ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 527: เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ (1)
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END
- บทที่ 527: เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ (1)
บนเฉลียงทางเดินที่ไร้ผู้คนของหอประชุม โรเอลตกตะลึงกับการ ปรากฏตัวอย่างกะทันหันของลิเลียน ในขณะที่อีกฝั่ งหนึ่ง เด็กสาวผมสี เงินขมวดคิ้วแน่น ขณะนี้เธอกําลังโกรธได้ที่เลยทีเดียว
การพบเจอกันหลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนานสําหรับสหายเก่านั้น อาจจะเป็นไปอย่างจริงใจ ทว่าสําหรับอลิเซียและลิเลียนแล้ว การที่ทั้ง สองมาพบกันหมายถึงปัญหาจะเกิด โดยเฉพาะเมื่ออลิเซียกลายมาเป็น นักเรียนของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าอย่างเช่นตอนนี้…
เด็กสาวผมสีเงินได้กลายมาเป็นนักเรียน ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่คนนอก แล้ว จริงอยู่ที่เธอไม่สามารถพัวพันกับโรเอลได้ในฐานะที่เป็นญาติกัน แท้ๆ แต่ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นหนึ่งในนักเรียน ลิเลียนซึ่งดูแลส่วนงาน ตรวจตราและสภากุหลาบคืออุปสรรคที่ชัดเจนของอลิเซียเลยล่ะ
ในอีกแง่มุมหนึ่ง อลิเซียเองก็เป็นตัวตนที่ค่อนข้างรับมือยาก สําหรับลิเลียน ถ้าไม่ใช่เพราะว่ารายงานของพอลในครั้งนี้ เด็กสาวผมสี ดําอาจจะไม่สามารถมาถึงโดยทันท่วงทีได้แน่
“เอ่อ รุ่นพี่ นี่ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ…”
“โรเอล เธอออกไปก่อนได้ไหม ฉันมีบางอย่างที่อยากจะคุยกับคุณ อลิเซียน่ะ”
“เฮ้? รุ่นพี่ครับ?”
ได้ฟังคําพูดที่กะทันหันของลิเลียน เด็กหนุ่มผมดําก็เงอะงะไป เล็กน้อย เขาลังเลอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
แม้ว่าลิเลียนจะไม่รังแกอลิเซียก็ตาม ทว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ นั้นระหองระแหงกันมาตั้งแต่แรกพบ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ถ้าปล่อย ทั้งสองคนไว้ด้วยกันก็ยังถือว่าสูงเกินไปอยู่บ้าง ทว่าโรเอลไม่คิดเลยว่า จะได้ยินเด็กสาวผมสีเงินตอบตกลงเสียอย่างนั้น
“โอ้? ท่านอยากจะคุยกับดิฉันเป็นการส่วนตัวงั้นหรือคะ? ได้สิคะ ท่านพี่คะ กรุณาล่วงหน้าไปก่อนได้เลยค่ะ ดิฉันมีบางสิ่งที่ต้องพูดกับ ผู้หญิงคนนี้ค่ะ”
ในขณะที่กําลังพูด อลิเซียหรี่ตาสีแดงสดของเธอ ภายใต้คําขอที่ ตรงกันจากทั้งสองฝ่าย โรเอลจึงทําได้เพียงพยักหน้าและจากไปก่อน หลังจากประตูของเฉลียงทางเดินปิดลง แววตาของลิเลียนก็แข็งกร้าว ขึ้น และเธอก็เอ่ยถามด้วยน้ำาเสียงนุ่มนวล
“คุณอลิเซีย รบกวนช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าเธอกําลังทําอะไร อยู่ที่นี่?”
“ฝ่าบาท ดิฉันต่างหากค่ะที่ควรจะถามท่านด้วยประโยคนี้ แม้ว่า จะเป็นรุ่นพี่ก็ตาม แต่ได้โปรดทําตัวเป็นคนนอก กรุณาอย่าเข้ามา
รบกวนการพบปะแลกเปลี่ยนอันแสนกินใจระหว่างดิฉันกับท่านพี่จะได้ ไหมคะ? โปรดมีสติหน่อยเถอะค่ะ”
“คนนอก? นั่นมันเธอไม่ใช่เหรอ?”
