ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 504: ความคิดที่ถูกเปิดเผย (2)
ระหว่างเปิดดูแผนที่ในค่าย โรเอลก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ร็
อดนีย์และคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าตัวเองต้อง
ทําอย่างไร
การสมคบคิดอย่างโจ่งแจ้ง แตกต่างจากการสมรู้ร่วมคิดทั่วๆ ไป ที่
สามารถทําลายได้ด้วยการบุกโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้ว่าจะพยายามคิด
หาวิธียับยั้งก็ไร้ประโยชน์ เพราะมันไม่มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ง่ายๆ
ด้วยเพราะฝ่ายนั้นประกาศตัวอยู่กลายๆ แล้วว่ารวมหัวกันอยู่ตั้งแต่แรก
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมจึงไม่มีความจําเป็นจะต้องปกปิด
มีเพียงทางเดียวที่จะแก้ไขกลยุทธ์ของจักรวรรดิออสทีนในปัจจุบัน
ได้ นั่นก็คือกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่นําโดยตระกูลตระกูลแอสคาร์ด
จะต้องเอาชนะกองทัพตระกูลไซส์และพิชิตเมืองเอ็ดการ์ที่มีการ
ป้องกันอย่างแน่นหนาให้ได้ก่อนฤดูใบไม้ผลิ
แม้แต่โรเอลที่เชื่อมั่นในตัวพ่อของเขาและกองทัพก็ยังคิดว่ามัน
ยากเกินไป แต่ในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีโชคดีแฝงอยู่ สถานการณ์
ปัจจุบันของจักรวรรดิเซนต์เมซิทไม่ได้สิ้นหวังไปซะทีเดียว เพราะแม้ว่า
โรเอลจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็ได้จุดไฟสําหรับอนาคตอันมืดมิดนี้เอาไว้
แล้ว นั่นก็คือการตายของไบรอันไบรอัน ผู้นําของตระกูลเอลริก เสียชีวิตไปแล้ว ทําให้เมืองเอ็ดการ์
พร้อมที่จะล่มสลายได้ทุกเมื่อ นี่น่าจะเป็นสิ่งที่จักรวรรดิออสทีนคาดไม่
ถึง ตราบใดที่สงครามเริ่มขึ้นตามปกติ พันธมิตรภายใต้คําสั่งของคาร์
เตอร์ก็น่าจะสามารถชนะกองทัพของตระกูลเอลริกได้ไม่ยาก ปัญหาจึง
มีเพียงแค่กองทัพของตระกูลไซส์เท่านั้น
“เราต้องการข้อมูลมากกว่านี้”
โรเอลพึมพําขณะมองไปยังตําแหน่งของกองทัพจากจักรวรรดิออ
สทีนที่อยู่ด้านข้างของแผนที่ด้วยดวงตาสีทองอันเยือกเย็น มันคืออาณา
เขตของตระกูลดยุคไซส์ผู้ครอบครองดินแดนอันกว้างใหญ่
—————————————————
จักรวรรดิออสทีน เมืองหลวงซีโอ
ภายในห้องที่ถูกตกแต่งแบบย้อนยุค เด็กสาวผมดําสลวยมอง
ทิวทัศน์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนอกหน้าต่าง นัยน์ตาสีอเมทิสต์ของ
เธอดูเหมือนจะถูกแช่แข็งไว้ในความเงียบ ทางด้านหลังนั้นมีสาวใช้ผมสี
น�าตาลกําลังค้อมกายเคารพ พร้อมรายงานข้อมูลที่รวบรวมมาได้ใน
วันนี้อย่างนุ่มนวล
หัวหน้าสาวใช้ ออเดรย์ คือเจ้าหน้าที่น่าเชื่อถือมากที่สุดของลิ
เลียน เธอเป็นคนรับใช้ส่วนตัวที่ติดตามรับใช้ลิเลียนมาตั้งแต่เด็กๆในช่วงที่ลิเลียนไม่อยู่ในจักรวรรดิออสทีน ออเดรย์ก็จะเป็นคนใกล้ชิดที่
ค่อยช่วยจัดการเรื่องต่างๆ และบริหารกองกําลังที่คอยสนับสนุนลิเลียน
คนรับใช้ส่วนตัวของขุนนางระดับสูงไม่ใช่ตําแหน่งที่ใครก็สามารถ
เป็นได้ พวกเขามักจะเป็นญาติห่างๆ ไม่ก็ขุนนางระดับล่าง มันเป็น
ประเพณีของจักรวรรดิออสทีน ที่จะต้องคัดเลือกคนรับใช้ส่วนตัวของ
