ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 519: ผู้สืบทอด (1)
บทที่ 519: ผู้สืบทอด (1)
ระดับแก่นแท้ 1 ราชาแห่งเผ่าพันธุ์
นี่คือกําลังรบระดับสูงสุดของมนุษยชาติ บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดที่ แทบจะไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ศัตรูส่วนใหญ่ของพวกเขาได้ถูกกําจัด ไปหมดแล้ว จนแม้แต่การปรากฏตัวของพวกเขาก็ยังหายากพอๆ กับ ตํานาน
อย่างไรก็ตามวันนี้ตัวตนซึ่งเป็นจุดสุดยอดของผู้มีพลังเหนือ ธรรมชาติที่แทบจะแตะต้องไม่ได้นี้ ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าโรเอลอีก ครั้ง ทําให้เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวและพลังอันมหาศาลของ ระดับแก่นแท้ 1 หลังจากผ่านไปนาน
สายฟ้าอันรุนแรงฟาดผ่าลงมาทั่วบริเวณ ทําให้ประสาทสัมผัสทั้ง ห้าของโรเอลดูเหมือนจะหายไปวูบหนึ่ง เสียงฟ้าร้องดังคําราม ก้อง กังวานแทรกซึมฝังลึกเข้าไปในสมอง ราวกับจะแบ่งแยกระหว่างผืนฟ้า และปฐพีออกจากกัน ทําให้เด็กหนุ่มไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆ ได้เลย
ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่โรเอลจําได้ดี มันเหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เด็ก หนุ่มต้องเผชิญหน้ากับราชาจอมเวทในสถานะผู้เฝ้ามองเมื่อหลายร้อย ปีก่อน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต่างออกไปจากตอนที่เขาต้องเผชิญหน้ากับพ ริสเลย์ก็คือ โรเอลในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ
ล่างที่ถูกฆ่าตายได้ง่ายๆ อีกแล้ว แต่เป็นผู้ที่ก้าวข้ามประสบการณ์เสี่ยง ตายนับครั้งไม่ถ้วน จนค้นพบแก่นแห่งความเชื่อของตัวเอง
ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ร่างกายของโรเอลก็เปล่งพลังเวทอันลุก โชนราวกับเปลวไฟออกมา แม่มดผมขาวปรากฏตัวขึ้น และปล่อยคลื่น พลังเวทน�าวนสีดําทําลายทุกสิ่งทุกอย่างเบื้องหน้าเขาให้สูญสลายไป ขณะเดียวกัน พลังเวทสีเหลืองของเทพธิดาแห่งผืนปฐพีก็ห่อหุ้มร่าง ของเด็กหนุ่มเอาไว้ เสริมความแข็งแกร่งให้กับการป้องกันของโรเอล และทําให้ดินทรายที่ลอยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงสงบลง
การปะทะกันระหว่างพลังเวทรุนแรงทั้งสองเกิดขึ้นในชั่วพริบตา จนกองทัพของทั้งสองฝ่ายไม่รู้สึกตัวด้วยซ�า อย่างไรก็ตามมันเป็น ช่วงเวลาอันสําคัญที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ท่ามกลางสายฟ้าอันรุนแรง โรเอ ลพลันพุ่งถอยหลังออกไป กระแทกต้นไม้ในชั้นนอกของป่าจนแหลก เป็นทางยาว เสียงของกิ่งก้านแตกหักดั่งสนั่นไปทั่วป่า
ขนหนาของราชาแห่งความหายนะลุกซู่ขึ้นตามสัญชาตญาณของ สัตว์ที่หวาดกลัว ก่อนจะรีบหนีเข้าไปหลบในป่าอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูร ตัวอื่นๆ เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดพวกมันก็หนีตามเข้าไปในป่าด้วยเช่นกัน หลังจากที่ร่างของเขากระทบกับพื้น โรเอลก็เหมือนจะได้ยินเสียง ตะโกนของอลิเซียแวบนึง แต่มันก็ถูกกลบไปด้วยเสียงฟ้าผ่า
ภายในไม่กี่วินาที สายฟ้าก็ได้ฟาดทําลายป่าเปลี่ยนให้มัน กลายเป็นที่ราบยาวหลายกิโลเมตร ก่อนจะหยุดลงอย่างช้าๆ กระแสไฟฟ้าที่เหลือแตกกระจายออกไปในอากาศ กลิ่นไหม้เกรียมโชย ไปทั่วโพรงจมูกของทหารทุกคน หลังจากการโจมตีที่ไม่คาดคิดนี้ สนาม รบก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ ทั้งกองทัพตระกูลไซส์ และกองทัพตระกูล แอสคาร์ดล้วนเงียบกริบ ไม่มีใครปริปากพูดภายใต้พลังอันน่า สะพรึงกลัวราวกับพลังอันยิ่งใหญ่จากสวรรค์นี้ นี่ทําให้พวกเขาเข้าใจถึง ผลของการกระทําที่จะเกิดขึ้นหากตัวเองหุนหันพลันแล่นแล้วขยับตัว ออกไป