“…ว่าอะไรนะคะ?”
“โรเอลเป็นญาติสายเลือดเดียวกันกับฉัน และเธอไม่ใช่น้องสาว โดยสายเลือด ถ้าเธอจะยกเอาความสัมพันธ์ที่มีต่อเขามาพูดล่ะก็ เธอ นั่นแหละที่เป็นคนนอกค่ะ”
มองไปที่สาวน้อยผมเงินที่ดูเกรี้ยวกราด กิริยาท่าทางของลิเลียน นั้นมีเพียงความสงบเงียบราวกับว่าเต็มไปด้วยความมั่นใจเหลือแสน ม่านตาสีม่วงของเธอกวาดมองไปที่มือซึ่งอลิเซียซ่อนเอาไว้จากโรเอล ในก่อนหน้านี้ และพูดอย่างคาดไว้แล้ว
“กะไว้แล้วเชียว เธอใช้อุบายเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ แต่ก็ถูกแล้ว…ต่อ หน้าพวกเราที่สืบสายเลือดเดียวกัน เธอก็ทําได้แค่ใช้วิธีแย่ๆ พวกนี้มา ทดแทน มันช่างน่าเศร้าจริงๆ”
เด็กสาวผมดําว่าเช่นนั้นด้วยดวงตาสีม่วงที่ทอประกายเห็นใจ ทว่า ความสงสารอันเหยียดหยันนี้ทําให้อลิเซียฉุนขาดโดยสมบูรณ์
“ยัยแก่ ว่าไงนะยะ!”
“ทําไมล่ะ? ไม่สบอารมณ์เหรอ? ความอิจฉาทําให้เธอน่าเกลียดลง ได้นะ อลิเซีย แอสคาร์ด”
“โฮ่ อิจฉาเหรอคะ? ดิฉันคิดว่าท่านนั่นแหละที่อิจฉา! ไม่เหมือน ท่านซึ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่ห่างออกไปแสนไกลในจักรวรรดิออสทีน ดิฉันได้ อยู่ข้างๆ ท่านพี่ทุกวันค่ะ”
“…”
เมื่อพบกับข้อคิดเกี่ยวกับสายเลือดจากลิเลียน อลิเซียจึงไม่มีข้อ โต้แย้ง แต่เธอก็ตอบโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนด้วยข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง เธอจับจ้องไปที่องค์หญิงผู้ขมวดคิ้วเนื่องมาจากความจริง ก่อนที่จะหรี่ ตาอย่างยั่วเย้า
“ฮิๆ อิจฉาสินะคะ? ใช่เลย นี่คือสิ่งที่ท่านไม่สามารถได้มาค่ะ การที่ ท่านตื่นเช้ามาก็สามารถจุมพิตที่แก้มท่านพี่ แล้วก็สามารถนอนหลับไป ในอ้อมแขนท่านพี่ในยามค้ำาคืน ไม่เหมือนหญิงชราสักคนหนึ่งหรอกค่ะ ชีวิตของดิฉันนั้นช่างอิ่มเอมเหลือเกิน”
“…”
เด็กสาวผมสีเงินเอาแต่พูดถึงปฏิสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างทั้งสอง ระหว่างที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ในขณะที่เจ้าหญิงผมดํานั้นเงียบสนิท ย้อนนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างตนและจักรพรรดิลูคัสแล้วก็ทําอะไร
ไม่ได้มากไปกว่าค้อมศีรษะลงแล้วกําหมัดแน่น ทว่านั่นไม่ได้หยุดการ โจมตีด้วยคําพูดของเด็กสาวผมสีเงินแต่อย่างใด
“…พูดพอแล้วใช่ไหม?”
“ทําไมล่ะคะ? ทนไม่ได้แล้วเหรอ? ถ้าอย่างนั้นให้ดิฉันคืนคําพูดให้ ท่านเถอะนะคะ ความอิจฉาน่ะทําให้คนน่าเกลียดลงได้นะคะ ลิเลียน แอคเคอร์มันน์ ท่านน่าจะพอเข้าใจแล้วว่าท่านและน้องชายของ ท่านน่ะไม่มีทาง…”
“โอม!”