สมาชิกในราชวงศ์อย่างระมัดระวัง ลิเลียนมีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม ออ
เดรย์ ซึ่งเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของเธอจึงเป็นคนที่มาจากตระกูลเอิร์ล
ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นสาวใช้ แต่เธอก็ไม่ได้ต�าไปกว่าขุนนาง และเป็นคนที่
มีความสามารถมากมายด้วยเช่นกัน
แม้กระทั่งในตอนที่ลิเลียนจะเดินทางไปยังสถาบันการศึกษาเซนต์
เฟรย่า ออเดรย์ก็ยังคงสงบและแน่วแน่ในงานเสมอ ทว่าในวันนี้เธอกลับ
เผยความกังวลและความสับสนออกมา เหตุผลนั้นง่ายมาก นั่นก็เพราะ
เธอได้รายงานข้อมูลมานานกว่าสิบนาทีแล้ว แต่ลิเลียนกลับยังไม่ได้
ออกคําสั่งใดๆ ออกมาเลย
ในฐานะคนรับใช้ส่วนตัว ออเดรย์จึงแทบจะคุ้นเคยกับลิเลียนใน
ทุกๆ ด้าน เธอมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความฉลาดที่ลิเลียนมี ว่ามัน
เกินกว่าสติปัญญาของคนธรรมดาๆ ไปมาก ตามปกติแล้วลิเลียนจะ
สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้เร็วกว่าออเดรย์เสียอีก แม้ว่าจะต้องเผชิญปัญหาที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด ลิเลียนก็จะใช้เวลาไม่เกินห้านาที
ในการตัดสินใจ
เวลาห้านาทีเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจ หรือ พักไว้เพื่อรอ
ตรวจสอบข้อมูลต่อ ลิเลียนก็จะบอกกับออเดรย์อย่างชัดเจน แต่วันนี้ลิ
เลียนกลับเงียบสงบไม่พูดอะไร แม้ว่าจะผ่านไปสิบนาทีแล้วก็ตาม และ
ที่แปลกที่สุดก็คือ สัญชาตญาณของออเดรย์กําลังบอกว่า จริงๆ แล้วอีก
ฝ่ายแทบจะไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เธอพูดด้วยซ�า
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว
และท่าทางผิดปกติที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ ลิเลียนนั้นจะออกไปยืนอยู่
ข้างหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก ครุ่นคิดเหมือนกําลังระลึกถึงบางสิ่ง
บางอย่าง
เนื่องจากการแสดงออกบนใบหน้าของลิเลียนแทบไม่มีการ
เปลี่ยนแปลง มันจึงเป็นเรื่องยากสําหรับคนภายนอกที่จะเข้าใจว่าเธอ
กําลังคิดอะไร และออเดรย์ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แต่คราวนี้
คนเป็นสาวใช้มองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไปในตัวเจ้านายของ
เธอ มันเหมือนกับว่าลิเลียนนั้นกําลังคิดถึงใครบางคนอยู่!
ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอกหลังจากสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง ออเดรย์ก็รีบลบความคิดไร้สาระนั้น
ออกไป แม้ว่าบรรยากาศของลิเลียนจะไม่เหมือนเดิม แต่เธอก็ไม่คิดว่า
จะมีใครในโลกนี้ที่คู่ควรกับผู้เป็นนาย
“ฝ่าบาท ทรงมีรับสั่งใดๆ หรือไม่คะ?”
“!”
หลังจากรอไปอีกห้านาที ออเดรย์ก็ยิ่งทําอะไรไม่ถูกเข้าไปอีก จน
อดถามอออกไปไม่ได้ เมื่อได้ยินคําถามของสาวใช้ ลิเลียนก็ได้สติ
กลับมาอีกครั้งนัยน์ตาสีม่วงของเธอหดลงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไป
“ขอโทษนะ ออเดรย์ ฉันกําลังคิดเรื่องอื่นอยู่ เธอช่วยเล่าใหม่ตั้งแต่
ต้นอีกครั้งได้ไหม?”