ความตาย
ความกดดันที่เกิดขึ้นได้ทําให้เหล่าผู้บัญชาการของกองทัพตระกูล แอสคาร์ด ต่างมองไปในทิศทางที่โรเอลกระเด็นลอยไป หลักเหตุผลได้ บอกพวกเขาว่าสิ้นหวังแล้ว ทายาทตระกูลแอสคาร์ดผู้เปี่ ยมไปด้วย พรสวรรค์ไม่มีทางรอดจากการโจมตีเมื่อครู่ได้แน่ ด้วยที่เขายังเป็นเพียง ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับแก่นแท้ 3
ทว่าในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ความหดหู่ และการกดดันอัน หนักอึ้ง ภายซากป่าที่เต็มไปด้วยควัน ร่างของเด็กหนุ่มก็ได้ลุกขึ้นมาใน สภาพที่ยังสมบูรณ์ดี
“แค่ก!”
เลือดสีแดงสดกระอักออกมาจากปากของโรเอล ชายเสื้อผ้าที่เขา สวมอยู่มีรอยไหม้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากนั้นแล้ว น่า อัศจรรย์ที่ไม่ได้อะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านั้น
เมื่อลมกลางคืนพัดผ่านเข้ามา ดวงตาของโรเอลก็สว่างไสวด้วย แสงสีทอง และพลังเวทที่เป็นดังเปลวไฟบนร่างกายของเด็กหนุ่มก็ได้ ลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง จุดเปลวไฟในหัวใจของเหล่าผู้บัญชาการกองทัพ ตระกูลแอสคาร์ดให้ฮึดสู้
“เขายังมีชีวิตอยู่!”
“เป็นไปได้ยังไง?”
เหล่าทหารทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจที่พบว่าโรเอลนั้นยังมีชีวิต อยู่ เด็กหนุ่มสามารถสกัดกั้นการระเบิดจากผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ระดับแก่นแท้ 1 ได้ ความจริงที่ว่านี้ทําให้ทุกคน รวมถึงกองทัพของ ตระกูลไซส์ตกตะลึงไปตามๆ กัน ความหวังฟื้ นคืนชีพในหัวใจของเหล่า ผู้บัญชาการของกองทัพตระกูลแอสคาร์ด
อลิเซียรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นโรเอลลุกขึ้นมาอีกครั้ง เธอแทบจะร้องไห้ ออกมาด้วยความดีใจ อยากจะเข้าไปรักษาเขาในทันที แต่คาถาเวท ดังกล่าวมีจํานวนการใช้งานจํากัดต่อวัน เธอจึงเก็บไว้ใช้ในสถานการณ์ ฉุกเฉินเท่านั้น
เพราะหลังจากนั้นแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากพักไปเพียงชั่วครู่
เลย์ตัน ไซส์ มองไปยังเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งใน ประวัติศาสตร์ตรงหน้า ชายชราผู้ที่ทิ้งชื่อเสียงไว้เบื้องหลัง ไม่ได้โจมตี โรเอลด้วยพลังที่แท้จริง ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บของโรเอล ผลกระทบ ที่เขาได้รับจึงรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า เมฆบนท้องฟ้าค่อยๆ รวมตัว จนมืดครึ้ม ทว่าคราวนี้ชายชราไม่ได้โจมตีทันทีทันใดเหมือนก่อนหน้านี้ และเด็กหนุ่มผมดําที่อยู่ในป่าเองก็ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย
คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกําเนิดของตระกูลไซส์ คือ [คลุ้มคลั่ง] แต่ พวกเขาไม่มีพลังทางสายเลือดเฉพาะเจาะจงกับมัน ยกตัวอย่างเช่น พลังในการควบคุมของเหลวของเบิร์กลีย์ที่เน้นด้านการป้องกัน ซึ่ง จริงๆ แล้วไม่เหมาะกับคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกําเนิดนี้เลย อย่างไรก็ตาม พลังทางสายเลือดของเลย์ตัน นั้นเข้ากันไม่ได้กับคุณสมบัติแก่นแท้ต้น กําเนิดของเขา พลังสายฟ้าของเขาจึงแตกต่างจากสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด โดยสิ้นเชิง และจากข้อมูลที่มีการบันทึกในอดีต เลย์ตันเป็นคนที่ชื่น ชอบในจิตวิญญาณของนักรบ