เนื่องจากทนเงียบฟังอลิเซียพูดทําร้ายจิตใจอย่างต่อเนื่อง เจ้าหญิง เรือนผมสีดําก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป อัศวินในชุดเกราะพากัน ปรากฏขึ้นจากด้านหลังของลิเลียนพร้อมๆ กับพลังเวทที่กระเพื่อม อย่างรุนแรง แสงสีเงินที่อยู่ตรงข้ามของเด็กสาวผมสีเงินเองก็เปล่งแสง ออกมา แล้วนกสีเงินขาวก็เริ่มสยายปีกของมันบนบ่าของเธอ
“ฮิๆ โมโหเพราะถูกจี้ใจดําเหรอคะ? การบ่มเพาะจิตใจของฝ่าบาท ดูจะไม่ได้ดีอย่างที่ท่านคิดนะคะ”
“เธอนั่นแหละ เป็นแค่ของปลอมเท่านั้น ฉันอดทนมาตลอดก็เพื่อ โรเอล แต่เธอไม่เห็นจะขยับแม้แต่ปลายนิ้ว”
“…ว่าใครเป็นของปลอมนะคะ?”
คําพูดสั้นๆ ของลิเลียนกระตุกต่อมเคืองของเด็กสาวผมสีเงินได้ อย่างแม่นยํา อลิเซียพลันกัดฟันกรอด นัยน์ตาสีแดงและม่วงเผชิญซึ่ง กันและกัน กองไฟที่อยู่ระหว่างทั้งคู่ลุกไหม้โหมกระหน้ำารุนแรงขึ้น เรื่อยๆ แล้วในจังหวะที่จะมีใครเปิดฉากตะลุมบอนนั้นเอง ประตูที่ปิด อยู่ก็ถูกเปิดอีกครั้ง
“ทั้งสองคน พอแค่นี้เถอะ”
“โรเอล…”
“ท่านพี่คะ?”
เมื่อมองไปทางเด็กหนุ่มที่เดินกลับมา ทั้งลิเลียนและอลิเซียทํา อะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ การเคลื่อนไหวของพวกเธอแข็งทื่อ และเมื่อโรเอ ลมองไปทางพวกเธอ โรเอลก็พ่นลมอย่างอ่อนใจขณะที่ยกมือขึ้นกุม หน้าผากของเขา
ก็คิดไว้นานแล้วว่าปล่อยสองคนนี้ไว้ด้วยกันแล้วไม่เคยมีเรื่องดี ตามมาเลยอ่ะนะ โรเอลนั้นหลังจากเดินออกไปก็เพ่นพ่านไปทั่ว แล้วก็ รีบแจ้นกลับมาทันทีหลังจากสัมผัสปฏิกิริยาเวทมนตร์ที่คุ้นเคยได้ แต่ เด็กหนุ่มผมดําก็ไม่ได้คาดไว้จริงๆ ว่าทั้งสองคนเกือบจะได้ตีกันจริงๆ ใน ห้องประชุม
การต่อสู้ด้วยเหตุส่วนบุคคลนั้นถูกห้ามอย่างเด็ดขาดภายใน สถาบัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสู้รบตบมือกันส่วนตัวในหอประชุมที่สําคัญ ที่สุดในสถานศึกษา นี่ไม่ต่างอะไรจากระเบิดเลย โดยเฉพาะเมื่อหนึ่งใน นั้นคือลิเลียน ประธานนักเรียนของสถาบันแห่งนี้
ลืมอลิเซียไปก่อน ทําไมรุ่นพี่ถึง…
เมื่อมองไปทางลิเลียนผู้ดูเหมือนใกล้จะออกคําสั่งให้ทั้งกองทัพเข้า โจมตีในวินาทีถัดมาแล้ว โรเอลก็รู้สึกสับสน ในหมู่ผู้คนที่เด็กหนุ่มรู้จัก สติปัญญาและความเยือกเย็นของลิเลียนนั้นไม่มีใครเทียบได้ เธอเรียก ได้ว่าแทบจะไม่ใช่พวกอารมณ์อ่อนไหวเลย โดยเฉพาะภายใน สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ความสัมพันธ์ใดๆ ที่เกี่ยวกับโรเอลก็จะ ถูกจัดการอย่างระมัดระวัง แต่ครั้งนี้การปฏิบัติตัวของหญิงสาวดู ผิดเพี้ยนแปลกๆ