“รับทราบค่ะ ถ้าอย่างนั้นเริ่มจากดยุคไซส์…”
หลังจากได้รับคําสั่ง สาวใช้ก็รายงานทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งลิเลียนที่
ฟังรายงานเองก็ตอบประเด็นต่างๆ ทีละประเด็นไปเช่นกัน
ขณะเดียวกันเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนกลับไปยังวันสถาปนาจักรวรรดิ
ออสทีน และกลอุบายของจักรพรรดิลูคัส
ในวันสถาปนาจักรวรรดิออสทีนโบราณ ระหว่างการเรียกตัวเข้า
พบของจักรพรรดิลูคัส ลิเลียนพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกปิดความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเธอกับโรเอล แม้ว่าจะต้องเผชิญ
กับปัญหาต่างๆ นานา แต่คําตอบต่างๆ ก็ถูกจัดแจงออกมาอย่าง
เหมาะสม แต่ดูเหมือนว่าลูคัสจะไม่ได้สนใจคําตอบเหล่านั้นเลย เขาทิ้ง
ความสงสัยไปในทันที และส่งลิเลียนไปยังชายแดนตะวันออก ตัดความ
เป็นไปได้ที่คนสองคนจะได้พบกันอีกอย่างสิ้นเชิง
นี่คือการตอบสนองขององค์จักรพรรดิต่อชื่อเสียงของโรเอล
หลังจากคว้าตําแหน่งชนะเลิศในศึกชิงถ้วยมาได้ มันก็เป็นไปไม่ได้อีกที่
ลิเลียนจะหลีกเลี่ยงการติดต่อกับเขาในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเขาจึงส่งเธอออกไป
ด้วยที่มันเป็นคําสั่งขององค์จักรพรรดิลูคัส ลิเลียนจึงไม่สามารถตั้ง
คําถามใดๆ ได้ และตัวลูคัสเองก็ไม่คิดที่จะถามความเห็นของเธอ
เช่นกัน ทั้งนี้เขาก็ยังไม่คิดที่จะอธิบายเหตุผลเบื้องหลังคําสั่งแม้แต่น้อย
ทําให้ลิเลียนไม่สามารถยอมรับมันได้
การเดินทางไปยังชายแดนตะวันออก เพื่อป้องกันการรุกรานของ
พวกกลายพันธุ์ นั้นแทบจะเหมือนกับการเนรเทศสําหรับผู้ที่เคยเป็น
แกนหลักของจักรวรรดิมาโดยตลอดอย่างลิเลียน ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ได้
สนใจเกี่ยวกับเรื่องอํานาจหรืออิทธิพลเลย ที่ทําให้เธอยอมรับไม่ได้
จริงๆ คือการที่ตัวเองจะไม่สามารถพบกับคนที่รักได้อีก มีเพียงสิ่งนี้
เท่านั้นที่ลิเลียนทนไม่ได้“…ท่านพ่อคะ ข้าเหลือเวลาเรียนในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า
เพียงปีเดียวเท่านั้น การไปชายแดนตะวันออกทําให้ข้าจบการศึกษาได้
งั้นเหรอคะ? การอยู่ให้ห่างจากคนๆ นั้น สําคัญกว่าการลงทุนลงแรง
ตลอดสามปีที่ผ่านมาของข้าเหรอคะ? ”
“…”
ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ลิเลียนได้พูดประโยคนี้ออกไป ซึ่งลูคัสก็
เงียบอยู่นานก่อนจะยอมตกลง จากนั้นทั้งสองก็แยกกัน
หลังจากเหตุการณ์นี้ ข่าวสารต่างๆ ก็ตามมาทีละน้อย ไม่รู้ว่า
คําพูดสุดท้ายของลิเลียนทําให้ลูคัสรู้อะไรบางอย่างหรือเปล่า แต่
ท่ามกลางข่าวมากมายเหล่านั้น ไม่มีข่าวใดที่เป็นประโยชน์ต่อลิเลียน
เลย ทว่าพวกมันกลับถูกปกปิดเอาไว้จากเธอ
ตระกูลดยุคไซส์กําลังมีข้อพิพาททางการทหารกับ กองทัพของ
จักรวรรดิเซนต์เมซิทที่กําลังรบกับกองทัพของตระกูลเอลริก เห็นได้ชัด
ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการดําเนินการทางการทหารที่ได้รับอนุญาตจากองค์
จักรพรรดิ เพื่อสร้างสถานการณ์หาโอกาสให้จักรวรรดิออสทีนสามารถ
เข้าไปแทรกแซงโจมตีจักรวรรดิเซนต์เมซิท และยึดเอาอํานาจในฐานะ
ผู้นําของมนุษยชาติมาครอบครองในภายหลังทั้งหมดก็เพื่อยึดตําแหน่งผู้นําของมนุษยชาติ สร้างศูนย์รวมดั้งเดิม
ของมนุษยชาติแบบจักรวรรดิออสทีนโบราณในอดีตขึ้นมาใหม่ หากทํา
ได้สําเร็จ จักรวรรดิออสทีนก็อาจจะกลับไปรุ่งโรจน์เหมือนเมื่อพันปี
ก่อนได้ และสมาชิกราชวงศ์ที่เข้าร่วมสงครามกับจักรวรรดิเซนต์เมซิทก็
จะได้รับเกียรติสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครอันดับแรกที่กําลังรอทําสงครามอยู่นั้น ได้ถูก
กําหนดให้เป็นองค์ชายลูเซียส แอคเคอร์มันน์ องค์ชายลําดับที่หนึ่ง
บุตรคนหนึ่งถูกกําหนดให้ออกเดินทางบนถนนอันรุ่งโรจน์เพื่อการ
ฟื้ นฟูความรุ่งเรือง ในขณะที่อีกคนหนึ่งถูกส่งไปยังชายแดนอันห่างไกล
ในช่วงเวลาวิกฤต การเตรียมการที่แตกต่างกันสําหรับเด็กทั้งสองคน
ของลูคัสดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที และการตัดสินใจครั้งนี้ก็
ทําให้ขุนนางบางคนที่อยู่ฝ่ายลิเลียนเริ่มที่จะย้ายข้างออกไป
สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่เอื้ออํานวยต่อเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ก่อน นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมออเดรย์ถึงต้องโหมทํางานหนักในช่วงไม่กี่
วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้สาวใช้แปลกใจก็คือ ดูเหมือนว่าลิ
เลียนนั้นจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ไม่แม้แต่จะคิดหาวิธีที่จะโต้กลับ
“ฝ่าบาท พวกเราจะไม่ทําอะไรเลยจริงๆ เหรอคะ เรายังมีโอกาสที่
จะชิงความได้เปรียบกลับมาอยู่นะคะ ตราบใดที่พวกเรารวมกลุ่มกับองค์ชายรอง ถึงเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจขององค์
จักรพรรดิได้ก็จริง แต่นี่ก็น่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดนะคะ”
สาวใช้ผมสีน�าตาลด้วยความกระตือรือร้น ถ้าหากองค์ชายลําดับที่
หนึ่งได้รับเกียรติยศในการสร้างยุคสมัยไปแบบนี้ มันจะเป็นสถานการณ์
ที่อันตรายเกินไป เทียบกับองค์ชายรองออเบรย์แล้ว องค์ชายลําดับที่
หนึ่งนั้นมีแรงสนับสนุนแข็งแกร่งกว่ามาก แต่แล้วออเดรย์ก็ต้อง
ประหลาดใจ เมื่อเจ้านายของเธอตอบด้วยการส่ายหัวเบาๆ
“ไม่ พวกเราไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น”
ลิเลียนเหยียดมือออกไปลูบแฟ้มบนโต๊ะ แตะชื่อนามสกุลอัน
คุ้นเคยด้วยนิ้วของเธอและถูเบาๆ ราวกับกําลังกอดรัดอย่างอ่อนโยน
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดขึ้นอย่างใจเย็น
“เพราะจุดจบของแผนการนี้ มีเพียงความล้มเหลว”