งนอร่าก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจหลังจากเห็นท่าทางนั้น เธอเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของโรเอลอีกครั้ง ก่อนจะ
ยิ้มด้วยความยินดีที่ไข้ของเขาค่อยๆ ลดลงแล้ว
“ข้าตรวจสอบเสบียงที่เจ้ากับเคาท์แฮงค์นําติดมาด้วยแล้ว แต่ไม่มี
ยาตัวไหนเลยที่สามารถลดไข้ของเจ้าได้ ตอนนี้ข้าเองก็ร่ายคาถาเวท
รักษาไปแล้วเช่นกัน มันเป็นสิ่งเดียวที่ข้าทําได้ ดูเหมือนว่าเจ้าคงจะต้อง
พักผ่อนและค่อยๆ ฟื้ นตัวอย่างช้าๆ ไปก่อน”
นอร่ากล่าวขอโทษ
“อย่ากังวลไปเลยน่า ฉันคงรู้สึกละอายใจน่าดู ถ้าไม่สามารถฟื้ นตัว
จากไข้เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้ ทั้งๆ ที่มีเธออยู่ดูแล”
โรเอลตอบ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะไม่มียารักษาไข้อยู่ในเสบียง เพราะ
เหล่าอัครสาวกและพวกผู้นับถือลัทธินอกรีตที่มายังชายแดนตะวันออก
กับเขานั้นล้วนเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 5 เป็นอย่าง
น้อย เมื่อพิจารณาจากสภาพร่างกายของพวกเขาแล้ว มันจึงแทบจะ
เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะล้มป่วย
ด้วยเหตุนี้ ยาส่วนใหญ่ที่พวกเขาเตรียมมาจึงมีแต่ยาที่ใช้สําหรับ
บาดแผลภายนอกน่าแปลกที่พวกเขากลับมียาเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เพื่อเอาไว้รับมือ
กับผลข้างเคียงของสัมผัสแห่งธารน�าแข็ง
“เธอไม่กลัวหน่อยเหรอว่าจะติดหวัดไปจากฉันน่ะ?”
โรเอลมองดูมือที่อยู่บนหน้าผากเมื่อครู่พร้อมถาม ซึ่งนอร่าก็มอง
เขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“เจ้ากล้าถามอะไรแบบนั้นออกมาจริงๆ เหรอ?”
“…โอ้ ใช่แฮะ…”
ตอนนั้นเองที่โรเอลนึกได้ว่านอร่านั้นเป็นทั้งผู้มีพลังเหนือ
ธรรมชาติระดับสูงและผู้สืบทอดสายเลือดแห่งทูตสวรรค์ การตื่นขึ้น
ของสายเลือดเมื่อเร็วๆ นี้ของเธอ ทําให้ร่างกายของนอร่าพัฒนาขึ้นไป
อีก และสามารถต้านทานสภาวะผิดปกติได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นโรเอลจึงนอนลงบนเตียงและจ้องมองไปที่เพดานอย่างว่าง
เปล่า พยายามรวบรวมความง่วง นอร่าจ้องไปยังผิวที่แดงระเรื่อนิดๆ
ของโรเอล และทันใดนั้นเธอคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะง้างมุมผ้าห่ม
แล้วสอดมือเข้าไป
“!”การโจมตีที่ไม่คาดคิดนี้ได้ระเบิดฟองแห่งความง่วงนอนของโรเอล
ทันที เขาหันไปมองนอร่าด้วยสายตาตกตะลึง ขณะที่เธอกําลังแอบเอา
มือสอดเข้าไปในผ้าห่มอย่างใจเย็น มือนั้นสอดเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา
อย่างช�าชอง จู่โจมร่างกายของเขาด้วยสัมผัสอันเย็นยะเยือก
“น…นอร่า?”
“อย่างที่คิด เจ้ามีเหงื่อออกมาก นั่นคงจะเป็นเหตุผลที่ทําให้เจ้า
นอนไม่หลับสินะ?”