เธอดูเหมือนจะสังเกตเห็นสายตาแปลกๆ ของโรเอล เด็กสาวผมดํา ลืมตาของเธอขึ้นเล็กน้อย แล้วในที่สุดก็สามารถดึงตัวเองกลับมาจาก คําพูดของอลิเซียได้ หลังจากที่ร่างกายของเธอชะงักไปนิดหน่อย ลิ เลียนก็หันกลับมาแล้วลดศีรษะลงเพื่อเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่ม บรรดา อัศวินก็หายไปเช่นกัน
“ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ควบคุมอารมณ์ดีพอ…ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน นะ เดี๋ยวมีใครเห็นเข้า”
เด็กสาวผู้เอื้อนเอ่ยคําพูดเดินคอตกออกจากประตูไป เธอดูจะรู้สึก ผิดอย่างมากในการกระทําที่เธอเพิ่งจะทําลงไป และถึงแม้จะพบว่าลิ เลียนกําลังจิตตก เด็กหนุ่มผมดําก็ทําได้เพียงบอกขอตัวด้วยน้ำาเสียง อ่อนชั่วขณะโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากที่เด็กสาวผมสีดําคล้อยหลังไป โรเอลก็เบนสายตาไปที่เด็ก สาวผมสีเงิน และอลิเซียผู้เกือบจะลุกมาราวีอีกครั้งก็สงบลงในที่สุด
“ท่านพี่ขา หนูผิดไปแล้วค่ะ”
“…”
“หนูจะไม่เหลวไหลไปทั่วก่อนที่จะเข้าไปในทางเชื่อมมิติอีกแล้วค่ะ ท่านพี่ให้อภัยหนูได้ไหมคะ?”
“…อึก”
ภายใต้การออดอ้อนอย่างน่าสงสารของอลิเซียที่กําลังแกว่งแขน ของเธอไปมา โรเอลต้านทานไว้ได้แค่ไม่ถึงสิบวินาทีก่อนจะทนต่อไปไม่ ไหว เขาจึงทําได้เพียงถอนหายใจและหยิกแก้มของเด็กสาวเป็นการ ลงโทษ และเมื่อเธอพบว่าโรเอลไม่ได้ว่ากล่าวสาวเรื่องไปมากกว่านั้น เด็กสาวจึงค่อยโล่งอก
“กะแล้วเชียว ท่านพี่ดีกับหนูที่สุดแล้ว”
“เอาน่า จะว่าไป…ก่อนหน้านี้พวกเธอพูดอะไรกัน? รุ่นพี่เธอถึงได้ หัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบนั้นได้”
“…ก็ หนูไม่ได้พูดอะไรนะคะ ก็เป็นคําพูดที่หนูพูดธรรมดาทั่วไป แต่จู่ๆ องค์หญิงเค้าก็โกรธขึ้นมา อาจเพราะจะมีอะไรเกิดขึ้นในระยะนี้ ก็ได้นะคะ”
นึกถึงคําพูดเชิงเหยียดหยามของเธอ เด็กสาวก็รู้สึกผิดขึ้นมานิด หน่อย อลิเซียเสตาหลบออกไปแล้วกล่าวเบาๆ ทว่าโรเอลทําอะไรไม่ได้ นอกจากชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยิน แล้วตาของเขาก็เบิกกว้าง คําถามหนึ่งแล่นผ่านห้วงความคิดราวกับประกายแสง
เดี๋ยวนะ รุ่นพี่…ทําไมเธอยังอยู่ที่นี่ล่ะ? ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิลูคัสให้ เธอติดตามไปที่การประชุมด้วยเหรอ?
คิดถึงปัญหานี้ขึ้นมา เด็กหนุ่มพลันหันศีรษะไปมองในทิศที่ลิเลียน เดินลับไปนอกประตูแล้วขมวดคิ้วแน่น