การโจมตีก่อนหน้านี้ไม่ใช่สิ่งที่ชายชราผู้มากประสบการณ์คนนี้ เชี่ยวชาญ ดังนั้นการโจมตีระยะไกลใดๆ ที่พุ่งออกไปอย่างไม่ตั้งใจ จึง ไม่ต่างอะไรไปจากการจงใจทําสิ่งที่เขาไม่ถนัด
โรเอลเข้าใจถึงเรื่องนั้นดี เขาเช็ดเลือดบนปากของตน และรอคอย การเคลื่อนไหวต่อไปของศัตรูอย่างสงบ เด็กหนุ่มไม่ต้องการที่จะเผยจุด บอดของตัวเองออกมาในจังหวะหน้าสิ่งหน้าขวานนี้ หลังจากลังเลอยู่ ครู่หนึ่งชายชราก็ก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ก้าวเดินเพียงก้าวเดียวของเขา ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ
ทุกๆ ก้าวที่ย�าลงพื้น มาพร้อมกับพลังเวทที่เพิ่มพูนขึ้นอย่าง กะทันหัน และการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ ภายในเวลาไม่กี่วินาที ร่างกายของเลย์ตันก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อของเขาพองตัว ราวกับเสื้อผ้าที่กําลังจะระเบิด และมีสายฟ้าแล่บผ่านตามร่างกาย ส่อง สว่างไปทั่วทั้งค่ายกองทัพตระกูลไซส์
อีกด้านหนึ่ง กองทัพของตระกูลแอสคาร์ดอยู่ในสถานะที่ไม่ดี เท่าไหร่นัก แรงกดดันอันทรงพลังเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงทาง ร่างกายของเลย์ตัน ภายใต้ขอบเขตพลังอํานาจของเขา พายุฝนฟ้า คะนองยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้สูงตระหง่านมากมายถูกฟ้าผ่าจน กลายเป็นเถ้าถ่าน
แค่แรงกดดันก็สามารถก่อให้เกิดหายนะดังกล่าวได้ ความ แข็งแกร่งของเลย์ตันนั้นเหนือกว่าทุกคนในที่นี้อย่างเห็นได้ชัด แม้แต่โร เอลก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งเครียดกับสถานการณ์นี้
ก้าวที่สอง
ภาพมหึมาอันคลุมเครือปรากฏขึ้นเบื้องหลัง เลย์ตันผู้เป็นดั่งราชา แห่งเผ่าพันธุ์ เขาเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งราวกับเทพเจ้า เหมือนกับเวลาที่ ผู้คนเห็นการปรากฏตัวของกรันด้า ด้านหลังของราชายักษ์เหมือนมีเงา บางอย่างที่อธิบายไม่ได้ปรากฏอยู่ ทําให้ความกลัวปะทุขึ้นในใจของผู้ พบเห็น จนต้องก้มศีรษะมองไปที่พื้นแทนอย่างไม่สมัครใจ
ที่ปลายสุดของป่า ร่างของเด็กหนุ่มผมดําค่อยๆ ถูกปกคลุมด้วย สายฟ้าสีแดงเข้ม จากนั้นโครงกระดูกขนาดยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้น ห่อหุ้ม ร่างของโรเอล ราวกับการจุติของปีศาจร้าย
ในแง่ของพละกําลังเลย์ตันนั้นดูจะแข็งแกร่งกว่าพริสเลย์ ลม หายใจของเขาต่างจากชายชราอย่างเห็นได้ชัด มันเหมือนกับเขากําลัง อยู่ในช่วงวัยรุ่นเสียมากกว่า
การคุ้มครองของกรันด้าทําให้โรเอลสบายใจขึ้นมา เขายังไม่เข้าใจ เท่าไหร่ ว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงร่างกายของเลย์ตันนั้นมีผลอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม พลังของศัตรูเหนือกว่าที่ประเมินเอาไว้ หากประมาทใน จังหวะนี้ ผลกระทบที่ตามมาคงจะไม่ดีเท่าไหร่
เมื่อรู้สึกได้ถึงความกังวลในใจของโรเอล เปตราก็เสริมการป้องกัน ของเด็กหนุ่มให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะเดียวกันอาร์เทเชียก็สร้างเกราะ พลังเวทขึ้นมา ล้อมรอบมันด้วยกําแพงหิน ดวงตาสีทองของเด็กหนุ่ม
จดจ้องไปที่ศัตรูตรงหน้า และสังเกตการเคลื่อนไหวต่อไปของเขาอย่าง ระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โรเอลไม่คาดคิดก็คือภายใต้การป้องกันอัน เข้มงวดเช่นนี้ ร่างของชายชราก็ได้หายไปจากทัศนวิสัยของเขา และมา ปรากฏตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“!”