“…ก็อาจจะใช่ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่หรอก ฉันแค่ต้องทนกับ
มันสักหน่อยก็เท่านั้นเอง”
“ทน? ถ้าแบบนั้นข้าจะมาดูแลเจ้าเพื่ออะไรกันเล่า ข้ามาที่นี่ก็
เพื่อที่เจ้าจะได้ไม่ต้องทนกับความอึดอัดไง!”
นอร่ากล่าวพร้อมร่ายคาถาเวทปล่อยแสงสิบห้าลูกกระจายไปทั่ว
ห้อง จากนั้นก้อนพลังเวทแต่ละลูกแผ่ความอบอุ่นออกมาโดยรอบ ทํา
ให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น
“นี่มัน…?”
โรเอลมองไปที่นอร่าด้วยความสับสน ไม่เข้าใจว่าเธอพยายามจะ
ทําอะไร อย่างไรก็ตามเมื่อน�าหนึ่งถังและผ้าเช็ดตัวสะอาดปรากฏขึ้นในมือของเธอ ความหวาดหวั่นก็เริ่มปรากฏขึ้นในดวงตาของโรเอล เด็ก
หนุ่มพอจะเดาได้ในทันทีว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่ และคําพูดของเธอก็ได้
ยืนยันการคาดเดาของเขาอย่างรวดเร็ว
“อืม อุณหภูมิน่าจะดีแล้ว…ลุกขึ้นและถอดเสื้อผ้าของเจ้าซะ ข้าจะ
เป็นคนเช็ดเหงื่อให้เจ้าเอง”
“ม…มันฟังดูไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นะ”
ใบหน้าของโรเอลแข็งทื่อ มือกําผ้าห่มแน่นโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม นอร่าก็ไม่คิดที่จะปล่อยไปง่ายๆ เธอจึงสร้างห่วงสี
ขาวขึ้นอีกครั้งและเขย่ามันเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับโรเอล
“จะลุกขึ้นมาเองหรือจะให้ข้าต้องลงมือ? ตอนนี้เจ้าเป็นผู้ป่วย มี
สติสัมปชัญญะซะบ้างนะ”
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับอาการป่วยของฉันซะหน่อยนี่”
“เราไม่มียารักษาโรคที่นี่ และคาถาเวทก็ใช้กับไข้หวัดไม่ได้ สิ่ง
เดียวที่เจ้าทําได้ตอนนี้คือการพักผ่อน เจ้ามีปัญหาในการนอนหลับ
เพราะเหงื่อออกไม่ใช่เหรอ?”
“แต่จะให้ถอดเสื้อผ้ามันก็…”ความเขินอายของโรเอลก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ที่สําคัญยิ่งไปกว่านั้น
ก็คือ เขาไม่ต้องการให้นอร่าเห็นบาดแผลที่หน้าอกของเขา เพราะเขารู้
ดีว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับมัน น่าเสียดายที่นอร่าไม่ยอมหยุด เธอเขย่า
ตรวนเพื่อเตือนเขาว่าทางเลือกอื่นคืออะไร
เมื่อไม่มีทางเลือก โรเอลจึงทําได้เพียงแค่ถอดเสื้อของเขาออก
อย่างเชื่อฟัง
โดยรวมแล้ว ร่างกายของโรเอลมีความกระชับ เขามีสัดส่วนที่ดี
และแทบจะไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ไม่ว่าจะเป็นแขนหรือหน้าท้อง ก็น่าจะ
ได้รับการพิจารณาว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมในโลกอดีตชาติของเขา
ทว่าหากเป็นตามมาตรฐานของทวีปเซียแล้ว โรเอลนั้นนับว่าเป็นคนที่
ผอมกว่าเกณฑ์โดยทั่วๆ ไป
ต่างจากสมัยใหม่ที่ผู้คนต่างใช้ชีวิตในสํานักงาน ทวีปเซียนั้นเต็มไป
ด้วยอันตราย ทําให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมากมายพัฒนาร่างกายของ
ตนจนสุดขั้ว ยืนหยัดแข็งแรงกว่านักเพาะกายที่ทุ่มเทที่สุดเสียอีก
ในทางตรงกันข้าม ร่างกายของโรเอลนั้นโน้มเอียงไปทางนักเวท
ทั่วๆ ไป ยกเว้นรอยแผลเป็นมากมายที่อยู่บนร่างกายของเขา โดยมีรอย
แผลที่ใหญ่โตเป็นพิเศษอยู่บนหน้าอกของเขาขนาดเท่ากําปั้ นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นอร่าเห็นมัน แต่เธอก็ยังคงสะดุ้งเมื่อได้เห็นมัน
ตรงๆ เธอหยุดนิ่งอยู่กับไปชั่วครู่ และเมื่อเห็นเช่นนั้น โรเอลก็เอามือปิด
รอยแผลเป็นอย่างเงียบๆ
“มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก อาการบาดเจ็บนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึง
ขั้นเสียชีวิต ฉันคิดว่ามันก็คุ้มค่าอยู่นะที่ได้เสียสละเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้
เพื่อได้รับเกียรติในการเป็นผู้กอบกู้องค์หญิงของจักรวรรดิเซนต์เมซิทก
ลับมา”
“…”
นอร่าผงกศีรษะเงียบๆ หลังจากได้ยินการปลอบใจของโรเอล ก่อน
จะเริ่มเช็ดตัวอีกฝ่ายด้วยผ้าขนหนูเปียก ความอบอุ่นของร่างกายและ
การเต้นของหัวใจของเขาทําให้เธอสบายใจ จากนั้นความรู้สึกเซื่องซึมที่
เธอรู้สึกในอกก็เริ่มบรรเทาลงในที่สุด
ขณะที่นอร่าเคลื่อนไปที่ช่องท้องด้านข้างของโรเอล ทันใดนั้นเด็ก
หนุ่มก็เริ่มตัวสั่น
“เดี๋ยวก่อนอย่าแตะตรงนั้น มันจั๊กจี้…”
“…โฮ่?”ประกายแวววาวฉายขึ้นบนดวงตาสีไพลินของนอร่า ชวนให้นึกถึง
นักล่าที่เข้าใจจุดอ่อนของเหยื่อ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ของเธอ จากนั้นเธอก็เคาะรัวนิ้วเบาๆ ผ่านผิวหนังของโรเอล
“!”
ความรู้สึกเสียวซ่านจากการสัมผัสของนอร่าทําให้โรเอลขดตัวตาม
สัญชาตญาณ เขาชักแขนดึงเข้าด้านในอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยที่นอร่าอยู่
ในอ้อมแขนของเขา ทําให้สถานการณ์ของทั้งคู่ตอนนี้กลายเป็นการโอบ
กอด
การกอดกันแบบไม่ได้ตั้งใจนี้ เป็นอะไรที่นอร่าก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
แม้ว่าพวกเขาจะกอดกันบ่อยๆ แต่การที่เหลือเพียงแค่ชั้นผ้าบางๆ
ระหว่างตัวเองกับร่างกายที่เปลือยเปล่าของโรเอล ก็ได้ทําให้หัวใจของ
นอร่ารู้สึกวูบหวาม ราวกับว่ากฎแห่งกรรมได้ลงโทษที่เธอจั๊กกะจี้เขา
ก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะความเขินอายหรือความตื่นเต้น ทันใดนั้น
ใบหน้าของเด็กสาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก�าอย่างรวดเร็ว
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ตรงนั้นมัน…”
โรเอลพยายามอธิบายอย่างบ้าคลั่ง ทว่าคําพูดของเขาสื่อไปไม่ถึง
นอร่าเล