นี่คือก้าวที่สามของเลย์ตัน การโจมตีที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าโร เอลในชั่วพริบตา หมัดมากมายถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับ สายฟ้าฟาดที่ผ่าลงมาไม่รู้จบ ชายชราผมขาวเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มราว กับทะลวงผ่านมิติอวกาศ เกินกว่าจินตนาการของเขาไปไกล ในฐานะที่ เป็นจอมเวทโดยพื้นฐานแล้ว โรเอลแทบจะไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้ เลย สามัญสํานึกของเขาถูกทําลายลงไปด้วยความตกตะลึง
นี่แค่พลังกายอย่างเดียวงั้นเหรอ?
โรเอลเบิกกว้าง ขณะที่หมัดอันรุนแรงดั่งการโจมตีของสัตว์ ประหลาดโจมตีถาโถมเข้ามา มันทะลุกําแพงหินและเกราะพลังเวท อย่างง่ายดาย ความรุนแรงนั้นเกินคําบรรยายจนแทบจะฉีกห้วงมิติออก จากกัน แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ แต่โรเอลก็ไม่ได้ตื่น ตระหนก
เพราะเด็กหนุ่มรู้ดีว่าถึงแม้จะเป็นการโจมตีระดับนี้ ชายชราก็ไม่ อาจฝ่าการป้องกันของกรันด้าได้
โรเอลมอบความไว้วางใจทั้งชีวิตให้กับคู่หูของเขา ซึ่งในช่วงเวลา วิกฤตนี้ โครงกระดูกขนาดยักษ์เองก็ตอบสนองด้วยพละกําลังทั้งหมดที่ มีเช่นกัน ทันทีที่การโจมตีของชายชรากําลังจะมาถึงเด็กหนุ่ม หมัดที่ รุนแรงดั่งสายฟ้าฟาดก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
มันเป็นกําปั้ นกระดูกที่ดูเหมือนจะไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีชาด ถ้า หมัดของเลย์ตันเป็นหมัดที่เกิดจากความบ้าคลั่ง หมัดของกรันด้าก็มา จากอดีตอันเต็มไปด้วยเถ้าธุลี หมัดที่ซุกซ่อนมาเป็นเวลานานเปี่ ยมไป ด้วยเกียรติยศและความเฉียบคม การโจมตีที่ข้ามผ่านประวัติศาสตร์อัน ยาวนาน แม้แต่เลย์ตันที่มีความได้เปรียบโดยรวมในด้านระดับแก่นแท้ ก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว
ตูม!
หมัดโครงกระดูกสีซีดได้ปะทะกับศัตรูตรงๆ พร้อมด้วยแสงสว่าง จ้าที่แยกพื้นโลกออกจากกัน สายฟ้าร้อง และเปลวเพลิงสีแดงปกคลุม พื้นที่ครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า ก่อนจะจบลงด้วยเสียงคํารามอันน่า สยดสยอง
พลังเวทที่ผสมผสานกันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแทงทะลุชั้น บรรยากาศราวกับหอก เมฆดํากระจัดกระจายไปจนเห็นดวงดาวนับ ร้อยบนท้องฟ้า ภายใต้แสงดาว หลังจากการปะทะอันรุนแรงที่ สั่นสะเทือนไปทั่วสนามรบ เด็กหนุ่มผมดําและชายชราก็แยกจากกัน ทั้ง สองกระเด็นไปไกลจนถูกฝังลึกลงไปในควันและฝุ่นจากแรงระเบิด